บทที่ 3 แย่งชิงใบสมัครเรียน
บทที่ 3 แย่งชิงใบสมัครเรียน
วินเห็นท่าทางที่ไม่เข้าใจของเด็กสาวฉันดำ เธอมองมายังเขาก่อนที่จะถามอย่างแปลกใจ “นี่นาย อย่าบอกนะว่านายจะสู้กับหมอนั่นต่ออีก”
วินพยักหน้ารับ เด็กหนุ่มไม่คิดจะปฏิเสธคำกล่าวของเด็กสาว เขาหันกลับมามองท่าทางของชายหนุ่มที่กำลังยืนอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวอยู่ข้างหน้า ท่าทางของอเล็กซานเดออลินสกี้นั้นเหมือนว่าสิ่งที่เด็กหนุ่มกำลังกระทำมันไม่ได้อยู่ในสายตาของเขา
สายลมอันร้อนรอุประกอบกับแสงอาทิตย์ในยามบ่ายทำให้บรรยากาศที่แสนกดดันกลับกลายเป็นกดดันยิ่งกว่าเดิม ท่าทางของวินทำให้อเล็กซานเดออดรู้สึกหนาวยะเยือกไม่ได้ ถึงแม้ว่าข้างในใจของเขาจะรู้สึกหวาดกลัวกับฝีมือของเด็กหนุ่มตรงหน้า แต่ภายนอกนั้นเขากับพยายามวางท่าสงบเยือกเย็นให้ได้มากที่สุด
‘เจ้าเด็กนี่ มันใช่เด็กที่ยังไม่ได้เข้าไปเรียนในวิทยาลัยวิทาเรียจริง ๆ หรอ ทั้งฝีมือการต่อสู้และการใช้พลังเวทของเจ้านี่มันไม่ใช่ธรรมดา สายตาที่มันจ้องมองมาราวกับว่ามันกำลังหาจุดอ่อนของข้า สายตากับท่าาทางของมันราวกับว่าเป็นคนที่ผ่านสนามรบมานับไม่ท่วน”
วินสาวเท้าตรงไปเบื้องหน้า เขามองท่าทางของชายตรงหน้าก่อนที่จะกล่าวอย่างเรียบนิ่ง “งั้นเรามาเริ่มกันเลย”
จีน่ามองท่าทางของวินอย่างประหลาดใจ สำหรับเธอวินคือคนที่มีความสุกขุมเยือกเย็น เป็นชายที่ทำตามแผนการ ทว่าทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มแปลเปลี่ยนไปหลังจากที่เขาได้วิชานั้นมาครอบครอง
จีน่าพยายามรวบรวมพลังเวทก่อนที่จะเรียกประตูมิติออกมา
เด็กหนุ่มฉันทองทยานร่างเข้าไปหาชายหนุ่มตรงหน้า ทว่าก่อนที่หมัดของวินจะโดนตัวของอเล็กซานเดอเขากลับหยุดชงักอีกครั้ง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้สองเด็กสาวกับหนึ่งเด็กหนุ่มร้วนต้องแปลกใจกับการกระทำของเด็กหนุ่มฉันทอง
บรรยากาศที่เงียบอยู่แล้วพลันเงียบสงัด ก่อนที่จะมีเสียงตบมือของชายหนุ่มที่ยืนอยู่ “ทำได้ไม่เร็วเลยนี่นา”
วินลดมือลงก่อนที่จะพูดด้วยเสียงเรียบนิ่ง “อันตรายจริง ๆ ถ้าขืนโจมตีต่อไปมีหวังแขนคงขาดไปแล้ว ไม่สิมันคงไม่จบแค่นั้นใช่ไหม”
“ใช่แล้ว ข้าแปลกใจจริง ๆ ทำไมเด็กเช่นเจ้าถึงรู้จักเจ้าสิ่งนั้นได้”
วินยิ้มนิด ๆ “นั่นก็เพราะว่าฉันคงได้อาจารย์ดี แต่ว่าเรื่องที่หน้าแปลใจนั่นก็คือ ทำไมคนอย่างแกถึงใช้เวทอาณาเขตกับเด็กที่ยังไม่ได้เริ่มเรียนโรงเรียนเวทมนตร์ล่ะ”
“แล้วทำไมเจ้าถึงคิดว่าข้าจะไม่ใช้เวทย์อนาเขตกับเจ้าล่ะ”
เด็กหนุ่มผมทองยิ้มนิดๆก่อนที่จะกล่าวอย่างมั่นใจ “จากการสันนิษฐานของฉัน แกน่าจะมองพวกฉันว่าเป็นลูกเจี๊ยบ ดังนั้นฝีมือระดับชั้นแกเลยไม่น่าจะใช้พลัง ทั้งหมดถ้าอย่างนั้นมันก็เป็นไปเพียงแค่อย่างเดียว นั่นก็คือแก้ประเมินฉันสูงกว่าคนอื่นๆใช่ไหมล่ะ “
“นั่นน่ะหรอ ไม่เห็นต้องถามเลยเจ้าหนู นั่นก็เพราะว่าข้าประเมินเจ้าไว้สูงกว่าเด็กคนอื่น ทั้งแววตาท่าทางของเจ้า” คำหลังอเล็กซานเดอไม่คิดจะกล่าวให้เด็กตรงหน้าได้ยิน
เขาลดมือก่อนที่จะตัดสินใจวาดวงเวท ก่อนที่อเล็กซานเดอจะได้ทำอะไรต่อ อเล็กซานเดอพลันรู้สึกถึงจิตสังหารที่ปรากฏขึ้นอยู่ด้านข้างพร้อมกับเสียงเย็นยะเยือกของเด็กน้อยในสายตาของเขา “จริงอยู่ที่ทักษะการใช้เวทอาณาเขตของแกมันห่างชั้นกับฉัน แต่ว่าทักษะทางด้านการต่อสู้ของแกกับฉันมันไม่ได้ต่างกันมากเท่าไร
สิ้นวาจาร่างกายของเด็กหนุ่มผมทองกลับเปลี่ยนแปลง จากผมสีทองกลับกลายเป็นสีดำสนิท ดวงตาที่เคยเป็นสีฟ้าครามสดใสกลับกลายเป็นสีดำดุจรัตติกาลนัยน์ตาสีแดงกวาดมองชายหนุ่มท่าทางยโสโอหัง ก่อนที่จะตัดสินใจเคลื่อนร่างอย่างรวดเร็ว
วินเงื้อมือก่อนที่จะผนึกพลังใส่อเล็กซานเดอ เพียงแค่หมัดเดียวร่างกายของชายหนุ่มก็ลอยไปไกลกว่าสองเมตร “จำเอาไว้นะว่า ต่อให้แกจะเป็นใคร ยิ่งใหญ่มาจากไหนก็ตาม แต่ว่าหากแกกล้ามาทำร้ายเพื่อนของฉัน แกก็จะโดนแบบนี้”
วินเคลื่อนร่างตามติด ก่อนที่จะต่อยไปอีกหมัด “เมื่อกี้นี้เป็นของจีน่า ส่วนนี้เป็นของฉัน รับไปซ!ะ” เขาตะโกนก่อนที่หมัดปราณเพิงจะพุ่งใส่ใบหน้าของอเล็กซานเดอเสียงอันคุ้นเคยก็ดังขึ้นทำให้เด็กหนุ่มผมทองหยุดชงัก
“หยุดได้แล้ววิน”
เสียงหวานใสทำให้เด็กหนุ่มหันขวับไปมอง ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ได้ไม่ยากว่าเสียงนั้นคือเสียงของริน เด็กหญิงคนเดียวที่มีหน้าตาคล้ายคลึงกับอดีตคนรัก คนที่เขาอยากจะสารภาพรักในอนาคต ต่อให้เธอจะขอสิ่งใดกับเขาเขาก็จะยินยอมทำตามโดยทันที
เด็กหนุ่มหยุดมือในขณะที่เอเล็กซานเดอกำลังใช้มือของตนเองเช็ดเลือดที่ไหลออกจากมุมปากไม่หยุด เขามองความเร็วของเด็กน้อยตรงหน้าอย่างตกตะลึง ความเร็วเมื่อครู่ทำให้เขาไม่แม้แต่จะมีโอกาสป้องกันร่างกาย
วินมองกลุ่มของตนเองที่โผล่มาอย่างกะทันหัน ถ้าถึงอย่างนั้นสำหรับเขามันก็ไม่ได้แปลกประหลาดอะไร เพราะว่าคนที่สามารถใช้เวทเคลื่อนย้ายก็อยู่กับเขาตลอด วินมองไปยังจีน่าด้วยสีหน้าท่าทางที่เป็นห่วงอย่างไม่คิดจะปิดบัง “แทนที่จะพัก ทำไมต้องฝืนใช้พลังเวทย์ด้วย ยังไงฉันก็จัดการเจ้าหนี้ได้อยู่แล้วเธอไม่เห็นต้องใช้พลังโดยไม่จำเป็นเลยนี่นา”
เสียงอ่อนโยนของเขาดังขึ้นทำให้เด็กสาวผมทองบดยิ้มในน้อย ๆ ไม่ได้ ถึงเธอจะไม่เข้าใจว่าทำไมเด็กหนุ่มตรงหน้าถึงมีอารมณ์ร้อนผิดปกติ ถ้าสิ่งที่เธอรู้ได้ในทันทีนั่นก็คือสาเหตุหลักๆเป็นเพราะวินคุณเห็นพวกเธอบาดเจ็บไม่ได้ ต่อให้เขาจะมีวิชานั้นหรือเขาจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรก็ตาม ถ้าสิ่งที่แน่นอนก็คือเขาเป็นห่วงพวกเธอ
“ฉันเรียกพี่รินมาว่าจะได้รีบรักษาแผลนี่ยังไงล่ะ’เธอไม่คิดจะมองท่าทางของวินแม้แต่นิดเดียว จีน่าหันไปพยักพเยิดกับริน และอาโออิหลังจากนั้นเด็กสาวผมฟ้าจึงเริ่มรักษาบาดแผลให้กับเด็กสาวผมทอง
รินมองบาดแผลของน้องสาวของตนเอง ถึงแม้บาดแผลจะมีเลือดออกเยอะ เพราะว่ามันกลับห่างไกลจากจุดตายมากนัก ทำให้อาการบาดเจ็บไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไร ตลอดเวลาที่ผ่านมาเด็กสาวผมฟ้ารับการฝึกจากแม่ของเธอ ผู้ที่ได้รับฉายาว่าเป็นหมอที่เก่งที่สุดในหมู่บ้าน ทำให้บาดแผลแค่นี้ไม่ได้สร้างความตื่นตระหนกอะไรให้กับรินแม้แต่นิดเดียว
คือคุยถ้ามึงทันใดนั้นก็มีวงแหวนสีขาวนวลปรากฏ บาดแผลของเด็กสาวผมทองค่อยๆสมานตัวอย่างช้าๆขณะที่การรักษากำลังดำเนินไปจีน่าก็คิดอยู่ในใจของตนเอง
‘ แล้วอีกอย่างนึง ถ้าฉันไม่เรียกพวกพี่รินมา ฉันก็ไม่รู้ว่าจะหยุดนายที่อารมณ์ร้อนขนาดนั้นได้ยังไง”
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้พวกมากะและคาเสะมองอย่างตกตะลึงพรึงเพริด หรือลูกหนี้นั้นเคลื่อนย้ายและมิติเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งหากผู้ใดสามารถใช้เวทหนีได้มันก็ไม่ยากเลยที่จะมีกิวต่างๆมาทาบทาม หรือถ้าหากเจ้าของเวทมนตร์ต้องการจะไปรับใช้ขุนนางกษัตริย์หรือเชื้อพระวงศ์ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย พวกเขาทั้งสองคิดในใจพร้อมๆกันโดยที่ไม่ได้นัดหมาย
‘ทำไมคนที่มีพลังขนาดนี้ถึงมาเข้าโรงเรียนนี้ล่ะ’
“ดูท่าทางการสอบครั้งนี้จะไม่ได้ง่ายดายอย่างที่พวกเราคิดแล้วสินะ” มากะหันไปมองคาเซะที่ดูท่าทางจะไม่ค่อยรู้ร้อนรู้หนาวเท่าไหร่นัก
“ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่น่าสนุกดีออก ยิ่งคู่ต่อสู้แข็งแกร่งมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งพิสูจน์ฝีมือพวกเราเองนะ ว่าพวกเราแข็งแกร่งแค่ไหน”
คาเสะพูดพร้อมกับยิ้มอย่างน่ากลัว เขาหันไปทางที่เด็กหนุ่มผมทองยืนอยู่ ถึงสายตาของเขาจะมองไม่เห็นก็ตาม แต่คาเสะกับรู้ได้โดยสัญชาตญาณของตนเองว่าคนคนนี้เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม เขาคิดในใจว่าถ้าหากมีโอกาสได้ต่อสู้กับเด็กหนุ่มที่ชื่อวิน ชีวิตของเขาก็คงสนุกขึ้นอีกเยอะ
“ไม่ได้รู้สึกอย่างนี้มานานแล้วนะ”
ตัดมาทางวิน
เขามองท่าทางของอเล็กซานเดอร์ก่อนที่จะพูดขึ้นอีกครั้ง “จะต่อหรือเปล่า ถ้าแกจะต่อฉันก็พร้อมเสมอ ครั้งนี้ฉันจะให้แกเป็นคนเปิดก่อนก็ได้นะแต่ว่าฉันไม่รับรองนะว่าหลังจากนั้นแกจะมีชีวิตอยู่หรือเปล่า”
“ฮ่าๆๆ พูดจาซะโอหังเลยนะ แต่ว่าเรื่องที่จะต่อสู้กันต่อคงจะเป็นไปไม่ได้แล้วล่ะ เพราะว่าฉันจะต้องไปรีบแจกใบสมัครให้กับเจ้าพวกนั้นที่ยืนรออยู่นานแล้ว แล้วอีกอย่างหนึ่งแกก็จะมาเอาใบสมัครเรียนที่โรงเรียนด้วยไม่ใช่หรือไง”
เด็กหนุ่มพยักหน้ารับก่อนที่จะค่อยๆลดพลังเวทและจิตสังหาร ทำให้อเล็กซานเดอร์อดยิ้มอย่างชอบใจไม่ได้ สำหรับเขาคนที่รู้จักสถานการณ์ ว่าทำอะไรแล้วจะได้ผลลัพธ์อย่างไรนั้นมันคุยง่าย
อเล็กซานเดอร์ไม่ต้องคิดให้มากความก็เข้าใจเด็กหนุ่มตรงหน้าได้อย่างง่ายดาย ‘อย่างนี้นี่เองถ้าเข้าใจแล้ว หากค่าทำร้ายเพื่อนของเจ้าเจ้าก็จะโกรธและไม่สามารถควบคุมตนเองได้ จุดอ่อนของเจ้านี่ก็คือสิ่งนี้นี่เอง เป็นผลลัพธ์ที่ดีไม่ใช่เล่น ถ้าเป็นอย่างนี้ก็จะได้รู้ว่าเวลาสอบเจ้าถ้าจะต้องทำเช่นไร ยังไงข้าก็จะไม่ยอมให้เจ้าเข้าไปที่โรงเรียนของข้า ถึงแม้ว่าผอ. โรงเรียนเวทมนต์จะพูดยังไงก็ตาม”
“เอาล่ะพวกเจ้ารีบมารับใบสมัครเรียนเร็วๆเข้า” สิ้นคำกล่าวกลุ่มคนก็รีบเร่งเข้ามารับใบสมัครเรียน โดยที่วินกับพวกมากะได้ใบสมัครเรียนก่อนเป็นกลุ่มแรก
หลังจากนั้นอเล็กซานเดอร์ก็ตัดสินใจแจกใบสมัครเรียนให้กับทุกๆคนที่ยืนอยู่แถวนั้นจนหมด หลังจากพวกเขาได้รับใบสมัครเรียนที่โรงเรียนวิทาเรีย ชายหนุ่มท่าทางยโสก็หายตัวไปในทันที
ณอาณาจักรแห่งหนึ่งในทวีปแฮมความมืด ชายหนุ่มผมสีดำนัยตาสีแดงมองสภาพของตนเองก่อนที่จะกล่าวกับ 2 หนุ่มที่ยืนอยู่ไม่ห่าง “ได้เวลาแล้วสินะ”
ชายหนุ่มผมสีแดนพยัคฆ์น่ารับ ในขณะที่ชายหนุ่มผมฟ้าตอบอย่างยิ้มแย้ม “ได้เวลาแล้ว ได้เวลาที่เราจะกลับไปยังอาณาจักรวิทาเรีย”
—------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 293
แสดงความคิดเห็น