บทที่ 323 เซาธ์วินด์
บทที่ 323 เซาธ์วินด์
บริเวณหุบเขาฟีนิกซ์
ลู่หยางนั่งสังเกตการณ์อยู่จากที่สูงอย่างไม่วางตา เพราะท้ายที่สุดสถานการณ์ในสนามรบอาจปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ดังนั้นเขาจึงจำเป็นจะต้องสั่งการเพื่อแก้ไขสถานการณ์ให้ทันท่วงที
“พี่ว่างหรือเปล่า?” มู่หยูติดต่อเข้ามาหา
“มีอะไรเหรอ?” ลู่หยางถามด้วยรอยยิ้ม
“พอดีว่าหนูบังเอิญไปรู้จักกับนักเวทสายฟ้า 2 คนที่สถาบัน พอพวกเขารู้ว่าหนูเป็นคนของบลัดบราเธอร์ พวกเขาก็อยากจะเข้าร่วมกิลด์กับพวกเราด้วย” มู่หยูกล่าว
“แบบนั้นก็ดีสิ นักเวทสายฟ้าถือว่าเป็นอาชีพหายากอยู่แล้ว ว่าแต่พวกเขาทั้งสองคนมีความสามารถพิเศษอะไรบ้าง?” ลู่หยางถามด้วยแววตาอันเป็นประกาย
“อีเทอนอลโซลเป็นนักเวทสายฟ้าระยะประชิดที่มีสกิลพิเศษโอเวอร์ชาร์ตที่สามารถปล่อยสายฟ้าออกมารอบตัวในรัศมี 30 เมตร ส่วนอีกคนคือเซาธ์วินด์ เขาก็คือคนที่ครอบครองสกิลต้องห้ามวายด์ธันเดอร์พรีสซัน” มู่หยูกล่าว
“เธอแน่ใจนะว่าเขาคนนั้นชื่อเซาธ์วินด์?” ลู่หยางถามอย่างตื่นเต้น
“แน่ใจค่ะ”
“รีบพาพวกเขามาที่หุบเขาฟีนิกซ์ได้เลย” ลู่หยางกล่าว
“ได้ค่ะ” มู่หยูตอบกลับอย่างน่ารัก
ลู่หยางพยายามสูดลมหายใจเข้าไปช้า ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเอง เพราะท้ายที่สุดเซาธ์วินด์ก็คือนักเวทสายฟ้าที่มีชื่อเสียงโด่งดังในชาติก่อน ซึ่งนอกเหนือจากสกิลต้องห้ามวายด์ธันเดอร์พรีสซันที่เขาครอบครองแล้วเขาก็ยังมีสกิลต้องห้ามเฮฟเว่นเดสทรอยอิงธันเดอร์อยู่อีกด้วย ทั้ง 2 สกิลนี้เป็นสกิลหมู่ที่มีระยะการโจมตีกว้างขวางเป็นอย่างมาก เขาจึงกลายเป็นนักเวทระดับยุทธศาสตร์ที่ทุกกิลด์ต่างก็พยายามแยกชิงตัว
“หัวหน้า ซุนหยูกำลังลากบีฮีมอธมาแล้วครับ ส่วนทางด้านหลังก็มีพวกเดธโซลไล่ตามมาหลายหมื่นคน” ฉิงชางรายงาน
ลู่หยางมองสังเกตไปในระยะไกลก่อนจะได้เห็นบีฮีมอธกำลังก้าวเท้าไล่ตามซุนหยูจากป่าทไวไลท์เข้าสู่หุบเขาฟีนิกซ์ โดยด้านหลังห่างออกไปประมาณ 1.5 กิโลเมตรคือกองกำลังของเดธโซลที่พยายามวิ่งไล่ตามมาอย่างบ้าคลั่ง
“ฉันว่าแล้วว่าแบล็คบลัดมันคงไม่ได้ตั้งเป้าหมายที่กำจัดบอสเพียงอย่างเดียว แต่มันต้องการที่จะทำลายพวกเราไปพร้อม ๆ กัน กองกำลังของมันจะต้องมีจำนวนไม่น้อยกว่า 50,000 คนแน่ ๆ” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับเสียงหัวเราะ
“โชคดีจริง ๆ ที่หัวหน้าชิงลงมือก่อน ถ้าหากเราปล่อยให้เดธโซลแข็งแกร่งขึ้น ฉันก็เดาไม่ได้เลยว่าในอนาคตพวกเราจะต้องเจอกับอะไร” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าว
“นายพอจะทนได้อีกนานแค่ไหน?” ลู่หยางติดต่อเข้าไปถามซุนหยู
“อีก 2 นาทีครับ” ซุนหยูตอบ
“ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม หลังจากที่พวกเดธโซลเข้ามาในหุบเขาฟีนิกซ์แล้วให้พวกเราล้อมรอบพวกมันจาก 4 ทิศ” ลู่หยางสั่งการ
“ครับ/ค่ะ” ฉิงชาง, เซี่ยหยู่เว่ย, ซุนหยูและบิทเทอร์เลิฟต่างก็ตอบรับขึ้นมาพร้อมกัน
หุบเขาฟีนิกซ์ได้ชื่อนี้มาจากดินสีแดงทั่วทั้งหุบเขา ซึ่งตามตำนานได้กล่าวเอาไว้ว่าในยุคโบราณสถานที่แห่งนี้เคยเป็นสนามรบขนาดใหญ่ที่มีการสู้รบในระดับเผ่าพันธุ์ถึง 7 ครั้ง มันจึงทำให้มีคนตายในภูเขามากกว่า 10 ล้านคนและทำให้พื้นที่ทั่วทั้งภูเขาถูกย้อมจนกลายเป็นสีแดง
หลังจากซุนหยูลากบีฮีมอธเข้ามาในหุบเขาฟีนิกซ์ได้ประมาณ 1 นาที แบล็คบลัดก็นำกองกำลังไล่ตามมาจนถึงทางเข้าหุบเขาได้สำเร็จ อย่างไรก็ตามเมื่อเขาได้เห็นเส้นทางด้านหน้าที่มีความกว้างเพียงแค่ประมาณ 200 เมตร แบล็คบลัดก็หยุดชะงักก่อนที่จะตะโกนสั่งด้วยท่าทีที่ลังเลอยู่เล็กน้อย
“ไล่ตามมันต่อไป ฉันไม่เชื่อว่ามันจะวิ่งหนีด้วยความเร็วแบบนี้ได้ตลอด”
เฟียร์เลสรีบดึงตัวแบล็คบลัดเอาไว้ ก่อนจะพูดเตือนขึ้นมาว่า
“น้องชายที่นี่มันเป็นเขตของลู่หยางนะ บางทีมันอาจจะวางกับดักรอพวกเราเอาไว้ก็ได้”
“พวกเรามีกันตั้ง 50,000 คนแล้วเราจะไปกลัวกับดักของพวกมันทำไม ถ้ามันกล้าโผล่หัวมาจริง ๆ พวกเราก็จะจัดการกับพวกมันไปพร้อม ๆ กันเลย” แบล็คบลัดตอบกลับอย่างมั่นใจ
เฟียร์เลสลังเลอยู่สักครู่ ก่อนที่เขาจะพยักหน้ารับและไล่ตามแบล็คบลัดเข้าไปยังหุบเขาฟีนิกซ์
กองกำลังขนาด 50,000 คนจำเป็นจะต้องใช้เวลายาวนานถึง 5 นาที ก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปในหุบเขาได้ทั้งหมด ขณะเดียวกันเมื่อสกิลวิ่งเร็วของซุนหยูหมดเวลา ลู่หยางก็กระโดดลงมาแทนที่ซุนหยูพร้อมกับใช้สกิลสคอร์ชิ่งสปีดเพื่อวิ่งลากบีฮีมอธให้วิ่งลึกเข้าไปภายในหุบเขามากกว่าเดิม
หลังจากลู่หยางลากบีฮีมอธมาจนถึงตำแหน่งที่กำหนดไว้ บิทเทอร์เลิฟที่แอบไล่ตามกองกำลังของแบล็คบลัดมาก็รายงานขึ้นมาว่า
“กองกำลังของพวกมันเข้าไปในหุบเขาฟีนิกซ์หมดแล้วครับ”
“ดีมาก ฉิงชาง! เซี่ยหยู่เว่ย! ซุนหยู! บิทเทอร์เลิฟ! นำกองกำลังของพวกนายกำจัดพวกเดธโซลให้สิ้นซากซะ” ลู่หยางตะโกนสั่งการเสียงดัง
“ฉันรอเวลานี้มานานแล้ว” ฉิงชางเผยรอยยิ้มออกมาอย่างยินดีพร้อมกับมองไปยังจินเตียวที่อยู่ห่างออกไปเพียงแค่ 50 เมตร จากนั้นเขาก็นำทีมกระโดดออกมาจากพุ่มไม้พร้อมกับตะโกนสั่งการออกไปเสียงดังว่า
“ฆ่ามัน!”
“เฮ้!” กองกำลังของฉิงชางทั้ง 20,000 คนต่างก็พร้อมใจกันกระโจนออกไปจากพุ่มไม้พร้อมกับบุกโจมตีเข้าใส่กองกำลังของจินเตียว
เมื่อจินเตียวได้เห็นศัตรูปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน เขาก็เบิกตากว้างพร้อมกับตะโกนออกไปเสียงดังว่า
“มีคนซุ่มโจมตี! ทุกคนรีบจัดกระบวนทัพตั้งรับเร็วเข้า”
ขณะเดียวกันแม้จะเห็นการซุ่มโจมตีจากด้านหน้า แต่แบล็คบลัดก็ไม่ได้ตกใจเลยแม้แต่น้อย เพราะเขาคาดเดาเอาไว้อยู่แล้วว่าลู่หยางจะต้องส่งกองกำลังออกมาสกัดกั้น แต่จู่ ๆ มันก็มีเสียงตะโกนสั่งการในลักษณะเดียวกันดังขึ้นมาจากพื้นที่ทางซ้าย, ทางขวาและทางด้านหลัง
ในเวลาเพียงแค่พริบตาแบล็คบลัดก็ได้รู้ตัวว่าตอนนี้เขาถูกปิดล้อมด้วยศัตรูมากกว่า 80,000 คน
“พวกมันมาจากไหนกันเยอะแยะเนี่ย?!” เฟียร์เลสตะโกนอย่างตื่นตระหนก
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการซุ่มโจมตีอันไม่คาดคิด มันก็ทำให้แบล็คบลัดตกอยู่ในอาการสับสนไปชั่วขณะ แต่ในตอนที่เขายังไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องทำยังไงดี ลู่หยางก็ตะโกนสั่งการมาจากหน้าผาบริเวณด้านขวาของหุบเขาฟีนิกซ์
“ว่าไงสบายดีไหมแบล็คบลัด?”
“ลู่หยาง? แกทำแบบนี้มันหมายความว่ายังไง?!” แบล็คบลัดส่งเสียงตะโกนพร้อมกับชี้นิ้วไปยังลู่หยางที่กำลังยืนอยู่ด้านหน้าของพระอาทิตย์ที่กำลังขึ้นยามเช้า
“พวกแกผิดคำสัญญาส่งกองกำลัง 50,000 คนบุกเข้ามาในพื้นที่ของฉันเองไม่ใช่เหรอ? เพื่อเป็นการป้องกันตัวทางบลัดบราเธอร์ย่อมสามารถต่อสู้กลับได้อย่างสุดกำลัง” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์
เมื่อได้ยินคำพูดของลู่หยาง มันก็ทำให้แบล็คบลัดจุกอกจนแทบจะกระอักเลือดออกมาจากปาก
“อย่ามาพูดจาเหลวไหล! แก, ฉงป้ากับฉือมู่วางกับดักหลอกล่อพวกฉันมาชัด ๆ ฉันจะให้โอกาสพวกแกหยุดมือกันแค่นี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะส่งข้อความไปหาบลัดไทแรนท์กับโซลออฟอีเทอนิตี้เพื่อทำสงครามกับพวกแกอย่างเต็มกำลัง”
“แกช่วยแหกตาดูหน่อยได้ไหมว่าทั้งหุบเขามันมีแต่คนของบลัดบราเธอร์ไม่ได้มีคนของเพอร์เพิลโกลด์เดสตินี่กับโอเวอร์ลอร์ดอยู่แม้แต่คนเดียว” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะลั่น
แบล็คบลัดพยายามมองออกไปรอบ ๆ ก่อนจะได้พบว่าศัตรูในทุกทิศทางต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้เล่นที่ติดตราสัญลักษณ์ของบลัดบราเธอร์
“เป็นไปไม่ได้! พวกแกจะมีกองกำลังเยอะขนาดนี้ได้ยังไง” แบล็คบลัดตะโกนอย่างไม่เข้าใจ
“คนอย่างแกคงไม่มีวันเข้าใจความหมายของคำว่าสนับสนุนกันและกันหรอก วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่แกจะได้อวดดีในเกมนี้ ฉันจะให้โอกาสแกสักครั้ง ถ้าหากแกยอมยุบกิลด์แล้วออกจากเกมด้วยตัวเอง ฉันก็จะยอมปล่อยแกไปแต่โดยดี แต่ถ้าแกปฏิเสธ ฉันก็จะเป็นคนทำลายกิลด์ของแกจนย่อยยับ” ลู่หยางยื่นข้อเสนอ
ไม่ว่ายังไงเขาก็เคยทรมานแบล็คบลัดในชาติก่อนจนต้องหนีหัวซุกหัวซุนออกจากเกมไปแล้วครั้งหนึ่ง การจะทรมานอีกฝ่ายเหมือนเดิมอีกครั้งมันก็คงจะเป็นการกระทำที่โหดร้ายไปหน่อย ลู่หยางจึงยื่นข้อเสนอให้อีกฝ่ายยอมออกจากเกมไปแต่โดยดี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 167
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น