บทที่ 286 หลานอวี่คือเสินเมิ่งเหยา

-A A +A

บทที่ 286 หลานอวี่คือเสินเมิ่งเหยา

บทที่ 286 หลานอวี่คือเสินเมิ่งเหยา

“ฉันเข้าใจแล้วค่ะ ถ้าอย่างนั้นก็ฝากหัวหน้าจัดการด้วยนะคะ หลังจากคัดคนเสร็จแล้วค่อยส่งมาให้ฉันทีหลังก็ได้” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าว

หลังจากพูดจบหญิงสาวก็เดินจากไปทิ้งให้ลู่หยางยืนอยู่ที่เดิมด้วยความช็อก ซึ่งในตอนนี้เขาก็กำลังคิดถึงคำโบราณที่เคยบอกไว้ในเรื่องของศิษย์ล้างครู

“ทำไมเธอถึงเดินไปแบบนั้นล่ะ?” เจียงเจ๋อถามอย่างสงสัย

“เธอหมายความว่าช่วงแรกให้พวกเราจัดการคัดเลือกกันเองไง หลังจากคัดเลือกคนเสร็จแล้วค่อยส่งไปให้เธออีกที” ลู่หยางกล่าวอย่างหงุดหงิด

“ก่อนหน้านี้นายสอนให้เธอเป็นคนเจ้าเล่ห์มาโดยตลอด คราวนี้มันถึงคราวที่เธอจะเอาคืนนายบ้างสินะ” เจียงเจ๋อกล่าวพร้อมกับหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ

ลู่หยางถอนหายใจและพูดว่า

“รีบจัดการเรื่องนี้เถอะ หลังจัดการเสร็จฉันจะได้กลับมาดูโชว์ของหลานอวี่”

จุดรับสมัคร

ผู้เล่นที่ต้องการเข้าร่วมกับกองกำลังของเซี่ยหยู่เว่ยได้มารวมตัวกันเยอะมากขึ้นเรื่อย ๆ

“ทำไมถึงยังไม่มีใครมาจัดการเรื่องนี้สักที”

“ฉันคือสมาชิกอันดับ 1 ของกิลด์พรอฟฟีซีเชียวนะ ขนาดกิลด์อื่นพยายามมาดึงตัวฉันไปฉันยังไม่ยอมไปแต่พวกคุณปล่อยให้ฉันรอนานมากเกินไปแล้ว”

เหิงหยูกับฟางเทียนต่างก็ไม่กล้าขยับเขยื้อนเมื่อพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับเหล่าบรรดาผู้เล่นชั้นยอดเลเวล 26 ขึ้นไปที่ยืนเบียดกันอยู่ด้านหน้า

“ขอโทษด้วยครับ แต่วันนี้กิลด์ของพวกเรามีงานเลี้ยงสังสรรค์ วีดีโอที่พวกคุณเห็นก็เป็นวีดีโอที่มาจากงานเลี้ยงด้วยเหมือนกัน คนส่วนใหญ่จึงเดินทางไปเข้าร่วมงานเลี้ยงกันหมด มีแค่พวกเราสองคนที่โชคร้ายถูกจับฉลากให้อยู่เวร” เหิงหยูพยายามอธิบาย

“กิลด์นี้ดีจริง ๆ มีการจัดงานเลี้ยงให้กับสมาชิกด้วย”

“มันมีข่าวลือออกมาว่าหัวหน้ากิลด์บลัดบราเธอร์เป็นคนยุติธรรมและดูแลลูกน้องเป็นอย่างดี ดูเหมือนว่าเรื่องนี้มันน่าจะเป็นเรื่องจริงสินะ”

“บรรยากาศโดยรวมของกิลด์นี้มันดีจริง ๆ”

ในระหว่างที่ผู้คนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ลู่หยางก็ได้นำเจียงเจ๋อ, ถูเฟิงและผู้เล่นอีก 50 คนที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการสมัครสมาชิกใหม่เดินเข้ามาจากระยะไกล

“หัวหน้ากิลด์บลัดบราเธอร์มาแล้ว”

ใครบางคนตะโกนขึ้นมาทำให้ทุกคนวิ่งไปหาลู่หยางในทันที อย่างไรก็ตามเมื่อต้องเผชิญหน้ากับนักเวทคนนี้ มันก็ไม่มีใครกล้าแสดงท่าทีโอหังออกมาเลยแม้แต่คนเดียว ซึ่งหลังจากวิ่งมาได้ไม่นานพวกเขาก็หยุดยืนห่างจากลู่หยางประมาณ 5 เมตร

สาเหตุที่ทุกคนให้ความเคารพลู่หยางถึงขนาดนี้ก็ไม่ใช่เพราะตำแหน่งหัวหน้ากิลด์ที่เขาได้ถือครอง แต่เป็นเพราะวีรกรรมของจักรพรรดิเพลิงคลั่งที่เขาเคยสร้างมาเมื่อในอดีต

“ประธานลู่หยางพวกเราขอสมัครเข้าร่วมบลัดบราเธอร์ได้ไหม?”

“ผมก็อยากสมัครด้วยครับ”

เสียงผู้เล่นจำนวนนับไม่ถ้วนดังขึ้นมาจากทุกทิศทาง ลู่หยางจึงเผยรอยยิ้มพร้อมกับตอบกลับไปว่า

“หากใครอยากสมัครก็เชิญได้เลย แต่พวกเรามีเงื่อนไขการรับสมาชิกที่เข้มงวดมาโดยตลอด ตอนนี้ฉันขอให้ทุกคนเข้าแถวกันให้เรียบร้อย ฉันได้พาคนมาช่วยรับสมัครสมาชิก 50 คนแล้ว เมื่อไหร่ก็ตามที่ใครผ่านบททดสอบก็สามารถเข้าร่วมกิลด์ได้เลย”

ในระหว่างที่ทุกคนกำลังแสดงสีหน้าอันดีใจออกมานั้น จู่ ๆ ลู่หยางก็ประกาศเสียงดังออกไปว่า

“อย่างไรก็ตามบลัดบราเธอร์ก็ให้ความสำคัญฉันพี่น้องมาโดยตลอด ถึงแม้ทุกคนจะสามารถเข้าร่วมกิลด์ได้แล้ว แต่หากมีใครทำอะไรที่เห็นแก่ตัวฉันก็พร้อมที่จะขับไล่คนคนนั้นออกจากกิลด์ด้วยเหมือนกัน ทุกคนเข้าใจไหม?”

“ครับ” ทุกคนต่างก็ตอบกลับพร้อมกัน

ไม่กี่วินาทีต่อมาผู้เล่นจำนวนหลายพันคนก็เข้าแถว 50 แถวอย่างเป็นระเบียบ ซึ่งเงื่อนไขของการรับสมัครสมาชิกในตอนนี้คือผู้ที่มีเลเวลต่ำกว่า 20 จะถูกคัดออกในทันที มันจึงสามารถกรองผู้สมัครออกไปได้เป็นจำนวนมาก

เหตุการณ์นี้ทำให้ผู้เล่นหลาย ๆ คนรู้สึกไม่พอใจ แต่มันก็ไม่มีใครกล้าที่จะสร้างความวุ่นวายขึ้นมา

เวทีแสดง

การแสดงได้ดำเนินไปเรื่อย ๆ แต่เมื่อหลานอวี่ยังไม่เห็นลู่หยางกลับมามันก็ทำให้เธอรู้สึกผิดหวังอยู่เล็กน้อย

“ขอโทษนะ แต่ทั้งหมดนี้มันเป็นความผิดของฉันเอง” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าว

หลานอวี่ส่ายศีรษะพร้อมกับพูดว่า

“มันไม่ใช่ความผิดของเธอหรอก ใครจะไปคิดล่ะว่ามันจะมีเรื่องแบบนี้ด้วย ถึงยังไงฉันก็เป็นคนแสดงคนสุดท้ายตอนนี้มันยังพอมีเวลาอยู่”

การแสดงผ่านไปทีละชุด ในที่สุดมันก็ถึงเวลาที่หลานอวี่จะต้องขึ้นไปแสดงแล้ว แต่ที่นั่งของลู่หยางก็ยังคงว่างเปล่าอยู่เช่นเดิม

ขณะที่หลานอวี่กำลังผิดหวังอยู่นั่นเอง ทันใดนั้นประตูที่อยู่ไกลออกไปก็เปิดออกพร้อมกันลู่หยางที่กำลังรีบเดินเข้ามา

“ลู่หยางมาแล้ว เธอรีบไปเตรียมตัวขึ้นเวทีเถอะ เดี๋ยวฉันจะไปถามหัวหน้าก่อนว่าเรื่องรับคนเป็นยังไงบ้าง” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าว

“อือ” หลานอวี่พยักหน้าอย่างสดใส ก่อนที่เธอจะไปเตรียมตัวอย่างมีความสุข

ความเป็นจริงหลังจากที่เขาจัดการปัญหาทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเขาก็ขอให้เจียงเจ๋อคอยดูแลเรื่องการรับสมัครคนแทน ก่อนที่จะเปิดใช้สคอร์ชิ่งสปีดและร็อคเก็ตโมบายล์เพื่อวิ่งกลับมาอย่างที่แห่งนี้อย่างเร่งด่วน

ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องเป็นคนพูดสรุปหลังงานเลี้ยงได้จบลง ที่สำคัญกว่านั้นคือเขาต้องรีบมาดูการแสดงของหลานอวี่ เมื่อได้เห็นว่าตัวเองกลับมาได้ทันเวลาพอดี มันจึงทำให้ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

“หัวหน้าจัดการเรื่องนั้นเรียบร้อยแล้วเหรอคะ?” เซี่ยหยู่เว่ยถามหลังจากเดินเข้ามาหาลู่หยาง

“เรียบร้อยแล้ว เธอเตรียมรอรับสมาชิกใหม่ได้เลย แล้วฉันก็ตั้งชื่อกองกำลังใหม่ให้เธอแล้วด้วย” ลู่หยางกล่าว

“ชื่ออะไรคะ?” เซี่ยหยู่เว่ยถามและเธอก็ดีใจมากที่ลู่หยางจัดการปัญหาให้กับเธออย่างเรียบร้อย

“กองกำลังพิทักษ์ราชินี” ลู่หยางตอบ

“นี่หัวหน้าตั้งใจแกล้งฉันใช่ไหม?!” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าวพร้อมกับกัดริมฝีปาก

สำหรับคนอื่นคำว่าราชินีอาจจะมีความหมายไปในทางชื่นชม แต่เมื่อคำ ๆ นี้ได้ออกมาจากปากของลู่หยาง มันกลับมองดูเป็นว่าอีกฝ่ายกำลังแกล้งเธออยู่ชัด ๆ

“ฉันไม่ได้แกล้งเธอสักหน่อย แต่นี่คือชื่อที่เหมาะสมกับกองกำลังใหม่ของเธอที่สุดแล้ว เหตุการณ์ในครั้งนี้มันคงจะสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมาอย่างมากมาย และชื่อของกองกำลังคงจะแพร่กระจายไปทั่วทั้งอินเตอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว”

“สิ่งที่เธอจำเป็นจะต้องทำคือการนำทีมไปชนะศึกใหญ่สัก 2-3 ครั้ง แต่ต้องเปลี่ยนชื่อที่ฟังดูเหมือนยกยอตัวเองให้กลายเป็นปีศาจภายในใจของศัตรู เมื่อนั้นชื่อกองกำลังที่ดูเหมือนเป็นชื่อที่หยอกล้อก็จะกลายเป็นชื่อที่น่าเกรงขามไปในทันที” ลู่หยางกล่าว

“หัวหน้า ทำไมคุณถึงดูเหมือนรู้ทุกอย่างไปหมดเลย?” เซี่ยหยู่เว่ยถาม

ลู่หยางทำได้เพียงแค่คิดในใจว่าเขาเคยผ่านประสบการณ์ในชาติก่อนมาอย่างโชกโชนแล้ว หากว่าหลังจากกลับมาเกิดใหม่เขายังคงเป็นคนโง่เหมือนดั่งในอดีต การเกิดใหม่ในครั้งนี้มันก็คงจะถูกเรียกว่าเสียชาติเกิด

“ไปดูการแสดงกันเถอะ ยังดีที่ฉันกลับมาทันดูการแสดงของหลานอวี่พอดี” ลู่หยางกล่าว

เมื่อเซี่ยหยู่เว่ยได้เห็นรอยยิ้มของลู่หยาง มันก็ทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูกราวกับว่าตราบใดก็ตามที่เธอยังคงติดตามชายคนนี้อยู่ ทุกปัญหาก็สามารถที่จะแก้ไขได้เสมอ

อย่างไรก็ตามเมื่อเสียงดนตรีการแสดงได้เริ่มต้นขึ้น เซี่ยหยู่เว่ยก็ได้พบว่าสีหน้าของลู่หยางกำลังเปลี่ยนไปอย่างสับสนและมันก็มีความตกใจปะปนอยู่ในแววตาของชายคนนี้ด้วย

“หัวหน้าเป็นอะไรคะ?” เซี่ยหยู่เว่ยถาม

ลู่หยางนิ่งเงียบไปราวกับว่าเขาไม่ได้ยินคำถามจากหญิงสาวตรงหน้าเลย แต่ในตอนนี้เขาได้จ้องไปยังหลานอวี่ที่ยืนอยู่บนเวทีอย่างไม่วางตา เพราะเพลงที่ดังขึ้นมาเป็นเพลงที่เขาเคยได้ยินมาก่อน

ท้ายที่สุดในตอนที่เขาพาเสินเมิ่งเหยาไปซ้อมเต้นในร้านคาราโอเกะ เธอก็ใช้เพลงนี้ประกอบการเต้นของเธอด้วยเช่นกัน

“พอยซั่นแอนด์ฮันนี่” เป็นเพลงเก่าที่คนหนุ่มสาวในสมัยนี้ไม่ค่อยได้ฟังกันมากนัก ลู่หยางจึงไม่เข้าใจว่าทำไมหลานอวี่จึงต้องเลือกเพลงนี้ขึ้นมาทำการแสดง

อย่างไรก็ตามในวินาทีต่อมาเมื่อลู่หยางได้เห็นท่วงท่าการร่ายรำของหลานอวี่ มันก็ทำให้สมองของเขาตกอยู่ในความว่างเปล่าราวกับว่าเขาถูกตีด้วยระฆังใบใหญ่จนทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เป็นการชั่วคราว

ชั่ววินาทีนั้นภาพของหลานอวี่บนเวทีกับเสินเมิ่งเหยาก็ซ้อนทับกัน ลู่หยางจึงอยากจะตบหน้าตัวเองที่โง่เขลาได้ถึงขนาดนี้ เพราะท้ายที่สุดเขาก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมตัวเขาถึงไม่รู้ว่าเสินเมิ่งเหยากับหลานอวี่คือคนคนเดียวกัน

หลานอวี่ที่เขาเอ็นดูในชาติก่อน แท้ที่จริงคือเสินเมิ่งเหยาที่เขาแอบตกหลุมรักมาเป็นเวลานาน ซึ่งถ้าหากว่าเขารู้เรื่องนี้ตั้งแต่แรกโศกนาฏกรรมในชาติก่อนมันก็คงจะไม่มีทางเกิดขึ้นมาอย่างแน่นอน

ทันใดนั้นหยดน้ำตาหยดหนึ่งก็ไหลลงมาบนแก้มของลู่หยางโดยที่เขาไม่ทันได้รู้ตัว

 

 


รู้สักที!

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.