3 เรเวน่า (18+)
เมื่อก้าวข้ามธรณีประตูเข้าไปสู่โลกภายในซ่อง แสงสว่างก็ลดน้อยลงจนน่าอึดอัด กลิ่นหอมฉุนของน้ำมันหอมระเหยราคาถูกและกลิ่นกายที่ผสมปนเปกันอย่างน่าประหลาดเริ่มเข้าครอบงำประสาทสัมผัส ภาพที่ปรากฏแก่สายตาทำเอากษัตริย์ไลโอเนลทรงชะงักงันด้วยความตกตะลึงและสับสน ทุกหัวระแหงเต็มไปด้วยร่างเปลือยเปล่าของชายหญิงที่คลอเคลียกันอย่างเปิดเผย เสียงครางกระเส่า เสียงจูบดูดดื่ม และเสียงหัวเราะคิกคักดังระงมไปทั่ว ราวกับเป็นโลกอีกใบที่กฎเกณฑ์ทางศีลธรรมและขนบธรรมเนียมถูกละทิ้งไว้เบื้องหลัง
ในความวุ่นวายนั้นเอง เซอร์โอริกซ์ที่ยังคงดูงุนงง ถูกหญิงสาวโสเภณีคนหนึ่งที่มีเรือนร่างอรชรและดวงตาเย้ายวน ผลักเบาๆ เข้าไปในห้องเล็กๆ ที่มีเพียงผ้าม่านบางๆ สีแดงเข้มกั้นทางเข้าไว้ ร่างของหนุ่มน้อยหายลับไปหลังผืนผ้าอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน ลอร์ดออรักค์ก็ถูกหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่มีรอยยิ้มหวานฉ่ำคล้องแขนและนำไปยังอีกทางหนึ่ง หายลับเข้าไปในห้องที่ดูมิดชิดกว่า ทิ้งให้กษัตริย์ไลโอเนลยืนอยู่ท่ามกลางความสับสนและกังวลเพียงลำพัง
กลิ่นและบรรยากาศอันดิบเถื่อนของสถานที่แห่งนี้เริ่มทำให้พระองค์ทรงรู้สึกมึนเมา คล้ายกับถูกไอพิษจางๆ ครอบงำ พระองค์ทรงตระหนักได้ว่าสถานการณ์ไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ และความปรารถนาที่จะตามหาของเวทมนตร์เริ่มเลือนรางไป เหลือไว้เพียงความต้องการที่จะออกจากสถานที่อันน่ากระอักกระอวนแห่งนี้โดยเร็วที่สุด กษัตริย์ไลโอเนลทรงพยายามหาทางออก พระองค์ทรงเดินโซซัดโซเซไปตามทางเดินแคบๆ ที่เชื่อมต่อห้องต่างๆ ผ้าม่านบางๆ ที่กั้นอยู่ตรงหน้าแต่ละห้องถูกพระหัตถ์ของพระองค์เปิดออกอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่ปรากฏอยู่เบื้องหลังกลับยิ่งทำให้พระองค์ทรงตกตะลึงและกระอักกระอ่วนใจมากยิ่งขึ้น
ทุกห้องที่พระองค์ทรงเปิดเข้าไป ล้วนเป็นฉากร่วมรักที่เร่าร้อนและเปิดเผย คู่รักที่เปลือยเปล่าคลอเคลียกันอย่างไม่สนใจผู้มาเยือน เสียงครางกระเส่าและเสียงเนื้อหนังกระทบกันดังเสียดแทงประสาท พระองค์ทรงรีบปิดผ้าม่านลงอย่างรวดเร็วด้วยความรู้สึกขยะแขยง
ด้วยความร้อนรนที่ทวีคูณ กษัตริย์ไลโอเนลทรงรู้สึกราวกับถูกความมืดมิดและความเสื่อมโทรมของสถานที่แห่งนี้รัดรึงจนหายใจไม่ออก กลิ่นกายและกลิ่นน้ำมันหอมที่อบอวลจนคลุ้งทำให้พระองค์ทรงสับสนในทิศทาง มือที่สั่นเทาด้วยความกระวนกระวายผลักประตูไม้บานใหญ่เข้าไปในห้องที่ดูเหมือนจะมิดชิดและเงียบสงบที่สุดในบรรดาห้องที่พระองค์ทรงผ่านมา
ภายในห้องนั้นแตกต่างจากความวุ่นวายภายนอกอย่างสิ้นเชิง มีเพียงแสงสลัวจากตะเกียงน้ำมันเพียงไม่กี่อันที่แขวนอยู่ตามมุมห้อง สร้างบรรยากาศที่ลึกลับและเย้ายวน พื้นห้องปูด้วยพรมหนาสีดำสนิท ตรงกลางห้องมีเพียงเตียงขนาดใหญ่ที่ถูกปูด้วยผ้าไหมสีแดงสด ราวกับเป็นจุดศูนย์กลางของความปรารถนา
และบนเตียงนั้นเอง ที่สายพระเนตรของกษัตริย์ไลโอเนลต้องหยุดชะงัก หญิงสาวรูปโฉมงดงามพิลาส กำลังเอนกายอยู่ เส้นผมสีดำประกายเขียวเข้มราวกับมรกตยามค่ำคืนสยายยาวไปบนหมอนผ้าไหม ผิวขาวผ่องตัดกับสีแดงสดของผ้าปูเตียงอย่างโดดเด่น นางสวมเพียงชุดผ้าไหมบางเบาจนแทบจะโปร่งใส เผยให้เห็นทรวดทรงองค์เอวที่งดงาม ทุกส่วนเว้าโค้งของร่างกายปรากฏชัดเจนภายใต้แสงสลัวๆ แม้แต่ยอดทรวงที่ชูชันก็สามารถมองเห็นได้ภายใต้ผืนผ้าบางนั้น
ดวงตากลมโตสีเฮเซลของนางจับจ้องมายังกษัตริย์ไลโอเนลอย่างเชิญชวน ริมฝีปากอิ่มสีแดงระเรื่อแย้มยิ้มเล็กน้อย ราวกับรู้ว่าพระองค์กำลังทรงตกอยู่ในภวังค์แห่งความงามและความเย้ายวนที่นางกำลังแผ่ซ่านออกมา
กษัตริย์ไลโอเนลทรงกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก พระองค์ทรงรู้สึกราวกับถูกตรึงอยู่กับที่ ราวกับต้องมนต์สะกดจากดวงตาสีเฮเซลคู่นั้นและน้ำเสียงที่แสนหวานเย้ายวน พระองค์ทรงพยายามรวบรวมสติสัมปชัญญะ ตอบคำถามที่หญิงสาวตรงหน้าเอ่ยออกมา แต่พระสุรเสียงกลับแหบแห้งอยู่ในลำคอ
"ข้า..." พระองค์ทรงเปล่งเสียงออกมาแผ่วเบา ราวกับกระซิบ "ข้า... มาที่นี่... เพื่อตามหา..."
แต่ถ้อยคำนั้นก็จางหายไปในความมึนเมาที่ถาโถมเข้ามา หญิงสาวแย้มยิ้มน้อยๆ นางยกมืออีกข้างขึ้นปลดผ้าคลุมหน้าของพระองค์ออก เพื่อสัมผัสแก้มสากของกษัตริย์ไลโอเนลอย่างแผ่วเบา นิ้วเรียวเย็นเฉียบสร้างความรู้สึกวูบวาบไปทั่วพระพักตร์
"ท่านไม่ต้องเอ่ยสิ่งใดออกมาหรอกค่ะ" นางกระซิบข้างพระกรรณ กลิ่นหอมของดอกไม้ทะเลทรายยิ่งอบอวล "ท่านมาที่นี่เพื่อความสุข มิใช่เหรอ"
น้ำเสียงของนางช่างหวานล้ำ ราวกับสายน้ำที่ไหลรินชำระล้างความกังวลและความตั้งใจเดิมของกษัตริย์ไลโอเนล พระองค์ทรงรู้สึกราวกับถูกดึงดูดเข้าไปในห้วงแห่งความงามและความเย้ายวนที่หญิงสาวตรงหน้ากำลังแผ่ซ่านออกมา ความปรารถนาอื่นเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ร้อนรุ่ม และยากที่จะควบคุม
สายพระเนตรของพระองค์เลื่อนต่ำลง มองไปยังเรือนร่างอรชรที่อยู่ภายใต้ผ้าไหมบางเบา ทุกส่วนสัดที่เผยให้เห็นนั้นช่างงดงามจนแทบจะทำให้ลืมสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ความคิดที่จะตามหาวัตถุเวทมนตร์เริ่มเลือนรางไป ความต้องการที่ใกล้ชิด สัมผัส และดื่มด่ำความงามตรงหน้าเริ่มเข้ามาแทนที่
หญิงสาวสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในแววพระเนตรของกษัตริย์หนุ่ม นางจึงโน้มตัวเข้ามาใกล้ชิดยิ่งขึ้น จนพระนาสิกโด่งคมของพระองค์สัมผัสกับแก้มนุ่มละมุนของนาง ลมหายใจอุ่นร้อนของนางรดรินอยู่ข้างพระโอษฐ์
"ใบหน้ารูปงามเช่นท่าน...ไม่ควรถูกปกปิดท่านว่าไหม...ท่านต้องการข้า...ข้ารู้" นางถามด้วยน้ำเสียงที่พร่าพร่า ราวกับกำลังปลุกเร้าความปรารถนาที่ซ่อนลึกอยู่ในพระทัยของพระองค์
กษัตริย์ไลโอเนลทรงรู้สึกราวกับถูกมนต์สะกด พระองค์ทรงยกพระหัตถ์ขึ้นอย่างช้าๆ สัมผัสเรือนผมสีเขียวเข้มของนางเบาๆ ความนุ่มลื่นของเส้นผมนั้นช่างน่าประหลาดใจ พระองค์ทรงสูดดมกลิ่นหอมจากเรือนผมของนางอย่างลุ่มหลง
"ข้า..." พระองค์ทรงพยายามเปล่งเสียงอีกครั้ง แต่คราวนี้ น้ำเสียงของพระองค์กลับแหบพร่าด้วยแรงปรารถนาที่เริ่มครอบงำ "ข้า... ต้องการ..."
แต่ก่อนที่พระองค์จะทันได้เอ่ยคำใดจบ หญิงสาวก็โน้มพระพักตร์ลงมาประกบพระโอษฐ์ของพระองค์อย่างแผ่วเบา สัมผัสแรกนั้นนุ่มนวลและอ่อนหวาน ราวกับกลีบดอกไม้ แต่แล้วก็เริ่มทวีความเร่าร้อนและลุ่มลึกขึ้นอย่างรวดเร็ว ราวกับเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำ
กษัตริย์ไลโอเนลทรงตอบสนองต่อจุมพิตนั้นอย่างไม่ลังเล พระองค์ทรงโอบรอบเอวคอดกิ่วของนาง กระชับร่างอรชรเข้ามาแนบชิด พระองค์ทรงลืมสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ความกังวล ความสับสน และแม้แต่เป้าหมายเดิมที่นำพระองค์มายังสถานที่แห่งนี้ ในห้วงเวลาแห่งความเสน่หาอันเร่าร้อนนั้น มีเพียงความปรารถนาที่กำลังเผาไหม้ทุกสิ่งทุกอย่างในพระทัยของพระองค์
จุมพิตนั้นทวีความเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ ราวกับเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำในความมืดมิด ลิ้นของทั้งสองแตะต้องและเกี่ยวพันกันอย่างลุ่มลึก เสียงครางกระเส่าแผ่วเบาหลุดออกจากริมฝีปากของหญิงสาว สร้างความปั่นป่วนในพระทัยของกษัตริย์ไลโอเนลให้มากยิ่งขึ้น
พระหัตถ์ของพระองค์ลูบไล้ไปตามแผ่นหลังเนียนลื่นของนาง สัมผัสกับความอ่อนนุ่มและทรวดทรงที่งดงาม ราวกับกำลังสำรวจดินแดนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน หญิงสาวเองก็ไม่ได้น้อยหน้า นางยกมือขึ้นลูบไล้พระพักตร์ของกษัตริย์หนุ่มภายใต้แสงสลัว สัมผัสของนางนั้นน่าพิศวง
“ท่านช่างรูปงามมากกว่าชายใดที่ข้าเคยพบเจอเสียอีก" นางกระซิบชิดพระโอษฐ์ ก่อนที่จะมอบจุมพิตที่ลึกซึ้งและยาวนานกว่าเดิม
กษัตริย์ไลโอเนลทรงอุ้มนางขึ้นอย่างง่ายดาย พาร่างอรชรไปยังเตียงผ้าไหมสีแดงสดที่อยู่กลางห้อง นางคล้องแขนรอบพระศอของพระองค์ ดวงตาสีเฮเซลเปล่งประกายด้วยความปรารถนาที่สะท้อนอยู่ในแววพระเนตรของพระองค์เช่นกัน
ทั้งสองทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างรวดเร็ว เสื้อผ้าอาภรณ์ถูกปลดเปลื้องออกอย่างเร่งรีบ ราวกับต้องการปลดปล่อยความปรารถนาที่อัดอั้นอยู่ในส่วนลึกของจิตใจ เรือนร่างเปลือยเปล่าของทั้งสองแนบชิดกัน สัมผัสอุ่นร้อนของผิวเนื้อสร้างความวาบหวามไปทั่วร่าง
เสียงครางกระเส่า เสียงจูบ และเสียงลมหายใจถี่กระชั้นดังประสานกันในห้องเล็กๆ แห่งนั้น กษัตริย์ไลโอเนลทรงจมดิ่งลงสู่ห้วงแห่งความเสน่หาอันเร่าร้อน ปล่อยให้ความปรารถนาและความเย้ายวนนำทางพระองค์ไป ความกังวล ความสับสน และเป้าหมายเดิมที่นำพระองค์มายังตลาดมืดใต้ดินนั้น เลือนหายไปจากความทรงจำ เหลือไว้เพียงความรู้สึกที่ร้อนรุ่มและต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ
เสียงครางกระเส่าหวานหยดย้อยของหญิงสาวดังกระหึ่มก้องไปทั่วห้องเล็กๆ ภายใต้แสงจากตะเกียงน้ำมัน ราวกับเป็นบทเพลงแห่งความปรารถนาที่บรรเลงอย่างเร่าร้อน ปะปนไปกับเสียงเนื้อหนังที่กระทบกันเป็นจังหวะถี่กระชั้น ร่างกายของทั้งสองเคลื่อนไหวไปพร้อมเพรียง ราวกับเป็นหนึ่งเดียวกันในห้วงแห่งความเสน่หาอันลุ่มลึก
ริมฝีปากของกษัตริย์ไลโอเนลไม่เคยละจากคอระหงษ์ขาวผ่องของนาง พระองค์ทรงประทับจูบดูดดื่มอย่างหิวกระหาย สูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ออกมาจากผิวกายของนาง ราวกับต้องการดื่มด่ำทุกอณูของความเย้ายวน ปลุกเร้าความรู้สึกวาบหวามให้แก่หญิงสาวจนนางต้องส่งเสียงครางหวานออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ พระหัตถ์ของพระองค์ลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังและสะโพกงามของนาง สัมผัสกับความอ่อนนุ่มและทุกส่วนโค้งเว้าที่น่าหลงใหล หญิงสาวเองก็ตอบสนองต่อสัมผัสของพระองค์อย่างเร่าร้อน หญิงสาวเองก็ตอบสนองต่อสัมผัสของพระองค์อย่างเต็มที่ นางยกมือขึ้นกอดกระชับพระเศียรของกษัตริย์หนุ่มไว้แน่น ปลายนิ้วเรียวลูบไล้ไปตามไรพระศกดำขลับ และขยำเบาๆ อย่างยั่วยวน สะโพกของนางบิดเร้าเข้าหาพระองค์อย่างกระหายใคร่
ความปรารถนาที่อัดอั้นมานานปะทุขึ้นราวกับเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำ ทั้งสองมอบจูบที่ลึกซึ้งและดูดดื่มให้แก่กันและกัน ราวกับต้องการหลอมรวมจิตวิญญาณให้เป็นหนึ่งเดียว ความเร่าร้อนแผ่ซ่านไปทั่วร่าง สัมผัสทุกครั้งนำมาซึ่งความสุขสำราญที่ยากจะบรรยาย
ในห้วงเวลาแห่งความมืดมิดและความลับใต้ดินแห่งนั้น มีเพียงความรู้สึกที่ร้อนรุ่มและความปรารถนาที่ไม่มีวันสิ้นสุด กษัตริย์แห่งไฮพีเรียนทรงลืมเลือนทุกภาระหน้าที่และความกังวล ปล่อยให้ตนเองจมดิ่งสู่ความสุขสำราญชั่วครู่
หลังความสุขสมที่โหมกระหน่ำผ่านพ้นไป กษัตริย์ไลโอเนลทรงนอนตะแคงข้าง โอบกอดร่างอรชรของหญิงสาวจากด้านหลังอย่างทะนุถนอม ร่างกายท่อนล่างของทั้งสองถูกคลุมด้วยผ้าห่มผืนหนาสีแดงเข้ม แสงสลัวจากตะเกียงน้ำมันยังคงส่องลอดผ้าม่านเข้ามา สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัว
ริมฝีปากของพระองค์ไล่จูบอย่างอ่อนโยนไปตามหัวไหล่มนเปลือยเปล่าของนาง สัมผัสที่นุ่มนวลนั้นแตกต่างจากความเร่าร้อนเมื่อครู่ ราวกับต้องการปลอบประโลมและแสดงความขอบคุณ
"เจ้ามีนามว่าอะไร แม่หญิง?" พระองค์ทรงกระซิบถามด้วยเสียงที่แผ่วเบา ทว่าแฝงด้วยความใคร่รู้และความสงสาร
หญิงสาวพลิกตัวเล็กน้อย หันหน้ามาเผชิญกับพระองค์ ดวงตาสีเฮเซลยังคงฉ่ำเยิ้มไปด้วยร่องรอยแห่งความสุข
"เรเวน่า" นางตอบด้วยน้ำเสียงที่ยังคงแหบพร่าเล็กน้อย
กษัตริย์ไลโอเนลทรงลูบแก้มเนียนของนางเบาๆ พระองค์ทรงรู้สึกถึงความงามที่ซ่อนอยู่ภายใต้บรรยากาศอันมืดมิดของสถานที่แห่งนี้
“เรเวน่า” พระองค์กระซิบเรียกชื่อของนางด้วยความลุ่มหลง สายพระเนตรจับจ้องไปยังใบหน้าสวยไล่ลงไปยังเรือนร่างของนางอย่างพินิจเป็นครั้งแรก
เรเวน่านั้นงามราวกับบุปผาหายากที่เบ่งบานท่ามกลางความมืดมิด เรือนผมของนางดำขลับราวกับปีกกา แต่ทว่ามีประกายสีเขียวเข้มเจืออยู่เมื่อต้องแสงสลัว ราวกับเงาของใบไม้ในยามค่ำคืน เส้นผมยาวสลวยของนางถูกปล่อยให้ไหล่ลงมาอย่างอิสระบนหมอน กรอบใบหน้ารูปไข่ที่สมบูรณ์แบบ ดวงตากลมโตสีเฮเซลราวกับแสงยามรุ่งอรุณ เป็นประกายลึกลับและแฝงไว้ด้วยความทะเยอทะยาน
ขนตางอนยาวเป็นแพย์ขับเน้นดวงตาให้ดูคมหวาน จมูกโด่งเล็กรับกับริมฝีปากอิ่มสีแดงระเรื่อราวกับกลีบกุหลาบแรกแย้ม เมื่อนางแย้มยิ้ม สร้างเสน่ห์ที่น่าหลงใหล
ผิวพรรณของนางขาวผ่องราวกับน้ำนม ตัดกับสีผมเข้มอย่างงดงาม แม้จะอยู่ในสถานที่อับแสง แต่ผิวของนางก็ยังคงเปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ รูปร่างของนางอรชรได้สัดส่วน บอบบางแต่ทว่ามีส่วนโค้งเว้าที่เย้ายวนใจ ราวกับรูปสลักที่ถูกสร้างสรรค์มาอย่างพิถีพิถัน
“เรเวน่า” พระหัตถ์ของพระองค์จับคางมนให้หันมาทางเขา ก่อนจะก้มลงประทับจูบที่ดูดดื่มอีกครั้ง
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 140
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น