ตอนที่ 14 .. “ กามเทพซุกซน ”

องค์หญิงใบ้ กับ เจ้าชายยาจก

-A A +A

ตอนที่ 14 .. “ กามเทพซุกซน ”

ฟังเพลงเพราะๆ ประกอบ นิยาย องค์หญิงใบ้ กับ เจ้าชายยาจก

  เป็นเพียงความบันเทิงในการฟังเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ รวมถึง เหตุการณ์ของตัวละครในนิยาย เพื่อให้เกิดอรรถรสในการอ่านเท่านั้น ไม่ได้มีผลใดๆกับทางการค้าทั้งสิ้น .. ด้วยความเคารพผู้ประพันธ์นิยาย .. มัชฌิมา

น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า - อิทธิ พลางกูร

https://www.youtube.com/watch?v=sAezlkXZNiY

ขอขอบคุณ คุณอิทธิ พลางกูร จาก ค่าย อาร์ เอส ที่เอื้อเฟื้อเพลงให้มาประกอบในนิยาย

Romance Fiction - นิยายรัก / รักโรแมนติก

ตอนที่ 14 .. “ กามเทพซุกซน ”

   ค่ำแล้ว ทุกคนแยกย้ายกลับบ้านกันหมด คืนนี้ยุ้ยต้องนอนเฝ้านกแทนธวัช แต่หญิงยุบอกไม่เป็นไรเธอจะเฝ้าให้เอง

“ถ้าไม่สบายใจ ยุ้ยอยากจะไปเฝ้าคุณธวัชก็ได้นะพี่ไม่ว่า” หญิงยุ เข้าใจน้องสาว ถึงจะรู้อะไรไม่มาก แต่ก็พอเดาออกว่าน้องชอบธวัชเข้าให้แล้ว คงจะห้ามอะไรไม่ได้ นอกจากให้กำลังใจและสนับสนุนเท่าที่จะช่วยได้

“คงไม่หรอกพี่หญิง หนูไปก็ช่วยอะไรพี่เค้าไม่ได้” แล้วก็ทำหน้าเศร้าๆ

“ถามจริงเถอะยุ้ย” หญิงยุ เอามือลูบหัวน้องสาว ด้วยความเอ็นดู

“รักเค้ามากเลยเหรอ” ยุ้ยมองหน้าหญิงยุ แล้วทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

“ไม่รู้ซิพี่ แบบนี้เค้าเรียกว่ารักรึเปล่า หนูเป็นห่วงเค้า หนูคิดถึงเค้า ไม่รู้ทำไม”

“เด็กเอ๊ย” แล้วหญิงยุก็อ้าแขน เพื่อให้ยุ้ยมาซบ ยุ้ยก็เขยิบเข้าไป แล้วก็ร้องไห้

“ทั้งๆที่รู้ว่าเค้ามีเจ้าของเนี่ยนะ” ยุ้ยพยักหน้า

“ไม่เอาๆ ไม่ต้องร้อง ไม่มีใครผิดใครถูกเรื่องนี้หรอก นิ่งซะนะคนดี”

   แล้วหญิงยุ ก็ปลอบใจยุ้ย เอามือลูบหลัง คืนนั้น ยุ้ยคงนอนแบบไม่มีความสุขแน่ เพราะได้แต่คิดถึงเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นต่อไป และก็เป็นจริงอย่างที่หญิงยุคิด ดึกๆยุ้ยนอนไม่หลับแอบเปิดประตูและออกไปยืนดูธวัชที่หน้าห้องได้สักพักแล้วก็กลับมานอนที่เดิมโดยไม่รู้ว่า หญิงยุได้รู้ว่าเธอได้แอบออกไป สักพักพอปาดน้ำตาหมดยุ้ยก็หลับไปตอนไหนไม่รู้ได้

----- ===== -----

   รุ่งเช้า พ่อ แม่ และจ้อย ได้มาที่โรงพยาบาล ไม่ได้มาเยี่ยมนก แต่มาเยี่ยมลูกตัวเอง

“เร็วๆตาทด ปาดนี้ลูกจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้”

“ใจเย็นๆ ก็ได้แม่มึง อยู่ในมือหมอ จะไปกลัวทำไม”

“แกนี่ใจเย็นตลอดเลยนะ แล้วนี่มีใครคอยเฝ้าพี่เค้าไหมไอ้จ้อย”

“ไม่รู้ดิป้า หมอบอก ยังไม่ต้อง เพราะยังอยู่ในห้อง Icu ไม่มีที่นอน”

“แกนี่ไม่ได้เรื่องเลย หนูๆลูกชายป้าอยู่ห้องไหน”

“ป้าไปถามเค้ายังงั้น แล้วเค้าจะรู้ไหม คนไข้เป็นร้อยเป็นพัน”

“ลูกชายป้า ชื่ออะไรหละคะ”

“ธวัช ธวัชลูกข้าชื่อธวัช”

“นามสกุลหละคะ”

“รุจิศม”

“ธวัช รุจิศม..ตอนนี้ได้ย้ายไปอยู่ที่ชั้น 4 ห้องคนไข้ชายแล้วนะคะ เมื่อเช้ามืดนี่เอง”

“ขอบใจนะ..ไป ไปไอ้จ้อย แล้วไปทางไหนหละนังหนู”

“เดินตรงไปแล้ว ขึ้นลิฟท์ด้านขวามือได้เลยค่ะคุณป้า”

“ไปๆ ตาทด ไปไอ้จ้อย”

   แล้วทั้งหมดก็เดินไปหาธวัชทันที..เมื่อถึงหน้าห้อง สะอิ้งก็มองหาลูกชายอยู่นาน สักพักก็เห็นยุ้ย สะอิ้งจำได้ ก็เลยเดินเข้าไปหา และคิดว่าใช่แน่นนอน พอเดินมาถึงเห็นยุ้ยกำลังนั่งเฝ้าและกุมมือธวัชอยู่ สะอิ้งมองเห็นสภาพลูกชาย น้ำตาจึงไหลออกมาทันที แล้วตรงเข้าไปลูบหน้าลูบตัว

“ไอ้หมาลูกแม่” ยุ้ยหันไปดู มือที่กำลังกุมมือธวัชอยู่ เธอก็ปล่อยและลุกขึ้นทันที

“คุณป้า..มาตอนไหนคะเนี่ย”

“ขอบใจมากนะหนู ที่เฝ้าเจ้าวัชมัน นี่เฝ้าทั้งคืนเลยเหรอ”

“ไม่หรอกค่ะ พึ่งตอนตี 4 นี่เอง หนูเห็นคุณหมอเขาเข็นพี่วัชออกมาจากห้อง Icu หนูก็เลยขอตามมา”

“แล้วเป็นอะไรมากไหมหนู พอจะรู้ไหม” ทดถามเพราะเป็นห่วงลูกชาย

“เท่าที่หมอบอก พี่วัชพ้นขีดอันตรายแล้ว สมองไม่เป็นไรจะมีก็แต่รอยฟกช้ำ พักสักวันสองวันก็กลับไปพักผ่อนที่บ้านได้แล้วค่ะคุณลุง” ทดยิ้มออกมาได้ เพราะอย่างน้อยก็ไม่เป็นไรมาก

***** ----- *****

   หญิงยุดูอาการเพื่อนอย่างเป็นห่วง ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง เธอเอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดตาให้เป็นระยะระยะ เมืองรามเข้ามาเลยได้จังหวะพูดขอความร่วมมือจากหญิงยุ

“หญิง” หญิงยุ หันไป เมื่อรู้ว่าเป็นราม จึงโผเข้าไปหา ที่จริงลึกๆแล้ว หญิงยุชอบเมืองรามนั่นเอง

“เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม อย่างอแงซิ เราคุยกันแล้วนะคนดี” เมืองรามปลอบใจ หญิงยุ แล้วก็ประคองมานั่งที่โซฟา

“หญิงสงสารเพื่อนหนะราม” หญิงยุยังคงซบอกและร้องไห้กับเมืองราม โดยที่หารู้ไม่ว่า ริชาร์ดแอบดูอยู่นอกห้อง

“ฟังผมก่อนนะหญิง ฟังผมก่อน ไม่เอา ไม่ร้อง” แล้วเมืองรามก็ดันตัวหญิงออกมาพร้อมกับเอามือขวาเช็ดน้ำตาให้

“คนดี ฟังผมนะ หญิงรันต้องหาย โอเครไหม” เมืองรามเอามือเสยผมหญิงยุ แล้วก็มองหน้า ยิ้มให้ หญิงยุจึงค่อยๆนิ่งได้

   ริชาร์ดเหมือนอกหักดังเป๊าะ เมื่อรู้ว่าแท้จริงแล้วหญิงยุไม่เคยมีใจให้เขาเลย เธอชอบเมืองรามนี่เอง ริชาร์ดจึงเดินหนีกลับไปเงียบๆโดยไม่เข้าไปด้านในและไม่โทรบอกหญิงยุด้วย

“เรื่องที่หญิงโทรหาผมเมื่อคืน ผมยินดีที่จะช่วย แต่หญิงก็ต้องทำตามที่ผมขอด้วยไม่งั้นเรื่องที่หญิงขอ ผมก็ไม่ตกลง Ok ไหม”

   หญิงยุพยักหน้า เมืองรามหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเมื่อเห็นว่าหญิงยุ ไม่ยอมหยุดร้องไห้ เขายื่นไปซับน้ำตาให้หญิงยุ หญิงยุจับมือเมืองรามไว้แน่นแล้วก็หอมมือเบาๆ เมืองรามนิ่งไปพักนึง แล้วก็ดึงมือตัวเองออกมาให้หญิงยุจับผ้าไว้เอง

“เรื่องที่ขอพาองค์หญิงไปผ่าตัดที่โรงพบาบาลอื่นตรงนั้นไม่มีปัญหาผมช่วยได้ แต่อย่าลืมข้อตกลงที่เราได้คุยกันนะว่าอย่าพึ่งบอกให้ใครรู้ว่านกคือใคร”

“ทำไมหละ ทำไมถึงบอกความจริงกับทุกคนไม่ได้”

“ถ้าไม่อยากให้นกเป็นอันตรายไปมากกว่านี้ ผมอยากจับเมฆและผู้จ้างวานให้ได้ เข้าใจไหม”

   หญิงยุ เมื่อได้ฟังเมืองรามอธิบายเหตุผลก็เข้าใจ

“และข้อสำคัญสิ่งที่ได้ตกลงกันไว้อีกหนึ่งข้อ”

“อะไร” หญิงยุ ทำเป็นจำไม่ได้

“เมื่อผ่าตัดเสร็จ หญิงยุต้องพาองค์หญิงกลับมาอยู่ที่นี่ มาพักฟื้นที่บ้านของเพื่อนผมจนกว่าเรื่องทุกอย่างจะคลี่คลายห้ามพากลับวังเด็ดขาด ห้ามบอกท่านพ่อท่านแม่ ทำได้ไหม เข้าใจไหม” เมืองรามจ้องหน้าหญิงยุ แบบจริงจัง ไม่มีคำตอบจากหญิงยุ

“ถ้าผิดสัญญาไม่ทำตาม ผมจะขอยุติเรื่องทุกอย่างที่ผ่านมา จะไม่ขอยุ่งเกี่ยวอีกจะวางมือทุกเรื่องทันทีต่อไปถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก ผมจะไม่ขอรับรู้และเข้ามาข้องเกี่ยวอีกเลย ว่าไง”

   คราวนี้หญิงยุ พยักหน้ารับปากข้อเสนอได้..หญิงยุ ลุกไปดูเพื่อน กับสภาพที่เป็นอยู่

“ทำไมถึงยังไม่ฟื้นอีกนะ หญิงรัน ตื่นขึ้นมาซิ ตื่นขึ้นมาฉันใจคอไม่ดีเลย รัน”

   เมืองรามเดินเข้ามาหาหญิงยุ เอามือซ้ายแตะไหล่ซ้าย หญิงยุหันมาซบอกเมืองรามอีกครั้ง เมืองรามก็ปลอบใจ เขาโอบกอดหญิงยุเอาไว้ด้วยความห่วงใย

“รอนะ ให้โอกาสองค์หญิงนอนพักผ่อนให้เต็มที่ แล้วเดี๋ยวเรื่องย้ายโรงพยาบาล ผมจะจัดการให้นะ คนดี”

“ค่ะราม หญิงเชื่อคุณ” แล้วเมืองรามก็ดันตัวหญิงออกมา มองหน้า เอามือขวาเช็ดน้ำตา

“ตาบวมหมดแล้ว ไม่สวยเลย หญิงยุที่ผมรู้จักเข็มแข็งกว่านี้นี่ นั่งก่อนนะ” หญิงยุ แอบยิ้มนิดๆแล้วเอามือทุบไหล่เขาเบาๆ

“บ้า..คนบ้า” หญิงยุ ดึงมือเมืองรามไว้ขณะที่เมืองรามกำลังจะเดินออกไป

“จะไปไหนคะราม” หญิงยุ ถามด้วยความเป็นห่วงคนที่เธอรัก  เพราะเมืองรามทำงานหนักมาก เวลาที่จะคุยกันแทบจะไม่มี

“เดี๋ยวผมมา ขอไปดูเพื่อนผมก่อน ได้ข่าวว่า ออกมาจากห้อง Icu แล้ว เครนะ”

“ดูแลตัวเองด้วยนะราม” เมืองรามพยักหน้า แล้วก็เอามือจับผมหญิงยุยีเล่นนิดนึง และก็เดินออกไป

***** ----- *****

   เมฆกับพวก ได้กลับมาหลบที่บ้านพักขององค์ชายโกมุท หลังจากที่ได้ไปลอบทำร้ายธวัชมา

“สะใจเป็นบ้าเลยหวะ ไอ้แดง ไอ้โขง” พูดจบก็ยกแก้วเหล้าซด

“แหม ถ้าตำรวจไม่มา ผมจะอัดมันให้จมธรณีไปเลย หมั่นไส้มาก” โขงพูดไปทานเหล้าไป

“แล้วนี้ไอ้ฝ้ายมันหายไปไหนเนี่ย บอกแล้วไงว่าไม่ให้ออกไปไหนคนเดียว โดนซิวขึ้นมา จะรู้สึก” เมฆเป็นห่วงลูกน้อง

“คงไม่มีอะไรมั้งพี่ ไม่มีใครรู้หรอกว่าเรามาหลบอยู่ที่นี่” แดงพูดออกมา

“อย่าประมาทและชะล่าใจเชียวนะมึง เราไม่ใช่คนแถวนี้นะโว๊ย ระวังเอาไว้บ้างก็ดี”

“นั่นไงมันมาโน่นแล้ว ผมบอกพี่แล้วไม่มีอะไรหรอก” แดงบอก แล้วฝ้ายก็ยกมือทักทายโขงกับแดง ที่ออกไปซื้อกับแกล้ม

***** ----- *****

   เมืองรามเดินเข้ามาดูว่าเพื่อนเป็นยังไงบ้าง เห็นพ่อกับแม่จึงเดินตรงไปหา

“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่”

“เมืองราม มาก็ดีแล้ว ตกลงมันยังไงกันลูก”

“คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมได้แจ้งความไว้แล้ว ไม่นานคงจะรู้ว่าใครที่ทำร้ายไอ้วัช แต่ตอนนี้ผมขอแม่กับพ่อมากับผมทางนี้ก่อนได้ไหมครับ” สะอิ้งกับทด ได้เดินตามเมืองรามออกมานอกห้อง

“ผมอยากให้พ่อกับแม่รับปากผมเรื่องนึงก่อนได้ไหมครับ”

“ยังไม่รู้เรื่องเลย แล้วจะให้ฉันกับตาเฒ่ารับปากเจ้าได้ยังไงราม”

“คือว่า ถ้าเจ้าวัชฟื้นขึ้นมา แล้วถ้ามันถามอะไรเกี่ยวกับนก ไม่ว่าเรื่องใดๆก็ตาม อย่าพึ่งบอกมันเด็ดขาดได้ไหมครับ”

“ทำไมหละพ่อคุณ มันมีอะไรเหรอ” พ่อถาม

“เพราะหมอบอกผมมาว่า ไม่อยากให้ธวัชได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจมากเดี๋ยวอาการจะทรุดลงอีก”

“ถ้าเป็นแค่นั้น ก็ไม่น่าจะต้องมาขอร้องนี่ พวกเราทำได้อยู่แล้ว ยังไงๆ ก็ไม่พูด” สะอิ้งกล่าว

“คือหมอต้องการให้มันพักผ่อนเยอะๆ แต่มีอีกเรื่องนึงครับ ที่สำคัญมากกว่านั้น ทีแรกผมคิดว่าจะไม่บอก แต่ก็คงต้องบอก ปิดไว้ก็เท่านั้น คือ ผมกับเพื่อนจะย้ายนกไปทำการรักษา”

“รักษาอะไร นกเป็นอะไรกันแน่ ไหนบอกแม่มาซิ” สะอิ้งรีบพูดสวนออกมาทันที เมื่อเห็นสีหน้าของเมืองราม

“นี่แหละครับที่ผมต้องบอกพ่อกับแม่ให้รู้ ผมรู้ว่าธวัช พ่อและแม่คงจะรักษานกไม่ได้แน่นอน เพราะโรคที่นกเป็นมันต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงมาก”

“แล้วตกลงนกเป็นอะไรหละลูก บอกพ่อกับแม่สักทีซิ” ทดอยากรู้จนตัวสั่น

“เนื้องอกในสมองครับ”

   ทำเอาทดและสะอิ้ง นิ่งเงียบไปเลย

***** ----- *****

   ยุ้ยได้บอกกับจ้อยว่าขอตัวไปทานข้าว ขอให้จ้อยเฝ้าธวัชไปก่อน เดินออกมา มองไม่เห็นเมืองรามจึงเดินกลับห้อง เปิดประตูเข้าไปเห็นหญิงยุ นั่งตาแดงๆมองเห็นที่มือมีผ้าเช็ดหน้า จำได้ว่าเป็นของเมืองราม จึงเดินเข้าไปหาเงียบๆ

“เป็นอะไร ร้องไห้ทำไมพี่หญิง”

“เปล่า ไม่ได้ร้อง ฝุ่นมันเข้าตา”

“ทานอะไรรึยังหนูจะออกไปทานข้าวพอดี จะเอาอะไรไหม”

“อะไรก็ได้ พี่ทานได้ทั้งนั้น ขนมปังหรือพวกไส้กรอก ลูกชิ้นได้ทั้งนั้น ตอนนี้พี่ทานอะไรไม่ลงหรอก”

“อืม..แล้ววันนี้พี่ริช อะไรของพี่ไม่มาเหรอ นี่มันก็จะเที่ยงแล้วนะ”

“ไม่รู้ซิ เอ้อ แล้วอย่าไปพูดอย่างนี้กับใครนะ ริชไม่ใช่ของพี่ พี่กับริชเราเป็นเพื่อนกัน เข้าใจไหม”

“ไม่เข้าใจ ตัวติดกันยังกะปาท่องโก๋ ถ้าไม่เรียกว่าแฟน แล้วเขาจะเรียกว่าอะไร”

“ตลกแล้ว งั้นเวลาที่แกไหนมาไหนกับราม แกก็เป็นแฟนรามหนะซิ”

“โอ๊ย..เออๆ ก็ได้ๆ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ ไปดีกว่า คนอะไร ปากกับใจไม่ตรงกัน”

“ว่าอะไรพี่ยัยเอ๋อ”

“ไปแล้ว” ยุ้ยรีบเปิดประตูวิ่งหนีออกไปเลย แต่คำพูดประโยคนั้น ก็ทำให้ไปสะกิดใจหญิงยุเช่นกัน

***** ----- *****

   งามตานั่งรอเมืองรามอยู่ที่โรงเรียนสงสัยเมืองรามคงจะลืม ก็เลยโทรตาม < ตื๊ดๆๆๆ > เมืองรามเห็นเป็นงามตา ก็ทำท่าตกใจ

“ขอโทษทีงาม พี่ลืมเลย ว่าจะไปรับ งั้นรอพี่อยู่ที่นั่นนะ พอดีมีธุระที่ต้องสะสางมากไปหน่อย”

“ไม่เป็นไรค่ะ เข้าใจว่า มีแฟนเป็นตำรวจก็แบบนี้แหละ ต้องทำใจ”

“น่ารักมาก เดี๋ยวพี่ไปรับนะ”

“จร้า..ไม่ต้องรีบนะ เดี๋ยวจะเกิดอันตราย” แล้วเมืองรามก็วางสาย และหันมาคุยกับพ่อและแม่ต่อ

“ทำไมถึงโชคร้ายแบบนี้นะนก แล้วยังไงต่อหละทีนี้” สะอิ้งนั่งดมยาดม

“แล้วมันราคาเท่าไหร่หละลูกไอ้ผ่าตัดเนื้องอกอะไรเนี่ย”

“400,000 บาท ครับพ่อ”

“โอ๊ย ทำไมมันมากมายขนาดนี้ แล้วนี่ฉันจะเอาที่ไหนมาช่วยนังนกมันเนี่ย”

“ก็อย่างที่ผมบอกไงครับผมกับเพื่อนได้ยื่นมือช่วยในเรื่องนี้แล้ว คุณพ่อกับคุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วง แต่สิ่งสำคัญอย่าพึ่งบอกธวัชเรื่องนี้”

“แล้วนี่เจ้าวัชมันรู้รึยังเรื่องนี้” สะอิ้งอยากรู้

“ก็เพราะมันรู้นั่นซิครับ ผมถึงขอร้องว่า อย่าบอกมัน เดี๋ยวผมจัดการเองเรื่องนี้ นะครับ ผมขอร้องแค่นี้”

“ได้ๆ จะทำอะไรก็รีบทำซะนะ ก่อนที่มันจะบานปลายมากกว่านี้”

“ครับ แต่ตอนนี้ผมขอตัวก่อนนะครับ ธุระอีก ผมขอตัวก่อน ลาหละครับ”

   แล้วเมืองรามก็ขอตัวไปรับงามตา ส่วนแม่กับพ่อ ก็เดินกลับไปดูธวัช

***** ----- *****

   หญิงยุรู้ความจริงว่านกเป็นเนื้องอกจึงออกค่ารักษาให้ หลังจากที่ได้ทำข้อตกลงกับเมืองรามไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้ทำการติดต่อประสานงานกับโรงพยาบาลเดิมคือที่นี่ก่อน ติดต่อหมอที่ดูแลรักษานกเพื่อจะขอผลการรักษาเดิมในครั้งแรก ประวัติการรักษาหมอคนใหม่ไม่รู้ จึงได้ติดต่อกลับไปที่หมอคนเดิมคุณหมอไม่อยู่ลาพักร้อนหลายวัน จึงตัดสินใจ ขอย้ายโรงพยาบาลเลยทันทีง่ายกว่า

   หญิงยุ ติดต่อกลับไปที่โรงพยาบาลในเครือของท่านพ่อ เพื่อรีบดำเนินการขอย้ายนกโดยด่วน และแจ้งเคสให้กับทางนั้นรับรู้เพื่อเตรียมหมอและบุคคลากรให้พร้อม ไปถึงจะได้ทำการรักษาทันที ทางโรงพยาบาลเดิมก็ยินดี ไม่ขัดข้องอะไร เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวบังคับกันไม่ได้ ได้กำหนดการคือค่ำวันนี้เร็วสุดไม่น่าจะเกิน 1 ทุ่ม มีรถแอปบิแล้นท์ของมูลนิธิว่าง 1 คัน หญิงยุก็รีบทำเรื่องยื่นเอกสารกับโรงพยาบาลเดิมทันที และเตรียมเก็บข้าวของที่จำเป็นรอไว้

   ยุ้ยเดินกลับเข้ามาพอดี เห็นหญิงยุ เก็บของเรียบร้อย จึงแปลกใจ

“เกิดอะไรขึ้นคะพี่หญิง แล้วนี่ อะไรเก็บข้าวของจะไปไหนเหรอ”

“พี่ทำเรื่องย้ายหญิงรันเพื่อนพี่ ไปโรงพยาบาลในเครือของพี่แล้ว เย็นนี้รถจะมารับ”

“อะไรนะ อะไรมันจะเร็วปานนั้น หนูแค่ไปทานข้าวไม่ถึงชั่วโมง กลับมา พี่หญิง จัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยหมดเลย แล้วนี่พี่วัชรู้รึยังเนี่ย ตื่นมาเมียหาย โรงบาลมิแตกเหรอพี่หญิง ทำอะไร ทำไมไม่ปรึกษากันก่อน”

“พี่รอไม่ได้ ชีวิตหญิงรันมันมีค่ามากกว่าอะไรทั้งนั้น พี่ไม่สนใจอะไรหรือใครทั้งสิ้น เข้าใจไหมยุ้ย”

“แล้ว” หญิงยุ ชี้นิ้วไปที่ยุ้ย

“ห้ามเลยนะ แล้วห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกอีตาเจ้าชายอะไรของแกด้วยเด็ดขาด เข้าใจไหม” ยุ้ยมองหน้าพี่สาว

“ทำไม ไม่ดีเหรอ แกจะได้อยู่เฝ้าคนที่แกรักสมใจแกไง ว่าไง หรือว่าแกจะยอมให้เค้ามาอยู่กับหญิงรันเพื่อนพี่”

   เท่านั้นแหละ ทำให้ยุ้ยเงียบและสงบลงได้ บางครั้ง ความรักมันก็ทำให้คนเห็นแก่ตัวได้ ถึงกามเทพจะซุกซนเพียงไหน มันก็คงไม่ทำให้อะไรดีขึ้นมาได้ในบางโอกาส ยุ้ยก็เลยยอมที่จะทำตามแผนของหญิงยุ และพยักหน้ารับกับการต่อรอง หญิงยุถึงยิ้มออกและก็ช่วยกันเก็บของที่เหลือ

***** ----- *****

   เมืองรามมารับงามตาที่โรงเรียน เพื่อนๆแซวกันใหญ่หลังจากนี้คงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว เพราะงามตาสอบเสร็จและส่งรายงานชิ้นสุดท้ายที่ตัวเองติด 0 เป็นอันว่าจบสักที ปวช.3

“แหมๆๆๆ เปิดตัวแฟนเต็มตัวแล้วก็ไม่บอกกันบ้างเลยนะเพื่อนชั้น เรียนจบปุ๊บ มันได้ผัวเลยหวะแก” เปิ้ลแซว

“บ้า..ไปแล้วบาย” แล้วก็โบกมือบ๊ายบายเพื่อนๆ

   เมืองรามกับงามตา ดูเหมือนจะเข้าใจกันดีมากขึ้น..เมืองรามเลยถือโอกาสขับรถพางามตามาเที่ยวที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง นานแล้วที่งามตาไม่ได้มาเที่ยวแบบนี้ หลังจากที่ได้เรียนจบ

“จบซะที ชีวิตนักเรียนของชั้น” งามตาโยนหนังสือเรียนขึ้นกลางอากาศ เมืองรามเลยถือโอกาส ร้องเพลงจีบ งามตา

< เพลง บุพเพสันนิวาส - เบียร์ วรวุธ > https://www.youtube.com/watch?v=lVkgj9lQpnE

   งามตาก็ซึ้งกับสิ่งที่เมืองรามทำให้ และมีความสุขกับสิ่งที่ได้รับมีความสุขกับมันจริงๆ ยอมรับกับตัวเองว่า รู้สึกดีที่ได้หันมาคบและมารักกับเมืองราม เธอพึ่งเข้าใจว่ารักคนที่เขารักเราดีกว่ามันเป็นยังไง และถ้าเรายอมเปิดใจ เราก็จะไม่ทุกข์ มีความสุขแบบนี้นี่เอง

   กามเทพซุกซน อีกแล้วสามารถเปลี่ยนใจคนที่ห้าวๆแก่นๆอย่างงามตาให้มาเป็นคนที่นิ่มนวลใจเย็นและเป็นคนมีเหตุผลมากขึ้นได้ในพริบตาจริงๆ ก็ดูกันต่อไปว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเมืองรามและงามตาอีก ถ้ารู้ว่า ยังมีหญิงยุอีกคนที่ กามเทพซุกซน เล่นไม่เลิกกับความรักที่มันยังค้างคาอยู่ในใจของเธอที่แม้แต่เมืองรามเองก็ไม่รู้ว่าหญิงยุคิดอะไรกับเขากันแน่

***** ----- *****

   เมฆย่ามใจ วางแผนที่จะกลับมาเอาคืนธวัชอีกครั้งเป็นครั้งที่สอง เพราะยังไม่หายแค้นใจที่ธวัชได้ทำกับเขาไว้อย่างเจ็บแสบเหลือเกิน จึงได้บอกลูกน้องและวางแผนกันว่าเมื่อไหร่ดี จึงให้คนไปดูและสืบข่าวคราวว่าธวัชเป็นยังไงบ้างในตอนนี้

***** ----- *****

   ช่วงเย็นธวัชรู้สึกตัว เห็นยุ้ยมานอนเฝ้าเขา มือยุ้ยจับมือขวาและนอนทับมือของธวัชอยู่ ธวัชจึงค่อยๆขยับมือ ยุ้ยรู้สึกตัวเพราะเผลอหลับไป

“พี่วัช ตื่นแล้วเหรอคะ”

“พี่เป็นอะไรเนี่ย รู้สึกตัวครั้งสุดท้าย จำได้ว่ากลับไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านเมื่อวาน แล้วขากลับก็มีการต่อสู้กัน”

“สองวันแล้วพี่ จำผิดแล้ว” ยุ้ยชูสองนิ้ว

“อะไรนะ แล้วนกหละนก” ธวัชพยายามจะลุกออกจากเตียงที่ตัวเองนอนอยู่

“ทำอะไรหนะพี่ เอาตัวเองให้รอดก่อนไหม ก่อนที่จะไปห่วงคนอื่นเค้าหนะ”

“นกไม่ใช่คนอื่นนะยุ้ย”

“โอ๊ย..พี่วัช” ยุ้ยโมโห ลืมตัวเผลอเสียงดังใส่ธวัชเหมือนเมียรำคาญผัว

“จะอะไรกันนักกันหนาเนี่ย รู้ตัวบ้างไหมว่าตัวเองเจ็บ ตัวเองป่วย มีคนเค้าคอยเป็นห่วงอยู่นะ รักตัวเองบ้างเถอะ”

   เท่านั้นแหละ ถึงทำให้ธวัชหยุดความบ้าลงได้ มองไปรอบๆมีแต่คนป่วยเต็มไปหมด เราก็คนไม่ใช่หุ่นยนตร์ จึงนอนลง

“ก็เท่านี้แหละ พักผ่อนบ้างพี่ พี่นกหนะมีคุณหมอ มีพี่หญิงคอยดูแลอยู่ พี่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก พี่หนะไม่มีใครดูแลเลย รู้ไหม”

   ธวัชนอนนิ่งเหมือนสำนึกผิด ตามองขึ้นไปบนเพดาน สักพักพยาบาลเดินมาตรวจมาวัดความดันพอดี ยุ้ยจึงนั่งนิ่งไม่พูดอะไร

เมืองรามกับงามตาเดินจูงมือเข้ามาพอดี ธวัชจึงขอตัวคุยกับเมืองรามเพียงสองคน ให้งามตากับยุ้ยออกไปข้างนอกก่อน

“พี่ขอคุยธุระสำคัญกับเมืองรามหน่อยนะยุ้ย”

   ธวัชกุมมือยุ้ยเบาๆ ยุ้ยเข้าใจก็เลยเดินออกไป ระหว่างทางที่เมืองรามเดินเข้ามา ยุ้ยดึงมืองามตาออกไปพร้อมกันด้วย งามตางง แต่ก็ไม่ได้พูดะไร พอถึงระเบียงหน้าห้องจึงเปิดปากพูดออกมาได้

“ดึงฉันออกมาทำไมยุ้ย ฉันจะมาเยี่ยมพี่วัช”

“ให้พวกผู้ชายเขาคุยกันเถอะ แมนๆเขาคงมีเรื่องที่จะต้องตกลงกัน”

“ถ้าเป็นเรื่องนั้นฉัน Clear กับพี่รามแล้ว เราเป็นแฟนกันเรียบร้อยแล้ว สบายใจได้ ฉันไม่วุ่นวายกับพี่วัชอีกแล้ว เพราะฉันก็พึ่งรู้วันนี้เองว่า ที่ผ่านๆมาฉันบ้าไปเองจริงๆคนเดียว ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าความสุขคืออะไร และอยู่ตรงไหน”

“ก็ดีฉันจะได้สบายใจ”

“อะไรนะ”

“เปล่าๆ ไม่มีอะไร” งามตาชักไม่แน่ใจกับคำพูดและปฏิกิริยาของยุ้ย เพราะมันคล้ายๆกับเธอสมัยก่อนโน้นยังไงไม่รู้

   ธวัชไว้ใจเมืองรามจึงบอกเรื่องของนกให้เมืองรามรับรู้ แต่มีข้อแม้ว่าอย่าพึ่งบอกเรื่องนี้กับใคร

“กูมีเรื่องที่จะสารภาพกับมึงหวะไอ้ราม”

“อะไรว่ามา”

“กูโกหกมึงเรื่องนก”

“ยังไง”

“กูจะเล่าเรื่องเริ่มต้นแต่แรกให้มึงฟังแล้วกัน และเมื่อมึงรู้แล้ว มึงอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครนะกูขอร้อง”

“กูสัญญา กูเป็นตำรวจกูรู้ว่าควรจะทำยังไง เล่ามา”

   แล้วธวัชก็เล่าเรื่องทั้งหมดตั้งแต่เริ่มแรกที่เจอนก จนมีเรื่องราวบานปลายและลามมาจนถึงปัจจุบันให้ฟังจนหมด และเมืองรามก็รับปากธวัชในทุกเรื่องที่ธวัชขอ

“มันก็เป็นจริงทั้งหมดที่กูเล่ามานั่นแหละ กูอึดอัดมานานแล้วหวะต้องขอโทษมึงด้วยที่ไม่ไว้ใจมึงตั้งแต่แรก จนต้องมาเกิดเรื่องบ้าๆแบบนี้”

“กูเข้าใจเป็นกู กูก็ต้องทำแบบมึงนี่แหละ ถ้าไม่ถึงคราวเข้าตาจนหรือคับขันจริงๆก็คงไม่ยื่นมือขอความช่วยเหลือจากใครจริงๆ โดยเฉพาะคนแบบมึง กูรู้ดี”

“ขอบใจโว๊ยเพื่อน”

“ไม่เป็นไร แล้วเขาจะมีเพื่อนไว้ทำไมหละวะจริงไหม”

   แล้วทั้งคู่ก็จับมือประสานกันมือขวาประสานขวา เพราะมือซ้ายติดสายน้ำเกลือ ยุ้ยและงามตามองเข้ามา เห็นเพื่อนรักสองคนจับมือเข้าใจกันดี เธอสองคนก็ดีใจที่เห็นคนที่เธอรักทั้งสองคน เข้าใจกันแม้นไม่รู้ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม

“ถ้ามึงอยากจะช่วยกูจริงๆก็อยากให้ช่วยจับคนร้ายให้ได้เร็วๆจะดีกว่า เพราะนกอยู่ที่นี่กับกูน่าจะปลอดภัยกว่า ถ้ากลับบ้านคงไม่ดีอย่างน้อยกูก็มีพรรคพวกที่คอยดูแลได้ดีกว่า และมีมึงและพวกกำลังตำรวจอีก เข้านอกออกในได้ง่ายกว่า”

“มันก็จริง กูก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน แล้วนี่มึงจะเอาไงต่อกับชีวิตมึงเนี่ย”

“กูว่าจะไปหานกหน่อย นี่ก็มืดแล้ว ไม่เห็นหน้าเมียหลายวันคิดถึงหวะ”

“อย่าเลย มึงเชื่อกู มึงนอนพักผ่อนที่นี่ก่อน เดี๋ยวกูจะทำเรื่องย้ายมึงไปห้องพิเศษเอง พ่อกับแม่จะได้อยู่เฝ้าได้”

“เอ๊ย..ไม่ต้องหรอก กูกะว่าจะขอหมอกลับแล้วพรุ่งนี้ จะได้มีเวลาไปดูแลเมียกู”

“มึงนี้จริงๆเลย หยุดเลย” เมืองรามเอาขวามือยันอกเพื่อนแล้วชี้หน้าด้วยมือซ้าย

“ไหนมึงบอกว่าจะฟังกูไง พูดไม่ทันขาดคำเลยนะมึง มึงนี่ก็ดื้อเหมือนเด็กๆเลย นอน เรื่องอื่นมึงพักไปเลย ไม่ต้องไปสนใจ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหมดและพยาบาลเค้า มึงรักษาตัวเองให้รอดก่อนก็แล้วกันเข้าใจไหมไอ้วัช ไอ้เจ้าชายซังกะบ๋วย”

“เออๆ ก็ได้ๆ นี่เห็นเป็นมึงนะ กูถึงยอม”

“ดีมาก ไอ้เจ้าชาย นอน..พยาบาลครับ เดี๋ยวผมจะไปทำเรื่องย้ายเพื่อนผมไปห้องพิเศษนะครับ ทางนี้ผมฝากด้วย”

   แล้วเมืองรามก็เดินออกไป งามตาเดินเข้าไปหา เมืองรามยื่นมือไปจูงมือ หวานตาลุกกันทั้งโรงพยาบาลเลย ยุ้ยก็เดินกลับเข้าไปนั่งเฝ้าธวัชต่อ เผลอแป๊บเดียวธวัชหลับไปตอนไหนไม่รู้ ยุ้ยก็เลยดึงผ้ามาห่มให้ และก็ได้แต่นั่งคิดถึงเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมารวมถึงเรื่องที่หญิงยุบอกเมื่อตอนบ่าย หาทางเอาเองที่จะได้ใจของคนที่เธอรักเธอชอบ ถึงกามเทพซุกซนเพียงใด ยังไงมันก็ต้องช่วยตัวเองด้วยเช่นกัน เมื่อคิดได้เช่นนั้น เธอจึงพยายามทำต่อไป เท่าที่ธวัชจะมองเห็นถึงความจริงใจที่เธอมีให้เสียที  

***** ----- *****

   1 ทุ่มนิดๆ รถกู้ภัยฉุกเฉิน ของมูลนิธิหัสดี ได้มาถึงตามที่หญิงยุนัดหมาย ทางโรงพยาบาลช่วยเต็มที่ เอกสารทุกอย่างครบ รวมถึงประวัติการรักษาได้ถูกจัดเตรียมไว้ให้เรียบร้อยใส่ซองปิดผนึกอย่างดี มีแพทย์และพยาบาลจากมูลนิธิมาคอยช่วยบริการอย่างเต็มที่เพราะเจ้านายสั่ง

“ฝากด้วยนะหญิง เดี๋ยวผมจะตามไป”

“ดูแลตัวเองด้วยนะราม” หญิงยุโบกมือลาเมืองราม งามตาฟังดูแล้วทะแม่งๆแต่ก็ไม่ได้เอ๊ะใจเท่าใดนักเพราะคิดว่าคงไม่มีอะไร

“ขอจัดการปัญหาทางนี้ก่อน..ไปงาม งานยังมีอีกเยอะ ถ้าไม่มีห้องพิเศษ เจ้ายุ้ยแย่แน่”

“ไม่ต้องห่วงหรอกพี่ ลืมไปแล้วเหรอว่า เราขอห้องของนกไว้ให้พี่วัชแล้วนี่ จะไปกลัวอะไร พอนกไป พี่วัชก็มาอยู่แทน”

“เออใช่ เนาะ ทำไมพี่ลืมไปเลย มีแฟนดีก็แบบนี้แหละ เก่งมาก น่ารักด้วย”

   เมืองรามหยิกแก้มงามตาเบาๆ จากนั้นก็รีบไปช่วยเคลื่อนย้ายธวัช..สำหรับทางหญิงยุ พอทุกอย่างเรียบร้อย เช็กเอกสารและความถูกต้องอีกรอบ เมื่อมั่นใจ รถของมูลนิธิ ก็เปิดไซเรนแล้วรีบขับออกไปเลยทันที เพราะเวลาไม่รอใคร ชีวิตของหญิงรัน สำคัญที่สุด

   เมืองรามกับงามตากลับไปที่ห้องเดิมของนก เห็นยุ้ยและธวัชมาถึงห้องอย่างปลอดภัยเรียบร้อยก็ดีใจเสร็จไปอีกเรื่อง ยุ้ยหันไปขอบใจเมืองรามขณะที่ธวัชหลับเพราะฤทธิ์ยาที่พยาบาลฉีดให้ เมืองรามขอไว้ตอนที่เคลื่อนย้าย อยากให้เพื่อนพักผ่อนจริงๆ

“ขอบใจมากเลยนะพี่ราม” ยุ้ยยกมือไหว้เมืองราม

“เล็กน้อย ยังไงไอ้วัชมันก็เพื่อนพี่ ไม่ใช่เพื่อนธรรมดานะ เพื่อนรักด้วย น้อยกว่านี้ได้ไง”

“ฝากพี่วัชด้วยนะยุ้ย ต่อจากนี้ไปก็ต้องพยายามเอาเองนะ” งามตายังแวะแขวะยุ้ยนิดหน่อย

   ยุ้ยออกอาการเขินเมื่อรู้ว่าความลับของตัวเองที่ชอบธวัชแตกเสียแล้ว เพราะอาการและการกระทำมันฟ้อง แต่ก็ไม่มีใครเขาว่า เพราะความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม กามเทพซุกซน เสียจริง ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับใจของยุ้ยว่าจะสู้ไหมเหมือนที่งามตาบอกแล้วหละ

“พี่ไปหละ พี่ฝากดูแลเพื่อนพี่ด้วยนะ และอย่าลืมดูแลตัวเองด้วยหละ บาย”

“ฉันเอาใจช่วยนะยุ้ย บาย ไปหละ ไม่อยู่เป็นก้างขวางคอแล้ว” ยุ้ยโบกมือบ๊ายบายลาทุกคน

   ไม่ถึงชั่วโมงรถของมูลนิธิก็มาถึงโรงพยาบาลในเครือของมูลนิธิ หญิงยุลงมาสั่งการ คุมเข้ม ทุกคนรีบเอาคนป่วยคนสำคัญที่ต้องปิดเงียบไว้เป็นความลับที่สุดไม่ให้ใครรู้เลยว่าเป็นใคร โดยให้ทุกคนเข้าใจว่าคนป่วยชื่อ สกุณา รุจิศม เท่านั้น เข้ารับการรักษาโดยด่วนทันที จากทีมแพทย์ที่ได้เตรียมคอยไว้เรียบร้อยแล้วตั้งแต่ตอนบ่าย

   นี่ก็ประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง ผ่านไปเกือบ 5 ชั่วโมง ประมาณตี 2 เศษ ไฟห้องผ่าตัดดับลง โทรศัพท์ก็ดังที่ห้องหญิงยุซึ่งนอนพักผ่อนรอในห้องรับรอง เธอวิ่งออกมา และถามถึงผลการผ่าตัดจากทีมหมอผู้เชี่ยวชาญ

“เป็นไงบ้างเพคะท่านลุง เพื่อนหนู”

“การผ่าตัดเป็นไปด้วยดีนะหญิง สบายใจได้ ก้อนเนื้อ ยังโตไม่มาก จึงไม่เป็นการลำบากในการกำจัดมัน”

“ขอบพระทัยมากเลยเพคะ ท่านลุงดีกับหญิงเสมอ ไม่ทำให้หญิงเสียใจเลย”

   พระองค์เจ้าอดิเทพ หัสดี ลูบหัวหลานสาวอย่างเอ็นดู แล้วทีมแพทย์ของพระองค์เจ้าอดิเทพ หัสดี ก็ได้เดินจากไป หญิงยุ ยกมือไหว้คนในทีมทุกคน ทุกคนก็รับไหว้

   สักพักพยาบาลก็ได้เข็นองค์หญิงรันไปไว้ยังห้องรับรอง Vip พิเศษที่สุด ของโรงพยาบาล ที่หญิงยุได้เตรียมเอาไว้แล้ว และสั่งกำชับทุกคนว่าห้ามบอกใครเป็นอันขาดว่าใครอยู่ที่ห้องนั้นโดยเด็ดขาด ถ้าใครเผลอพูดออกไปมีโทษถึงขั้นไล่ออก/ตกงานเลยทีเดียว ทุกคนก็รับปาก

“จำไว้นะทุกคน ฉันสั่งอะไรไว้ ไปบอกพวกเราทุกคนด้วย”

“เพคะ ท่านหญิง” พยาบาลที่เกี่ยวข้องทุกคนรับปากพร้อมกัน

“ดีมาก ไปได้แล้ว”

   แล้วทุกคนก็ออกจากห้องนั้น คงเหลือแต่หญิงรัน หญิงยุ และพยาบาลเวรที่ได้จัดเตรียมไว้เท่านั้น

“ดูแลเพื่อนฉันให้ดีด้วยนะ ถ้าหญิงรันฟื้นเมื่อไหร่ อย่าลืมบอกฉันทันทีเลยนะ เข้าใจไหม”

“เพคะ ท่านหญิง”

“ไม่ไหว วันนี้เหนื่อยทั้งวันเลย ตาจะปิดแล้ว ตี3 เข้าไปแล้ว ฉันขอตัวหละนะฝากด้วย”

   แล้วหญิงยุ ก็เดินออกจากห้องไป พยาบาลก็ทำหน้าที่ของตัวเองทันที ดูแลหญิงรันอย่างดีเต็มความสามารถ

***** ----- *****

  เช้าวันใหม่ที่สดใส เอี้ยงมารอรับสะอิ้งและทด พ่อของธวัชเพื่อไปโรงพยาบาล วันนี้จ้อยเฝ้าร้านเพราะเป็นเวรสลับกับเอี้ยงคนละวัน

“เรียบร้อยรึยังป้า ลุง มาฉันช่วย”

“เออ ดีๆ ขอบใจโว๊ยไอ้เอี้ยง มันน่ารักจริงๆเด็กคนนี้” นานๆสะอิ้งจะชมคนสักที

“ไปลุง ค่อยๆลงนะ”

“ไปไป ไปช่วยยัยอิ้งเถอะ ข้าสบายมาก”

***** ----- *****

   ริชาร์ด หลังจากที่เสียใจกับสิ่งที่ได้พบเห็นก็ใช้เหล้าเป็นเพื่อน จนลูกน้องเป็นห่วง เพราะสองสามวันที่ผ่านมานี้ ลูกพี่ไม่ทำงานเลย เอาแต่นอนกอดขวดเหล้าทั้งวัน จึงตัดสินใจโทรเข้ามูลนิเพื่อจะถามความจริงอะไรบางอย่างจากหญิงยุ แต่ได้รับคำตอบว่า หญิงยุ ไม่อยู่ทุกครั้ง เพราะหญิงยุสั่งเอาไว้ให้ตอบแบบนี้ ถ้าไม่ใช่เรื่องสำคัญจริงๆ ก็ให้โทรเข้ามือถือ ดังนั้นลูกน้องริชาร์ด จึงขอเบอร์มือถือจากประชาสัมพันธ์ และก็โทรหาหญิงยุทันที

“อ้า..ท่านคุณหญิงยุ รึเปล่าครับ”

“ใช่..แล้วเธอเป็นใครมีอะไรเหรอ และข้อสำคัญ ได้เบอร์? ฉันมาได้ยังไง”

“ผมอ๊อด ครับ อ๊อดลูกน้องพี่ริชาร์ดหนะครับ ผมขอจากประชาสัมพันธ์มาหนะครับ มันจำเป็นจริงๆ”

“ริชาร์ด..ว่าไงมีอะไรเหรอ ถึงได้โทรหาฉันที่เบอร์นี้ บอกตามตรงนะ ฉันไม่ชอบเพราะมันไม่เป็นส่วนตัว ห้ามแล้วนะปวีณา”

“ผมต้องขอโทษท่านหญิงด้วยแล้วกัน คือผมเข้าใจแต่ผมอยากจะทราบว่า ตอนนี้ท่านหญิงกับลูกพี่ผม มีปัญหาอะไรกันรึเปล่า”

“ไม่มีนี่ งานที่สำคัญ ในส่วนที่ฉันต้องทำ มันก็หมดแล้ว เหลือแต่ตัดต่ออย่างเดียวไม่ใช่เหรอ เท่าที่ฉันจำได้”

“เรื่องนี้ผมไม่รู้ แต่เท่าที่รู้ ตอนนี้ลูกพี่ผมเค้ากลายเป็นไอ้ขี้เหล้าไปแล้ว”

“ว่าไงนะ ริชเป็นอะไรนะ”

“ขี้เหล้าหนะครับ เป็นมาได้ สัก 2-3 วันได้แล้วมั้ง งานการไม่ทำ วันๆได้แต่นั่งกอดขวดเหล้าทั้งวัน ผมเห็นระยะหลังๆ ลูกพี่ไปไหนมาไหนกับท่านหญิงตลอด ผมก็เลย..”

“อย่าคิดเองเออเอง ฉันไม่ชอบ เอาเป็นว่า ฉันรับรู้ก็แล้วกัน พอดีตอนนี้ฉันมีธุระที่สำคัญกว่า ขอตัวก่อนนะ”

   แล้วหญิงยุก็วางสาย หลังจากวางสายกับหญิงยุ อ๊อดก็หันไปดูสภาพของลูกพี่ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ถึงขนาดนี้เลย กลุ้มใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เลยต้องปล่อยไปก่อน แล้วค่อยคิดหาทางออกใหม่อีกที

***** ----- *****

   ธวัชตื่นขึ้นมา พบว่าเขาได้นอนอยู่ที่ห้องใหม่ แต่คุ้นๆว่าเป็นห้องของนกที่เขาเคยมาเยี่ยม แล้วนกไปไหน เมื่อเขาหันไปรอบห้องไม่เจอใครนอกจากยุ้ยที่นอนอยู่บนโซฟาคนเดียวมีผ้าห่มคลุมไว้ ธวัชร่างกายเริ่มแข็งแรงดีขึ้นหลังจากที่ได้พักผ่อนเต็มที่

   สักพักพ่อ แม่ และเอี้ยงก็เข้ามา เอากับข้าววางไว้ที่โต๊ะหัวเตียง เสียงดังพอประมาณทำให้ยุ้ยตื่น

“ตายแล้ว ต้องขอโทษด้วยนะนังหนู ที่ทำให้ตื่น ป้าไม่ได้ตั้งใจ”

“ไม่เป็นไรค่ะ หนูขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ”

   พอยุ้ยขอตัว เดินหลีกไปอาบน้ำ แม่ก็ยิ้มตามหลัง ธวัชเห็นก็แปลกใจจึงถาม

“เป็นอะไรแม่ ร้อยวันพันปี ไม่เห็นแม่ยิ้มแบบนี้”

“นังหนูคนนี้ มันน่ารักนะข้าชอบ ข้าจองนะ อยากได้เป็นลูกสะใภ้..ว่าไง คล่องดี ดูแลเจ้าทั้งวันทั้งคืนเลย ไม่บ่นสักคำ”

“แม่..ก็พูดไป ถ้าน้องเค้ามาได้ยินมันจะไม่ดีนะ น้องเค้าแค่มีน้ำใจ”

“ไม่นะ สายตาข้าไม่เคยพลาด ท่าทางนังหนูมันชอบแกมากนะเจ้าวัช ไม่งั้นไม่ทิ้งบ้านช่องมาเฝ้าแกทุกวันหรอก”

“นั่นซิป้า เอี้ยงก็ว่าอย่างนั้นแหละ รึไงลุง”

“ไม่รู้ซิ สำหรับข้า ใครก็ได้ ขอให้เจ้าวัชมันรัก มันชอบ และก็อยู่ด้วยกันไปจนแก่จนเฒ่า เหมือนข้ากับแม่มันก็พอ”

“แหมลุง วันนี้ยังไงเนี่ย นานๆจะปล่อยคารมเด็ดออกมาซะที”

“ว่าไง..แล้วแกไม่ชอบนังหนูยุ้ย มันบ้างรึ” คำพูดนี้ ทำให้ธวัชคิดหนักไปเลย

“แม่ก็รู้ว่าฉันมีนก ใครๆเค้าก็รู้ว่านกเป็นเมียฉัน”

“นั่นมันคนอื่น แต่นี่ข้า พ่อเอ็งและเอ็งต่างก็รู้กันดีว่ามันไม่ใช่ ชาวบ้านมันพูดกันไปเอง แล้วเอ็งจะไปเอาอะไรกะขี้ปากชาวบ้านมันวะ สักพักเดี๋ยวพอมันรู้ความจริง มันก็เลิกและลืมกันไปเองแหละ แล้วเอ็งจะไปปิดกั้นตัวเองทำไมวะเจ้าวัช รักใครชอบใครก็เปิดใจไปเลย ข้าก็เตือนสติเอ็งได้เท่านี้แหละ นกหนะข้าก็ไม่ได้รังเกียจมัน ข้าแค่สงสารรับมันเป็นลูกไปแล้วมันก็คือน้องเอ็ง ข้าก็รักมันแบบลูกแท้ๆไม่ใช่ลูกสะใภ้ แล้วเอ็งจะเอาน้องทำเมียได้ลงคอรึไงวะเจ้าวัช ข้าถามจริงๆ”

   แหม ประโยคนี้เด็ดมากจริงๆทำให้เจ้าชายของเรา อึ้งและตอบอะไรหญิงผู้เป็นแม่ไม่ถูกเลย ยุ้ยอาบน้ำเสร็จแต่งตัวเรียบร้อย เดินออกมาจากห้องน้ำ เอาผ้าเช็ดตัวไปตาก แล้วก็เดินก้มๆลงเปิดตู้หยิบกระเป๋าสตางค์ แล้วกำลังจะเดินออกไปจากห้อง

“จะไปไหนหนะลูก” สะอิ้งเรียกยุ้ย ยุ้ยหันมา

“หนูขอตัวไปหามื้อเช้าทานก่อนค่ะ คุณป้ากับครอบครัวจะได้อยู่ด้วยกัน”

“มานี่มานี่เลย” สะอิ้งเดินไปจับมือยุ้ยแล้วพามานั่งที่โซฟา

“ทำไมพูดแบบนั้นหละลูก แม่..ต่อไปหนูเรียกฉันว่าแม่ และนั่นก็พ่อแล้วกันนะ บอกตามตรงนะ ฉันชอบหนู หนูน่ารัก”

“คุณป้าหนะ หนู..” สะอิ้ง เอามือชี้ไปที่หน้ายุ้ยแล้วยิ้ม

“ไหนเรียกใหม่ซิ เรียกว่าอะไร”

“คุณ..แม่” สะอิ้งยิ้มหน้าบาน จะได้ว่าที่สะใภ้สมใจแล้ว

“ต้องแบบนี้ซิลูก มามามาทานข้าวกัน แม่เอามาเยอะแยะ จะไปทานข้างนอกทำไมให้มันเสียสะตุ้งสตางค์”

“คือ..หนู” ยุ้ยเริ่มทำตัวไม่ถูก เข้าใจว่าผู้ใหญ่ชอบ แต่มันเหมือนว่า จะเร็วไปไหม เพราะเธอเองก็ยังตั้งตัวอะไรไม่ทันเหมือนกัน

“จะมาเป็นคนบ้านเดียวกัน ครอบครัวเดียวกันแล้ว จะมาทำเขินทำอายอะไรอีกหละลูก มามา มาตาเฒ่า ไอ้เอี้ยง”

“คุณแม่..หนู” ยิ่งสะอิ้งพูดประโยคนี้เข้า ยิ่งทำให้ยุ้ยแทบไม่อยากที่จะมองหน้าธวัชแล้ว เพราะเขินและอาย ทำตัวไม่ถูกแล้ว

   ยุ้ยหันไปมองธวัช และก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ธวัชก็หันมาจ้องมองเธอเช่นกัน เมื่อสายตาทั้งสองมาพบและบรรจบกันโดยบังเอิญไม่ได้นัดหมาย กามเทพซุกซน ก็ทำให้สองใจหวั่นไหวได้เช่นกันโดยไม่รู้ตัว ยุ้ยทานข้าวไป ก็จ้องมองไปที่ธวัชตลอด โดยสายตาของธวัชก็ไม่ละสายตาจากยุ้ยเช่นกัน ที่เป็นเช่นนี้อาจจะเป็นเพราะคำพูดของหญิงผู้เป็นแม่ที่ได้ทำให้สติของธวัชเปลี่ยนไปได้ชั่วขณะก็เป็นได้ สะอิ้งแอบสังเกตุปฏิกิริยาของทั้งสองคน สายตาที่ไม่ธรรมดาที่มองกันไปมา ทำให้สะอิ้งมีความสุขมากยิ่งขึ้น กับแผนการหาลูกสะใภ้ในครั้งนี้อาจจะสำเร็จในเร็ววันถ้าธวัชเล่นด้วย ทำให้ธวัชลืมเรื่องของนกไปเลย

+++++*****+++++

   ถึงกามเทพจะซุกซนเพียงใดก็คงไม่ทำให้ชีวิตของริชาร์ดดีขึ้นแน่ ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นกับเขาไม่ได้ ก็ยังคงต้องจมอยู่กับความคิดแบบนั้นไป ผิดกับหญิงยุที่วันๆได้แต่ทุ่มเทดูแลเพื่อนรักอย่างหญิงรัน รอวันที่เพื่อนจะฟื้นขึ้นมาและคุยกับเธอสักที

   2 วันผ่านไป นกเริ่มรู้สึกตัวในตอนย่ำรุ่ง ตายังไม่ลืมแต่มือและสมองเริ่มมีความรู้สึก เริ่มสั่งงาน

“น้ำ น้ำ ขอน้ำหน่อย”

   เธอพูดไป ยังไงก็ไม่มีใครได้ยินแน่ พยาบาลพิเศษออกมาจากห้องน้ำเห็นเข้าพอดีก็เลยเดินเข้าไปถาม พยาบาลคนนี้ไม่รู้ว่าองค์หญิงเป็นใบ้พูดไม่ได้ จึงทำอะไรไม่ถูก เห็นปากขยับ แต่ไม่มีเสียง จึงรีบวิ่งออกไปหาเพื่อนด้านนอก

“เธอๆๆๆ คนไข้ฟื้นได้สติแล้ว ฉันถามแต่เขาไม่พูดอะไรกับฉันเลย ถามเท่าไหร่ก็ไม่ตอบ”

“คราวหน้าอย่าออกมาแบบนี้นะ ถ้าท่านหญิงรู้เข้าเอาตายเลยนะแก”

   แก้วน้ำตกแตกเสียงดังออกมา เพื่อนพยาบาลรีบวิ่งเข้าไปในห้อง เป็นจริงอย่างที่เธอคิด นกมีอาการแทรกข้างเคียงหลังจากที่ร่างกายเริ่มปรับตัวให้เข้ากับสภาพร่างกายและเลือดใหม่ มือเกร็ง ตัวสั่น นกเริ่มปวดหัวเมื่อร่างกายเริ่มกลับมาทำงานอีกครั้ง หลังจากที่หลับไปนานหลายวันหลายชั่วโมง พยาบาลจึงรีบโทรหาอาจารย์หมอ ตามที่ท่านสั่งไว้

“อาจารย์หมอเพคะ คนไข้ มีอาการเกร็งชักกระตุกค่ะ เบื้องต้นจะให้ทำยังไงเพคะ”

“ให้ฉีดยาที่ผมเตรียมไว้ให้ได้เลย ผมจะเข้าไปเดี๋ยวนี้แหละ รีบเลยนะ ช้าไม่ได้ เพราะ อาการนี้ช้าเกิน 15 นาที จะเกิดอันตราย”

“เพคะ อาจารย์”

   หลังจากที่วางสายกับอาจารย์หมอ พระองค์เจ้าอดิเทพ หัสดี พยาบาลคนนั้นก็ไปเอายาที่อาจารย์หมอเตรียมไว้ให้ฉีดให้กับนกตามที่บอก นกถึงสงบลงได้ หลังจากนั้นพยาบาลก็ได้เช็ดตัวและหน้าให้ ฤทธิ์ยาทำให้นกสงบและหลับลงได้อีกครั้ง

“เธอพึ่งมาใหม่ใช่ไหมเนี่ย ไม่เคยเห็นหน้าที่หวอดเลย”

“ค่ะ พึ่งเข้ามาทำงานได้ 2 วัน อยู่ข้างล่าง อยู่ดีๆพี่นุชก็จัดให้มาเป็นพยาบาลพิเศษแล้วไม่ได้บอกอะไรเห็นว่าได้ตังค์ดีก็เลยรับอาสา ไม่รู้ว่าจะเป็นแบบนี้ สงสัยคงสำคัญมากนะคนนี้ คนไม่พอเหรอคะ” พยาบาลเวรดึงพยาบาลใหม่ออกมาจากห้องนก

“มานี่เลย อย่าพูดแบบนี้ให้ใครได้ยินเชียวนะ เธอจะตกงานโดยไม่รู้ตัว เตรียมตัวไปหางานที่ใหม่ได้เลย”

“ทำไมหละค่ะ อะไรมันจะร้ายแรงขนาดนั้นเชียวเหรอ กะอีแค่เฝ้าคนไข้คนเดียว ถึงกับจะโดนไล่ออกเลย ไม่โหดไปเหรอ”

“โหดไม่โหดไม่รู้ ในเมื่อเขาจ้างเธอแพงได้ เขาก็ไล่เธอออกได้ด้วยก็แล้วกัน”

“ทำไมหละ ขอทราบเหตุผล”

“รายละเอียดจริงๆฉันก็ไม่รู้หรอก เอาเป็นอันว่า ถ้ายังอยากทำงานที่นี่ ยังอยากได้ค่าจ้างแพงๆก็ไม่ต้องถาม ไม่ต้องอยากรู้อะไรทั้งสิ้นอีก เข้าใจไหม”

“ได้ๆ” พยาบาลใหม่เริ่มเสียวสันหลัง

“รู้ไว้แค่ว่า คนที่นอนอยู่ในห้องนั้นเตียงนั้น เธอต้องดูแลและปรนนิบัติให้ดีเท่านั้นเป็นพอ นอกนั้นไม่ต้องไปอยากรู้เรื่องของเขา เครไหม อ้อ..อีกเรื่องที่ต้องรู้เอาไว้ รู้ใช่ไหมว่าที่นี่เป็นโรงพยาบาลในเครือของตระกูลจ้าว

“พอรู้”

“ระวังคำพูดคำจาด้วยนะ เลือกจะมาทำงานที่นี่ต้องรู้ด้วยว่าใครเป็นใคร ส่วนใหญ่พวกพระองค์เจ้า พวกหม่อมราชวงค์จะมาใช้บริการกันเยอะ ก่อนจะพูดกับใครต้องรู้ด้วยว่าเป็นจ้าวหรือบุคคลธรรมดา โดยเฉพาะกับเจ้าของไข้เนี่ย ท่านชื่อ ม.จ. วรุณยุภา หัสดี เป็นหลานแท้ๆของ อาจารย์หมอ พระองค์เจ้าอดิเทพ หัสดี ซึ่งเป็นเจ้าของที่นี่ เข้าใจไหม”

“ค่ะ..” พยาบาลใหม่ ถึงกับอึ้งไปเลย เมื่อรู้ว่า ใครเป็นใครบ้าง

“เอาหละ ไปได้แล้ว ออกเวรแล้วนี่”

“ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” แล้วพยาบาลใหม่ก็ขอตัวกลับ

“เดี๋ยว..” พยาบาลใหม่หันมา

“ขา” ทำตาบ้องแบ๊ว

“ชื่ออะไรหนะเราหนะ ฉันยังไม่รู้เลย

“พิมพ์ชนก ค่ะ เรียกหนูว่า พิมพ์ก็ได้” เธอพูดด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม วัยรุ่นก็แบบนี้แหละ

>>>>>>>>>> ********** <<<<<<<<<<

โปรดติดตามตอนต่อไปใน ตอนที่ 15 .. “ หัวใจเกเร ”

ตอนที่ 14 .. “ กามเทพซุกซน ”

Romance Fiction - นิยายรัก / รักโรแมนติก

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.