บทที่ 124 กลับต้องมาพบกับ...

พ่ายเกมสวาท

-A A +A

บทที่ 124 กลับต้องมาพบกับ...

หมวดหนังสือ: 

ฉันมองดูพวกเขาด้วยสติที่เหม่อลอย ได้ยินเพียงเสียวแว่วจากผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมกอดเขาเท่านั้น ฉันไม่รู้ว่าเธอได้พูดอะไรกับฉันหรือเปล่า เพราะว่าฉันไม่ได้ฟังเลย จึงทำให้ฉันไม่ได้ตอบอะไรเธอกลับไป และถึงแม้ว่าเธอจะพยายามชวนฉันคุยเพื่อทำให้บรรยากาศมันดีขึ้นมาก็ตาม แต่สำหรับฉันสิ่งที่เธอทำนั้นมันกลับไม่ได้ช่วยอะไรฉันเลย เพราะว่าการสนทนาครั้งนี้มันจะมีประโยชน์อะไรถ้าคนที่ฉันต้องการจะคุยด้วยเขาไม่ต้องการที่จะคุยกับฉัน

 

และถึงแม้เธอจะคอยส่งรอยยิ้มอันสดใสมาให้ฉัน มันก็ไม่ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมาเลย นั่นก็อาจจะเป็นเพราะว่าตอนนี้ดวงตาของฉันมันเริ่มพร่ามัวไปด้วยหยาดน้ำใสๆ หรือไม่แน่ว่าอาจจะเป็นเพราะจิตใจของฉันที่มันคับแคบลงด้วยความอิจฉา มันเลยทำให้ฉันดูไม่ออกเลยว่ารอยยิ้มสวยที่ถูกส่งมาจากเธอนั้น มันถูกส่งมาด้วยความจริงใจหรือว่าเสแสร้งกันแน่ แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ก็มั่นใจได้เลยว่าในสายตาของเขา เธอคงจะดูดีดูถูกใจเขาอยู่เสมอ

 

ฉันที่ตอนนี้รู้สึกได้ว่าตัวเอง ตัวชาหูตาฝ้าฟางไปหมดแล้ว ได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก ส่วนป้าสายตั้งแต่มาด้วยกันก็ไม่พูดอะไรอีกเลย แกได้แต่ยืนก้มหน้าก้มตาคอยแต่เหลือบชำเลืองมองสลับไปมาระหว่างฉันกับเซฟ น่าแปลกทั้งที่ปกติแกเป็นคนที่พูดเก่งชวนคุยเก่ง แต่วันนี้แกดูเงียบผิดปกติ

 

ขาที่ก้าวไม่ออกเพราะหัวใจที่มันหนักอึ้ง ทว่าแม้ภาพตรงหน้าจะทำให้หัวใจดวงนี้แหลกสลายซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่สายตาเจ้ากรรมก็ไม่ยอมละออกไปจากสองคนนั้นเลย ฉันมันบ้าที่ทรมานตัวเองโดยการยืนมองเขากะหนุงกะหนิงพลอดรักกันอย่างไม่คิดว่ามีคนอื่นอยู่ในห้องนี้

 

จนกระทั่งความรู้สึกร้อนที่บริเวณริมขอบตาเริ่มมีมากขึ้น ทำให้ฉันได้สติว่าควรจะออกไปจากตรงนี้ได้แล้ว...ก่อนที่ฉันจะแสดงความน่าสมเพชออกมา...

 

ฉันเอ่ยปฏิเสธที่จะอยู่กินอาหารด้วยกันกับพวกเขา แล้วรีบให้ป้าสายพาไปยังห้องพักทันที มันน่าตลกตรงที่ทั้งที่ฉันมาพักที่นี่อยู่บ่อยๆ จนไปเองได้สบายๆ แต่ในวันนี้ความเจ็บปวดที่ฉันได้เจอ กลับทำให้ฉันลืมทุกอย่างสิ้น ลืมแม้กระทั่งทางเดินที่จะพาไปยังห้องนอนที่คุ้นเคย ในสมองตอนนี้มันมีแต่ความมืดดำอ้างว้างไปหมด แม้แต่แรงที่จะก้าวเดินยังแทบจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ

 

เมื่อถึงห้องนอนฉันตัดสินใจล้มตัวลงนอนทันทีพร้อมกับหลั่งน้ำตาออกมาไม่ขาดสาย ฉันไม่อยากที่จะออกไปเห็นภาพที่ทำร้ายหัวใจตัวเองอีกแล้ว ถึงเวลาที่ฉันต้องทบทวนทุกสิ่งทุกอย่าง รวมทั้งความคิดของตัวเองใหม่เพื่อให้ได้สติสักที และหวังว่าวันพรุ่งนี้ฉันจะไม่ต้องเจ็บแบบนี้อีกแล้ว ฉันอยากให้เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้มันเป็นเพียงแค่ฝันร้ายเท่านั้น...อย่างน้อยก็ขอให้ฉันได้กลับไปยืนเคียงข้างเขาในฐานะเพื่อนรักเหมือนเดิมก็ยังดี...

 

ฉันที่พยายามปิดเปลือกตาลงอยู่นาน หลังจากที่นึกถึงเรื่องราวทั้งหลายที่เจอะเจอในวันนี้ แต่ถึงแม้ว่าจะพยายามข่มตาให้หลับแค่ไหน แต่ความรู้สึกภายในก็ยังรู้สึกกระสับกระส่ายอยู่ดี มันยังคงมีความอยากรู้อยากเห็น ข้างในมันรู้สึกงุ่นง่านอย่างบอกไม่ถูก

 

ฉันตัดสินใจเปิดประตูห้องนอนออกมา เพราะคิดว่าป่านนี้เขาทั้งสองคนคงจะกินข้าวเสร็จแล้ว คงไม่มีใครอยู่ในห้องครัวแล้ว จึงคิดว่าจะเดินไปหาอะไรอุ่นๆ กินสักหน่อย เผื่อจะได้นอนหลับได้ง่ายขึ้น

 

แต่แล้ว!!  เมื่อฉันเดินไปถึงห้องครัวอีกครั้ง กลับต้องมาพบกับ...

 

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

 

 

--- เอลิซ Talk ---

 

ฉันนั่งกินข้าวกับคุณเซฟจนเสร็จเรียบร้อย เมื่อกำลังจะลุกขึ้นเอาจานชามไปล้าง กลับถูกคนตัวโตห้ามเอาไว้

 

“วางไว้นี่แหละค่ะ เดี๋ยวเฮียเรียกให้พวกป้าสายมาเก็บให้” เขาเอ่ยบอกพร้อมกับจับมาที่มือของฉันเพื่อรั้งเอาไว้

 

“ไม่เป็นไรค่ะ เอลิซทำได้ เรื่องแค่นี้เอง ไม่ต้องไปรบกวนใครเขาหรอกค่ะ อีกอย่างเฮียก็ไม่อยากให้ใครเข้ามาวุ่นวายไม่ใช่หรอค่ะ และกว่าจะได้เก็บก็ตั้งพรุ่งนี้แหนะ จานชามได้เน่ากันพอดี” ฉันบอกเขาไปตามความคิดและเหตุผลของฉัน

 

เขาที่เห็นฉันดื้อดึงจะทำให้ได้ ก็จำยอมปล่อยมือฉันให้ได้ทำตามใจ และในขณะที่ฉันกำลังจะลงมือล้างจาน ก็รู้สึกได้ถึงการมาของคนร่างที่ฉันคุ้นเคย ที่เข้ามายืนคร่อมอยู่ทางด้านหลังของฉัน

 

มือหนาถูกสอดเข้ามาจากทางด้านหลังของฉัน ก่อนจะเอื้อมมือมาแย่งจานและฟองน้ำที่อยู่ในมือฉันเอาไปทำเอง แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่ปล่อยให้ฉันได้ไปออกจากวงแขนของเขา ลักษณะท่าทางของฉันจึงดูเหมือนถูกโอบกอดจากทางด้านหลัง

 

นอกจากร่างหนาที่แนบชิดกับแผ่นหลังฉันแล้ว ยังมีคางที่มีตอหนวดเล็กๆ ถูกเกยมาที่ไหล่มนของฉัน พร้อมกับเสียดสีถูไถไปมา คล้ายจะแกล้งให้ฉันรู้สึกจั๊กจี้และวาบหวามไปในเวลาเดียวกัน

 

“เฮีย...คริคริ...มันจั๊กจี้นะคะ...ฮ่าๆๆ” ฉันที่พยายามเอี้ยวตัวหลบหนวดเล็กๆ ไปมา แต่ก็ทำได้ไม่ถนัดนัก นั่นก็เพราะว่ายังมีวงแขนขนาดใหญ่ของเขาที่บล็อกฉันเอาไว้อยู่

 

“อยู่นิ่งๆ สิ เดี๋ยวก็ล้างไม่เสร็จสักที” เขาที่ทำทีเป็นพูดดุฉัน ทั้งที่ตัวเองก็ยังแกล้งฉันไม่ยอมหยุด

 

“ก็เฮียนั่นแหละหยุดแกล้งเอลิซก่อนสิคะ มันจั๊กจี้นะรู้ไหม...คริคริ” ^w^ ฉันเอ่ยทักท้วงให้เขาหยุดรังแกฉันสักที อีกทั้งยังหัวเราะไม่หยุด

 

เขาที่เหมือนคนได้ใจไม่ยอมหยุดแกล้งฉัน จนฉันเริ่มทนไม่ไหว เพราะถ้าขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไป วันนี้ฉันคงไม่ได้นอนกันพอดี อีกอย่างพรุ่งนี้ฉันอยากจะตื่นเช้าๆ ออกไปรับอากาศบริสุทธิ์ซะด้วย

 

“ปล่อยเลยค่ะ แล้วไปนั่งเลยนิ่งๆ เลย เดี๋ยวตรงนี้เอลิซจัดการต่อเอง” ฉันที่เอื้อมมือไปแย่งจานจากมือของเขา แล้วทำเสียงดุเอ่ยปากไล่เขาให้ออกไปจากตรงนี้ 

 

“อะ...ปล่อยก็ได้” เขาส่งฟองน้ำกับจานที่อยู่ในมือให้ฉันทันทีอย่างเชื่อฟัง จนฉันอดแปลกใจในพฤติกรรมว่านอนสอนง่ายของเขาไม่ได้

 

ฉันรับทำสิ่งที่ค้างต่อจากเขา โดยไม่ทันคิดเลยว่าคนเจ้าเล่ห์นั้นได้มีแผนการในใจอยู่แล้ว...

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.