บทที่ 18 สดับความลับ

นักบู๊หฤโหด

-A A +A

บทที่ 18 สดับความลับ

บทที่ 18 สดับความลับ

 

ว่านซื่อเต้าหยินคล้ายเผชิญอานุภาพสะท้านขวัญ พลังไร้สภาพแผ่ทะลักอบอวน ราวกระบี่จ่อจี้มายังจุดชีวิตบนร่างตลอดเวลา กระบี่ลายสนกรีดซับซ้อนคุ้มครองจุดเส้นสำคัญ เร่งเร้าลมปราณสลายสภาวะกดดัน

 

ยามนั้นเซี่ยเคอมือแตะด้ามอาวุธหว่างเอวค่อยๆดึงจากฝักแช่มช้า กระบี่ขาววาววับแฝงกลิ่นอายเย็นเยียบยกขวางป้องอก

 

ว่านซื่อเต้าหยินพยายามข่มสติระงับจิตใจ สภาพเมื่อครู่ตกเป็นฝ่ายตั้งรับสองครั้งซ้อน ดังนั้นรู้สึกยิ่งมายิ่งเสียเปรียบ นักบู๊ถือสาในเรื่องสมาธิและความหนักแน่นของสภาวะ สำนักอู่ตังเน้นรากฐานบ่มเพาะลมปราณสำรวมตบะ วิถีกระบี่รวมทั้งเพลงฝ่ามือ จึงดำเนินตามแนวทางสงบและทรงพลัง คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์เฉพาะตัว สูดหายใจลึกๆกวัดแกว่งกระบี่แยกย้ายเป็นซ้ายขวา ครอบคลุมใส่จุดสำคัญด้านหน้าหกแห่ง พลังแกร่งกร้าวหนุนเนื่องราวระลอกคลื่นหนักหน่วงดุจมรสุม

 

เซี่ยเคอลอบชมเชยในใจร่างปักหลักกับที่ กระบี่คลั่งเลือดกรีดออกเบื้องนอกด้วยท่วงท่าพลิกแพลงลึกล้ำ จากนั้นวกวูบ ตวัดเฉียงๆสอดแทรกเข้าไปในประกายกระบี่ศัตรู ลายเส้นซับซ้อนไขว้สลับวุ่นวาย

 

ว่านซื่อเต้าหยินเพิ่งแผ่พุ่งพลังใส่ปลายกระบี่ รู้สึกกระบวนท่าเชื่องช้าปราศจากความคล่องแคล่ว ถูกสะกดข่มไว้ภายใต้ประกายกระบี่ซึ่งทยอยตีโต้มา โลหะกระทบดังสดใสหลายครั้งซ้อน ทุกๆกระบี่บีบบังคับมันต้องถดถอยหนึ่งก้าว นับว่าตระหนกจนหน้าเผือดขาว บุรุษหนุ่มอายุเยาว์ไฉนสามารถศึกษาแนวทางฝีมือพิสดารสำเร็จเพียงไม่กี่ปี ขบคิดพลางควงข้อมือสลับเท้า แปรเปลี่ยนท่วงท่าในบัดดล

 

เซี่ยเคอชี้ปลายกระบี่จ่อจี้ใส่ทรวงอกอีกฝ่าย ระยะทั้งสองทอดห่างร่วมสองวาเศษ ตนกลับไม่รุกไล่ซ้ำเติม ยามนั้นสำทับเสียงราบเรียบ

 

"ข้าพเจ้าจะจู่โจมแล้ว"

 

ท่วงท่ายกกระบี่เป็นเช่นตอนแรก ใบหน้ากระด้างเฉื่อยชา ว่านซื่อเต้าหยินพอฟังไหนเลยกล้าดูแคลนบุรุษหนุ่มเสื้อครามอีก วาดกระบี่ตั้งรับรัดกุมเพ่งตาแน่วนิ่ง ผนึกสมาธิเตรียมพร้อมเคร่งเครียด

 

"เพ้ย!"

 

เสียงกู่ร้องดังกังวาน เซี่ยเคอขยับกระบี่กระจายจ้า พลังไร้สภาพแผ่ขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว เส้นสายยาวเหยียดดุจมังกรโลดทะยาน แฝงอานุภาพสยบขวัญ คมกระบี่แหวกฝ่าอากาศสนั่นหวั่นไหว กระบวนท่านี้เรียบง่ายธรรมดาจนสามัญ ทว่ากราดเกรี้ยวรุนแรงถึงที่สุด

 

พริบตานั้นว่านซื่อเต้าหยินถูกห่อหุ้มภายใต้พลังแน่นหนา ดวงตาเบิกกว้างเร่งเร้าลมปราณฝึกปรือชั่วชีวิตต่อต้านสุดกำลัง วงกลมขนาดเล็กๆใหญ่ๆแผ่ขยายดุจห้วงมหรรณพ วิถีกระบี่ยึดหลักไพศาลสยบทรงพลัง กระแสลมปั่นป่วนผสานเหล็กโลหะปะทะถี่ยิบดั่งห่าฝน นักพรตว่านซื่อมาตรว่าสามารถคลี่คลายท่ากระบี่ ทว่ารู้สึกหนักหน่วงกินแรงอย่างยิ่ง เท้าพอถดถอยสถานการณ์ของมันก็พลาดพลั้งคำรบสาม

 

เซี่ยเคอตวาดกึกก้อง สะอึกกายวูบตัวกระบี่ดีดกระดอนแยกย้ายจากสามทิศทาง สามกระบวนท่าแฝงการเปลี่ยนแปลงเก้าประการ ไม่เปิดโอกาสให้ศัตรูตั้งหลัก

 

นักพรตว่านซื่อถูกสภาวะอันเข้มแข็งจ่อจี้ใส่ ในชีวิตไหนเลยคาดคิด ผู้เยาว์รุ่นหลังปราศจากชื่อเสียงเรียงนาม กลับฝึกปรือจนเหนือล้ำกว่า ทั้งกระบวนท่าและลมปราณ สมาธิพอแตกซ่านจิตใจระย่นย่อ กระบวนท่าพลอยอ่อนโทรมเชื่องช้า กระบี่ลายสนแตกทะลักดุจลำธารเชี่ยวกราก ก่อเกิดเป็นม่านกระบี่สามชั้นบทบังเบื้องหน้าไว้

 

เปรื่อง เปรื่อง เปรื่อง!...

 

เงากระบี่สลายวับ พลังกดดันสาบสูญ ว่านซื่อเต้าหยินถูกกระแทกอาวุธหลุดกระเด็น ปลายกระบี่ปักฉึกกับพื้นครึ่งเล่ม ส่งเสียงอุทานยกมือกุมอกเซถลา ร่างพอกระแทกโครมนั่งลง โลหิตสดๆฉีดพุ่งจากปาก ครึ่งซีกหน้ากลับกลายเป็นซีดขาว

 

จูอันฉีและเฉินเลี่ยงหรงรีบถลันเข้ามาประคอง ถ่ายเทลมปราณรักษาอาการบอบช้ำ จูอันฉีขบกรามกรอดแค่นเสียงทางจมูกอย่างขุ่นแค้น ชี้หน้าบุรุษหนุ่มกล่าวว่า

 

"ผู้แซ่เซี่ยอย่าได้ลำพองผยองไป หากเก่งกล้าขอเชิญขึ้นสู่อู่ตังประลองกับเราจูอันฉีสักหลายกระบวนเพลง"

 

เซี่ยเคอมิแยแสสนใจ ประสานมือหัวร่อฮาๆ สอดคำว่า

 

"ภายหน้าค่อยสนทนาเถิด ข้าพเจ้าขออำลา"

 

สอดกระบี่คืนฝักหันกายก้าวยาวๆจากไป ว่านซื่อเต้าหยินเหม่อมองเงาหลังอันเด็ดเดี่ยวหายลับ ทอดถอนใจเอื้อนเอ่ยเสียงแผ่วล้า

 

"เมื่อครู่มันใช้รังสีกระบี่กระทั่งศิษย์พี่เจ้าสำนักยังไม่แน่ว่าสามารถเอาชัย"

 

ล้วงขวดเคลือบจากอกเสื้อ เทยาเม็ดสามเม็ดกลืนกินลงไป ชั่วขณะสีหน้าแดงเปล่งปลั่งอาการบอบช้ำเบาบางลงสามส่วน โบกมือผุดลุกชักชวนทั้งสองเดินทางสืบต่อ

 

......

 

เซี่ยเคอวิ่งตะบึงตามทางหลวง ตลอดรายทางพบเห็นขบวนม้าผู้คนเร่งรุดเดินทางหลายขบวน ช้อนตามองท้องฟ้าชั่วครู่เห็นอาทิตย์แดงฉานเคลื่อนสู่ทิศฝั่งตรงข้าม แสงสีลำสุดท้ายหม่นหมองลงทุกขณะ ขบคิดเร่งร้อนพลอยทุ่มเทฝีเท้ารวดเร็วกว่าเดิม

 

'หากไม่สามารถบรรลุถึงตัวเมืองเบื้องหน้าทันเวลา ต้องอาศัยศาลเจ้าใกล้เคียงพักผ่อนออมกำลัง โอ้!เยี่ยงนั้นก็ลำบากยากใจมากแล้ว'

 

ใกล้สนธยาบรรลุถึงศาลเจ้าโอ่อ่าหลังหนึ่ง สามด้านปลูกพุ่มพฤกษ์เตี้ยๆรายรอบ หน้าประตูหนาหนักโรยหินเขียวระเกะระกะ เพียงสภาพภายนอกอย่างน้อยต้องมีผู้คนแวะเวียนมาปัดกวาดดูแล สาวเท้าก้าวขึ้นบันไดสามขั้น เคาะห่วงเหล็กแขวนข้างประตูสามคราเอ่ยเสียงกังวาน

 

"ด้านในมีคนหรือไม่"

 

รอคอยชั่วขณะปราศจากซุ่มเสียงขานรับจากภายใน ตัดสินใจอ้อมถึงด้านข้างกระโดดข้ามกำแพงเข้าไป โต๊ะบูชาจัดตั้งกระถางธูปประดิษฐานพุทธรูปหุ่นมนุษย์ศิลาสิบกว่ารูป ล้วนมีลักษณะท่าทางน่าเกรงขราม ยกมือวางเท้าคล้ายตระเตรียมจู่โจมกระบวนท่าต่อผู้บุกรุก กำแพงก่อสร้างด้วยอิฐเขียว สภาพศาลเจ้านี้แม้ไม่ใหญ่โตเท่าใด แต่สะอาดสะอ้านมีร่องรอยของการแวะเวียนเข้ามาดูแล

 

เซี่ยเคอเลือกมุมผนังใกล้เคียงนั่งลงพักผ่อน วิกาลหนาหนักย่างกรายอย่างรวดเร็ว รอบบริเวณสลัววังเวงทั้งยังเย็นยะเยียบ แฝงกลิ่นอายลี้ลับสามส่วน ครั้นลืมตารั้งพลังสู่จุดศูนย์ เสียงชายเสื้อปะทะลมเร่งร้อนพลันดัง บุรุษหนุ่มพอตื่นตัวก็พลิ้วขึ้นบนขื่อไม้ หลังประตูหน้าศาลเจ้า ใช้ป้ายขวางมหึมาบทบังซ่อนกายไว้

 

เงี่ยหูจดจ่อไม่นานเท่าใด ผู้คนสองคนพลันกระโดดข้ามกำแพงเข้ามา ตัวเบาอันสูงเยี่ยมนัก ผู้นำหน้ากวาดตาหยีเล็กสำรวจหลายตลบ เซี่ยเคอไหนเลยกล้าระบายลมหายใจโดยแรง ลอบขบคิดอย่างว่องไว แลเห็นทั้งสองวัยล่วงเข้าชราประมาณหกสิบเจ็ดหกสิบแปดปี  สวมอาภรณ์สีเขียวรัดกุม หว่างเอวคาดสายรัดหยก หนึ่งบึกบึนเข้มแข็ง อีกหนึ่งทั้งผอมทั้งเตี้ยแคะผิดแผกแตกต่างกันสิ้นเชิง นอกจากอาภรณ์ชุดเขียวแล้วหว่างเอวยังพกพาอาวุธคู่กาย

 

คนร่างสูงใหญ่สะพายดาบเก้าห่วงพร้อมฝัก อีกผู้หนึ่งกลับเป็นย่ามหนังลวดลายพิสดาร ภายในไม่ทราบบรรจุอาวุธลับชั่วร้ายใด ทั้งสองแยกย้ายทรุดนั่งลง ชั่วขณะชายชราเตี้ยแคะแค่นเสียงเฮอะๆ เอ่ยปากถามว่า

 

"เฒ่าสูงฟังว่ามัจจุราชม่วงพ่ายแพ้ในเงื้อมมือผู้เยาว์เซี่ยเคอจริงหรือ"

 

ชายชราสูงใหญ่ส่งเสียงในลำคอ ทำท่าขบคิดเป็นครู่ค่อยตอบว่า

 

"มันบอกจากปากเองไหนเลยผิดพลาด เฒ่าเตี้ยไฉนอยู่ดีๆเกิดสงสัยขึ้นมา"

 

"ยอดฝีมือรุ่นเยาว์นอกจากบุคคลทำเนียบกระบี่คุณธรรมแล้ว เจ้าเด็กแซ่เซี่ยเราท่านเพิ่งเคยยินข่าว เรื่องนี้สร้างความตื่นตัวแก่หมู่บ้านหฤหรรษ์ คิดเกลี้ยกล่อมมันเข้าเป็นพวก"

 

ที่แท้ชายชราทั้งสองนี้ หนึ่งเรียกว่าเตี้ยแคะหนึ่งเรียกว่าสูงใหญ่ ขนานนามในวงบู๊ลิ้มเป็นสองเฒ่าสูงเตี้ย ปรากฏชื่อตั้งแต่เมื่อยี่สิบปีก่อน แม้ปลีกตัวมีร่องรอยลี้ลับ แต่เกียรติภูมิอื้อฉาวไม่น้อย เซี่ยเคอพอฟังถึงตอนนี้ ประวัติถึงวลีสี่ประโยคซึ่งตนนับว่าบังเอินสดับมาในคราวแรก อาจบางทีหากคุกคามชายชราหนึ่งในสองยินยอมบอกที่ตั้งหมู่บ้านหฤหรรษ์สำเร็จ การทวงขลุ่ยทองยะเยือกคืน มิหนำสืบสาวขุมกำลังผีเสื้อหยกสามารถบรรลุจุดประสงค์แล้ว

 

เฒ่าสูงกระพริบตาถี่ๆ ผงกศีรษะเอ่ยถามสืบต่อ

 

"มีความเป็นไปได้หรือไร"

 

เฒ่าเตี้ยยกมือลูบเคราท่าทีภาคภูมิลำพองกล่าวเสียงแช่มช้า

 

"หยางเต๋อมีจิตใจทะเยอทะยาน กระบี่เดี่ยวหมื่นลี้จางกวนเจ้าสำนักรุ่นก่อน ก็ถูกคนผู้นี้ลอบประทุษร้ายจนเสียชีวิต ยามนี้ยึดครองตำแหน่งเจ้าสำนัก ทั้งยังดูแลหมู่บ้านหฤหรรษ์ รับคำสั่งจากสตรีเสื้อขาว ท่านไยมิสังเกตุโดยถี่ถ้วนเล่า ขบวนการผีเสื้อหยกไฉนปรากฏคนอายุเยาว์มากมายเพียงนั้น"

 

"ข้อเท็จจริงหลายประการนี้ คาดว่าเป็นมัจจุราชม่วงบอกกับท่าน วิจารตามเหตุผลชนชั้นเยี่ยงจางกวน กระทั่งนงคราญชังฟ้า ยังชมเชยยกย่องเพลงกระบี่มันเหนือล้ำกว่าฮุ่ยเสียนแห่งอู่ตังขั้นหนึ่ง"

 

"อืม!ดังนั้นเองเราระแวงอย่างยิ่ง เหตุแปรเปลี่ยนของสำนักทำเนียบคุณธรรมตลอดหลายปี ผู้บงการฉากหลังน่ากลัวเกี่ยวพันธ์ขบวนการสตรีนี้แน่นอน"

 

เซี่ยเคอใจสะท้านหวั่นไหว เบาะแสเล็กน้อยทว่ามีส่วนช่วยเหลือให้ตนสามารถทราบมูลเหตุบู๊ลิ้มเพิ่มพูนประสบการณ์ หากเชื่อมโยงปะติดปะต่อพบข้อสรุป ภายภาคหน้าตนสมควรช่วยเหลือฝ่ายใด เสียดายเหตุการณ์หลังจากถูกตัวยาเบือนประสาทบนเส้าหลิน ความทรงจำเลอะเลือนแทบหมดสิ้น มิเช่นนั้นอาจส่งผลร้ายมากกว่าดี เนื่องเพราะหากขึ้นสู่เส้าหลินอีกคำรบ คงต้องเปลืองวาจาอธิบายมากหลาย หนำซ้ำยามเผชิญกงจู่เสื้อขาวและดรุณีชุดดำ สถานการณ์ฝ่ายตนคงยากจะกอบกู้...

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.