วางแผนเดินทัพ

ชาติสุดท้ายข้าจะทำฟาร์มเศรษฐี

-A A +A

วางแผนเดินทัพ

 

 

สงครามแดนเหนือได้เริ่มขึ้นแล้ว หลังจากแต่งตั้งแม่ทัพใหญ่คนใหม่ได้เพียงสองวัน ก็มีการระดมพลกองทหารกว่าสามแสนนายเข้าสู้ศึกในครั้งนี้ ม้า อาวุธ เสบียง ยา ทุกอย่างต่างเตรียมพร้อมไปชายแดนเหนือของแคว้นสถานการณ์ย แต่ตอนนี้ชายแดนกำลังลุกเป็นไฟ ในขณะนี้มีเพียงกุนซือโจเท่านั้นที่รับศึก เขาไม่ใช่แม่ทัพคาดว่าจะรับศึกได้ไม่นาน ทหารรักษาชายแดนหนึ่งแสนนายต่างบาดเจ็บล้มตายไปไม่น้อย เพื่อปกป้องมาตุภูมิของตนเอง เค่อสิงจำเป็นต้องเร่งการเดินทางเพิ่มมากขึ้น ประกอบการเดินทางครั้งนี้ไม่ได้แบกขนอะไรที่หนักไป ใช้วิธีนำมันใส่แหวนมิติไป ครั้งนี้เจียเหรินช่วยสนับสนุนแหวนมิติระดับต่ำถึงสามแสนวงให้เหล่าทหารได้ใส่อาวุธ น้ำ อาหาร หรือของที่จำเป็นของตนเองไป โบราณว่ามีเงินก็สามารถใช้ผีโม่แป้งได้ ครั้งนี้มีแหวนมิติก็สามารถให้ทหารสู้ศึกได้เช่นกัน การรวมตัวเฉพาะกิจของเหล่านายทหารครั้งนี้จึงรวดเร็วยิ่ง พร้อมแหวนมิติระดับสูงเอาไว้ใส่อาวุธหนักและเสบียงทางการทหาร และในพื้นที่ต่างกำลังระดมพลเหล่าทหารสำรองอีกมากมาย หากเรียกให้ก็เตรียมพร้อมทันที สามแสนนายนับว่าพอสำหรับแคว้นเล็กๆอย่างเสวียนหยาง

 

“เราต้องเร่งเดินทาง ถึงชายแดนเหนือภายในยี่สิบวัน” เค่อสิงในชุดแม่ทัพใหญ่เต็มยศ กำลังวางแผนอยู่ในกระโจม เขากำลังดูแผนที่ชายแดนเหนือเพื่อวางแผนกับแม่ทัพน้อย อย่างไรก็ต้องเร่งเดินทาง ตามปกติพวกเขาแทบไม่รู้สถานการณ์ที่ชายแดนเหนือเลย เพราะคนที่มีหินแสงจันทร์มีเพียงแม่ทัพใหญ่ที่ตายไปแล้วเท่านั้นและมันก็หายไปแล้ว โชคดีที่สำนักคุ้มภัยหยกแดงและหอวิหคหวนมีสาขาที่ชายแดนเหนืออยู่จึงทำให้พอมีข่าวส่งมาบ้าง กุนซือโจรับหน้าที่บัญชาการเหล่าทหารชายแดนเหนือเป็นการชั่วคราวนับว่าตึงมือนัก แคว้นเสวียนหยางนับว่าวางแผนมาดี พวกเขาต้องการเข้าตีแคว้นสุย โดยอาศัยที่ฮ่องเต้ยังทรงไม่ฟื้นพระวรกายดี และแคว้นสุยเกิดการขาดแคลนหลายๆ ด้านอย่างหนัก ทหารอ่อนแอการเรียกรวมพลคงเป็นไปได้ยาก จนไม่สนสัญญาสงบศึกที่เคยลงนามไว้แม้แต่น้อย ข่าวของพวกเขาคงล้าหลังไปสักนิด ตอนนี้แคว้นสุยไม่ได้เป็นเช่นนั้นแล้ว แคว้นเล็กๆ อย่างเสวียนหยางริอ่านจะมาสู้แคว้นสุยรึครั้งนี้พวกเขาก็ได้รับบทเรียน

 

“ไม่ต้องห่วง เรามีอาหารที่ลดความเหนื่อยล้าของทหารได้ คาดว่าสิบห้าวันก็น่าจะไหว” แม่ทัพน้อยกล่าวขึ้น โชคดีนักที่กรมเกษตรสามารถสร้างผลผลิตออกมาได้ทันเวลา ไม่พอยังเป็นผลผลิตที่วิเศษเป็นอย่างมาก การเดินทัพครั้งนี้จึงราบรื่นเป็นอย่างมาก

 

“ทัพทหารม้าจะมุ่งหน้าไปก่อน สิบวันต้องถึงชายแดน ทางนี้ข้าต้องฝากเจ้าด้วยแม่ทัพน้อย” ด้วยเวลาเร่งรีบเค่อสิง ซึ่งเป็นแม่ทัพใหญ่จึงจะนำทัพทหารม้ากว่าหนึ่งหมื่นนายเร่งเดินทางไปก่อน และฝากที่เหลือให้แม่ทัพน้อยดูแล

 

“ไม่ต้องห่วง ท่านอาจารย์คุยกับข้าแล้ว เรามีเวลาเพียงสามเดือนเท่านั้น มิเช่นนั้นท่านเองจะไม่ทันได้เห็นบุตรที่กำลังจะเกิดมา” แน่นอนแม้ว่าฮ่องเต้จะให้เวลาถึงครึ่งปี แต่พวกเขาคิดว่ามันช้าไป เจียเหรินให้เวลาพวกเขาแค่สามเดือนเท่านั้น

 

“ฮืมๆ ข้าจะให้มันจบได้ทันเวลา” เมื่อพูดถึงบุตรที่กำลังจะเกิดมันทำให้เค่อสิงมีแรงฮึดสู้ขึ้นมา อย่างไรพวกเขาต้องจัดการให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว

 

“ข้าขอขัดพวกเจ้าทั้งสองสักนิด” หยุนเทียนที่ยืนฟังพวกเขาต่างทุ่มเถียง ต่างช่วยกันวางแผนมาช้านาน คิ้วขมวดแล้วก็แล้ว จึงอดไม่ได้ที่จะสอดปากขัดพวกเขาขึ้นมาอย่างสงสัย

 

“มีอะไรรึท่านเจ้ากรมแพทย์” แม่ทัพใหญ่กับแม่ทัพน้อยทั้งสองจึงหันหน้าไปตามเสียงของหยุนเทียน และพูดออกมาพร้อมกันอย่างพร้อมเพรียง

 

“องค์ชาย ท่านไปอยู่ที่ใดมา ผู้คนออกตามหาท่านไปทั่ว แต่ท่านกลับมาปรากฏตัวที่นี่เสียได้” หยุนเทียนงุนงงอย่างมากเขาช่วยบิดาใช้คนของตนเองออกตามหาองค์ชายสิบแทบพลิกแผ่นดินกลับไม่เจอตัวเขา อยู่ดีๆ ตนเองนำคนของกรมแพทย์ตามกองทัพมาช่วยศึกชายแดนเหนือกลับพบว่าชิงสือกลายเป็นแม่ทัพน้อยไปเสียได้ จะไม่ให้เขาตกใจได้อย่างไร

 

“ฮ่าๆ พวกเขาออกตามหาข้ารึ ข้าแค่ไปเป็นชาวสวนอยู่ช่วงระยะหนึ่งนะ” ตลอดมา น้อยมากที่เขาจะออกจากฟาร์มของเจียเหรินแม้จะเข้าในเมืองบ้าง แต่กลับไม่มีผู้ใดจำเขาได้เสียเอง จะโทษใครไม่ได้ต้องโทษพวกที่ตามหาเขาไร้สามารถเสียเอง (ใครจะไปคาดคิดว่าไอ้ขี้เมาเดินเตร่อยู่ในตลาดจะเป็นองค์ชายน้อยกันเล่า)

 

“ท่านล้อเล่นอยู่รึองค์ชาย ท่านหายไปอยู่ๆท่านก็มาเป็นรองแม่ทัพเช่นนี้” องค์ชายสิบน่ะรึจะไปเป็นชาวสวน เขาเกิดมาอาศัยอยู่แต่ในรั้วในวังมือไม้รึก็นุ่มอ่อน ซ้ำตอนนี้ยังมาอยู่ในกองทัพอีกคิดว่ากองทัพเป็นสนามเด็กเล่นรึไร

 

“ไม่ต้องหวงข้าส่งสารถึงองค์ฮ่องเต้แล้ว ต้องรบกวนท่านแม่ทัพ และท่านช่วยดูแลข้าด้วย” เรื่องนี้เขาได้ส่งสารไปให้บิดาผู้นั้นเรียบร้อยแล้ว ชิงสือเชื่อว่าฮ่องเต้จะไม่ห้ามเขาแน่ หากศึกครั้งนี้ชนะขึ้นมาชิงสือสามารถสร้างชื่อเสียงให้ตนเองในกองทัพได้ หากแพ้เค่อสิงซึ่งเป็นแม่ทัพใหญ่ก็รับไป เขาเข้าใจความคิดของบิดาตนเองดี

 

“สงครามไม่ใช่เล่นๆ นะพ่ะย่ะค่ะ” ดูท่าทางขององค์ชายสิบแล้วช่างน่ากังวลจริงๆ หยุนเทียนคิดก็ปวดหัวขึ้นมาทันที

 

“ท่านไม่ต้องห่วงเขาหรอก อาสือเป็นถึงศิษย์คนโตของน้องเขยข้า เขาย่อมไม่ธรรมดา” ตอนเค่อสิงรู้ครั้งแรกว่าชิงสือคือองค์ชายสิบนั้น เขาเองยอมรับว่าตกใจไม่น้อย แต่ระยะเวลาที่ได้ทำงานประสานกันมาตลอดทำให้เขายอมรับเรื่องนี้ได้ง่ายดายยิ่ง ศิษย์ของน้องเขยเองก็เหมือนครอบครัวของเขาอีกคนหนึ่ง และมันทำให้เขาเข้าใจเป้าหมายของเจียเหรินได้มากขึ้น ทุกอย่างที่เจียเหรินทำหรือผลักดันให้พวกเขาสู่เส้นทางทางการเมืองล้วนแต่เพื่อลูกศิษย์คนนี้ของเจียเหรินเอง

 

“ห่ะ องค์ชายสิบก็คืออาสือคนนั้นน่ะรึ เจ้าไม่ได้ล้อข้าเล่นใช่หรือไม่” หยุนเทียนเองก็รู้จักอาสือที่เป็นศิษย์ของเจียเหรินเช่นกัน เพราะเคยติดต่อประสานงานกันผ่านหินแสงจันทร์ ไม่คิดว่าอาสือที่เก่งกาจผู้นั้นจะเป็นคนเดียวกับองค์ชายผู้อ่อนแอตรงหน้านี้

 

“เช่นนั้นก็ดี พวกเราตกลงตามนี้” เค่อสิงไม่ได้สนใจหยุนเทียนที่กำลังอึ้งอยู่ เขาหันกลับมาพูดคุยกับชิงสือต่อ ก่อนจะแยกย้ายกันไป พวกเขาหยุดพักที่นี่แค่สองชั่วยามเค่อสิ่งและทหารม้าจะเดินทางต่อทันที ส่วนทัพใหญ่จะเคลื่อนพลในรุ่งเช้าพรุ่งนี้

 

 

 

“ข้าไม่รอแล้วตาเฒ่า อย่างไรข้าก็จะไปเมืองหลวง” เสียงแม่หงโวยวายยกใหญ่ ครั้งนี้นางจะต้องไปเมืองหลวงให้ได้

 

“อัยย๊า เจ้าดื้อรั้นเกินไปหรือไม่” พ่อฮั่วเสียเเรงยื้อภรรยาตนเองยิ่งนัก ภรรยาผู้นี้เขาตามใจนางไปหรือไม่ เหตุใดนางจึงดื้อรั้นไม่ฟังผู้ใดเช่นนี้

 

“เจ้าบอกให้รอ ข้าก็รอมาหลายวันแล้ว ไม่มีข่าวคราวของพวกเขาแม้แต่น้อย หลิงซี หลานเอ๋อ จัดเตรียมของเราจะไปเมืองหลวงในวันพรุ่งนี้” นางรอข่าวจากบุตรชายและบุตรเขยมาเสียหลายวัน จนถึงตอนนี้ก็ผ่านมาเสียหลายวันยังไม่ได้รับข่าวคราวใดๆ เช่นนั้นนางก็จะไปหาพวกเขาเอง แม่หงไม่ลืมที่จะบอกลูกสะใภ้และบุตรสาวของตนเอง เตรียมเก็บของเสียให้พร้อม

 

“เจ้าคะท่านแม่” หลานหงกับหลิงซีรับคำ ความจริงพวกนางได้เตรียมข้าวของที่จำเป็นไว้หมดแล้วเหลือแค่รอออกเดินทางเท่านั้น

 

“นี่ๆ พวกเจ้าก็เป็นไปกับนางรึ พวกเจ้าท้องโตเสียขนาดนี้จะเดินทางได้อย่างไร” พ่อฮั่วถึงกับพูดไม่ออก พวกนางท้องโตเช่นนี้จะออกเดินทางได้รึ พวกนางคิดอันใดอยู่ช่างน่าเป็นห่วงพวกนางเสียจริงๆ

 

“สามีข้า เขาได้ปรับปรุงรถม้าไว้เเล้วเจ้าคะ รับรองคนท้องนั่งได้อย่างปลอดภัย” รถม้าสามคันของสามีนาง เขาได้ปรับปรุงมันทั้งหมดแล้ว ข้างในมีเตียงนอนและพื้นที่กว้างขวาง กันกระแทก และป้องกันการโจมตีจากภายนอกได้

 

“พวกเจ้าจะไปได้เช่นไร กิจการทางนี้เล่า” แล้วหากพวกนางยกกันไปทั้งหมดเช่นนี้กิจการที่นี่จะทำอย่างไร พ่อฮั่วปวดหัวยิ่งนัก

 

“เจ้าไม่ต้องห่วงตาเฒ่า ในฟาร์มเจ้าก็ดูแลไป ร้านในเมืองมีพวกเด็กๆ คอยดูแล คนงานที่นี่พี่สาวเหล่ยสามารถดูแลได้” แม่หงกล่าวออกมา นางไม่หวงอะไรทั้งสิ้นช่วงนี้ทุกอย่างตั้งตัวได้หมดแล้ว ไม่ได้มีปัญหามากนัก คนดูแลก็ครบทุกอย่าง ไปเมืองหลวงครั้งนี้ใช่ว่าพวกนางจะไปนานเสียหน่อย

 

“พวกเจ้า ฮึย ข้าไม่ห้ามพวกเจ้าแล้ว แล้วจะเดินทางกันอย่างไร จะไปลำพังสตรีเช่นนี้รึ” ในเมื่อภรรยาของตนนางวางแผนมาดีเช่นนี้จะห้ามปรามนางก็คงไม่ได้เสียแล้ว แต่อย่างไรการเดินทางไปที่เมืองหลวงครั้งนี้จะต้องปลอดภัย พ่อฮั่วจึงยังลังเล หรือว่าเขาจะตามพวกนางไปด้วยดี แต่ก็ห่วงฟาร์มทางนี้ แม้จะมีคนงานช่วยเพิ่มแต่ส่วนมากเป็นคนงานใหม่ยังไม่รู้อะไรมากนัก อีกสองสามวันคนของโรงเตี๊ยมเผิงซิ่งก็จะมารับของแล้วหากเขาทิ้งงานไปก็คงไม่ดีอีกเช่นกัน

 

“ไม่ต้องห่วง จุนไคจะเป็นคนขับรถม้าไปส่งพวกข้า และข้าได้ว่าจ้างสิบคนจากสำนักคุ้มภัยหยกแดงไว้เรียบร้อยแล้ว” แน่นอนแม่หงก็วางแผนในครั้งนี้ไว้เช่นกัน ได้ยินข่าวว่ามีสำนักคุ้มภัยหยกแดงพึ่งมาเปิดสาขาใหม่ที่เมืองฉางเผิง รับงานคุ้มกันทุกอย่าง นางคำนึงถึงความปลอดภัยในการเดินทางครั้งนี้ เมื่อวานนางจึงให้จุนไคพาไปที่สำนักคุ้มภัยหยกแดงเพื่อจ้างงานพวกเขา เมื่อเห็นนางหัวหน้าสาขาถึงขั้นลงมาต้อนรับด้วยตนเอง ซ้ำส่งคนคุ้มกันฝีมือดีมาให้คุ้มกันพวกนางถึงสิบคน และพวกเขายังจะไม่รับเงินแม้แต่อีแปะเดียว จนนางเริ่มระแวงขึ้นมา หัวหน้าของพวกเขาจึงบอกว่าพวกเขาเป็นสหายกันกับบุตรเขยของนาง นางจึงหายระแวงพวกเขา อย่างไรนางก็ยัดเงินให้พวกเขาไปเช่นเดิมการค้าไม่เอาเงินได้อย่างไรเล่า

 

“เยี่ยมจริงๆ” พ่อฮั่วไม่มีอะไรจะพูดอีก ได้แต่อึ้งในความสามารถของภรรยาตนเอง

 

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.