บทที่ 55: แหวนเทพอัคคี ของขวัญจากหลี่หวงเหยียน
ฉ่า!!
บัดนี้เกิดเสียงเผาไหม้ดังขึ้นพร้อมกับที่หมอกพิษสีเขียวเข้มถูกไฟกลืนกินไม่เหลือแม้แต่เศษละออง
ปัจจุบันทุกคนที่กระจัดกระจายทั่วเมืองหนานเจียงยังคงปลอดภัย แล้วพวกเขาก็ได้เห็นทะเลไฟขนาดใหญ่ด้วยตาของตัวเอง
ภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้ามันดูน่าเหลือเชื่อจนแม้กระทั่งหลินหยวนก็ยังอดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง
นั่นเป็นเพราะว่าเขาสัมผัสได้ถึงพลังที่ชายผมแดงคนนั้นปล่อยออกมาว่ามันทรงพลังมากแค่ไหน
เปลวไฟนั้นลุกโชนรุนแรงเหมือนเพลิงฟ้าดินที่มีพลังเผาผลาญทุกสิ่ง!
แม้แต่เพลิงจักรพรรดิชาดหิรัณย์ของเด็กหนุ่มก็ยังเทียบไม่ติด
“ที่แท้… นี่คือพลังของผู้มีพลังพิเศษแรงก์ SSS สินะ” ดวงตาของหลินหยวนพร่ามัวในขณะที่เขาพึมพำกับตัวเองเบา ๆ
จากนั้นสายตาของเขาก็เป็นประกายแห่งความตื่นเต้น เพราะนี่คือพลังที่เขาตั้งเป้าเอาไว้ พลังนี้มากพอที่จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์การต่อสู้ทุกอย่างได้
พลังที่มากพอที่จะกอบกู้โลก
หลินหยวนเชื่อว่าสักวันหนึ่งเขาจะมีพลังที่น่าเกรงขามเช่นนี้
ไม่สิ… สักวันหนึ่งเขาจะมีพลังที่แข็งแกร่งกว่านี้ มีพลังมากพอจะทำลายเผ่าไททันให้สิ้นซาก!
…
“เป็นไปไม่ได้…” ดารัมเงยหน้าขึ้นมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ด้วยสายตาเหลือเชื่อ
มันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเมฆหมอกพิษที่มันใช้เวลาสะสมอยู่นานจะถูกชายผู้มีพลังไฟทำลายด้วยกำลังของเขาเพียงลำพัง พลังของมนุษย์คนนี้เหนือไปจากความคาดหมายของมันมาก
ก่อนหน้านี้มันสัมผัสได้ถึงพลังที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้จากราชาไกอัสเท่านั้น
หลังจากที่หลี่หวงเหยียนเผาทำลายเมฆพิษไปจนหมด เขาก็ก้มลงมองไททันโรคระบาดด้วยสายตาเย็นชา
วินาทีต่อมา ก่อนที่ดารัมจะทันได้ตั้งตัว ชายหนุ่มก็ได้ปล่อยหมัดออกไป เปลวเพลิงที่ลุกโชนพุ่งออกมาจากปลายกำปั้นของเขา ก่อตัวเป็นเสาไฟพุ่งตรงไปหาศัตรู
ตูม!!
การโจมตีนี้ทำให้ร่างมหึมาของไททันมหาวิบัติเปลี่ยนกลายเป็นเถ้าถ่านในพริบตา
หลังจากสังหารดารัม หลี่หวงเหยียนก็หันไปเล็งเป้าที่แมงมุมยักษ์ต่อ
ทางด้านไอริสที่สัมผัสได้ถึงสายตาอาฆาตแค้นก็รู้สึกหวาดกลัวจากก้นบึ้งทันที
ปฏิกิริยาแรกที่มันทำก็คือการวิ่งหนี!
เพราะมันรู้ตัวดีว่ามันไม่มีทางสู้กับผู้ชายคนนี้ได้แน่นอน
ถ้าหากมันหนีกลับเข้าไปในประตูมิติ มันก็จะมีโอกาสรอดชีวิต!
แต่หลี่หวงเหยียนไม่ปล่อยให้มันทำได้สำเร็จแน่
“เปลวเพลิงจองจำ ผนึก!”
ชายหนุ่มผมแดงยกแขนขวาขึ้นก่อนจะปล่อยพลังไฟออกมาด้วยสายตาเรียบเฉย
วินาทีต่อมา กำแพงไฟทั้ง 4 ด้านก็พุ่งขึ้นมาจากพื้นล้อมร่างไททันแมงมุมปีศาจเอาไว้ในพริบตา
ไอริสที่เห็นอย่างนั้นก็ได้แต่กัดฟันแน่นและพยายามฝ่ากรงไฟที่กักขังตนอย่างสุดกำลัง
แต่ทันทีที่ตัวมันสัมผัสกับกำแพง ความร้อนจากเปลวเพลิงนั้นก็ทำให้มันตื่นตระหนกมาก
“แกเองก็ต้องชดใช้ให้กับทหารที่แกฆ่าไป!” หลี่หวงเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา จากนั้นก็ยกมือขึ้น ชั่วพริบตาก็มีดาบไฟปรากฏขึ้นจากอากาศพุ่งไปที่หลังของไอริสแทงเข้าที่หัวใจ ก่อนจะทะลุร่างและสลายไปในอากาศ
ไททันมหาวิบัติ 2 ตัวตายด้วยน้ำมือของหลี่หวงเหยียนในเวลาเพียงไม่กี่นาที
อันที่จริงนับตั้งแต่วินาทีที่เขาปรากฏตัว ทุกคนก็รู้แล้วว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร
เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้มีพลังพิเศษแรงก์ SSS ไททันมหาวิบัติก็ไม่นับว่าเป็นคู่มือของเขา นี่แหละคือพลังแห่งการทำลายล้างที่แท้จริง พลังที่ไม่มีใครเทียบได้!
หลี่หวงเหยียนพลิกสถานการณ์ด้วยกำลังของเขาเพียงลำพัง จากนั้นเขาก็เงยหน้ากวาดตามองทั่วสนามรบ
“ตรงนั้น… ดูเหมือนจะมีไททันภัยพิบัติเหลืออยู่” ถึงแม้ว่าไททันภัยพิบัติจะไม่สามารถทำลายเมืองหนานเจียงให้ย่อยยับได้เหมือนไททันมหาวิบัติ แต่หากปล่อยให้ไททันภัยพิบัติพวกนี้มีชีวิตอยู่ต่อไป พวกมันย่อมก่อให้เกิดหายนะต่อกองทัพของเมืองหนานเจียง และอาจทำให้เกิดการสูญเสียในวงกว้าง
ดังนั้นชายผมแดงจึงตัดสินใจกำจัดไททันภัยพิบัติพวกนี้ด้วยตัวเอง
“ทุกคนรอฉันแปบนึงนะ เดี๋ยวฉันมา” หลี่หวงเหยียนหันไปมองหลินหยวนและกลุ่มนักล่าที่อยู่ข้างหลัง
แต่เด็กหนุ่มรู้ดีว่าคำพูดของอีกฝ่ายดูเหมือนจงใจจะบอกกับเขาโดยเฉพาะ หลังจากชายหนุ่มพูดจบ ร่างของเขาก็หายไปจากจุดนั้นอีกครั้ง
ถ้าไม่ใช่เพราะหลินหยวนมีฉงถงระดับสูง เขาคงมองไม่เห็นการเคลื่อนไหวที่เร็วระดับนั้น
เมื่อหลี่หวงเหยียนพุ่งออกไป เด็กหนุ่มก็ค่อย ๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นนั่ง แล้วหยิบยารักษาจากช่องเก็บของมายกดื่ม
ตอนนี้พอมีฤทธิ์ยาบวกกับพลังรักษา อาการบาดเจ็บของหลินหยวนก็เริ่มฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในครั้งนี้ถ้าหากชายผมแดงคนนั้นมาไม่ทัน เมืองหนานเจียงคงจะราบเป็นหน้ากลอง แม้แต่ตัวเขาก็อาจจะเอาชีวิตไม่รอด
คงได้แต่บอกว่า ปัจจุบันพลังของเขานั้นยังไม่แข็งแกร่งพอ…
ถึงแม้ว่าหลินหยวนที่อายุน้อยแค่นี้แล้วมีพลังถึงระดับนี้ คนทั่วไปอาจจะมองว่าเขาเป็นอัจฉริยะ แต่ยามที่เขาต้องเผชิญกับหายนะที่ยังคุกคามชีวิตของทุกคนอยู่ตลอดเวลาแบบนี้ เขามองว่ามันยังช้าไปมาก
บนโลกนี้มีเพียงคนที่พร้อมเท่านั้นจึงจะสามารถคว้าชัยชนะมาได้ นั่นเป็นสามัญสำนึกของทุกคน ในขณะที่พวกเรากำลังเผชิญหน้ากับความตาย ไม่ว่าจะเป็นข้ออ้างหรือเหตุผลอะไรมันก็ไม่มีประโยชน์
เพราะถ้าหากเขาตาย มันก็เป็นเพียงข้อพิสูจน์ว่าเขามาไกลได้แค่นี้
5 นาทีต่อมา หลี่หวงเหยียนก็กลับมาอีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังนำศพไททันภัยพิบัติติดมือกลับมาด้วย 5-6 ศพ
โดยที่มือไฟขนาดมหึมายังคงปรากฏอยู่ที่แขนขวาของเขา และเขาก็ได้ใช้มือไฟนี้แบกไททันทั้งหมดมาหาหลินหยวน จากนั้นเขาก็โยนศพทั้งหมดไปกองต่อหน้าอีกฝ่าย
“ถ้าฉันจำไม่ผิด นายคงจะฟื้นคืนชีพศพไททันพวกนี้ได้ใช่ไหม?” หลี่หวงเหยียนพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ถ้างั้นฉันยกศพไททันพวกนี้รวมถึงไททันมหาวิบัติอีก 2 ศพให้นายก็แล้วกัน”
หลินหยวนที่ได้ยินแบบนี้ก็ทำหน้าไม่เข้าใจ เขาไม่คิดว่าชายผมแดงจะลากศพไททันพวกนี้กลับมาให้เขา
เด็กหนุ่มจึงลุกขึ้นยืนแล้วพูดกับอีกฝ่ายว่า “ขอบคุณครับ”
“เรื่องเล็กน้อยน่า ไม่ต้องขอบคุณหรอก นายต่างหากที่เป็นความหวังของประเทศเรา ฉันเองก็อยากจะทำอะไรเพื่อนายบ้าง มันเป็นหน้าที่ของฉัน” หลี่หวงเหยียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พูดตามตรง ฉันอยากจะกระชากหน้ากากออกจากหน้านายเต็มแก่ อยากเห็นนักว่าใต้หน้ากากนั้นตัวตนที่แท้จริงของนายเป็นใครกันแน่”
“แต่ก็เอาเถอะ ฉันเคารพการตัดสินใจของนาย ดังนั้นฉันจะไม่ทำแบบนั้น นายสบายใจได้ ขอเพียงนายยังต่อสู้เพื่อประเทศของเรา นายก็สมควรที่จะได้รับความเคารพจากฉัน!”
หลังจากพูดจบชายหนุ่มก็กำมือขวาทุบที่ตำแหน่งหัวใจของตัวเองเป็นการแสดงความเคารพ
หลินหยวนที่เห็นอย่างนั้นก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะทำความเคารพอีกฝ่ายเช่นเดียวกัน
ในตอนนี้ทุกคนกำลังต่อสู้เพื่อประเทศ!
ถัดมา หลี่หวงเหยียนหยิบแหวนสีแดงเข้มวงหนึ่งมาโยนให้เด็กหนุ่มแล้วอธิบายว่า “แหวนวงนี้เรียกว่า ‘แหวนเทพอัคคี’ มันทำมาจากวัสดุพิเศษ เป็นหนึ่งในผลงานวิจัยที่ประสบความสำเร็จของประเทศเรา แล้วฉันก็ได้ถ่ายพลังพิเศษของตัวเองลงไปในแหวนวงนี้ ดังนั้นแหวนเทพอัคคีวงนี้จึงมีความสามารถ 2 อย่าง”
“อย่างแรกคือระเบิดเพลิง หลังจากเปิดใช้งาน นายจะสามารถเรียกการโจมตีด้วยระเบิดเพลิงที่ทรงพลังเทียบเท่ากับการโจมตีเต็มกำลังของฉัน”
“อย่างที่ 2 กำแพงไฟ พอเปิดใช้งานความสามารถนี้ กำแพงไฟจะพุ่งขึ้นมารอบตัวนาย มันจะช่วยสกัดกั้นการโจมตีทั้งหมด”
“นายเก็บแหวนนี้ไว้เป็นไพ่ตาย เอามาใช้เพื่อรักษาชีวิตตัวเองซะ แต่ความสามารถทั้ง 2 นี้จะใช้ได้แค่ครั้งเดียว เพราะงั้น… ฉันขอแนะนำให้นายใช้ในเฉพาะสถานการณ์ที่อันตรายที่สุดเท่านั้น เข้าใจไหม?”
หลินหยวนมองชายตรงหน้าด้วยท่าทางตกตะลึง เขาไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้มอบของล้ำค่าแบบนี้ให้กับเขาทั้งที่เพิ่งเจอหน้ากันเป็นครั้งแรก
เด็กหนุ่มครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนจะได้ข้อสรุปเพียงข้อเดียวก็คือ หลี่หวงเหยียนเชื่อมั่นในพรสวรรค์ของเขามาก อีกฝ่ายจึงหวังว่าเขาจะมีชีวิตรอดพัฒนาฝีมือต่อไป
พอคิดถึงเรื่องนี้หลินหยวนก็ไม่ได้ปฏิเสธแล้วรับแหวนเทพอัคคีมาในขณะที่พูดว่า “ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังครับ”
“ดีมาก” ชายผมแดงพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะหัวเราะเสียงดัง “ฮ่า ๆๆ! เอาล่ะ ไว้เจอกันอีกครั้งในสนามรบ!”
สิ้นเสียงพูด เขาก็หายตัวไปอีกครั้ง
เพราะสถานการณ์รบเบื้องหน้า เขายังจำเป็นจะต้องไปจัดการทุกอย่างให้เสร็จ
เมื่อมีผู้มีพลังพิเศษแรงก์ SSS ปรากฏตัว สงครามในครั้งนี้ก็จบลงด้วยความพ่ายแพ้ย่อยยับของเผ่าไททัน
…
หลังจากไททันทั้งหมดถูกกวาดล้างไปจนสิ้น เหล่าทหารที่ทำหน้าที่พิทักษ์เมืองหนานเจียงก็เริ่มเก็บกวาดสนามรบทันที
“ชนะ!!”
“พวกเราชนะแล้ว!!”
“เรารักษาเมืองหนานเจียงเอาไว้ได้!!”
ในขณะที่หลายคนตะโกนประโยคเหล่านี้ ทุกคนก็แสดงสีหน้าตื้นตันใจ
ก่อนหน้าที่หลี่หวงเหยียนจะปรากฏตัว แต่ละคนได้ทำใจเอาไว้แล้วว่าวันนี้จะเป็นวันตายของตัวเอง พวกเขายอมสละชีพเพื่อนำแสงแห่งความหวังกลับคืนสู่เมืองหนานเจียง แต่ใครจะไปคิดว่าพวกเขาจะสามารถพลิกสถานการณ์จนคว้าชัยชนะกลับมาได้!
ไม่ว่าอย่างไร ตอนนี้พวกเขาก็ชนะ!
หลังจากที่หลี่หวงเหยียนปรากฏตัวออกมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
ไม่ว่าจะเป็นไททันมหาวิบัติหรือไททันภัยพิบัติ เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ชายคนนี้แล้ว พวกมันก็ไม่ต่างจากตุ๊กตายัดนุ่นตัวใหญ่
นี่คือชายผู้แข็งแกร่งของหัวเซี่ย!
ขอเพียงมีเขาอยู่ ถึงแม้ว่าฟ้าจะถล่มลงมา เขาก็จะแบกรับมันเอาไว้ได้สำเร็จ!
*******************************************
SkySaffron: หลี่หวงเหยียนตึงจัด!


แสดงความคิดเห็น