บทที่ 71 คนขี้หึง

พ่ายเกมสวาท

-A A +A

บทที่ 71 คนขี้หึง

หมวดหนังสือ: 

เธอแกล้งปฏิเสธผมในตอนแรกเพื่อให้ผมตกใจ สุดท้ายแล้วเธอก็รับน้ำใจของผม มันยิ่งทำให้ผมหลงเสน่ห์ของเธอมากขึ้นไปอีก เพราะความขี้เล่น ความน่ารัก ความตลกของเธอ เรายังคงพูดคุยกันก่อนที่จะสั่งเครื่องดื่ม เธอถามว่าทำไมผมถึงอยากเลี้ยงเครื่องดื่มเธอนะหรอ ผมก็ได้แต่ตอบเลี่ยงๆ ไป ใครจะกล้าตอบไปตรงๆ ล่ะว่าผมอยากอยู่คุยกับเธอไปนานๆ กันล่ะ

 

เธอยังคงโต้ตอบด้วยความขี้เล่น ด้วยความสดใสของเธอ บางคำที่เธอพูดกับผมจนผมหน้าแดงแต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้ ส่วนคำตอบของผม ผมก็ซ่อนความจริงอยู่ในนั้นแต่แค่แสดงออกไปแบบทีเล่นทีจริง ก่อนที่เธอจะเสียอาการซะเอง

 

ผมมองดูความไร้เดียงสาของเธอด้วยความรู้สึกที่มากขึ้น จากความรู้สึกที่แค่อยากจะปรารถนาดีแต่แรก ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความต้องการที่อยากจะครอบครองอีกครั้ง ผมไม่ติดที่เธอเคยเป็นของใครมาก่อน แต่เพราะยิ่งได้รู้จัก ยิ่งได้ใกล้ชิด มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกชอบเธอ ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเซบาสเธียถึงหลงรักเธอขนาดนั้น

 

ผมทำลายความประหม่าของเธอด้วยการเปลี่ยนเรื่องเป็นถามถึงเครื่องดื่ม เมื่อถามว่าเธอดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ได้ไหม แล้วเธอไม่ติดอะไรผมก็หันไปสั่งค็อกเทลสีหวานสวยที่เหมาะกับตัวเธอส่วนผมก็ขอเป็นน้ำสีอำพันสุดหรูยี่ห้อเดิม

 

เธอสั่งดื่มอย่างต่อเนื่อง คงเป็นเพราะถูกใจในรสชาติ ท่าทางที่ดื่มค็อกเทลแก้วนั้นอย่างเอร็ดอร่อย ทำผมคล้อยไปตามความน่ารักของเธอ แก้มนวลเนียนเริ่มออกสีแดงระเรื่อเพราะดีกรีความแรงของแอลกอฮอล์ที่ใส่ผสมลงไปในค็อกเทลเหล่านั้น

 

ตัวเธอเริ่มโงนเงนไปมา น้ำเสียงที่พูดก็เริ่มยานคางเหมือนคนเมา ท่าทางที่เธอทำช่างดูน่ารักน่าฟัดจริงๆ ทุกอย่างที่เป็นเธอมันทำให้ผมไม่สามารถละสายตาไปจากภาพตรงหน้านี้ได้เลยจริงๆ

 

“ทามมาย..คุณถึงอยากเจอเอลิซอีกค่ะ” เธอเปิดปากถามออกมาเมื่อร่างกายสะสมแอลกอฮอล์จนได้ที่ พร้อมกับส่งสายตาหยาดเยิ้ม ยิ่งเธอทำแบบนี้เธอจะรู้บ้างไหมว่าทำผมคลั่งมากแค่ไหน

 

แต่ผมก็ทำได้เพียงยังคงเก็บความรู้สึกที่มากล้นเอาไว้ ก่อนจะตอบคำถามเธอกลับไป...

 

“เพราะว่าผมเป็นห่วงคุณ วันนั้นที่ร้านยา คุณดูไม่โอเคเลย ผมเลยคิดว่าถ้าได้เจอคุณอีกครั้งก็คงดี ผมจะได้ถามคำถามที่ผมอยากจะถามคุณในวันนั้นแต่ไม่มีโอกาส” ผมพูดไปตามความจริง เพราะว่าวันนั้นนอกจากผมดีใจที่ได้เจอเธอ ผมก็มีความเป็นห่วงเธอมากๆ อีกด้วย มากจนผมคิดไว้ว่าถ้าผมได้เจอเธออีกผมต้องพูดคำพูดนี้กับเธอให้ได้ นั่นก็คือ....คุณโอเคไหม

 

หลังจากที่ผมได้พูดประโยคนั้นออกไป ดูเหมือนว่าเธอจะนิ่งไปสักพักเลย ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเธอคิดอะไรอยู่ แต่เมื่อผมลองลอบมองดูสายตากลมโตสวยคู่นั้น มันเหมือนมีอะไรบ้างอย่างที่หยั่งลึกลงไป มันมีความหลากหลายอารมณ์อยู่ในแววตาคู่นั้น ทั้งความรู้สึกรัก ความรู้สึกเกลียด ความหวาดกลัว ความเจ็บปวด ทุกอย่างดูผสมปนเป จนผมได้แต่ปล่อยให้เธออยู่ในห้วงความคิดนั้น และหวังว่าเธอจะไม่เจ็บปวดกับสิ่งเหล่านั้นอีก

 

แต่ไม่รู้ว่าคำพูดไหนของผมที่มันไปสะกิดจี้จุดของเธอ เธอถึงรีบสาดน้ำสีหวานสวยในแก้วที่เหลือลงคอจนหมดภายในรวดเดียว แล้วหันมามองหน้าผมก่อนจะตอบกลับมาด้วยความรู้สึกที่มั่นคงและจริงใจ

 

“ขอบคุณมากนะคะที่วันนั้นคุณเป็นห่วงเอลิซ แถมยังเก็บความรู้สึกเป็นห่วงนั้นเอาไว้กับตัวจนได้มีโอกาสมาบอกกับเอลิซในวันนี้ เอลิซอยากจะบอกคุณมาร์คว่า ตอนนี้เอลิซโอเคแล้วค่ะ และหวังว่าจะเอลิซจะไม่ทำให้คุณมาร์คต้องรู้สึกติดค้างอะไรในใจแล้วนะคะ” เธอรัวความในใจมาเป็นชุดใส่ผม และสิ่งที่ทำให้ผมสบายใจนั่นก็คือผมรับรู้ได้ว่าเธอรู้สึกอย่างที่พูดจริงๆ

 

เธอกล่าวขอบคุณและบอกลาผม ทั้งที่ผมยังตั้งตัวไม่ทัน ได้แต่อึ้งว่าทำอะไรผิดไปหรือเปล่า หรือไปแสดงอะไรที่ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดหรือเปล่า ในขณะที่เธอยืนขึ้นแล้วกลับหลังหันเตรียมตัวที่จะเดินออก

 

ในจังหวะเดียวกันนั้นเอง สายตาที่ว่องไวของผมก็เห็นความผิดปกติบางอย่างจากคนตรงหน้า และก่อนที่จะได้ทันเกิดอะไรขึ้น มือของผมก็กวาดเข้าไปโอบที่เอวกิ่วเข้ามาในอ้อมกอดทันที ทำให้ตอนนี้ภาพที่ทุกคนมองมาก็จะเห็นว่าเราสองคนยืนกอดกัน

 

กลิ่นหวานละมุนจากกายสาวลอยขึ้นมาเตะจมูกเข้าอย่างจัง ทำให้มือที่กำลังโอบกอดความนุ่มนิ่มยิ่งกอดรัดกระชับแน่นเพราะไม่อยากจะให้คนใต้ร่างหลุดลอยไปไหน และก่อนที่ผมจะยิ่งตกหลุมเสน่ห์ของเธอไม่มากกว่านี้ ผมก็รีบที่จะดึงสติกลับมา แล้วถามเธอออกไปด้วยความเป็นห่วง

 

“ไม่เป็นไรนะครับ คุณเอลิซ”

 

“มะ...ไม่เป็นไรค่ะ...ขะ...ขอบ...คุ...ว๊ายยย”

 

ในขณะเธอกำลังจะเอ่ยประโยคขอบคุณผม และผมที่ตกอยู่ในภวังค์ความงดงามตรงหน้าที่ยิ่งได้มองใกล้ๆ ยิ่งเหมือนโดนร่ายด้วยมนต์สะกด ก็ได้มีแรงกระชากตรงเข้ามาที่แขนของเธอแล้วดึงเธอออกไปจากอ้อมกอดของผมอย่างรวดเร็ว โดยที่ผมเองก็ไม่ทันได้ตั้งตัว

 

ผมมองไปตามร่างบางที่ถูกดึงห่างออกไป มือก็พยายามเอื้อมไปไขว่คว้าเพื่อที่จะจับร่างบางเอาไว้ แต่สิ่งที่คว้าไว้ได้กลับมีเพียงแค่อากาศ ความรู้สึกที่เหมือนถูกกระชากหัวใจออกไป ทำผมถึงกับรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาในทันที ใครกันว่ะ เดี๋ยวพ่อปักด้วยเข็มยาพิษซะเลย!! ผมสบถขึ้นในใจ

 

เมื่อสิ้นเสียงในหัว ก็พอดีกับที่สายตาของผมประสบเข้ากับดวงตาสีเทาเข้มดุดันของชายร่างคุ้นที่ยืนอยู่ตรงหน้า ที่ตอนนี้มีความโกรธอยู่เต็มสองลูกตาจนแทบจะส่งพลังอาฆาตมาแผดเผาผมให้เป็นจุณได้เลย

 

และเจ้าของดวงตาคู่นั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นไกลเขาคนนั้นก็คือ  ‘เซบาสเธีย ธิพัฒน์เดชะไพศาลที่ตอนนี้นอกจากแววตาอาฆาตแล้วยังมีใบหน้าที่ดูดุดันบอกบุญไม่รับที่ฉายหราอยู่บนใบหน้าคมคาย ดูจากอาการที่ส่งมาให้ผมมากมายขนาดนี้ คงจะหึงจนแทบอยากจะฆ่าผมให้ตายแน่ๆ หึ...แค่นี้ทำเป็นไม่พอใจทีมาดึงความสุขเล็กๆ ของผมออกไปจากอกผมยังไม่มองแรงขนาดนั้นเลย

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.