รับคำท้าหัวใจยัยตัวแสบ ตอนที่ 121 รอไม่ได้!!

รับคำท้า(หัวใจ)ยัยตัวแสบ

-A A +A

รับคำท้าหัวใจยัยตัวแสบ ตอนที่ 121 รอไม่ได้!!

รับคำท้าฯ

 

ตอนที่ 121

 

 

 

                ปริมาตกใจแทบช็อคเมื่อเห็นภาพอุบัติเหตุตรงหน้า รีบวิ่งไปดูคนเจ็บทันที รู้สึกใจหายเมื่อเห็นหน้าคนเจ็บทั้งสองคนว่าเป็นใคร ปรามรีบวิ่งออกมาดูเหตุการณ์เช่นเดียวกันแล้วรีบโทรเรียกรถพยาบาลทันที สองพี่น้องช่วยคนเจ็บอย่างเต็มที่เท่าที่สามารถช่วยได้ โดยเฉพาะการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการห้ามเลือด

 

 ปรามให้น้องสาวขึ้นรถพยาบาลไปกับคนเจ็บ ส่วนเขารอตำรวจมาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ หลังจากดูกล้องวงจรปิด เนื่องจากรถคันดังกล่าวอยู่ ๆ ก็เสียหลักพุ่งมาชนป้ายของรีสอร์ตบ้านไร่ทะเลฝัน แล้วคนเจ็บทั้งสองคนยืนอยู่ที่หน้าร้านพอดี ก่อนจะวิ่งหลบรถ แต่เสี้ยววินาทีที่ตัดสินใจวิ่งหลบนั้นดันเป็นทิศทางเดียวกันกับรถที่พุ่งเข้ามาจึงหลบไม่พ้นถูกชนได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

 

 

คนเจ็บบนเตียงรู้สึกตัว เขากระพริบตาถี่ ๆ ภาพบนเพดานห้องชัดเจนขึ้น เขามองไปรอบ ๆ จึงรู้ว่า เขาอยู่ที่โรงพยาบาล มองเห็นหญิงสาวยืนอยู่ที่ขอบเตียง 

 

“คุณทานน้ำก่อนค่ะ” ปริมาหยิบขวดน้ำพร้อมหลอดส่งให้ คนเจ็บนั้นเอาแต่จ้องหน้าเธอโดยยังไม่ยอมพูดอะไรสักคำ และยังไม่ยอมรับขวดน้ำในมือของเธอ

 

“ถ้าคุณไม่สะดวกที่จะพูดกับดิฉัน จะไปตามพยาบาลมาให้นะคะ” ปริมาหมุนตัวเดินไปที่ประตูห้องคนเจ็บ

 

“เดี๋ยว...ครับ...” เสียงอันแหบแห้งของคนเจ็บเรียกเธอ

 

“แฟนผม...แฟน...ผม...เธอเป็นอย่างไรบ้าง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ยังรู้สึกสะเทือนใจไม่หาย ภาพตอนเกิดเหตุยังติดตา ภรรยาผลักเขาให้หลบ รถจึงชนเธอเต็ม ๆ จนกระเด็นไป

 

“ปลอดภัยแล้วค่ะ เพียงแต่ยังไม่รู้สึกตัว หมอยังให้อยู่ในห้องฉุกเฉินค่ะ” หญิงสาวมองเห็นน้ำตาคลออยู่ในดวงตาของคนเจ็บตลอดเวลา อาการบาดเจ็บของเขานั้นไม่มีอาการน่าเป็นห่วงแต่อย่างใด แค่หัวแตก และมีบาดแผลจากการถูกกระจกบาดตามแขนอยู่หลายแผลเท่านั้น แต่คนที่น่าเป็นห่วงมากคือภรรยาของเขามากกว่า ทั้งกระดูกซี่โครงหัก และศรีษะได้รับการกระแทกอย่างแรง มีเลือดออกในสมอง 

 

“ผมอยากไปเยี่ยมแฟนของผม พาผมไปหน่อยได้ไหม...” เขาเอื้อมมือมาบีบมือหญิงสาวที่จับอยู่กับขอบเตียงแน่นทั้งน้ำเสียง และสายตาที่มองเธอเต็มไปด้วยการวิงวอนขอร้องจากหัวใจ

 

“เดี๋ยวขอถามหมอก่อนนะคะ” เธอไม่กล้าตัดสินใจเอง

 

“คุณปัถยาจะต้องปลอดภัยแน่นอนค่ะ”

 

พยาบาลเดินเข้ามาให้ห้องคนป่วย ถือแฟ้มเอกสารมาด้วย

 

“ขอโทษนะคะ คุณเป็นอะไรกับคนไข้คะ”

 

ปริมาอึกอักอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบไปว่า

 

“เป็น...เขาเป็นลูกค้าที่ร้านของเราค่ะ”

 

“ผมขอไปเยี่ยมภรรยาของผมได้ไหมครับ” เขาหันไปถามพยาบาล

 

“รบกวนเซ็นต์เอกสารนี้ก่อนนะคะ คงต้องรอคุณหมออนุญาตก่อนค่ะ” พยาบาลยื่นเอกสารให้คนเจ็บบนเตียงเซ็นต์ยินยอม

 

คนเจ็บยื่นมือมารับแฟ้มเอกสาร พร้อมกับเซ็นต์ชื่อยินยอม ปากกาในมือของเขาสั่นระริก เมื่อสายตามองเห็นชื่อนายแพทย์เจ้าของไข้คือ นายแพทย์ปริวัฒน์ การุณนิพัฒน์ คู่อริที่แย่งอดีตภรรยาของเขาไป บัดนี้ชีวิตของเขาและภรรยากลายเป็นหนี้บุญคุณบุคคลนี้ไปเสียแล้ว ในวงการแพทย์รู้กันดีว่า แพทย์ผู้นี้คือผู้เชี่ยวชาญแนวหน้าด้านการผ่าตัดสมองมือหนึ่งของเมืองไทย 

 

“ขอบคุณค่ะ” พยาบาลรับแฟ้มคืนก่อนเดินออกไปจากห้อง

 

“ช่วยขอพ่อของเธอให้หน่อย ฉันอยากไปเยี่ยมปัถยา”

 

“ได้ค่ะ แต่ตอนนี้ต้องทานยาทานข้าวก่อนนะคะ” เธอมองเห็นพยาบาลยกอาหารและยามาให้คนป่วย

 

“ฉันไม่หิว” คนป่วยตอบเสียงเบา ลำคอนั้นตีบตันจนทานอะไรไม่ลง

 

“ถ้าไม่ทานยาไม่ทานข้าว แล้วจะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนไปดูแลคุณปัถยาตอนที่ฟื้นขึ้นมาละคะ” ปริมามองหน้าคนเจ็บ นัยตาแดงก่ำมีน้ำตาคลอหน่วย 

 

“แล้วแต่คุณนะคะ ดิฉันขอตัวกลับก่อนค่ะ”

 

“เดี๋ยว! ฉันจะกินยากินข้าวเดี๋ยวนี้” เขารีบจับมือของหญิงสาวเอาไว้ก่อนที่เธอจะหันหลังเดินออกไป

 

“เธอจะต้องขอพ่อ พาฉันไปเยี่ยมปัถยานะ แค่ยืนมองอยู่ข้างนอกห้องก็ได้ ฉันขอร้อง...”

 

“ได้ค่ะ” ปริมาอมยิ้ม พ่อลูกมีความดื้อพอ ๆ กันเลย

 

“ขอบใจ...หนู...ปริมมากนะ” เขาบีบมือของหญิงสาวแน่น รู้สึกผิดที่คอยกีดกันผู้หญิงคนนี้กับลูกชายของเขามาตลอด เขาอยากลองเรียกเธอให้คุ้นเคยแบบนี้ดูบ้าง

 

ปริมาอึ้งไปเล็กน้อยที่เขาเรียกเธอด้วยคำที่ดูเป็นกันเองมากกว่าเดิม

 

“ทำไม...ถึงช่วย...ฉัน...”

 

“ถ้าดิฉันมีโอกาสที่จะช่วยใครได้แล้วไม่ช่วย คงจะเป็นตราบาปอยู่ในใจไปตลอดค่ะ ถ้าคุณเป็นอะไรไป การ คงจะเสียใจมาก ฉันช่วยคุณเพราะคุณเป็นเพื่อนมนุษย์ที่พึงช่วยเหลือกันมากกว่าอย่างอื่น แล้วคุณก็สบายใจได้ว่า เรื่องความสัมพันธ์ของดิฉันกับปฏิการ คุณไม่จำเป็นต้องยอมรับใด ๆ ทั้งสิ้นค่ะ”

 

“หนูปริม...ยังรักลูกชายของฉันอยู่หรือเปล่า?” เขาถามเธอตรง ๆ

 

“ดิฉันไม่ต้องการอะไร แค่ขอให้การมีความสุขก็พอแล้วค่ะ”

 

“ฉันถามว่า หนูปริมยังรักลูกชายของฉันอยู่ไหม?” นายแพทย์ใหญ่ถามย้ำอีกครั้ง

 

“ความรักของดิฉัน ไม่จำเป็นต้องได้เป็นเจ้าของเขาก็ได้ค่ะ ขอให้คุณสบายใจและอย่ากังวลเรื่องนี้”

 

“หนูปริมตอบไม่ตรงคำถาม ขอให้ตอบให้ตรงด้วย ยังรักอยู่ไหม...?” เขาอยากจะมั่นใจว่า เธอยังรักลูกชายของเขาอยู่

 

“...ค่ะ” เสียงตอบนั้นแผ่วเบามาก

 

“ฉันอยากจะขอร้องหนูปริม...ให้กลับมาเป็นแฟนกับลูกชายของฉันได้รึเปล่า?” เขาตัดสินใจพูดสิ่งที่ตั้งใจไว้ก่อนหน้านี้อย่างไม่อาจรีรอต่อไปได้อีกแล้ว 

 

ปริมานิ่งไปครู่หนึ่ง เธอหูฝาดไปรึเปล่า? แทบไม่อยากจะเชื่อว่าจะได้ยินคำพูดนี้ออกจากปากของบิดาของปฏิการ

 

“ได้รึเปล่า?” เขาถามย้ำเมื่อเห็นหญิงสาวยังนิ่งไม่ตอบเสียที

 

“ได้ค่ะ” เธอตอบพลางก้มหน้าอมยิ้มเขินอาย

 

“ขอบใจ...หนูปริมมากนะ” ปัณณวัตร์ส่งยิ้มให้พร้อมกับบีบมือของหญิงสาวแน่นด้วยความขอบคุณจริง ๆ จากใจ เขาอยากทำสิ่งสุดท้ายให้ลูกชายมีความสุข อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นฉับพลันทันทีทำให้ต้องรีบตัดสินใจเมื่อมีโอกาสอยู่ตรงหน้าแล้ว เขารู้สึกได้ถึงความหยิ่งทะนงในตนเองของเธอ ทั้งปากแข็ง หัวแข็ง ใจแข็งและดื้อรั้นไม่เบาเลย แต่มีความขี้อายอยู่ในที กว่าอีกฝ่ายจะตอบคำถามของเขาได้แต่ละคำลุ้นแทบแย่ สายตามองปริมาเลื่อนโต๊ะอาหารเข้ามาใกล้ จัดการให้เขาทานยาและทานข้าวเรียบร้อย เขาเชื่อว่าเธอจะดูแลลูกชายของเขาได้เป็นอย่างดี

 

ปริมาอมยิ้มน้อย ๆ เมื่อเห็นคนเจ็บพยายามทานจนหมดเกลี้ยง แม้จะดูฝืน ๆ อยู่บ้าง คงจะกลัวไม่ได้ไปเยี่ยมภรรยา เมื่อเขาทานข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงโทรไปถามพ่ออนุญาตให้คนเจ็บไปเยี่ยมปัถยาได้หรือไม่ ซึ่งได้คำตอบว่า ได้ เธอจึงคอยประคองให้คนเจ็บนั่งบนรถเข็น แล้วพาไปยังห้องผู้ป่วยของภรรยา เธอปล่อยให้เขาได้อยู่คุยกับปัถยาตามลำพัง และบอกเขาว่า อีกหนึ่งชั่วโมงจะกลับมาพากลับห้องคนป่วย

 

หนุ่มใหญ่ยืนมองใบหน้าอันซีดเซียวของภรรยา ร่างนั้นนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง เธอยังหลับสนิทไม่เคลื่อนไหวใด ๆ เสียงเครื่องอุปกรณ์การแพทย์กำลังทำงานเบา ๆ สายต่าง ๆ ระโยงระยางเต็มไปหมด มีผ้าพันแผลขนาดใหญ่บริเวณศีรษะ ถุงเลือดแขวนยังแขวนอยู่เธอคงเสียเลือดไปมาก และยังต้องใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ สายตามองไปที่เครื่องแสดงอัตราการเต้นของหัวใจ คลื่นหัวใจของคนป่วยเต้นอ่อนมากจนใจหาย ดูเหนื่อยล้าราวกับไม่อยากจะเต้นอีกต่อไป แล้วกุมมืออันเย็นเฉียบของภรรยาเอาไว้ พลางบีบเบา ๆ ให้มือนั้นอุ่นขึ้น

 

“คุณ...รีบตื่น...ขึ้นมานะ” น้ำตารื้นขึ้นมาคลออยู่ในดวงตาคู่นั้น

 

 “ผม...อยากพาคุณไปเดินเล่น...ริมทะเลด้วยกัน คุณบอกว่าอยากไปพักผ่อนที่บ้านไร่ทะเลฝันไม่ใช่เหรอ...” เขาต้องหยุดพูดเป็นระยะ เมื่อเสียงพูดขาดหายไปในลำคอ สลับกับเสียงสะอื้นเบา ๆ

 

“ผมหาวันหยุดยาวได้แล้วนะ” เขาสูดลมหายใจเข้า ก่อนจะพูดต่อไป

 

 “คุณ...รีบตื่นขึ้นมาเถอะ...ผมขอร้อง...คุณจะทิ้งผมไปไม่ได้นะ” เขาพูดกับภรรยาด้วยน้ำเสียงอันสั่นเครือ น้ำตาที่คลออยู่ค่อย ๆ รินไหลลงมาอาบแก้ม รู้สึกใจหายหากชีวิตนี้จะไม่มีเธออีกแล้ว

 

“ผมรักคุณ...” ปัณณวัตร์จับมือภรรยามาจูบเบา ๆ น้ำตาของเขาหยดลงบนมือของเธอ ก่อนดึงมาแนบไว้ที่แก้มของตนเอง

 

“ผมยังไม่เคยบอกคุณใช่ไหม...” เขาซบหน้าลงกับเตียงพลางร้องไห้จนตัวสั่นเทา 

 

“คุณ...ต้องตื่นมาฟังผม...บอกรัก...คุณ...ก่อน คุณ...ไม่อยาก...ได้ยินเหรอ” น้ำเสียงของเขากระท่อนกระแท่นขาดห้วงเป็นระยะ สลับกับเสียงอื้นไห้

 

“ไม่เป็นไร... ถ้าวันนี้คุณยังเหนื่อยอยู่...พรุ่งนี้ก็ได้...คุณค่อยตื่นขึ้นมาฟังนะ ผมจะรอคุณ แต่คุณต้องสัญญากับผม ว่าจะตื่นขึ้นมา... สัญญากับผมนะ...ปัถยา...” เขายกมือปาดน้ำตาข้างแก้ม 

 

“คุณต้องตื่นขึ้นมาฟังข่าวดี ต่อไปผมจะไม่ว่าอะไรปฏิการแล้วที่จะคบกับหนูปริม คุณตื่นขึ้นมาดูเขาทั้งสองคนมีความสุขก่อน ผมจะไปขอโทษปาริชาติที่เคยทำผิดกับเธอมาตั้งแต่แรก ผมผิดเองตั้งแต่ต้น ผมขอโทษ...ที่เลือกคุณช้าไป...คุณอย่าโกรธผมเลย...อย่า...จากผมไป...ได้โปรด....” 

 

หนุ่มใหญ่มองไปที่เครื่องแสดงอัตราการเต้นของหัวใจ สัญญาณชีพของภรรยาเต้นได้ดีขึ้น เธอได้ยินคำพูดของเขาใช่ไหม... มองไปที่มือของเธอขยับเล็กน้อยอย่างเหลือเชื่อ...และมือนั้นอุ่นขึ้น พลางยิ้มด้วยความดีใจ 

 

ปัณณวัตร์นึกถึงคลิปที่ลูกชายเคยส่งมาให้ดู การกดจุดบริเวณฝ่ามือต่าง ๆ แทนที่เขาจะเอาแต่ร้องไห้คงไม่ได้ประโยชน์อะไร เขาจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้เธอฟื้น ก่อนหน้านี้เคยลองกดให้ตนเองดูบ่อย ๆ กดแล้วเส้นคลายอยู่เหมือนกัน เขาจะลองกดนวดจุดสมองให้เธอเพื่อเพิ่มพลังสมอง จุดสมองอยู่บริเวณระหว่างเนินของฝ่ามือตรงกลางระหว่างง่ามนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ ใกล้กับจุดต่อของมุมกระดูกนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ ซึ่งในคลิปใส่แคปชั่นว่าเช็คเส้นเลือดสมองตีบ แก้ไมเกรน ตึงคอบ่าไหล่ เขากดคลึงนวดเบา ๆ บนง่ามนิ้วมือของภรรยา แล้วกดไล่ขอบกระดูกของนิ้วชี้เพื่อคลายเส้นคอ บ่า ไหล่ให้เธอด้วย

 

“คุณเป็นไงบ้าง รู้สึกดีขึ้นมั้ย....ผมจะมากดให้คุณบ่อย ๆ” เขามองไปใบหน้าของภรรยา

 

“ถ้าผมไปขอโทษพ่อของหนูปริม คุณว่าเขาจะยอมยกลูกสาวให้ลูกของผมรึเปล่าครับ...” เขานวดกดจุดมือของเธอไปปากก็คุยกับคนป่วยไปด้วย

 

ผ้าเช็ดหน้าถูกยื่นไปตรงหน้าของสามีผู้ป่วย เขาหันกลับมามองเจ้าของผ้าเช็ดหน้า

 

“ผมจะยอมยกลูกสาวให้ลูกชายของคุณครับ” นายแพทย์ปริวัฒน์เดินเข้ามาตรวจอาการของคนไข้ ยืนรออยู่ครู่หนึ่งได้ยินคำพูดทุกคำ และคำขอโทษออกจากปากของผู้ชายคนนี้

 

ปัณณวัตร์ค่อย ๆ ยื่นมือมารับผ้าเช็ดหน้านั้นอย่างช้า ๆ แทบไม่เชื่อคำพูดที่ได้ยินนั้น ประสาทการรับรู้ของเขานิ่งงันไปชั่วขณะ

 

“อาการของภรรยาของคุณปลอดภัยแล้ว พ้นขีดอันตราย แค่รอให้ฟื้นดูว่ามีอาการทางสมองหรือไม่ อาการอื่น ๆ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงครับ” แพทย์เจ้าของไข้พูดต่อไป

 

“ขอบคุณ...คุณหมอมากนะครับ” สายตาที่มองนายแพทย์ที่ยืนอยู่ตรงหน้ายังคงงุนงงไม่หาย ยังไม่อยากเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาในวินาทีนี้

 

“ผมทำตามหน้าที่ ทำตามจรรยาบรรณของแพทย์ครับ” นายแพทย์ปริวัฒน์ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ

 

“ผม.....” ศัลยแพทย์โรคหัวใจพยายามสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อรวบรวมความกล้า

 

“ผมต้องขอโทษ...” สายตาสบตากับนายแพทย์ที่ยืนอยู่ข้างเตียงคนป่วยนิ่ง

 

“ขอโทษ...กับทุกเรื่องที่ผ่านมา...”

 

“ช่างมันเถอะครับ มันผ่านไปแล้ว” ปริวัฒน์ได้ยินคำขอโทษอย่างชัดเจนอีกครั้งออกจากปากชายผู้นี้ ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เรื่องราวบาดหมางกันระหว่างสองครอบครัวคงจบลงเสียที

 

“ผมขอยืมคำพูด ของลูกชายคุณมา เขาพูดแบบนี้วันที่ได้พบแม่ และรู้ว่าผมเป็นแฟนใหม่แม่ของเขาครับ ผมอยากจะขอบคุณคุณเช่นกันที่ยอมคืนภรรยาให้ ผมคงต้องขอบคุณลูกชายของคุณด้วย ตั้งแต่ตอนที่ผมแต่งงานกับปาริชาติ ปริมโกรธมากและไม่ยอมพูดกับผมอีกเลย แต่ลูกชายของคุณทำให้ปริมหายโกรธและยอมพูดกับผมได้ครับ” เขาส่งยิ้มให้อีกฝ่ายเป็นครั้งแรก

 

“ถ้าผม...อยากจะขอลูกสาวของคุณให้ลูกชายของผม...จะได้รึเปล่าครับ” เขาถามย้ำอีกครั้งอย่างไม่อยากจะเชื่ออยากจะได้ยินชัด ๆ อีกครั้ง

 

 “ด้วยความยินดีครับ ผมอยากเห็นลูกมีความสุข ผมกลุ้มใจมากเพราะเคยได้ยินมานานแล้วว่า ปริมอยากจะขึ้นคาน ไม่อยากแต่งงาน ไม่เคยชอบผู้ชายคนไหนที่มาตามจีบ แต่กลับถูกลูกชายของคุณกระชากลงมาจากคานได้” เขาหัวเราะเบา ๆ

 

“แสดงว่า คุณอยากได้ลูกชายผมเป็นลูกเขยเต็มแก่แล้วสิครับ” อีกฝ่ายหัวเราะออกมาเช่นเดียวกัน

 

“จะว่างั้นก็ได้นะครับ ผมยอมรับ” 

 

“ขอบคุณมากนะครับ” ปัณณวัตร์ยื่นมือออกไปขอจับมือกับฝ่ายตรงข้าม อีกฝ่ายจึงยื่นมือมาจับกับมือนั้นเช่นเดียวกัน

 

“ขอบคุณมากเช่นกันครับ” ปริวัฒน์มองฝ่ายตรงข้ามด้วยความขอบคุณจากหัวใจ

 

ทั้งคู่ต่างยิ้มให้กัน ปลดปล่อยความโกรธ ความเกลียดกันมาตั้งแต่ในอดีตจนหมดสิ้น

 

“ผมฝากขอโทษ ปาริชาติด้วยนะครับ ผมยังไม่เคยขอโทษที่ทำผิดกับเธอ”

 

“เดี๋ยวคุณพูดกับเธอเองเลยครับ เธอกำลังจะมาถึงแล้ว ปาริชาติไลน์มาบอกผมก่อนหน้านี้ครับ ผมนัดเธอไว้ที่ห้องทำงาน ผมจะพาคุณไปครับ”  

 

“เดี๋ยวครับ ผมขอบอกลาปัถยาก่อน” เขาหันกลับไปที่เตียงคนป่วย จับมือของเธอไว้

 

“ผมรักคุณนะ...พรุ่งนี้คุณต้องตื่นขึ้นมา สัญญานะครับ” หนุ่มใหญ่ดึงมือของคนไข้ขึ้นมาจูบเบา ๆ

 

นายแพทย์ใหญ่ประคองตัวคนไข้ที่ทำท่าเซเล็กน้อย

 

“คุณยังเคลื่อนไหวมากไม่ได้นะครับ จะกระทบกระเทือนแผลที่ศีรษะ” เขาเตือนคนไข้ก่อนจะประคองให้นั่งลงบนรถเข็น แล้วช่วยเข็นรถของคนป่วยไปที่ห้องทำงานของเขา

 

 

 

ปาริชาติเดินมาถึงหน้าห้องทำงานของสามี หน้าห้องมีป้ายติดอยู่ว่า นายแพทย์ปริวัฒน์ การุณนิพัฒน์ ก่อนจะบิดลูกบิดประตูเปิดเข้าไป หลังจากได้รับข้อความว่า เขารออยู่ที่ห้องทำงาน

 

“ที่รัก...เราจะไปรับลูกกันรึยังคะ” ทันทีที่เปิดประตูเข้ามา หญิงสาวก็พูดขึ้นทันทีพร้อมกับรอยยิ้มหวานมาก ก่อนจะชะงักฝีเท้าเมื่อเห็นว่าสามีมีคนอื่นอยู่ด้วย

 

                                                                            

 

************************ 

 

 

 

สวัสดีค่า...ใกล้จบเข้าไปทุกทีแล้ว ตอนหน้าคงจะจบบริบูรณ์แล้วนะคะ เราใกล้จากกันไปทุกทีแล้ว 

 

วันนี้เอาวิธีนวดกดจุดที่ฝ่ามือมาฝากค่ะ ลองกดเล่น ๆ กันดูนะคะ นั่งดูทีวี นั่งเล่นก็ลองกดดู ลองกดให้ตนเองดู เส้นคงจะตึงไม่น้อยรู้สึกปวด ๆ เลยค่ะ พอกดแล้ว คอ บ่า ไหล่ คลายลงเหมือนกันค่ะ ^^

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

               

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.