บทที่ 404: เฟิงเฉิงมาขอความช่วยเหลือ

[จบแล้ว] ขนเสบียงนับล้าน มาเป็นมาร(ดา)ของเหล่าวายร้าย (อ่านฟรีวันละตอน 12.00)

-A A +A

บทที่ 404: เฟิงเฉิงมาขอความช่วยเหลือ

“หลงโม่ เจ้าทำได้ดีมาก” หูเจียวเจียวกล่าวชมมังกรดำตัวใหญ่พลางตบเกล็ดมังกรเบา ๆ

 

จากนั้นเธอมองไปทางพวกเฟิงอันที่กำลังหลบหนี ก่อนที่เธอจะหันไปขยิบตาให้กลุ่มภูตนกที่บินอยู่ข้าง ๆ 

 

เหล่าภูตนกเข้าใจความหมายที่เธอต้องการสื่อทันที แล้วพวกเขาก็มองหน้ากันก่อนจะไล่ตามคนกลุ่มนั้นไป

 

ในช่วงฤดูหนาว ภูตบินได้จะมีความได้เปรียบในการเดินทางมากที่สุด

 

ทางด้านมังกรหนุ่มที่ได้รับคำชมจากจิ้งจอกสาวเคลื่อนตัวร่อนลงบนพื้นที่เปิดโล่งอย่างรวดเร็ว

 

“เฟิงเฉิง พี่ใหญ่ พวกท่านเป็นอะไรไหม?”

 

หูเจียวเจียวกระโดดลงจากมังกรตัวใหญ่แล้ววิ่งไปหาทั้งคู่ด้วยสีหน้าเป็นห่วง

 

“ข้าไม่เป็นไร” เฟิงเฉิงส่ายหัวในขณะที่นางพยายามลงจากตัวจิ้งจอกขาว

 

ทว่าจิ้งจอกหนุ่มลับเล็บของเขาพลางเดินวนที่เดิมไปมา 2-3 รอบโดยไม่เปิดโอกาสให้นางลงไปจากหลังตน

 

ซึ่งท่าทางนั้นบ่งบอกว่าเขากำลังโกรธมาก

 

ถ้าเขามาช้าไปกว่านี้แม้แต่ก้าวเดียว นางจะถูกภูตกลุ่มนั้นจับตัวไป!

 

ต่อให้นางพยายามจะปฏิเสธเขา แต่นางก็ไม่ควรเอาชีวิตตัวเองมาเสี่ยงแบบนี้!

 

ถ้าวันนี้นางไม่ยอมรับผิด...

 

ข้าจะไม่มีวันให้อภัยนาง!! 

 

ในเวลาเดียวกัน เฟิงเฉิงก้มมองลงไปที่คราบเลือดบนขนสุนัขจิ้งจอกสีขาวที่แทบจะกลมกลืนไปกับหิมะ แล้วเสียงที่นางใช้พูดก็ฟังดูร้อนรนโดยที่ไม่รู้ตัว

 

 “หูชิงซาน เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือ?”

 

คำถามของหญิงสาวทำให้จิ้งจอกหนุ่มชะงักไปทันที ก่อนจะใช้อุ้งเท้าลูบใบหน้าตัวเองและตอบเป็นภาษาสัตว์ว่า

 

“ข้าสบายดี ข้าไม่ได้บาดเจ็บ มันเป็นเลือดของภูตพวกนั้น”

 

ดวงตาจิ้งจอกคู่หนึ่งเป็นประกาย ประกอบกับหูจิ้งจอกแหลมที่ตั้งขึ้น ตอนนี้ท่าทางของเขาไม่ต่างจากสุนัขตัวใหญ่ที่กำลังได้รับการปลอบประโลมจากเจ้าของ

 

ชายหนุ่มลืมไปเสียสนิทว่าเมื่อกี้นี้ตนตั้งปณิธานอะไรไว้ ไม่นานภูตที่วิ่งเข้ามาข้าง ๆ ก็ชี้ไปยังเฟิงเสวี่ยที่ถูกจับได้และถามว่า “หูชิงซาน แม่หมอ แล้วผู้หญิงคนนี้ล่ะ เราจะทำยังไงกับนางดี?”

 

“เอาตัวนางกลับไปด้วย” เฟิงเฉิงชำเลืองมองเฟิงเสวี่ยที่ลุกลี้ลุกลนด้วยหางตา

 

ส่วนหูชิงซานก็พยักหน้าเพื่อส่งสัญญาณให้ภูตชายคนนั้นทำตามที่หมอผีสาวบอก

 

ปัจจุบันเฟิงเสวี่ยดูเหมือนวิญญาณจะหลุดออกจากร่างไปแล้ว นางถูกภูตชายรุมมัดด้วยเถาวัลย์ ในตอนที่นางหยุดดิ้นรน นางก็ถูกโยนลงไปบนหลังของภูตคนหนึ่ง

 

สภาพของตอนนี้หญิงสาวคงหนีไปไหนไม่พ้นและกลายเป็นนักโทษในเผ่า 

 

อีกด้านหนึ่ง เหล่าภูตไม่ลืมที่จะเอาต้นไม้ที่หลงโม่โค่นล้มออกรวมถึงทำความสะอาดที่เกิดเหตุจนกลับมาปกติดังเดิม

 

ระหว่างนั้นพวกเขาบังเอิญพบรังกระรอกบนต้นไม้

 

ตอนที่กลุ่มภูตชายเจอกระรอก 2 ตัวกำลังตัวสั่นเทาอยู่ข้างในบ้านของตัวเอง พวกเขาก็นำกระรอกไปหาหูเจียวเจียว

 

“ในต้นไม้มีกระรอกด้วยหรือนี่ โชคดีจัง วันนี้เราได้อาหารเพิ่มด้วย” ดวงตาของจิ้งจอกสาวเป็นประกายขณะมองไปที่กระรอกน้อยแสนอร่อยทั้ง 2 ตัว

 

ส่วนหลงโม่ก็มองดูพวกมันด้วยและเห็นว่าภรรยาสาวดูเหมือนจะสนใจกระรอกมาก

 

วินาทีนั้นเขาพยายามจดจำรูปลักษณ์ของกระรอกอย่างเงียบ ๆ

 

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าในภายภาคหน้า กระต่ายและกระรอกในป่าจะต้องเดือดร้อนมากแค่ไหน

 

ในเวลาเดียวกัน หูชิงซานกลัวว่าเลือดบนตัวของเขาจะเปื้อนเฟิงเฉิง ดังนั้นเขาจึงเกลือกกลิ้งขนไปบนหิมะ

 

ก่อนที่ทุกคนจะเดินทางกลับเผ่า จิ้งจอกหนุ่มอดไม่ได้ที่จะถามน้องสาวว่า 

 

“น้องเล็ก วันนี้เกิดอะไรขึ้น ทำไมเจ้าถึงรู้ว่าเฟิงเฉิงมาที่นี่?”

 

ทางด้านหมอผีสาวคิดว่าชายหนุ่มจะถามตัวเองทันทีว่าทำไมนางถึงวางยาสลบเขา 

 

แต่นางไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะถามคำถามนี้ขึ้นมา

 

เมื่อหูเจียวเจียวได้ยินเช่นนั้น เธอกับเฟิงเฉิงก็หันมามองหน้ากัน ก่อนที่ทั้งคู่จะเผยรอยยิ้มจาง ๆ ออกมา

 

 

ย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่วันก่อน

 

“ท่านเองหรือ ทำไมท่านถึงมาที่นี่?” หูเจียวเจียวเปิดประตูและเห็นเฟิงเฉิงถอดหนังสัตว์ที่คลุมหัวออกด้วยสีหน้าประหลาดใจ

 

ทำไมหมอผีถึงมาที่นี่ด้วยตัวเอง อีกทั้งข้างนอกหิมะกำลังตกหนัก แล้วนางมาที่นี่ได้อย่างไร?

 

“ข้ามีสิ่งหนึ่งที่อยากจะขอความช่วยเหลือจากเจ้า ตอนนี้เจ้าสะดวกคุยไหม?” เฟิงเฉิงมองภูตหญิงตรงหน้าอย่างจริงใจ ก่อนจะเหลือบมองไปทางเด็กตัวเล็กที่โผล่หน้าออกมาจากข้างหลังอีกฝ่าย

 

“สะดวกสิ สะดวก” ผู้เป็นเจ้าบ้านพยักหน้าตอบรับ

 

เธอแทบรอไม่ไหวที่หมอผีจะเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากเธอ!

 

ยิ่งเฟิงเฉิงเป็นหนี้บุญคุณเธอมากเท่าไหร่ เธอก็จะยิ่งขอให้นางรักษาลูก ๆ ได้เพิ่มขึ้นเท่านั้น

 

เดิมทีเธอก็มีสิทธิ์ในการรักษาแล้วครั้งหนึ่ง

 

แต่หูเจียวเจียวรู้สึกว่าเป็นการดีกว่าที่หลงเซียว หลงจง และหยินชางจะได้รับการรักษาพร้อมกัน เพราะเธอกลัวว่าเด็ก ๆ จะคิดว่าตนลำเอียงรักลูกไม่เท่ากัน

 

ครู่ต่อมา แม่จิ้งจอกหันกลับมาสะกิดหัวเล็ก ๆ ข้างหลังตน

 

“แม่กับป้าเฟิงเฉิงมีเรื่องจะคุยกัน พวกเจ้ากลับไปเล่นที่ห้องกันก่อนนะ”

 

การที่เฟิงเฉิงถามคำถามแบบนั้นนำมาก่อนเป็นเพราะสิ่งที่นางพูดอาจจะไม่สะดวกให้คนอื่นได้ยิน 

 

เมื่อลูก ๆ ได้ยินดังนั้น พวกเขาทั้งหมดก็พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

 

ไม่นานร่างเล็กทั้งหลายก็พากันวิ่งขึ้นไปชั้นบน 

 

“เข้ามาสิ” หูเจียวเจียวเปิดประตูเชิญให้แขกเข้ามาข้างในบ้านทันที

 

ขณะเดียวกัน เฟิงเฉิงคอยสังเกตเด็กที่กำลังเดินขึ้นไปข้างบน

 

นางเห็นว่าคนหนึ่งเคลื่อนไหวช้าคล้ายกับจะมีปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็น ส่วนอีกคนมีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่อยู่บนใบหน้าทำให้เขาดูอัปลักษณ์

 

หลายวันที่ผ่านมาหญิงสาวเคยได้ยินเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับหูเจียวเจียวจากหู่จิง

 

พอเฟิงเฉิงคิดว่าอีกฝ่ายไม่ลังเลที่จะเสี่ยงพานางกลับมา ซึ่งเหตุผลส่วนใหญ่ก็เพื่อลูกของตนเอง ความชื่นชมของนางที่มีต่อจิ้งจอกสาวก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อย

 

ในโลกนี้มีพ่อแม่เพียงไม่กี่คนที่ยอมรับความพิการของลูกตัวเอง

 

ขณะที่ภูตบางคนถึงกับโยนลูกเข้าไปในป่าเพื่อเป็นอาหารสัตว์ป่าหลังจากที่พวกเขาพบว่าลูกของตนพิการ

 

สำหรับภูต เด็กพิการหรือไร้ประโยชน์เป็นภาระและเป็นตัวตลกในสายตาคนอื่นเสมอ

 

“นั่งลงก่อนสิ” หูเจียวเจียวนำเก้าอี้มาให้หมอผีสาวและเทน้ำอุ่นชามหนึ่งให้นาง “เจ้ามีอะไรให้ข้าช่วยหรือ?”

 

ทางด้านเฟิงเฉิงนั่งบนเก้าอี้ ถือชามน้ำอุ่นไว้ในมือพลางสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อผ่อนคลายตัวเองลง

 

เวลาผ่านไปไม่นาน ฝ่ามือที่เย็นเฉียบก็อุ่นขึ้น

 

“ข้าต้องการขอให้เจ้าช่วยคนของข้า”

 

เฟิงเฉิงกล่าวพร้อมกับมองเข้าไปในดวงตาของหูเจียวเจียวอย่างตั้งใจ ในขณะที่การแสดงออกของนางระมัดระวังแบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

 

จิ้งจอกสาวที่ได้ยินเช่นนั้นก็เลิกคิ้วขึ้น “สำหรับเรื่องแบบนี้ ท่านควรไปหาท่านผู้เฒ่ามากกว่า ข้าที่เป็นผู้หญิงจะช่วยคนในเผ่าของท่านได้ยังไง”

 

ผู้เป็นหมอผีถูกเธอพากลับมาจากเผ่าหมาป่าก็จริง

 

แต่ตอนที่เธอตกลงกับเฟิงเฉิงว่าจะพานางหนีออกมาจากเผ่าหมาป่า นางก็ไม่ได้พูดว่าจะให้เธอพาใครกลับมาด้วย

 

ไม่ว่าหมอผีสาวจะเลือดเย็น ไร้ความปรานี แล้วสนใจแต่เรื่องของตัวเองแค่ไหน แต่การที่นางเพิ่งมาพูดกับจิ้งจอกสาวตอนนี้มันบ่งบอกว่าคนของนางไม่ได้อยู่ในเผ่าหมาป่า

 

หูเจียวเจียวคิดว่าตัวตนของเฟิงเฉิงนั้นไม่ได้ตื้นเขินเหมือนที่เห็นภายนอก และนางไม่สามารถอยู่ในเผ่าได้อย่างสงบสุข แต่เธอไม่เคยคิดว่าอีกฝ่ายจะมาขอความช่วยเหลือจากเธอเองแบบนี้

 

มันเกินความคาดหมายของเธอไปมาก

 

“เจ้าทำได้” คนเป็นหมอผีไม่ได้คิดเช่นนั้น น้ำเสียงที่นางเปล่งออกมามั่นใจมาก

 

ในสายตาของหญิงสาว หูเจียวเจียวเป็นภูตหญิงที่ฉลาดที่สุดเท่าที่นางเคยพบมาในชีวิต

 

ถ้าอีกฝ่ายช่วยนางไม่ได้ ภูตคนอื่นก็ช่วยไม่ได้เช่นกัน

 

แม้ว่าไอ้คนงี่เง่าคนนั้นจะไม่มีสมอง แต่เขาก็มีเล่ห์เหลี่ยมเยอะกว่าพวกภูตที่ซื่อสัตย์

 

ทางด้านหูเจียวเจียวลดศีรษะลงเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มอย่างช่วยไม่ได้และส่ายหัวเบา ๆ

 

จากนั้นเธอก็เอ่ยถามอีกครั้งว่า

 

“ทำไมท่านถึงคิดว่าข้าจะช่วยท่าน?”

 

“มีหมอผีคนอื่นในเผ่าของท่านหรือไม่?”

 

จิ้งจอกสาวถามขึ้นมาห้วน ๆ

 

ความหมายก็คือ ถ้าเธอไม่เห็นประโยชน์อะไรในการยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือในครั้งนี้ เธอก็ไม่กล้าเสี่ยงที่จะช่วยนาง

 

“ไม่ ไม่มีหมอผีในเผ่าของข้า” เฟิงเฉิงส่ายหัวตอบ ดวงตาของนางฉายให้เห็นถึงความจริงใจชัดเจน และไม่มีวี่แววของการโกหก

 

พอหูเจียวเจียวได้ยินเช่นนี้ก็เชิดคางขึ้นเล็กน้อย

 

ในขณะที่หมอผีสาวกล่าวต่อไปแบบไม่รีบร้อน

 

“ยังไงก็ตาม คนที่ข้าต้องการให้เจ้าช่วยล้วนแต่เป็นผู้หญิง”

 

“พวกนางมีมากกว่า 30 คน”

 

“!!!”

 

ผู้หญิงมากกว่า 30 คน! เผ่าของนางต้องใหญ่ขนาดไหนกัน!

 

หูเจียวเจียวอาศัยอยู่ที่นี่มานานแล้ว และเธอไม่เคยเห็นภูตหญิงมากมายขนาดนี้มาก่อน

 

“จะให้ข้าช่วยเฉพาะผู้หญิงเท่านั้นหรือ?” จิ้งจอกสาวพูดเข้าประเด็น จากนั้นเธอครุ่นคิดบางอย่างแล้วถามพร้อมกับขมวดคิ้ว “นี่จะให้ข้าช่วยหรือปล้นกันแน่?” 

 

2 คำนี้มันแตกต่างกันคนละโยชน์เลยนะ

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.