บทที่ 14 ตีตัวออกห่าง

พลิกรักทิวา

-A A +A

บทที่ 14 ตีตัวออกห่าง

หมวดหนังสือ: 

ติ๊งน๋อง ติ๊งน๋อง ติ๊งน๋อง

เสียงข้อความจากโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ทำให้ทิวาที่ตอนนี้นอนหลับสนิทไม่รู้สึกตัวเพราะความเหนื่อยล้าจากเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา ลืมตาตื่นขึ้นหลังจากนอนหลับไปแล้วหลายชั่วโมง เธอเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือทั้งที่ตายังคงหลับอยู่ ทิวาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเปิดดูข้อความที่ส่งเข้ามาจากแจ้งเตือนล่าสุด

‘เอะ รูปโปรไฟล์นี่มันใครกัน เราไม่มีบุคคลคนนี้เป็นเพื่อนในเฟสบุ้กนี่นา’

เมื่อมองเห็นรูปโปรไฟล์เล็ก ๆ จากแจ้งเตือนก็ทำให้ทิวาเกิดความฉงน แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจต่อไป เปิดดูข้อความในโทรศัพท์มือถือ เมื่อเปิดดูข้อความทิวาถึงกับผงะขว้างโทรศัพท์เครื่องใหม่ทิ้งไปทางเตียงแทบไม่ทัน

‘ (แนบไฟล์คลิป) ’

‘มึงนี่ขึ้นกล้องดีนะ’

‘กูว่าถ้ามึงฉลาด มึงคงรู้นะว่าควรเงียบปากเรื่องนี้เอาไว้ แต่ถ้ามึงอยากหมดอนาคต การเป็นนักศึกษาทุนแล้วเปลี่ยนสายไปเป็นนางเอกหนังโป๊แทนละก็มึงก็เอาเรื่องนี้ไปบอกคนอื่นได้เลย เพราะทันทีที่มีคนอื่นรู้เรื่องนี้ มึงจะได้กลายเป็นนางเอกหนังโป๊ชั่วข้ามคืนแน่ กูให้สัญญา’

‘แล้วอย่าลืมคำพูดของมึงเมื่อคืนนี้ เพราะถ้ากูเห็นมึงอยู่ใกล้เพทายอีก มึงก็อาจจะได้กลายเป็นนางเอกหนังโป๊ขึ้นมาจริง ๆ ก็ได้’

ถึงโปรไฟล์จะไม่ได้บ่งบอกว่าเป็นใคร แต่ทิวาก็เดาออกว่าใครเป็นคนส่งข้อความนี้มาให้เธอ เมื่อทิวาเปิดดูได้เพียงไม่กี่วินาทีก็ต้องโยนโทรศัพท์ทิ้ง เพราะเมื่อคืนนี้เขมันต์ยืนอัดคลิปนี้เองกับมือ คลิปที่ส่งมาถูกเบลอหน้าและร่างบางส่วนของชายทั้งสองคนไว้แล้ว

ทิวาคิดว่าถึงเขาจะไม่ขู่เธอ ก็ไม่มีทางไปบอกเรื่องน่าอายนี้กับใครเด็ดขาด มันอาจจะมีผลต่อการพิจารณาการให้ทุนการศึกษาของมหาวิทยาลัยแก่เธอด้วย เธอคงต้องยอมเลิกยุ่งกับเพทาย เพื่อแลกกับอนาคตของเธอเอง

“ไอ้สารเลว ฉันไปทำอะไรให้แกนักหนา ทำไมต้องทำกับฉันถึงขนาดนี้ด้วย” เมื่อตื่นขึ้นมาทิวาก็ต้องมาเจอเรื่องนี้ตามมาหลอกหลอนเธออีก เรื่องที่เธออยากจะล้างมันออกจากสมองให้หมด ก็ไหลเข้ามาในสมองฉายภาพวนไปอยู่อย่างนั้น ยิ่งอยากลืมเท่าไหร่ภาพจำก็ยิ่งชัดเจน

‘ฮึก ฮืออ ฮือ ฮือออออ ฮือออออ’

ทิวาปล่อยโฮอีกครั้งหนึ่งคราวนี้เธอไม่สนใจแล้วว่าใครจะได้ยินเสียงเธอร้องไห้ เธอร้องไห้อย่างเต็มเสียงที่อยากจะร้อง ถ้าไม่ได้ระบายต้องเป็นบ้าแน่

‘เกลียดมึง กูเกลียดมึง ตั้งแต่เกิดมากูยังไม่เคยเกลียดใครเท่ามึงมาก่อนเลย มึงมันเป็นคนเลวที่ไร้ซึ่งเหตุผล ทำได้ทุกอย่างตามความต้องการของตัวเอง โดยไม่สนใจศีลธรรมหรือคุณธรรมอะไรทั้งนั้น ทำร้ายได้แม้กระทั่งคนไม่มีทางสู้ ชาตินี้กูขออย่าได้เจอะได้เจอกับคนอย่างมึงอีกเลย’

 

……………….

“มึงทำไมวันนี้ ทิวามันไม่มาเรียนว่ะ ติดต่อก็ไม่ได้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว” เพทายถามเพื่อนอีกสองคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขาส่งข้อความไปหาเธอ แต่เธอไม่ได้ตอบกลับหรือเปิดอ่านเลย

“อืมตั้งแต่วันเสาร์ที่มันเข้าห้องน้ำในผับไปก็ไม่เห็นมันอีกเลยว่ะ” วิษณุพูด

“พวกมึงว่ามันจะโกรธเราเปล่าว่ะที่เมาจนหลับทิ้งให้มันกลับเองคนเดียว” มินนี่ถาม

“คงไม่หรอกมั้ง มันเป็นคนโกรธยากออกไอ้ทิวาอ่ะ” วิษณุพูดเพราะหลาย ๆ ครั้งที่เขากวนประสาทเธอ เธอก็ไม่เคยโกรธ มีแต่ว่าเขาว่าเล่นเป็นเด็ก ๆ

“อืม งั้นเดี๋ยวกูจะไปดูมันที่หอหน่อย หลังเรียนเสร็จ พวกมึงไปกับกูมั้ย” ทั้งสองคนพยักหน้าเป็นอันว่าตกลง เพราะก็เป็นห่วงทิวาเหมือนกันเธอไม่เคยหายไปแบบนี้ไม่เคยตอบข้อความเพื่อนช้า ไม่เคยไม่อ่านแชทของเพื่อนไม่ว่าจะคุยเรื่องไร้สาระเท่าไหร่ก็ตาม แล้วที่สำคัญทิวารักการเรียนมากเธอไม่มีทางขาดเรียนโดยไม่มีเหตุผล

ตั้งแต่ที่ทิวาเข้าห้องน้ำไปพวกเขาก็เล่นเกมกันต่ออย่างสนุกสนาน จนทำให้ลืมเวลาและไม่ได้คิดถึงทิวาที่ไม่รู้ว่าไปเข้าห้องน้ำนานแค่ไหนแล้ว พอพวกเขาทั้งสามรู้ตัวอีกทีก็เช้าวันรุ่งขึ้น จุลภาคให้เหตุผลพวกเขาว่าเมาจนหลับไปเลยพาขึ้นมานอนบนห้อง ส่วนทิวากลับไปก่อนแล้ว เพราะเธอไม่ได้เมา แล้วอยากกลับไปนอนที่หอมากกว่า

 

………………..

@หอ ทิวา

“พวกมึงเดี๋ยวกูลองโทรถามทิวาก่อนดีกว่า ว่ามันอยู่ห้องไหนเผื่อมันรับ แต่ถ้ามันไม่รับค่อยไปถามเจ้าหน้าที่หอ” ตอนนี้ทั้งสามนั่งรถเพทายมาถึงหน้าหอทิวาแล้ว มินนี่ก็หยิบมือถือโทรหาเพื่อนโดยใช้แอปฯ เมสเซนเจอร์ เพราะยังไม่ได้เบอร์ใหม่เพื่อน

(ฮัลโล)

“นี่มึงยังไม่ตายอีกหรอเนี่ย กูนึกว่ามึงตายไปแล้วติดต่อก็ไม่ได้ เรียนก็ไม่ไป” มินนี่พูดรัวเร็ว เมื่อได้ยินเสียงจากปลายสาย

(กูไม่ค่อยสบายอ่ะ)

“อ้าวหรอ กูก็ว่าอยู่ทำไมมึงหายไปเลย แล้วมึงเป็นอะไรมากป่ะเนี่ย” มินนี่ถามอย่างเป็นห่วง

(อืม ดีขึ้นมากแล้วล่ะ)

“ดีแล้ว แล้วมึงอยู่ห้องไหนอ่ะกูกับไอ้สองตัว ตอนนี้อยู่หน้าหอมึงเดี๋ยวพวกเราจะขึ้นไปเยี่ยม”

(ห๊ะ พวกมึงอยู่หน้าหอกูหรอ) ทิวาโพล่งขึ้นด้วยความตกใจ

“ก็เออดิ นี่เรียนเสร็จพวกกูก็มาหามึงเลย กะว่าจะชวนไปกินข้าวด้วยกัน แต่ถ้ามึงไม่สบายพวกกูไปเยี่ยมก็พอ” เมื่อทิวาได้ยินว่าเพื่อนเรียนเสร็จก็ตรงมาหาเธอเลย ทิวาก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมากระตุกที่ใจดวงนี้ รู้สึกขอบคุณที่พวกเขายังเป็นห่วงเพื่อนคนนี้อยู่

(เอ่อ มึงไม่ต้องขึ้นมาหรอกคือ สภาพกูตอนนี้มันโทรมมากเลยอ่ะกูอาย แล้วอีกอย่างกูก็ไม่เป็นไรแล้ว พวกมึงไปกินข้าวกันเถอะ ขอบใจมากที่เป็นห่วงกู เดี๋ยวพรุ่งนี้กูก็ไปเรียนแล้ว) ถึงจะบอกเพื่อนว่าไม่เป็นไร แต่ใจจริงตอนนี้ของทิวาอยากที่จะออกไปหาเพื่อนแล้วเล่าความจริงทุกอย่างให้เพื่อนฟังว่าเธอไปเจออะไรมาบ้าง แค่อยากจะแชร์ความเจ็บปวดครั้งนี้กับใครสักคน แค่เขาคนนั้นรับฟังเธอเฉย ๆ ไม่ต้องปลอบโยนอะไรเธอก็ได้ แต่เธอก็ทำไม่ได้ ใช่ เขาขู่เธอเอาไว้ว่าห้ามให้ใครรับรู้เรื่องนี้ แต่ถ้าเกิดเขาไม่ได้ขู่แล้วเธอจะกล้าบอกพวกนั้นจริง ๆ หรอ บอกไปแล้วพวกเขาจะเชื่อเธอหรอ พวกเขาจะเลือกเชื่อเพื่อนใหม่ที่มาจากบ้านนอกคนนี้ หรือหนุ่มฮอตที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั่วมหาวิทยาลัย ชายหนุ่มที่มีโปรไฟล์เริศหรูราวกับถูกเขียนขึ้นในนิยาย แล้วยังเป็นแฟนของเพทายอีก... แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรทิวาก็ยังไม่กล้าเสี่ยงที่จะเจอพวกเขาตอนนี้

“มึงแน่ใจนะว่าโอเคแล้ว” มินนี่ถามซ้ำเพื่อความมั่นใจ

(อื้ม)

“โอเค งั้นดูแลตัวเองดี ๆ นะมึง”

จากนั้นทั้งสามคนก็พาไปกินข้าว ส่วนทิวาก็ลงไปเอาของที่มีคนฝากมาให้เธอที่ใต้หอ ตั้งแต่วันเสาร์

“ป้าคะ ป้าบอกว่ามีคนฝากของไว้ให้หนูหรอคะ” เมื่อเห็นกระดาษโน๊ตที่แปะไว้หน้าห้องบอกว่ามีคนฝากของไว้ให้เธอตั้งแต่วันเสาร์แล้ว แต่ทิวายังไม่มีกะจิตกะใจจะลงมาดู

“อ้อ หนูอยู่ชั้นห้าใช่มั้ย” ป้าเจ้าของหอถามผู้มาใหม่

“ค่ะ”

“นั่นน่ะ เขาฝากไว้ตั้งแต่วันเสาร์แล้ว มาเอาไปสิ” ทิวามองไปตามมือหญิงวัยกลางคนก็เห็นลังที่มีกองชีทอยู่ข้างในที่มีความหนาประมาณกระดาษเอสี่สามรีมได้ ก็เดินไปดู

“หึ เป็นแฟนที่เ*ี้ย แต่คิดจะเป็นสายรหัสที่ดีอย่างนั้นหรอ” แฟนที่เ*ี้ยที่เที่ยวไล่หึงคนอื่นไปทั่วอย่างไม่มีเหตุผล จะมาเป็นพี่สายรหัสที่ดีที่ใส่ใจการเรียนของน้อง ทิวาไม่สนใจที่จะเอากลับด้วยแล้ว เธอหันกลับมุ่งหน้าเดินขึ้นห้อง

“อ้าวหนูจะไปไหน เอาไปด้วยสิมันรกนะ” เมื่อป้าเจ้าของหอเห็นว่าทิวาไม่สนใจจะเอากล่องลังกลับไปด้วยก็ทักขึ้น มันอยู่นี่มาหลายวันแล้ว

ทิวาต้องทำใจนับหนึ่งถึงสิบในใจ อยากจะตอบว่าเอาไปทิ้งได้เลย แต่ก็หันกลับไปยกลังขึ้นห้อง

 

ปึ้ก ปึ้ก ปึ้ก

เสียงกระดาษที่ถูกเทออกจากลังกระจัดกระจายออกมา ทิวามองดูมันด้วยความรู้สึกหงุดหงิด

“ที่กูเอามาด้วย เพราะรู้ว่าไม่ได้มีแค่ของมึงหรอกนะ” ทิวาพูดกับกองกระดาษชีทสรุปวิชาเรียนที่เธอเคยอยากได้นักอยากได้หนา เธอจัดการแยกกระดาษชีทที่มีชื่อเขมันต์ออก แล้วโยนทิ้งลงไปในถังขยะมองดูมันอย่างพอใจ ถึงจะทำอะไรเขาไม่ได้แต่ทำกับของของเขาก็ยังดี ทิวามองดูมันอยู่พักหนึ่งแล้วก็นั่งลงเปิดดูหาเนื้อหาผ่าน ๆ

 

“ก็สรุปดีหนิ ...กูเก็บไว้ให้น้องรหัสกูก็ได้” สุดท้ายทิวาก็เก็บมันขึ้นมา มันเป็นความบาดหมางระหว่างเธอกับเขาแต่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับน้องรหัสในอนาคตของเธอ ทิวามักจะใช้เหตุผลในการทำสิ่งต่าง ๆ เสมอ ถึงแม้ว่าหลายครั้งจะตรงข้ามกับความรู้สึกของตัวเอง เธอก็จะเลือกทางที่ถูกต้อง

 

 

**********************

 

**ที่เห็นว่าทอประกายดั่งดวงดาว

ที่แท้มันคือความลวงจากดวงไฟ

แผ่นฟ้าในเมืองแห่งฝัน ยิ่งย้ำให้ฉันยิ่งเหงาจับใจ**

<ความรู้สึกโดดเดี่ยวกลับมาแผ่กระจายในใจของทิวาอีกครั้ง>

#ขอบคุณเพลงใจกลางเมือง-ลาบานูน

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.