บทที่ 192 แพคคู่
ใบหน้าสวยเสหลบสายตาเขาเล็กน้อย ก่อนจะเปิดปากบอกในสิ่งที่ตัวเองคิดเอาไว้ออกมา...
“เอ่อ..เอลิซอยากเป็นคนบอกเขาด้วยตัวเองน่ะค่ะ อีกอย่างเพราะเอลิซรู้อยู่แล้วว่าคนอย่างคุณเซฟยังไงเขาก็จะต้องรู้ถึงการมาโรงพยาบาลนี้ของเอลิซแน่นอนค่ะ” ฉันตอบไปตามที่ฉันคิด แต่เหตุผลนั้นมันก็แค่บางส่วนเท่านั้น เพราะว่าเหตุผลส่วนลึกจริง ๆ เลยก็คือ ฉันยังไม่อยากให้ใครรู้เรื่องการตั้งครรภ์ในครั้งนี้ของฉัน
...เพราะฉันรู้สึกว่าถ้าเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ตัวฉันและลูกคงไม่ปลอดภัยแน่ ๆ
“อ๋อ...อย่างนั้นเองหรอครับ...ได้ครับสำหรับเรื่องนั้นไม่มีปัญหา” เขาที่หน้าสลดลงเล็กน้อย เมื่อฟังถึงเหตุผลของฉัน พร้อมกับเอ่ยตกปากรับคำที่จะช่วยปิดเรื่องนี้ของฉันให้เป็นความลับระหว่างเราต่อไป
หลังจากที่ทั้งฉันและคุณมาร์คได้ตกลงที่จะเก็บความลับเรื่องที่ฉันท้องเอาไว้ สักพักพยาบาลคนเดิมที่พาฉันเข้ามา ก็เดินเข้ามาตามให้ฉันออกไปเพื่อทำการตรวจในขั้นตอนต่อไป
“เชิญตามดิฉันไปที่ห้องอัลตร้าซาวด์ได้เลยค่ะ” เสียงพยาบาลสาวที่เพิ่งเข้ามาเอ่ยทำลายความเงียบระหว่างฉันกับคุณมาร์ค
ฉันลุกขึ้นยืนเพื่อที่จะเดินตามพยาบาลคนนั้นไป ก่อนที่จะไม่ลืมหันไปโค้งหัวน้อย ๆ ให้กับคุณมาร์คอีกทีเพื่อเป็นการขอบคุณ...
ณ ห้องอัลตร้าซาวด์ โรงพยาบาล M พรีเมียม
หลังจากที่พยาบาลพาฉันเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าของโรงพยาบาลเพื่อให้ทำการอัลตร้าซาวด์ได้สะดวกเนื่องจากชุดที่ฉันใส่มามันไม่ค่อยอำนวยความสะดวกในการตรวจสักเท่าไร
ฉันที่เมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็เดินตามพยาบาลเพื่อเข้าไปในห้องอัลตร้าซาวด์...
“สวัสดีค่ะ...คุณเอลิซ หมอเป็นเพื่อนกับหมอมาร์คนะคะ ทำตัวตามสบายได้เลยค่ะ” คุณหมอคนสวยเอ่ยทักทายฉันทันทีที่ฉันเดินเข้าห้องมา
“สวัสดีค่ะ คุณหมอ” ฉันเอ่ยทักทายกลับ พร้อมกับความรู้สึกถูกชะตากับหมอคนสวยตรงหน้า
“เชิญคุณเอลิซ ขึ้นนอนบนเตียงได้เลยค่ะ” คุณหมอเอ่ยบอกด้วยท่าทางเป็นมิตร
ฉันทำตามคำแนะนำของคุณหมอคนสวยที่บอกให้ฉันเดินขึ้นไปนอนบนเตียง หลังจากที่ฉันเอนตัวนอนลง คุณหมอก็เปิดเสื้อของฉันขึ้นแล้วเอาเจลเย็น ๆ ใส ๆ ทาบริเวณท้องน้อย จากนั้นคุณหมอก็หยิบเครื่องมือที่ใช้ตรวจมากดลงไปเล็กน้อยบนหน้าท้องของฉัน แล้วเริ่มหาสิ่งมหัศจรรย์เล็ก ๆ ที่อยู่ข้างในด้วยท่าทางสบาย ๆ
ตึกตักๆๆๆ
ท่าทางของคุณหมอที่ดูสบาย ๆ แต่กลับกลายเป็นตัวฉันที่ตอนนี้หัวใจกำลังเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้น พร้อมกับสายตาที่จับจ้องไปยังหน้าจอเล็ก ๆ อย่างไม่วางตา แม้ว่าฉันจะดูไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร แต่ความรู้สึกตื้นตันใจ ที่กำลังจะได้เจอเซบาสเธียน้อย เอ๊ะ หรือเอลิซน้อยดีนะ มันทำให้ดวงตากลมโตเริ่มมีเม็ดน้ำใสไหลรื้นออกมาคลอที่ดวงตา
“เจอแล้วค่ะ...” คุณหมอบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น หลังจากที่วนเครื่องมืออยู่ที่หน้าท้องของฉันสักพัก
ฉันมองตามด้วยหัวใจที่พองโต แม้ว่าจะยังมองไม่ออกว่าคุณหมอเจออะไร
“คุณเอลิซเห็นไหมคะ...เจ้าถุงเล็ก ๆ นี่ไงคะ” คุณหมอเอ่ยบอกอีกครั้งพร้อมกับดวงตาที่เป็นประกายยามมองภาพที่อยู่ในจอ โดยที่ฉันพยายามมองหน้าจอที่ดูเหมือนจะมีอะไรกระดุกกระดิกดิ้นไปมาไม่หยุด
ฉันที่เพ่งมองหน้าจอแล้วมองหน้าจออีก แต่ก็ยังมองไม่ออก จนกระทั่งคุณหมอต้องเอามือชี้ให้ดูถุงบางอย่างที่กำลังดิ้นหนีไปมา
“อ่ะ...เอลิซเห็นแล้วค่ะคุณหมอ...ฮึก...ฮึก” ฉันที่พอได้เห็นเจ้าก้อนกลม ๆ ใบน้อย ๆ ที่ดิ้นหนีเครื่องมือคุณหมอไปมา ถึงกลับทำให้ก้อนสะอื้นขึ้นมาจุกที่ลำคอ ความตื้นตันที่ตีตื้นขึ้นมาส่งผลให้น้ำตาที่รื้นออกมาก่อนหน้านี้รินไหล
คุณหมอสาวยิ้มให้ฉันด้วยความรู้สึกเอ็นดูพร้อมกับส่งทิชชูมาให้ เธอเองก็ชอบเวลาที่ได้เห็นสีหน้าที่เปี่ยมไปได้ความสุขของว่าที่คุณแม่ทุกคนยามที่ได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์เล็ก ๆ ในท้อง และด้วยเหตุผลนี้เองที่ทำให้เธอเลือกที่จะเรียนเฉพาะทางเป็นหมอสูติฯ
และในขณะที่คุณหมอคนสวยหันไปมองที่หน้าจอมอนิเตอร์อีกครั้ง เพื่อตรวจดูรายละเอียดอย่างอื่นเพิ่มเติม จู่ ๆ คุณหมอก็ร้องอุทานออกมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย...
“แต่...เอ๊ะ...!!”
ฉันที่กำลังมองเจ้าก้อนกลมนั้นเพลิน ๆ ถึงกับรู้สึกไม่สบายใจเมื่อได้ยินเสียงร้องของคุณหมอที่อยู่ตรงหน้า ที่ร้องออกมาด้วยความตกใจ อีกทั้งคิ้วเรียวสวยของเธอยังขมวดเข้าหากันเหมือนมีเรื่องอะไรบางอย่างที่ดูท่าจะไม่ปกติ...
ภาพตรงหน้าที่แสดงถึงอากัปกิริยาของคุณหมอ ทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกระแวง ความกังวลก่อตัวขึ้นมาในหัวใจของคนเป็นแม่ตามสัณชาตญาณที่เป็นห่วงลูกทันที พร้อมกับความคิดที่พรั่งพรูเข้ามาจนแทบจะอดรนทนไม่ไหวที่จะอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในหน้าจอมอนิเตอร์นั้น
(เกิดอะไรกับลูกของฉันหรือเปล่า หรือว่าลูกมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า) ใจที่เต้นระรัวด้วยความรู้สึกกลัวที่มาพร้อมกับความคิดเป็นห่วงที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดเมื่อคิดถึงสิ่งมีชีวิตน้อย ๆ ที่ได้ชื่อว่าลูก...
“มะ...มีอะไรหรือคะคุณหมอ...กะ...เกิดอะไรขึ้นกับลูกเอลิซหรือเปล่าคะ” ฉันถามหมอด้วยเสียงที่เริ่มสั่นเครือ
“เดี๋ยวขอหมอดูให้ละเอียดอีกทีนะคะ” คุณหมอที่ตอนแรกใบหน้ายิ้มแย้ม ตอนนี้กลับมีสีหน้านิ่งเรียบจนฉันรู้สึกกลัวมากขึ้นไปอีก
คำพูดของคุณหมอไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นเลย มีแต่จะทำให้ฉันเพิ่มความร้อนรนในหัวใจมากยิ่งขึ้น และในระยะเวลาไม่กี่นาทีที่คุณหมอบอกเพื่อทำการตรวจเพิ่มเติม แต่ทำไมสำหรับฉัน มันถึงกลับรู้สึกว่านานนับปี ในระหว่างที่รอคำตอบจากคุณหมอว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า
“อ่ะ...โอเคค่ะ”
ในขณะที่ฉันนอนรอคำตอบอย่างร้อนใจ จู่ ๆ คุณหมอสาวก็ร้องขึ้นมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้สีหน้าคุณหมอกลับดูสดใสดีใจอย่างบอกไม่ถูก
“วะ...ว่ายังไงคะ...มีอะไรเกิดขึ้นกับลูกเอลิซหรือเปล่าคะ”
ฉันที่เป็นกังวลแทบขาดใจรีบเอ่ยถามคุณหมอทันที...
สีหน้าที่เป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัดของฉัน ระคนไปด้วยความรู้สึกสงสัยที่ทำไมความเคร่งเครียดของคุณหมอถึงเปลี่ยนไปมา
“ยินดีด้วยนะคะคุณเอลิซ...” ^-^ จู่ ๆ คุณหมอก็พูดแสดงความยินดี
“ค่ะ...??” ฉันที่ตอบกลับอย่าง งง ๆ ว่าคุณหมอยินดีเรื่องอะไรกัน
“...คุณเอลิซได้...ลูกแฝด...ค่ะ” ^-^
(- o -) สีหน้าของฉัน ที่ไม่รู้ว่าควรจะช็อกกับอะไรก่อนดี ระหว่างท่าทางแอคติ้งของคุณหมอคนสวยที่ดูน่าหยิกแก้มสักที หรือว่า จะเป็นเรื่องที่ฉันได้...ลูกแฝด...
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 47
แสดงความคิดเห็น