บทที่ 413: ถ้าเราตาย เราจะลากพวกมันลงนรกไปกับเรา!

[จบแล้ว] ขนเสบียงนับล้าน มาเป็นมาร(ดา)ของเหล่าวายร้าย (อ่านฟรีวันละตอน 12.00)

-A A +A

บทที่ 413: ถ้าเราตาย เราจะลากพวกมันลงนรกไปกับเรา!

ขณะนี้ภูตนกทั้ง 2 มองไปรอบ ๆ เพื่อมองหาร่างของอิงหยวน

 

เวลาผ่านไปไม่นาน กองหินตรงเท้าของพวกเขาก็ขยับ

 

“หลง-โม่!”

 

ตามด้วยเสียงลอดไรฟันของอินทรีหนุ่มดังขึ้นมาจากใต้กองหิน

 

ถ้าสังเกตให้ดี ๆ จะเห็นว่ามีมือยื่นออกมา ซึ่งภาพนั้นทำให้ภูตนก 2 คนตกใจรีบถอยหนีออกห่าง หลังจากทั้งคู่มองดูดี ๆ แล้วก็รู้ว่านั่นเป็นอิงหยวนที่พวกตนตามหาอยู่

 

ถัดมา ภูตนกทั้ง 2 บอกเบาะแสที่พวกเขาเพิ่งตรวจพบให้อีกฝ่ายฟัง

 

ปัจจุบันหัวของอินทรีหนุ่มเต็มไปด้วยเศษฝุ่น ประกอบกับมีใบหน้าซีดเซียว และเมื่อเขาได้ยินว่าสมาชิกในกลุ่มสามารถหาตำแหน่งของภูตหญิงได้ สีหน้าบิดเบี้ยวของเขาก็กลับมาดีขึ้น

 

จากนั้นเขาเช็ดเศษฝุ่นออกจากใบหน้าและพูดเสียงดังว่า

 

“แล้วจะมัวรออะไรอยู่ล่ะ ไปตามหาพวกผู้หญิงกันเดี๋ยวนี้เลย หาพวกนางให้พบแล้วรีบกลับไปยังเผ่า” 

 

ตอนนี้ลู่เมี่ยนเอ๋อที่กำลังตั้งท้องยังรอเขาอยู่ แม้ว่าหัวหน้าเผ่าจะส่งคนให้ส่งเสบียงไปให้นางในช่วงวันที่เขาไม่อยู่ แต่สิ่งนี้มันจะเปรียบเทียบกับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากสามีได้อย่างไร

 

ชายหนุ่มแทบรอไม่ไหวที่จะกลับไปหาภรรยาสาว

 

ตอนนี้พออินทรีหนุ่มรู้ว่าเขาจะได้พบกับพวกผู้หญิงที่ทุกคนกำลังตามหา เขาก็ไม่อยากจะเสียเวลาแม้วินาทีเดียว ตอนนี้ใจของเขาแทบจะติดปีกบินกลับเผ่าไปแล้วด้วยซ้ำ

 

“แต่หิมะยังตกหนักไม่หยุด ถ้าเราไปหาพวกนางตอนนี้ พวกผู้หญิงคงไม่กล้าฝ่าหิมะกลับไปกับเรา...” ภูตที่ค้นพบเบาะแสตอบอย่างลังเล

 

ภูตอีกคงยังเสริมเสียงอ่อยว่า

 

“และเรายังไม่ได้รับการยืนยันว่าพวกนางเป็นคนที่เรากำลังตามหาอยู่จริงหรือเปล่า แล้วอีกฝ่ายก็ไม่รู้จักเรา ถ้าพวกนางไม่ยอมกลับไปกับเราล่ะ...”

 

แม้ว่าเหล่าภูตชายจะกังวลมากแค่ไหน แต่พวกเขาทั้งหมดก็รู้ว่าการจัดการเรื่องผู้หญิงไม่ควรรีบร้อน

 

เมื่อสมาชิกคนอื่นเห็นท่าทีที่แน่วแน่ของอิงหยวน พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องขอความช่วยเหลือจากหลงโม่

 

“หลงโม่ ตอนนี้เราจะทำยังไงดี?”

 

เวลาต่อมา มังกรหนุ่มที่ทำหน้านิ่งก็ขยับตัวลุกขึ้นยืนช้า ๆ ก่อนจะปัดฝุ่นตามตัวแล้วพูดด้วยเสียงทุ้ม

 

“เลือกภูตที่เดินทางเร็วที่สุดมา 2 คนให้กลับไปที่เผ่าเพื่อรับเฟิงเฉิง แล้วพวกเจ้าก็บอกเล่าให้นางฟังเกี่ยวกับสถานการณ์ที่นี่” 

 

“รับทราบ” ภูตเชื่อฟังคำพูดของหลงโม่และลงมือทำทันที

 

ถึงอย่างไร หลงโม่ก็เป็นภูตที่แข็งแกร่งที่สุดในตอนนี้ แม้แต่อิงหยวนก็ยังไม่สามารถเอาชนะเขาได้

 

หลังจากภูต 2 คนที่ได้รับเลือกกลับเผ่าไปแล้ว มังกรหนุ่มก็สั่งอีกครั้ง

 

“ส่วนคนที่เหลือหาที่อยู่ของผู้หญิงต่อไป พอเฟิงเฉิงมาถึงที่นี่ ก็ให้นางไปรับคนของนางกลับเผ่าด้วยตัวเอง”

 

พอภูตชายในกลุ่มได้ยินเช่นนี้ก็พยักหน้าตอบรับ

 

นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะขอให้เฟิงเฉิงไปพบพวกผู้หญิงด้วยตัวเอง เนื่องจากนางเป็นสมาชิกในเผ่าของอีกฝ่าย ดังนั้นพวกนางต้องกลับไปพร้อมกับนางอย่างแน่นอน

 

ถ้าให้พวกเขาเป็นคนไปรับเอง ภูตหญิงทั้ง 30 คนคงไม่มีทางเชื่อ!

 

ขณะเดียวกัน เมื่ออิงหยวนเห็นหลงโม่ตัดสินใจเอาเอง เขาก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา

 

“เจ้าจะมัวรออะไรอยู่ล่ะ? เราพบร่องรอยของพวกผู้หญิงแล้วนี่ ทำไมเราไม่พาพวกนางกลับไปเอง พวกเราที่มีผู้ชายแข็งแกร่งตั้งมากมายจะสู้ผู้หญิงไม่กี่สิบคนไม่ได้เชียวหรือ!” 

 

อินทรีหนุ่มรู้สึกไม่พอใจมากกับการตัดสินใจของอีกฝ่าย

 

เขาจะทำให้เรื่องมันยุ่งยากทำไมกะอีแค่การพาผู้หญิงกลุ่มหนึ่งกลับเผ่า?

 

ขณะนี้หลงโม่ไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะฟังเรื่องไร้สาระของอิงหยวน ดังนั้นเขาจึงตรงกลับไปที่ถ้ำ ก่อนจะหยิบอาหารแห้งที่หูเจียวเจียวเตรียมไว้ให้ตนมากัดกินช้า ๆ

 

การเคลื่อนไหวของชายหนุ่มเป็นไปอย่างเชื่องช้าและสงบนิ่งโดยไม่สนใจคนที่กำลังตะโกนโวยวายอยู่ไม่ไกล

 

ท่าทางนั้นทำให้อินทรีหนุ่มรู้สึกโมโหมากขึ้น เขาเหลือบมองคนที่นั่งอยู่ในถ้ำ และเพื่อช่วยปกปิดอาการบาดเจ็บของหลงโม่ เขาจึงทำได้เพียงแอบก่นด่าอีกคนอยู่ในใจ 

 

เป็นเพราะอาการบาดเจ็บของเจ้าเอง เราทุกคนเลยต้องเสียเวลาอยู่ที่นี่ ไอ้มังกรจอมบงการ! เจ้ามันเห็นแก่ตัวพอ ๆ กับหูเจียวเจียว!

 

ในเวลาเดียวกัน

 

ณ ถ้ำอันเงียบสงบห่างไกลออกไปประมาณ 50 กิโลเมตร 

 

ปัจจุบันภูตตัวสีฟ้าคนหนึ่งวิ่งเข้าไปในถ้ำและกลายร่างเป็นมนุษย์อย่างเร่งรีบ

 

“แย่แล้ว ข้าพบร่องรอยที่พวกภูตทิ้งไว้ข้างนอก ข้าเกรงว่าพวกเราจะถูกค้นพบแล้ว!”

 

เสียงของเขากระจายไปทั่วถ้ำอย่างรวดเร็ว

 

ไม่นานก็มีภูตหญิงหลาย 10 คนเดินออกมาทีละคน โดยที่บางคนตื่นตระหนก บางคนทำหน้านิ่วคิ้วขมวด และบางคนหวาดกลัว

 

ในกลุ่มนี้มีภูตหญิงจำนวนหนึ่งที่มาพร้อมกับภูตชายที่เป็นคู่ครองของพวกนาง

 

“เกิดอะไรขึ้น? ในฤดูหนาวเช่นนี้จะมีคนมาเดินเตร่อยู่ข้างนอกได้ยังไง?”

 

“แถมพวกเขายังอยู่ใกล้เรามาก เป็นไปได้ไหมว่าเฟิงอันนำกลุ่มคนทรยศไล่ตามมาทัน?” 

 

“ใช่! แม้ว่าคนพวกนั้นจะไม่ใช่เฟิงอันก็ตาม แต่การที่พวกเขามาถึงที่นี่ พวกเขาจะต้องไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ไม่มีคนดีที่ไหนออกมาเดินท่อม ๆ ท่ามกลางหิมะหรอกนะ”

 

ขณะนี้เหล่าผู้หญิงส่งเสียงพูดเจื้อยแจ้ว ซึ่งตรงข้ามกับผู้ชายที่เงียบมาก พวกเขาได้แต่นั่งประหม่าไม่พูดอะไรสักคำ

 

เนื่องจากฤดูหนาวเป็นเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการจู่โจมของภูต

 

อีกทั้งพวกเขาตรวจสอบแล้วว่าแถวนี้ไม่ได้มีเผ่าไหนมาตั้งรกราก และน่าจะไม่มีใครออกมาล่าสัตว์ในเวลาเช่นนี้ด้วย ซึ่งความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวก็คือ อีกฝ่ายค้นพบตำแหน่งของพวกตนและต้องการจับทุกคนกลับไป

 

“แล้วถ้าเราซ่อนตัวให้เงียบที่สุดล่ะ?” ผู้หญิงคนหนึ่งถามพลางถอนหายใจอย่างท้อแท้

 

“เสบียงของเราใกล้จะหมดแล้ว มันเพียงพอให้กินแค่ 2-3 วันเท่านั้น ถ้ายังเป็นเช่นนี้ต่อไป ในฤดูหนาวนี้พวกเราคงเอาชีวิตไม่รอด”

 

เหล่าภูตต้องคอยกังวลทุกวันและพวกเขาก็ใช้ชีวิตแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ มานานมากพอแล้ว

 

จากนั้นผู้หญิงอีกคนก็พูดขึ้นมาด้วยความโกรธ

 

“มันเป็นความผิดของเฟิงเสวี่ย นังคนขี้ขลาดตาขาวนั่น! ถ้านางไม่ขโมยเสบียงทั้งหมดที่เราพยายามรวบรวมมาไปมอบให้กับเฟิงอัน เราคงไม่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้หรอก!” 

 

จากสถานการณ์ปัจจุบัน พวกผู้หญิงที่อยู่ในถ้ำอดที่จะรู้สึกโกรธแค้นไม่ได้

 

“ถูกต้อง! เฟิงเสวี่ยคือคนทรยศ ทั้ง ๆ ที่นายหญิงเฝ้าทะนุถนอมเลี้ยงดูนางมา แต่นางกลับไปช่วยเฟิงอันที่ฆ่านายหญิง แล้วยังตอบแทนน้ำใจของนายหญิงด้วยการช่วยคนทรยศอีก!” 

 

“สิ่งที่ผิดพลาดที่สุดที่นายหญิงกับเฟิงเฉิงเคยทำก็คือการปฏิบัติต่อนางเหมือนเป็นสมาชิกในครอบครัว”

 

บัดนี้สตรีหลายนางเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง พวกนางอยากจะขยี้เฟิงเสวี่ยให้แหลกเป็นเถ้าถ่าน 

 

ในเวลาเดียวกัน แม้ว่าภูตชายในกลุ่มจะไม่ได้พูดอะไร แต่ความเกลียดชังในดวงตาของพวกเขาก็แทบจะเอ่อล้นออกมา

 

เหล่าภูตชายไม่กี่คนที่อยู่ตรงนี้คือคู่ของภูตหญิงบางคนในกลุ่ม

 

โดยธรรมชาติแล้ว คนทรยศไร้สมองในเผ่านั้นไม่สามารถเทียบได้กับพวกเขา

 

หลังจากที่ผู้หญิงหลายคนด่าคนทรยศไปทั่วเพื่อระบายความโกรธ พวกนางก็เริ่มกลับมากังวลอีกครั้ง

 

“แล้วเราควรทำยังไงต่อไปดี?”

 

“เราจะทำอะไรได้อีก ยังไงซะพวกมันก็ต้องตายอยู่ดี ถ้าพวกภูตข้างนอกกล้าเข้ามา เราจะสู้กับมันให้ตายกันไปข้าง!”

 

หญิงแกร่งที่ยืนอยู่ข้างหน้าพูดปลุกกำลังใจของผู้หญิงทุกคนให้พุ่งสูงขึ้น

 

“ใช่แล้ว! แม้ว่าเราจะเป็นผู้หญิง แต่เราก็ไม่กลัว พวกเราก็ทำอะไรได้เหมือนกับพวกผู้ชาย พวกมันมีดีแค่แข็งแกร่งกว่าเท่านั้น หากพวกเราออกกำลังกายเพิ่มกล้ามเนื้อให้มากกว่านี้ พวกเราก็อาจจะแข็งแกร่งได้เท่ากับพวกผู้ชายเหมือนกัน!” 

 

“แม้แต่ภูตหมาป่าเราก็เคยเผชิญมาแล้ว ทำไมเราจะสู้พวกภูตข้างนอกไม่ได้!”

 

“อย่างมากที่สุดพวกเราก็แค่ตายไปพร้อมกัน!”

 

“ถ้าเราตาย เราจะลากพวกมันลงนรกไปกับเรา!”

 

ขณะนั้นภูตชายทุกคนมองไปยังคู่ของตนด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้ม

 

ไม่ว่าพวกนางจะตัดสินใจอย่างไร พวกเขาจะสนับสนุนคนรักโดยไม่ลังเล

 

เดิมทีพวกเขาตกหลุมรักคู่ของตัวเองเพราะจิตใจอันกล้าหาญของพวกนางไม่ได้ด้อยกว่าภูตชาย!

 

...

 

อีกด้านหนึ่ง 

 

ปัจจุบันอิงหยวนรออยู่ในถ้ำมา 2-3 วันแบบกระวนกระวายใจ

 

ทุกวันนี้ถ้าพวกเขาไม่ได้ล่าสัตว์หรือหาเสบียงก็มักจะคอยหาข่าวและที่อยู่ของกลุ่มภูตหญิง จนกระทั่งพวกเขาได้ข้อมูลของอีกฝ่ายมาอย่างรอบด้านแล้ว

 

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเสบียงมีเท่าไหร่ มีคนอยู่กี่คน เป็นผู้หญิงกี่คนและเป็นผู้ชายกี่คน พวกเขาก็จดจำได้ขึ้นใจ 

 

ทุกคนพร้อมออกไปปฏิบัติภารกิจมาก!

 

หลังจากที่อิงหยวนเดินไปรอบ ๆ ทางเข้าออกถ้ำนับพันครั้ง สุดท้ายเขาก็ทนไม่ได้อีกต่อไป

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.