บทที่ 411: ข้าดูเหมือนคนใจแคบขนาดนั้นเลยหรือ?

[จบแล้ว] ขนเสบียงนับล้าน มาเป็นมาร(ดา)ของเหล่าวายร้าย (อ่านฟรีวันละตอน 12.00)

-A A +A

บทที่ 411: ข้าดูเหมือนคนใจแคบขนาดนั้นเลยหรือ?

“หยินชาง จงเอ๋อ เซียวเซียว ขอบคุณป้าเฟิงเฉิงเร็วเข้า ต้องขอบคุณที่นางมอบโอกาส 3 ครั้งสุดท้ายในการรักษาให้กับพวกเจ้า” หูเจียวเจียวกล่าวกับลูกชายทั้ง 3 คน

 

เนื่องจากยาในมิติของเธอไม่สามารถรักษาความพิการและรอยแผลเป็นของลูก ๆ ให้หายขาดได้ ถ้าไม่ใช่เพราะเฟิงเฉิง การที่พวกเด็ก ๆ จะมีวันนี้ก็ยังห่างไกลนัก

 

ครู่ต่อมา เด็กทั้ง 3 ก็รีบพูดขอบคุณแม่หมอ

 

“เป็นเพราะเจ้าช่วยข้าไว้และรับปากว่าจะช่วยคนของข้า นี่ถือเป็นการตอบแทนเจ้า” เฟิงเฉิงกล่าวพลางโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ 

 

การแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมกันยังมีอยู่ในโลกภูต

 

เฟิงเฉิงเองก็ไม่ใช่คนที่ชอบเสียสละ ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้วนางจะไม่หน้าด้านมาขอให้หูเจียวเจียวช่วยตนแบบไม่มีเงื่อนไข

 

ด้วยเหตุนี้ การมอบโอกาสในการรักษา 3 ครั้งเพื่อแลกกับชีวิตภูตหญิงในเผ่าของนางมันย่อมคุ้มค่า

 

ท้ายที่สุดแล้ว ไม้เท้าเฟิงหลีจะสามารถกลับมาใช้ได้ดังเดิมหลังจากเวลาผ่านไป 1 ปี แต่คนของนางไม่สามารถทนรอถึง 1 ปีได้ อีกทั้งมันมีความเสี่ยงที่จะตกไปอยู่ในมือของเฟิงอันก่อนด้วย 

 

“ข้าจะไปหาท่านผู้เฒ่าเพื่ออธิบายเรื่องนี้ และพาภูตไปตามหาคนในเผ่าของท่าน” หลงโม่เอ่ยปากให้คำสัญญา

 

แม้ว่าภายนอกมังกรหนุ่มจะดูไม่แยแสใคร แต่เขาไม่ใช่คนที่เมินเฉยต่อคนที่มีบุญคุณต่อลูก ๆ ของเขา

 

“ขอบคุณมาก” เฟิงเฉิงยิ้มและพยักหน้า

 

จากนั้นนางก็หันหลังตั้งท่าจะกลับบ้านตัวเอง

 

แต่พอหญิงสาวก้าวไปได้ 2 ก้าว นางก็หยุดเดินเพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองไม่ได้อาศัยอยู่ในบ้านของหู่จิงเหมือนเมื่อก่อน แล้วจิตใต้สำนึกก็หันไปมองหูชิงซานที่ยืนอยู่ข้างประตูบ้านเงียบ ๆ

 

ขณะนี้เขาเป็นเหมือนกับเหมินเสิน*

*เหมินเสิน คือ เทพผู้พิทักษ์ประตูของชาวจีน

 

จนกระทั่งเฟิงเฉิงเดินออกมาจากบ้าน ชายหนุ่มถึงจะกลับมารู้สึกตัวอีกครั้งและแสดงความยินดีกับหูเจียวเจียว

 

“น้องเล็ก พี่ยินดีกับเจ้าด้วยที่ลูกกลับมาเป็นปกติแล้ว”

 

ขณะนั้นจิ้งจอกสาวขยิบตาให้เขาและพูดว่า “พี่ใหญ่ เฟิงเฉิง วันนี้ข้าเหนื่อยมากแล้ว ข้าขอส่งเพียงเท่านี้แล้วกัน ฉะนั้นข้าขอรบกวนให้ท่านพี่ไปส่งเฟิงเฉิงที่บ้านได้หรือไม่?”

 

หญิงสาวเดาว่าการที่เฟิงเฉิงปฏิเสธหูชิงซานอาจเป็นเพราะนางยังมีบางสิ่งเก็บอยู่ในใจ

 

ทว่าปัจจุบันนางสามารถปักหลักอยู่ในเผ่าได้อย่างสบายใจแล้ว การที่พี่ใหญ่จะเกี้ยวพาราสีเฟิงเฉิงในช่วงเวลานี้อาจจะง่ายขึ้นใช่ไหม?

 

อย่างน้อยเขาก็ยังพอมีความหวังสักเสี้ยวหนึ่ง

 

ทางด้านหูชิงซานชำเลืองมองสายตาของหลงโม่ที่ต้องการให้พวกเขาออกไปโดยเร็วที่สุด ทีแรกเขาตั้งท่าจะปฏิเสธ แต่เมื่อชายหนุ่มได้เห็นร่างกายที่อ่อนแอและใบหน้าที่เหนื่อยล้าของเฟิงเฉิง เขาก็กังวลว่าถ้าตนปล่อยให้นางเดินทางกลับไปเอง เขากลัวนางจะล้มป่วยไปเสียก่อน

 

ดังนั้นจิ้งจอกหนุ่มจึงพยักหน้าเห็นด้วยทันที

 

“เอาเถอะ”

 

บัดนี้เขาลืมไปเสียสนิทว่าตัวเองเคยนอนหมดสติอยู่ในบ้านหินหลังใหม่ของผู้หญิงที่เขาชอบ

 

แถมไม่พอนางยังคอยหลบเลี่ยงภูตลาดตระเวนและเล็ดลอดออกจากเผ่าจนกระทั่งหนีเข้าไปในป่า

 

ไม่กี่อึดใจต่อมาก หูชิงซานกลายร่างเป็นจิ้งจอก ก่อนจะย่อตัวลงเพื่อให้หญิงสาวปีนขึ้นมาบนหลังของตน 

 

ระหว่างที่เดินทางกลับ ภูตจิ้งจอกขาววิ่งฝ่าหิมะไปเงียบ ๆ ซึ่งมันแตกต่างจากท่าทางที่กระตือรือร้นก่อนหน้านี้ลิบลับ

 

ส่วนเฟิงเฉิงสัมผัสได้ราง ๆ ว่าบรรยากาศระหว่างนางกับเขามันช่างแปลกประหลาด ตอนแรกนางเตรียมใจที่จะถูกอีกคนปฏิเสธแล้ว แต่เมื่อเห็นหูชิงซานเป็นแบบนี้ นางจึงยังคงมีความรู้สึกแปลก ๆ อยู่ในใจ

 

หลังจากที่หญิงสาวใช้พลังของไม้เท้าจนครบตามจำนวนแล้ว นางก็ไม่ได้หวาดระแวงอย่างที่เคยเป็นอีกต่อไป แล้วนางก็ไม่ได้รู้สึกแย่อย่างที่คิด

 

ครู่ถัดมา เจ้าของเรือนผมสีฟ้าเม้มริมฝีปากก่อนจะฝังใบหน้าลงในขนจิ้งจอกอ่อนนุ่ม

 

ข้าตัดสินใจแล้ว!

 

หากไปถึงบ้านหิน นางจะอธิบายกับหูชิงซานให้ชัดเจน นางจะไม่ขอให้เขาให้อภัยตนและเคารพการตัดสินใจของเขา

 

เมื่อทั้งคู่มาถึงบ้านหิน จิ้งจอกขาวก็วางหญิงสาวลง

 

ในตอนนั้นเฟิงเฉิงกำลังจะเอ่ยปากพูด แต่ว่าจิ้งจอกหนุ่มกลับไม่เปิดโอกาสให้นางได้พูดอะไรสักคำแล้ววิ่งหนีหายไปอย่างไร้ร่องรอย โดยทิ้งให้นางยืนเคว้งคว้างอยู่คนเดียว

 

“...”

 

เขาไม่เปิดโอกาสให้นางได้อธิบายด้วยซ้ำ…

 

หรือว่าเขาผิดหวังในตัวนางไปแล้ว?

 

ในเวลาเดียวกัน หูเจียวเจียวกับหลงโม่ไปที่บ้านของหัวหน้าเผ่าเพื่ออธิบายสถานการณ์ของเฟิงเฉิงให้อีกฝ่ายฟัง

 

เมื่อชายชราได้ยินว่าเฟิงเฉิงยังมีภูตหญิงในเผ่าของนางมากกว่า 30 คน เขาก็เผยรอยยิ้มกว้าง และความโศกเศร้าจากการสูญเสียหมอผีก็ปรากฏบนใบหน้าไม่เกิน 1 วินาที

 

ข่าวนี้ทำให้เขารู้สึกดีใจมาก

 

พอผู้อาวุโสมาคิดไตร่ตรองดูให้ดีอีกครั้ง การมีหมอผีมันสามารถช่วยคนในเผ่าได้เพียงไม่กี่คน

 

แต่หลังจากเวลาผ่านไปเป็นร้อยปี ภูตชายจำนวนมากในเผ่าคงจะเหี่ยวแห้งตายเพราะความชรา หากพวกเขาไม่มีภูตหญิงมาช่วยคลอดบุตรหลาน เผ่าพันธุ์ของพวกเขาจะดำรงต่อไปได้อีกนานแค่ไหนกัน?

 

แน่นอนว่าภูตหญิงมากกว่า 30 คนเหล่านี้คือความหวังอันยิ่งใหญ่ของเผ่า!

 

สำหรับภูต ความเจริญรุ่งเรืองเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

 

“เอาล่ะ! คนในเผ่าของเฟิงเฉิงต้องรอด!” เสียงของผู้นำสูงสุดดังขึ้น และสีหน้าของเขาก็ยิ้มแย้มแจ่มใสประหนึ่งว่าเขาได้กลับคืนสู่วัยเยาว์ในพริบตา

 

คำพูดนั้นทำให้มุมปากของหูเจียวเจียวกระตุกอย่างช่วยไม่ได้

 

โชคดีที่เธอรู้ว่าท่านผู้เฒ่าอุทิศทั้งชีวิตให้กับเผ่า มิฉะนั้นท่าทางของเขาตอนนี้อาจจะทำให้ผู้คนสงสัยว่าความจริงแล้วเขาเป็นตัวร้ายหรือเปล่า

 

“หลงโม่ ตอนนี้การตามหาผู้หญิงพวกนั้นเป็นเรื่องเร่งด่วน ข้าจะให้อิงหยวนไปกับเจ้าและให้เจ้านำภูตนกทั้งหมดของเผ่าไปตามหาคนในเผ่าของเฟิงเฉิง” ชายสูงวัยออกคำสั่งอย่างรวดเร็ว

 

อิงหยวน?

 

เมื่อหูเจียวเจียวได้ยินชื่อพระเอกของนิยาย เธอก็เหลือบมองผู้เป็นสามีพร้อมกับที่ในใจเธอรู้สึกไม่ค่อยดีที่จะให้พวกเขาออกไปทำภารกิจด้วยกัน 

 

“ท่านผู้เฒ่า—” จิ้งจอกสาวเปิดปากโดยที่เธออยากจะขอท่านผู้เฒ่าไม่จัดให้อิงหยวนกับหลงโม่ไปทำงานด้วยกัน

 

แต่ก่อนที่เธอจะกล่าวจบประโยค มังกรหนุ่มก็พูดขัดจังหวะขึ้นมาอย่างใจเย็น

 

“ตกลง” หลงโม่ตอบรับโดยไม่ลังเลใด ๆ

 

นั่นทำให้หูเจียวเจียวขมวดคิ้วขณะที่มองดูคนตัวสูงก้มหน้าลงมาสบตาเธอแบบมั่นใจ

 

ดวงตาสีทองคู่นั้นราวกับต้องการถามว่า ‘ข้าดูเหมือนคนใจแคบขนาดนั้นเลยหรือ?’

 

“...” 

 

หญิงสาวไม่คาดคิดว่าสามีของตนจะใจกว้างแบบนี้!

 

...

 

วันต่อมา

 

หลงโม่เป็นผู้นำพาภูตนกกลุ่มใหญ่บินออกจากเผ่าตามรายละเอียดที่เฟิงเฉิงมอบให้เพื่อตามหาเผ่าของนาง

 

เมื่อเหล่าภูตชายรู้ว่าคนในเผ่าของแม่หมอเป็นภูตหญิงเสียส่วนใหญ่ พวกเขาก็ตื่นเต้นมากและมุ่งหน้ามายังทางเข้าออกของเผ่าเพื่อยืนส่งพวกมังกรหนุ่มออกไปทำภารกิจ 

 

ในครั้งนี้กลุ่มภูตชายดูใส่ใจเกี่ยวกับภารกิจช่วยเหลือคนในเผ่าของเฟิงเฉิงมากเป็นพิเศษ ซึ่งมากกว่าพ่อแม่ของตัวเองเสียอีก

 

ชาวเผ่าได้แต่หวังว่าหลงโม่กับอิงหยวนจะพา 'คู่ครองในอนาคต' ของพวกตนกลับมาอย่างปลอดภัย

 

เนื่องจากภูตมีความคล่องตัวในการเดินทางสูง ขณะที่พวกเขานำเสบียงติดตัวออกมาด้วยและค้นหาตำแหน่งของเหล่าภูตหญิงตามข้อมูลที่ได้รับแบบต่อเนื่องเป็นเวลา 5 วัน แต่พวกเขาก็ยังไม่พบร่องรอยของเผ่าเฟิงหลีเลย

 

มิหนำซ้ำ วันนี้บนท้องฟ้าเริ่มมีหิมะตกหนัก ซึ่งมันส่งผลให้วิสัยทัศน์ของพวกหลงโม่ลดลงมาก

 

ด้วยความสิ้นหวัง ทุกคนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหาถ้ำเพื่อพักผ่อนชั่วคราวและรอให้หิมะหยุดก่อนค่อยออกเดินทางอีกครั้ง

 

เป็นเพราะหิมะทำให้โลกทั้งใบกลายเป็นสีขาวโพลน มันเลยทำให้พวกมังกรหนุ่มอาจจะพลาดร่องรอยที่มีคนทิ้งไว้ แล้วพวกเขาก็ทำงานได้ช้าขึ้น

 

ปัจจุบันเหล่าภูตชายกำลังรวมตัวกันเพื่อพักผ่อนอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง

 

จากนั้นพวกเขาก็เอาอาหารแห้งที่พกติดตัวออกมากินเติมพลัง

 

“ผู้หญิงพวกนั้นอยู่ที่ไหนกันนะ”

 

“เราตามหาพวกนางมา 5 วันแล้ว ถ้าเรายังไม่พบผู้หญิงล่ะก็ ข้าเกรงว่าเราอาจจะต้องกลับไปที่เผ่าก่อนเพราะอาหารที่เราเตรียมมาด้วยไม่เพียงพอ” 

 

“แล้วตอนนี้ก็ยังเป็นฤดูหนาวอยู่ หากไม่มีใครคอยปกป้องพวกผู้หญิง พวกนางจะยังอยู่รอดจนถึงตอนนี้ไหม...”

 

คนในกลุ่มเริ่มสงสัยในความสามารถของตัวเอง

 

เมื่อทุกคนพูดถึงเรื่องหลัง พวกเขาก็ชำเลืองมองไปยังเทพผู้เฝ้าประตูทั้ง 2 ที่นั่งอยู่ตรงปากทางเข้าออกถ้ำอย่างระมัดระวัง 

 

หากคำพูดทำลายขวัญกำลังใจเช่นนี้ได้ยินไปถึงหูของผู้นำกลุ่มทั้ง 2 คนที่เหลืออาจจะถูกทำโทษ

 

“เฟิงเฉิงบอกว่าผู้หญิงพวกนี้มีคู่อยู่ในเผ่าของตัวเอง ที่นั่นมีผู้ชายมากกว่า 10 คนคอยปกป้องพวกนางอยู่” 

 

“อย่ามาพูดอะไรไร้สาระตรงนี้ ขนาดหลงโม่กับอิงหยวนยังไม่บ่นอะไรเลย ถ้าพวกเจ้าไม่มั่นใจก็กลับเผ่าไปเถอะ” ภูตคนหนึ่งตำหนิเสียงเบา ทำให้ภูตคนอื่น ๆ เงียบลงทันที

 

คำพูดข้างต้นทั้งหมดมันเป็นเพียงการคาดเดาส่ง ๆ ของคนในกลุ่มเท่านั้น

 

เมื่อสมาชิกที่เหลือได้ยินเช่นนี้ก็ปิดปากและหยุดพูดสิ่งที่อาจทำให้ขวัญกำลังใจของทุกคนสั่นคลอน

 

อีกด้านหนึ่งที่ปากทางเข้าถ้ำ ปัจจุบันอิงหยวนรู้สึกอับอายมาก

 

เพราะขณะที่เขาตามหาถ้ำเพื่อพักผ่อน ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทางเข้าถ้ำก็พังลงมาแบบกะทันหัน ส่งผลให้เขาถูกทับไว้ใต้กองหิน อีกทั้งเสื้อผ้าหนังสัตว์ชุดเดียวที่เขาเตรียมมาก็ฉีกขาด

 

ยามนี้ชายหนุ่มนั่งที่ทางเข้าออกถ้ำด้วยใบหน้ามืดมน พลางแอบสาปแช่งหิมะที่ตกหนักลงมาผิดเวลา

 

แล้วในระหว่างทางอินทรีหนุ่มก็เหมือนอยู่ในช่วงที่ดวงตกต่ำ ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ติดขัดไปเสียหมด

 

“หลงโม่ อาหารของเรากำลังจะหมดแล้ว ถ้าพรุ่งนี้เราไม่พบผู้หญิงสักคน เราจะกลับเผ่ากันทันที” อิงหยวนพูดกับสหายร่วมภารกิจที่อยู่ข้าง ๆ ตนโดยไม่หันไปมอง

 

หลังจากที่เขารออยู่พักหนึ่งก็ไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ จากอีกฝ่าย

 

ขณะนั้นอิงหยวนกำลังจะโกรธ แต่พอเห็นหลงโม่นั่งหลับตาพิงกำแพง พร้อมกับที่ใบหน้าของเขาซีดราวกับหิมะจนไม่มีสี เขาก็ขมวดคิ้วถามทันที

 

“หลงโม่? เจ้าเป็นอะไรไป?”

 

--------------------------------------------------

พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: แง พ่อมังกรเป็นอะไรไป ; - ;

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.