บทที่ 406: เจ้าเป็นผู้หญิงคนเดียวที่สมรู้ร่วมคิดกับเฟิงอัน

[จบแล้ว] ขนเสบียงนับล้าน มาเป็นมาร(ดา)ของเหล่าวายร้าย (อ่านฟรีวันละตอน 12.00)

-A A +A

บทที่ 406: เจ้าเป็นผู้หญิงคนเดียวที่สมรู้ร่วมคิดกับเฟิงอัน

“ไม่ต้องห่วง ข้าจะไปเอง เจ้ารอข้าอยู่ที่บ้านนี่แหละ”

 

หูชิงหยวนพูดจบแล้วก็กลายร่างเป็นจิ้งจอกวิ่งออกไปจากบ้านคนเดียว

 

ตอนนี้หู่จิงกำลังตั้งท้อง เขาไม่สามารถพานางออกไปเสี่ยงได้อีกต่อไป

 

อีกด้านหนึ่ง

 

หูเจียวเจียวและคนอื่น ๆ ก็กำลังมุ่งหน้ากลับเผ่าเช่นกัน

 

หลังจากนั้นพวกเขาได้พาเฟิงเสวี่ยไปที่ถ้ำแห่งหนึ่งเพื่อสอบปากคำนาง

 

ซึ่งจิ้งจอกสาวเองก็ได้รับเชิญให้มาช่วยงานนี้ด้วย และเธอก็ไปพร้อมกับเฟิงเฉิง

 

ส่วนหลงโม่ติดตามภรรยาของตนไปทุกย่างก้าวจนกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปแล้ว

 

สำหรับหูชิงซาน เขายืนอ้อยอิ่งอยู่ระหว่างหูเจียวเจียวกับเฟิงเฉิงด้วยสายตาที่ซับซ้อน และบางครั้งเขาก็กัดฟันแน่น 

 

ถ้าเฟิงเฉิงชอบน้องเล็กของเขาจริง ๆ แสดงว่านางกำลังตกอยู่ในอันตรายเพราะว่าเจียวเจียวมีหลงโม่คอยติดสอยห้อยตามทุกย่างก้าว 

 

แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ชอบเขา แต่นางก็เป็นหมอผี และในฐานะสมาชิกของเผ่า เขามีหน้าที่ปกป้องนางจากอันตรายทั้งปวง

 

เมื่อจิ้งจอกหนุ่มนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ทำตามความคิดอย่างแน่วแน่

 

อีกด้านหนึ่ง ภายในถ้ำอันมืดมิด 

 

ปัจจุบันเฟิงเสวี่ยกำลังนั่งตัวสั่นเป็นเจ้าเข้าอยู่ที่มุมผนังถ้ำ

 

เนื่องจากนางสวมเสื้อผ้าบาง ๆ มาเท่านั้น แล้วนางก็ถูกโยนลงไปในหิมะ หลังจากที่หิมะละลาย เสื้อผ้าของนางจึงเปียกแนบเนื้อ ส่วนผมก็แนบติดอยู่ข้างแก้ม

 

นอกจากนี้หญิงสาวยังมีรอยขีดข่วนบนใบหน้าซึ่งมีเลือดซึมออกมาเล็กน้อย 

 

สภาพของนางตอนนี้จึงดูน่าสงสาร

 

เวลาต่อมา เฟิงเฉิงเดินไปที่ตำแหน่งห่างจากเฟิงเสวี่ย 2 เมตร จากนั้นนางก็ใช้สายตาเย็นชาเหลือบมองอีกฝ่าย ซึ่งมันไม่มีความเห็นอกเห็นใจในแววตาของหมอผีสาวคนนี้เลยแม้แต่น้อย

 

“เฟิงเสวี่ย ทำไมเจ้าช่วยเฟิงอันโกหกข้า?”

 

“ไม่-ไม่มีเหตุผล!” ฝ่ายที่ถูกถามตอบอย่างเกรี้ยวกราด จากนั้นนางก็ถอยร่นกลับไปกอดเข่าขดตัวเหมือนลูกบอล ทำให้คนที่มองอยู่ไม่รู้ว่าสิ่งที่นางแสดงออกมานั้นมาจากความหนาวเย็นหรือความหวาดกลัวกันแน่

 

ระหว่างที่หญิงสาวพูด นางไม่กล้าสบตาเฟิงเฉิงด้วยซ้ำ

 

เมื่อหมอผีสาวเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ยอมเปิดปากพูดความจริง นางจึงถามอีกครั้ง

 

“ผู้หญิงคนอื่น ๆ อยู่ที่ไหน เฟิงอันขังพวกนางไว้ที่ไหน?”

 

เผ่าของพวกนางอยู่ห่างไกลจากที่นี่มาก หากเดินเท้าจะต้องใช้เวลาประมาณ 20 วันกว่าจะไปถึง 

 

แต่ปัจจุบันเฟิงเสวี่ยกับภูตคนอื่นในเผ่าน่าจะอยู่ที่ไหนสักแห่งไม่ไกลจากเผ่านี้

 

เฟิงเฉิงเดาว่าเฟิงอันค้นพบพวกนางแล้วหาที่อยู่อาศัยใกล้ ๆ โดยที่เขาคิดจะใช้ภูตหญิงในเผ่ามาข่มขู่ให้นางส่งมอบไม้เท้าให้เขา

 

นั่นหมายความว่าตอนนี้เหล่าภูตหญิงจะต้องอยู่ไม่ไกลจากเขา

 

ทางด้านเฟิงเสวี่ยเงยหน้าขึ้นมาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “พวกนางไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าสักหน่อย ตอนนี้เราทุกคนมีชีวิตที่ดี เจ้าไม่จำเป็นจะต้องมาเสแสร้งทำตัวเป็นคนดีอยู่ตรงนี้หรอก”

 

เฟิงเฉิงขมวดคิ้วหลังจากได้ยินคำพูดของนาง

 

“พวกเจ้าทั้งหมดลี้ภัยไปหาเฟิงอันงั้นหรือ?”

 

ในตอนนั้น นางเสี่ยงชีวิตพาพวกนางหลบหนีออกมาจากเผ่า

 

นางไม่เคยคิดว่าเรื่องราวมันจะลงเอยแบบนี้

 

ขณะเดียวกัน เฟิงเสวี่ยนิ่งเงียบไม่ตอบคำถามของหมอผีสาวและมองผู้หญิงตรงหน้าด้วยสายตาเศร้าสร้อย ก่อนที่นางจะตั้งคำถามอย่างโกรธเคือง

 

“งั้นเจ้าก็บอกข้าหน่อยสิว่าในฐานะผู้หญิง พวกเราจะเอาตัวรอดในป่ากันได้ยังไง?” 

 

“มีเพียงต้องเข้าร่วมกับเฟิงอันเท่านั้นถึงจะทำให้เราเป็นเผ่าที่สมบูรณ์และทุกคนจะอยู่รอดต่อไปได้” 

 

“ตอนนี้เจ้ามีคนคอยหนุนหลังแล้วและยังได้ครอบครองไม้เท้าเฟิงหลีอีก เจ้าจะเข้าใจความเจ็บปวดของพวกเราได้ยังไง!”

 

น้ำเสียงของเฟิงเสวี่ยแหลมคมขึ้นเรื่อย ๆ ตามอารมณ์ที่พุ่งสูง

 

ในขณะที่เฟิงเฉิงจ้องมองคนพูดแบบเต็มตา แต่นางก็ไม่ได้คล้อยตามท่าทางบ้า ๆ บอ ๆ ของอีกคน

 

“นี่คือเหตุผลที่เจ้าทรยศข้าหรือ?” หมอผีสาวถามอย่างเย็นชา

 

“ไม่งั้นจะให้เราทำยังไง รอให้เจ้ามาเก็บศพของเราหลังจากที่เราตายไปแล้วงั้นรึ!?” เฟิงเสวี่ยเชิดคางขึ้น และในที่สุดนางก็สบตากับเฟิงเฉิง โดยที่ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น

 

ทางด้านผู้เป็นหมอผีไม่ได้พูดอะไรต่อ ประกอบกับนัยน์ตาพินิจพิเคราะห์ของนางยังคงพยายามค้นหาความน่าเชื่อถือในคำพูดของอีกฝ่าย

 

ในตอนนั้นเอง ภูตนกคนหนึ่งเดินมาจากทางเข้าถ้ำ หลงโม่จึงเดินไปหาแล้วเขาก็กระซิบ 2-3 คำข้างหูชายหนุ่มก่อนจะจากไป

 

ไม่นานร่างสูงก็เดินกลับไปหาหูเจียวเจียวและกระซิบเสียงเบาว่า

 

“นางโกหก”

 

พอหูเจียวเจียวได้ยินเช่นนี้ เธอก็เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าคมคายและเคร่งขรึมของหลงโม่ เธอรู้ว่าภูตนกที่ถูกส่งให้ไปติดตามพวกเฟิงอันตั้งแต่ก่อนหน้านี้กลับมาแล้ว

 

ดวงตาของมังกรหนุ่มฉายแววแน่วแน่ และน้ำเสียงของเขาก็จริงจังมากขึ้น

 

จากนั้นเขาก็เปิดโปงคำโกหกของเฟิงเสวี่ยด้วยสีหน้าสงบนิ่ง

 

“พวกภูตที่เราส่งไปพบที่ซ่อนของฝ่ายตรงข้ามแล้ว และไม่มีร่องรอยของผู้หญิงในค่ายหรือบริเวณใกล้เคียง”

 

ทันใดนั้นหูเจียวเจียวก็เข้าใจสถานการณ์ ก่อนจะหันไปมองเฟิงเสวี่ยและพูดว่า

 

“ที่แท้เจ้าก็เป็นผู้หญิงคนเดียวที่สมรู้ร่วมคิดกับเฟิงอัน!”

 

หลังจากเฟิงเสวี่ยถูกเปิดโปง ใบหน้าที่ซีดเซียวอยู่แล้วของนางก็อัปลักษณ์ยิ่งขึ้น

 

“เจ้ากำลังพูดถึงเรื่องไร้สาระอะไร!?” ดวงตาของนางหลุกหลิกไปมาในขณะที่พยายามเค้นสมองหาคำโกหก

 

ส่วนเฟิงเฉิงปรายตามองหญิงสาวที่เป็นเหมือนคนในครอบครัวและสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติจากอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

 

นางเชื่อมั่นในตัวหูเจียวเจียวกับหลงโม่ และนางแทบจะไม่ลังเลที่จะเชื่อพวกเขาเลยแม้แต่น้อย

 

“เจ้าเป็นคนหักหลังเรา”

 

ประโยคนี้หมอผีสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ

 

“ทำไม? เฟิงอันยื่นข้อเสนออะไรให้กับเจ้า มันคุ้มค่ากับการที่เจ้าทรยศต่อเผ่ายังไง เขาฆ่าผู้หญิงที่เลี้ยงเจ้ามาด้วยซ้ำ” นัยน์ตาของเฟิงเฉิงคมกริบราวกับว่านางต้องการเจาะลึกเข้าไปในจิตใจของคู่สนทนา 

 

“ใครขอให้นางมาเลี้ยงข้าล่ะ! นางฆ่าพ่อแม่ของข้าและพ่อแม่ของเฟิงอัน แล้วเจ้าก็ยังมาเสแสร้งทำท่าทางเหมือนนาง พวกเจ้ามันล้วนเห็นแก่ตัวสนใจแค่ตัวเอง ไม่เคยคำนึงถึงความเป็นความตายของคนอื่นเลย!” เสียงของเฟิงเสวี่ยแหบแห้งขณะที่นางตะคอกสุดเสียง แล้วดวงตาเรียวยาวสีแดงก่ำของนางก็เบิกกว้าง 

 

“เพื่อยึดครองไม้เท้าเฟิงหลี เจ้าพาผู้หญิงของเผ่าเราออกไปตายกันหมด ถ้าเราไม่มีผู้ชายคอยช่วยเหลือ เราจะอยู่รอดในป่าที่เต็มไปด้วยอันตรายได้ยังไง!” 

 

“แม่ของข้าทำทุกอย่างเพื่อเลี้ยงดูเจ้า ไม่เคยให้เราได้ขาดแคลนเสบียงแม้แต่น้อย นางคอยดูแลเจ้าอย่างใกล้ชิดเพราะกลัวว่าเจ้าจะถูกคนอื่นรังแก นางถึงขั้นสอนวิชาลับในตระกูลให้กับเจ้าด้วยซ้ำ แต่เจ้ากลับคิดกับนางแบบนี้ ช่างเนรคุณเสียจริง” เฟิงเฉิงกล่าวพร้อมกับแสดงสีหน้าผิดหวัง

 

นั่นทำให้เฟิงเสวี่ยกำมือที่อยู่บนพื้นแน่นจนเล็บของนางเต็มไปด้วยโคลน ซึ่งมันก็เหมือนกับหัวใจอันมืดมนของนาง

 

ต่อมา หญิงสาวพูดเสียงลอดไรฟันว่า

 

“นางทำเพื่อตัวเองและโอ้อวดให้คนอื่นเห็นเท่านั้น!” 

 

“ตัวข้านั้นมีชีวิตอยู่เป็นดั่งเงาของเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะชี้ไปทางไหนข้าก็จะต้องไปตามนั้นไม่กล้าขัดแม้แต่น้อย ไม่ว่าใครก็ไม่เคยเห็นข้าในสายตา”

 

“ในตอนที่เฟิงอันมาสู่ขอข้าไปเป็นคู่ เจ้าก็เป็นคนแรกที่คัดค้าน! ที่เฟิงอันก่อกบฏมันก็เป็นเพราะเจ้าดูถูกพวกผู้ชาย” 

 

คำพูดของเฟิงเสวี่ยทำให้เฟิงเฉิงขมวดคิ้วแน่น

 

นางไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ ๆ อีกฝ่ายถึงกลายเป็นคนแบบนี้?

 

เมื่อก่อนนางเคยเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยนมาก และนางก็ไม่เคยตัดสินผู้อื่นในแง่ลบเช่นนี้

 

มันเหมือนกับว่านางเปลี่ยนกลายเป็นคนละคนไปแล้ว 

 

ในเวลาเดียวกัน หูเจียวเจียวเดาะลิ้นของเธอ 2-3 ครั้ง

 

จากนั้นดวงตาคู่สวยก็จับจ้องไปที่เฟิงเสวี่ยชั่วครู่ ก่อนที่เธอจะส่ายหัวเล็กน้อยและโพล่งขึ้นมาว่า 

 

“แล้วเจ้าล่ะ? เจ้าไม่ได้หักหลังเฟิงเฉิงเพื่อผู้ชายที่มองว่าเจ้าเป็นแค่มดปลวกที่จะทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้อย่างนั้นหรือ?”

 

สีหน้าของเฟิงเสวี่ยแข็งทื่อไปทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น 

 

“เจ้าหมายความว่ายังไง?” เฟิงเฉิงตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ

 

หูเจียวเจียวหันมามองหมอผีสาวแล้วอธิบายว่า “ท่านบอกข้าว่าเฟิงเสวี่ยเป็นผู้หญิงแบบไหน เพราะฉะนั้นมีเพียงเหตุผลเดียวที่เฟิงเสวี่ยสามารถกลายเป็นคนละคนได้...” 

 

“นั่นก็คือนางหลงรักเฟิงอันและถูกเฟิงอันล้างสมอง”

 

แม้ว่าความรักอาจจะทำให้คนคนหนึ่งดีขึ้นได้ก็จริง แต่มันก็ทำให้คนที่หลงใหลจนหน้ามืดตามัวทำเรื่องเลวร้ายได้เช่นกัน 

 

ในตอนที่เฟิงเฉิงมาขอความช่วยเหลือจากจิ้งจอกสาว นางได้พิจารณาทุกสิ่งอย่างถี่ถ้วนและบอกข้อมูลที่นางสามารถบอกเธอได้

 

เมื่อเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงของเฟิงเสวี่ย ประกอบกับดวงตาที่มักจะหลบเลี่ยงของนาง มันทำให้หูเจียวเจียวสังเกตเห็นได้ชัดเจนว่าอีกฝ่ายมีอะไรซ่อนอยู่ในใจ

 

ขณะเดียวกัน เฟิงเฉิงไม่ค่อยเข้าใจความหมายของคำว่า ‘ล้างสมอง’

 

แต่เมื่อนางได้ยินว่าเฟิงเสวี่ยหลงรักเฟิงอัน นางก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดทันที

 

ต่อมา รอยยิ้มประชดประชันปรากฏบนใบหน้าเย็นชาของหมอผีสาว

 

“อย่างนี้นี่เอง...”

 

“ตอนนั้นเจ้าบอกว่าเจ้าไม่ชอบเขา ท่านแม่ก็เลยปฏิเสธเขาแทนเจ้า”

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.