บทที่ 364: การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างภูตเด็ก

[จบแล้ว] ขนเสบียงนับล้าน มาเป็นมาร(ดา)ของเหล่าวายร้าย (อ่านฟรีวันละตอน 12.00)

-A A +A

บทที่ 364: การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างภูตเด็ก

“พ่อแม่ของเจ้าสั่งสอนเจ้ามาไม่ดี ดังนั้นในอนาคตข้าจะสั่งสอนเจ้าเอง” หัวหน้าเผ่าพูดขณะแสดงสีหน้าหน้าเย็นชาพร้อมกับมองอีกฝ่ายด้วยแววตาผิดหวัง 

 

“กลับไปที่ถ้ำของเจ้าซะ” 

 

“ท่านผู้เฒ่า ท่านลำเอียง!” ลู่หลียังคงดื้อรั้นและไม่ยอมแพ้

 

“ส่วนพวกเจ้าก็เข้าข้างไอ้หลงเหยากันหมด!”

 

เมื่อเด็กหนุ่มเห็นภูตทุกคนมองตนด้วยสายตารังเกียจ เขาก็โมโหจนพาลไปทั่ว 

 

ต่อมา เขากุมแก้มเหลือบมองไปที่เสี่ยวสือโถวกับหวงเทียนที่อยู่ข้างหลังเซี่ยหมาน 

 

ไอ้เด็กเวร ไอ้พวกสารเลว!

 

ถ้าไม่ใช่เพราะพวกมัน ท่านผู้เฒ่าก็คงเชื่อคำพูดของข้า!

 

จากนั้นกวางหนุ่มก็หันหลังวิ่งหนีไปด้วยความโกรธ

 

พอผู้อาวุโสเห็นท่าทางดื้อด้านนั้น ใบหน้าของเขาก็ถมึงทึงยิ่งขึ้น

 

เขากังวลว่าลู่หลีจะสร้างปัญหาอีกครั้ง ดังนั้นเขาจึงเรียกภูต 2 คนมาสั่งการ

 

“ไปเฝ้าลู่หลีไว้ อย่าให้เขาสร้างปัญหาอีก”

 

ภูตชายทั้ง 2 คนพยักหน้ารับ ก่อนจะตามเด็กหนุ่มออกไป

 

เวลาต่อมา หัวหน้าเผ่าก็หันไปปลอบโยนหลงเหยากับเด็กคนอื่น ๆ ก่อนที่จะพาพวกเซี่ยหมานไปทำงานต่อ

 

“หลงเหยา เด็กคนนั้นคือใคร เขาดูไม่ใช่คนดีเลย แล้วก็ชอบทำหน้าเหมือนกินขี้เข้าไป” เสี่ยวสือโถวถอนหายใจด้วยความโล่งอกพลางถามคนตัวเล็กอย่างสงสัย

 

“เขาเป็นคนเลว ก่อนหน้านี้เขาเกือบจะฆ่าพี่หลิงเอ๋อด้วย! เขาชอบมารังแกพวกเรา” หลงเหยาตอบแบบโกรธเคือง

 

สักพักเขาก็กอดอกตัวเองเชิดหน้าขึ้นด้วยความภาคภูมิใจ

 

“แต่ตอนนี้เราไม่กลัวเจ้านั่นแล้ว!”

 

เพราะปัจจุบันเขาสามารถแก้แค้นอีกฝ่ายได้ด้วยตัวเองแล้ว!

 

เมื่อหยินชางที่ยืนอยู่ข้างหลังคนตัวเล็กได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย แสงเย็นก็วาบในดวงตาของเขา

 

เด็กนั่น… เคยเกือบฆ่าหลิงเอ๋อหรือ?

 

ทั้งเสี่ยวสือโถวกับหวงเทียนเองก็พยักหน้าพร้อมทำท่าทางครุ่นคิด

 

พวกเขาเคยคิดว่าภูตในเผ่านี้เป็นคนที่ใจดีเข้ากับคนได้ง่ายพอ ๆ กับพี่เจียวเจียวและพวกหลงเหยา

 

แต่ปรากฎว่ายังมีเด็กที่นิสัยแย่พอ ๆ กับภูตหมาป่าอยู่ด้วย!

 

“ท่านพ่อของเจ้าออกจะแข็งแกร่งไม่ใช่หรือ ทำไมเขาไม่ไปสั่งสอนเจ้าเด็กคนนั้นสักหน่อย?” เด็กที่อยู่ข้าง ๆ ถามขึ้นมาอย่างงุนงง

 

“ท่านพ่อเก่งมากก็จริง แต่เขากลัวท่านพ่อต่างหาก ไม่ใช่กลัวเราสักหน่อย” หลงเหยาทำหน้าบึ้งขณะตอบ

 

“เราต้องเข้มแข็งขึ้นจะได้ไม่โดนคนอื่นรังแก นี่คือสิ่งที่ท่านพ่อสอนเสี่ยวเหยา” ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ เขาอาจจะไม่ได้สนใจคำสอนของพ่อมังกรมากนัก

 

แต่หลังจากผ่านความยากลำบากมาทั้งหมดแล้ว มันทำให้เด็กชายรู้ว่าถึงแม้ว่าพ่อแม่ของเขานั้นจะทรงพลังมากแค่ไหน แต่มันก็มีช่วงเวลาที่ทั้งคู่ไม่ได้อยู่เคียงข้างลูก ๆ ตลอดเวลา

 

จากเหตุผลข้างต้น การที่พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้นจึงจะสามารถปกป้องตัวเองได้!

 

คำพูดของเจ้าตัวเล็กทำให้เหล่าเด็กที่ตัวโตกว่าผงะไปครู่หนึ่ง ในขณะที่แววตาอิจฉาของหลายคนเต็มไปด้วยความชื่นชม

 

ใช่แล้ว!

 

พวกเขาก็ต้องพยายามฝึกฝนให้แข็งแกร่งขึ้นเหมือนกัน!

 

มีคนเคยกล่าวว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เพราะฉะนั้นพวกเขาจะไปมัวนั่งอิจฉาคนอื่นอยู่อีกทำไม?

 

“หลงเหยา เจ้าฉลาดมาก!”

 

“หลังจากนี้เราไปเล่นกับเจ้าบ่อย ๆ ได้ไหม?” 

 

“ครอบครัวของเจ้าคงไม่ว่าอะไรใช่ไหม...”

 

เด็กทั้งหลายตื่นเต้นมากจนขยับไปล้อมรอบหลงเหยา แล้วก็เบียดเด็กตระกูลหลงคนอื่นออกไปอยู่นอกวงล้อม

 

ทางด้านหูเจียวเจียวกำลังช่วยทุกคนตรวจสอบเสบียงในโกดัง และบางครั้งพวกเขาก็พบบางสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เธอจึงออกมาอธิบายเกี่ยวกับสิ่งดังกล่าวโดยขอให้พวกเขานำมันไปใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น 

 

สำหรับข้อแก้ตัว หญิงสาวก็พูดไปตรง ๆ ว่าเป็นของประทานจากเทพอสูร

 

ส่วนพวกภูตก็คิดว่าของพวกนี้มีประโยชน์มาก และเก็บสิ่งของที่พวกตนไม่เคยเห็นมาก่อนเป็นสมบัติ

 

หลังจากจิ้งจอกสาวเดินออกมาจากโกดัง ภาพเบื้องหน้าก็ทำให้เธอถึงกับตกตะลึง

 

ขณะนี้เสี่ยวสือโถว, หวงเทียนและลูกอีก 5 คนของเธอกำลังยืนอยู่นอกฝูงชน

 

ในขณะที่หลงเหยาถูกล้อมรอบด้วยเด็กที่เพิ่งเข้าร่วมเผ่า แล้วถูกถามคำถามต่าง ๆ มากมาย แต่เขาไม่สามารถตอบสิ่งที่พวกเขาถามได้ทั้งหมด

 

ตอนนั้นเด็กน้อยนึกอยากจะมีปากเพิ่มอีกสัก 5 อัน

 

ส่วนหูเจียวเจียวกำลังยืนนิ่งอึ้งอยู่ไม่ไกล

 

นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

 

หลงเหยาของเธอกลายเป็นที่ชื่นชอบของเด็กคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่?

 

เห็นได้ชัดว่าลูกชายคนเล็กกำลังเป็นดาวเด่นท่ามกลางหมู่เด็กมากมาย เธอมองไม่ผิดแน่นอน!

 

“อวี้เอ๋อ หลิงเอ๋อ ทำไมพวกเจ้าไม่ไปเล่นกับเด็กคนอื่นล่ะ?” หูเจียวเจียวเดินเข้ามาถามลูก ๆ 

 

“เด็กพวกนั้นดื้อจะตาย ใครจะไปอยากเล่นกับพวกเขากันล่ะ” หลงจงตอบอย่างเย็นชาพร้อมกับเอามือกอดอก

 

ความจริงแล้วหลงอวี้, หลงเซียวและหลงจงชอบทำหน้าเฉยเมย ทำให้ภายนอกของพวกเขาดูเหมือนเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นได้ยาก เด็ก ๆ จึงไปหาหลงเหยาที่ดูเข้าถึงง่ายแทน

 

สำหรับหลงหลิงเอ๋อ…

 

ข้างหลังนางมีหยินชางผู้น่ากลัวคอยยืนคุมอยู่ตลอด

 

ตราบใดที่คนอื่นไม่ตาบอด มันก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปพูดคุยกับนาง

 

หลังจากที่หลงจงพูดจบ เขาก็แอบชำเลืองมองน้องชายคนเล็กที่ถูกรุมล้อมกำลังมีความสุขและยิ้มกว้างจนปากเกือบจะฉีกถึงหู ก่อนที่เขาจะพ่นลมอย่างไม่สบอารมณ์ แล้วบังคับให้ตัวเองมองไปทางอื่น

 

ขณะนั้นหูเจียวเจียวยิ้มเมื่อเห็นท่าทางดื้อรั้นของลูกชายคนที่ 3

 

เวลาถัดมา เธอหยิบห่อเล็ก ๆ 2-3 ห่อออกจากถุงหนังสัตว์ที่เธอถือมาด้วยและแจกจ่ายให้กับเด็ก ๆ

 

“แม่เอาผลไม้อบแห้งติดมือมาด้วย เจ้าเอาไปแบ่งให้ทุกคนกินสิ”

 

เหล่าเด็กน้อยผงะไปชั่วขณะ ก่อนจะรับห่อผลไม้อบแห้งนั้นมาในขณะที่พวกเขาเกิดความลังเลปนคาดหวัง

 

มันเป็นธรรมชาติของเด็กที่จะชอบเล่นกับเพื่อน ๆ

 

พวกเขาต้องการมีเพื่อนเล่น การเข้าสังคมจึงเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับเด็กวัยนี้

 

“เด็ก ๆ มากินผลไม้อบแห้งกันเถอะ!” หูเจียวเจียวตะโกนไปทางกลุ่มหลงเหยา พอมีของกินมาล่อ เด็กทั้งหมดก็รีบวิ่งกรูกันเข้ามาหาจิ้งจอกสาว

 

นั่นทำให้หลงเหยาตัวหมุนเหมือนลูกข่าง ในระหว่างที่เด็กคนอื่นพากันวิ่งไปอีกทาง เขาก็ถูกบีบให้อยู่กับที่และหมุนวนไปรอบ ๆ

 

อ๋อย เวียนหัวไปหมดแล้ว~

 

“เสี่ยวเหยา...ผลไม้อบแห้ง...”

 

ฮือ! เสี่ยวเหยาสู้แรงเด็กพวกนี้ไม่ได้!

 

ภายในเวลาไม่นาน เด็ก 5 คนก็ถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้คนอย่างรวดเร็ว ในขณะที่หลงอวี้มองดูสายตาคาดหวังของเด็กคนอื่น ก่อนจะเปิดห่อในมือของเขาและแจกจ่ายผลไม้อบแห้งที่อยู่ข้างในให้กับทุกคน

 

“ผลไม้อบแห้งนี้อร่อยมาก ขอบคุณ!”

 

“ข้าไม่เคยกินผลไม้อบแห้งที่อร่อยขนาดนี้มาก่อนเลย มันทั้งเปรี้ยวทั้งหวาน”

 

“คิดไม่ถึงว่าพี่ชายของหลงเหยาจะเป็นกันเองขนาดนี้ เขาไม่ได้น่ากลัวเหมือนหน้าตาแล้วก็เข้าถึงได้ง่ายมาก...”

 

หลังจากที่เด็ก ๆ ได้พูดคุยกับพวกหลงอวี้ พวกเขาก็เปลี่ยนทัศนคติที่มีต่ออีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

 

หากจะพูดให้ถูกก็คือ เรื่องของความประทับใจแรกพบนั้นสำคัญมากและมันก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนเข้าใจผิดได้ง่ายมากที่สุดด้วย

 

ในตอนแรกพวกหลงอวี้รู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย แต่พอเวลาผ่านไปไม่นาน พวกเขาก็สามารถตอบคำถาม 2-3 ข้อจากคนอื่นได้ และทั้งหมดก็ค่อย ๆ เข้ากันได้อย่างมีความสุข

 

มีเพียงหลงหลิงเอ๋อกับหยินชางเท่านั้นที่ถูกคนอื่นเมิน

 

หลังจากหลงเหยาตั้งตัวได้ เขาก็วิ่งไปหาพี่สาวเพื่อกินผลไม้อบแห้งกับนาง

 

ขณะนั้นหลงหลิงเอ๋อเกิดความสงสัยบางอย่างในใจ “ทำไมพวกเขาไม่มากินผลไม้อบแห้งของข้าล่ะ?”

 

ตอนนี้แก้มของหลงเหยาพองขึ้น ในขณะที่เขาพูดแบบไม่อ้อมค้อม “ท่านพี่ไม่ต้องถามหรอกว่าทำไม เป็นเพราะว่าพวกเขากลัวท่านพี่หยินชางไงล่ะ”

 

เสียงที่มังกรน้อยใช้พูดฟังอู้อี้ทำให้เด็กหญิงได้ยินไม่ชัด นางจึงทำหน้าหดหู่แล้วยืนกินผลไม้อบแห้งกับน้องชายคนเล็ก พลางส่งสายตาว่างเปล่ามองไปยังภาพที่มีความสุขตรงหน้า

 

แต่อย่างน้อยก็มีข่าวดีที่ปัญหาเรื่องเสบียงของเผ่าได้รับการแก้ไขแล้ว ปัจจุบันบรรยากาศในเผ่าจึงเต็มไปด้วยความสนุกสนาน คล้ายกับมีงานเฉลิมฉลองเกิดขึ้น

 

นอกจากนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เด็ก ๆ ได้พบปะกับสหายในเผ่า มุมปากของพวกเขาจึงเกือบจะยกขึ้นไปถึงดวงจันทร์

 

“พี่หมานลองชิมนี่สิ เร็วเข้า มันอร่อยมาก!” เสี่ยวสือโถวที่เพิ่งได้ผลไม้อบแห้งวิ่งไปแบ่งมันให้เซี่ยหมานกินด้วย

 

เนื่องจากเซี่ยจื้อหนุ่มเป็นคนใจดีที่ช่วยชีวิตเขาไว้ ทั้งคู่จึงมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันและเขาปฏิบัติต่ออีกฝ่ายเหมือนเป็นพี่น้อง

 

“ไม่เอา เจ้ากินเถอะ” ชายหนุ่มชำเลืองมองผลไม้อบแห้งและเห็นว่ามันเป็นของที่พวกเด็ก ๆ ชอบกินกัน เขาจึงปฏิเสธอย่างเด็ดขาด

 

“ง่า…” เสี่ยวสือโถวดึงผลไม้อบแห้งในมือกลับมาพลางพูดกับตัวเองว่า “ข้าลืมไป พี่หมานไม่ชอบกินผลไม้”

 

“แต่นี่คือผลไม้อบแห้งที่พี่เจียวเจียวทำ มันอร่อยมาก เสียดายที่พี่หมานไม่กิน” เด็กหนุ่มกำลังจะยัดผลไม้อบแห้งเข้าปากด้วยสีหน้าสลด

 

ทว่าวินาทีต่อมา ผลไม้อบแห้งในมือเขาก็หายวับไป

 

“??”

 

เสี่ยวสือโถวเงยหน้าขึ้นมองเซี่ยหมานที่ทำหน้าเคร่งขรึมด้วยความประหลาดใจ

 

“อยู่ดี ๆ ข้าก็รู้สึกหิวขึ้นมา” เซี่ยจื้อหนุ่มยังคงทำหน้าบูดบึ้ง จริงจังเหมือนเดิม ในขณะที่พูดเขาหยิบผลไม้อบแห้งที่เหลือจากมือของอีกฝ่ายมาถือไว้เอง 

 

แล้วเขาก็หันหลังเดินออกไป

 

“!!”

 

ผลไม้อบแห้งของข้า! ข้าไม่ได้บอกสักหน่อยว่าให้ท่านเอาของข้าไปหมด ข้าจะให้ท่านชิมเฉย ๆ!

 

ทางด้านเซี่ยหมานเดินมายืนอยู่ตรงที่ที่ไม่มีใครอยู่ จากนั้นเขาก็หยิบผลไม้อบแห้งออกมาอย่างระมัดระวัง ก่อนจะใส่ปากของเขา 

 

วินาทีต่อมา ใบหน้าของเซี่ยจื้อหนุ่มก็ยับย่น 

 

เปรี้ยว!!

 

ทำไมมันเปรี้ยวขนาดนี้!

 

เนื่องจากเซี่ยหมานไม่สามารถกินอาหารรสเปรี้ยวได้ โดยจิตใต้สำนึกเขาอยากจะคายมันออกมา แต่พอนึกถึงว่าหูเจียวเจียวเป็นคนทำมัน ดังนั้นเขาจึงจำใจกลืนผลไม้อบแห้งลงคอด้วยความยากลำบากทันที

 

ต่อมา ชายหนุ่มเหลือบมองผลไม้อบแห้งกำมือใหญ่ที่เหลืออยู่ในมือ

 

แล้วเขาก็ลังเลครุ่นคิดอยู่นาน...

 

--------------------------------------------------

พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: ขำเซี่ยหมาน นั่นมันผลไม้ที่เจียวเจียวทำเองเลยนะ กินเข้าไปให้หมดเดี๋ยวนี้! 5555555

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.