ไม่มีใครเข้าใจข้า ไม่มีสักคนเดียว แม้แต่เจ้า

ดอกนาซิสซัสกับความฝันที่ฆ่าฉัน

-A A +A

ไม่มีใครเข้าใจข้า ไม่มีสักคนเดียว แม้แต่เจ้า

          เงามืดไร้เสียงบนทางเดินที่แสนเงียบสงบ   ไม่มีอัศวินประจำหน้าห้องแต่ละจุด   เสียงฝีเท้าคู่หนึ่งดังอยู่ในบรรยากาศไร้เสียงและหยุดที่หน้าห้องแห่งหนึ่ง   แสงไฟจากเบื้องล่างประตูสว่างอย่างชัดเจน   เสียงแง้มของมันมิได้ปลุกเจ้าของห้องที่กำลังหลับใหลอยู่บนเตียง   แสงสว่างมากล้นจนแสบตามีที่มาจากหินกลมที่ติดอยู่ทั่วมุมห้อง   เจ้าของเสียงฝีเท้าหยุดที่ข้างเตียง   ใบหน้าที่กำลังหลับใหลใต้แสงอาทิตย์จำลองนี้ดูอิ่มเอิบและชวนหลงใหล   รู้ตัวอีกทีมือของเขากำลังสัมผัสที่แก้มของมาราอาน   หวนให้นึกถึงเรื่องราวในวันนั้น   ในฉากที่ว่างเปล่าในความทรงจำของเอเฟเฟีย   มาร์เวทถูกพลังของมาราอานที่ถูกกระตุ้นจากความมืดรอบตัวทำให้ใหล่ซ้ายสลายจนแขนเกือบขาดออกจากกันพานให้ความเย็นชาบนใบหน้าหายไป   และถูกเติมเต็มด้วยความโกรธแค้นอย่างสุดจะทน   ไม่ใช้ดาบแต่ใช้กรงเล็บยาวที่ตะปบไปที่มาราอานแต่ถูกหยุดไว้ด้วยมือปริศนาอันทรงพลัง   พอหันไปมองจึงรู้ว่าไม่ใช่มาราอานแต่เป็นหญิงปริศนาในชุดคลุมสีดำ           มาร์เวทพ่นอัคคีสองสีจากปากใส่ร่างปริศนาที่กระโดดถอยหลังออกมาเพียงเล็กน้อย   มือทั้งสองกางออกในลักษณะคล้ายกำลังวาดรูปวงกลม   ปรากฏบาเรียที่มองไม่เห็นคุ้มกันตัวเขาจากเปลวไฟเหล่านั้น   แถมยังสะท้อนบางส่วนของเปลวไฟกลับไปหาเจ้าของแต่ก็ทำอะไรปีกที่สยายออกมาคุ้มกันตัวไม่ได้   ทันใดนั้นมาร์เวทรู้สึกถึงสัมผัสที่บริเวณไหล่ซ้ายที่หายไปของตน

          “ทรงยังใจร้อนเหมือนเดิมเลยนะเพคะฝ่าบาท”   ไม่ใช่เสียงของผู้ชายแต่เป็นผู้หญิงวัยกลางคน   “เหตุใดเจ้าจึงยังมีชีวิตอยู่   เซเลีย?!!”   เธอตอบด้วยเสียงหัวเราะก่อนจะถอยร่นออกจากการโจมตีอันแหลมคมของกรงเล็บยาว   “ทั้งหมดนี่คือฝีมือของเจ้า   อยากจะฆ่าข้าจนต้องใช้วิถีแห่งเงาเลยรึ?   นังผู้หญิงคนนั้นเองก็คงเป็นหุ่นเชิดของเจ้าเช่นกัน”   มาร์เวทเหลือบมองมาราอานผู้กำลังทำท่าเหมือนจะเข้าจู่โจมมาร์เวทอีกครั้ง   เขาชักดาบออกจากฝัก   ตั้งท่าเตรียมปะทะแม้มืออีกข้างจะใช้การไม่ได้แต่เซเลียเข้ามาขวางและใช้ดัชนีนิ้วชี้จ่อไปที่หน้าผากของมาราอานและทำให้เธอสลบกลางอากาศ   “จะทรงเชื่อรึไม่   แต่ข้ามิใช่ผู้ประสงค์ร้ายต่อพระองค์เพคะฝ่าบาท   มาอารานเป็นเพียงเครื่องมือของใครคนหนึ่งที่หลบอยู่หลังม่านสีดำนี้   หึ!   ทั้งที่ได้ฉายาแม่มดขาวแต่กลับใช้วิถีเงาได้สกปรกเสียยิ่งกว่าข้าผู้นี้”   เซเลียเหวี่ยงมือออกไปข้างหนึ่ง   แสงสีดำที่พุ่งออกจากฝ่ามือปะทะเข้ากับาเรียสีขาวที่ปรากฏขึ้นอย่างน่าประหลาด   ภายในคือกลุ่มคนซึ่งหนึ่งในนั้นคือหญิงผมยาวสีรวงข้าวที่ดูโดดเด่นที่สุด   เธอคนนั้นหลับตาลงพลันบาเรียสีขาวค่อยๆเลือนหายไปแม้เซเลียจะพยายามใช้เวทมนต์ดำเข้าต่อกรแต่ก็เจาะเข้าไปไม่ถึงอยู่ดี  

          หลังจากวันนั้น   มาร์เวทก็เริ่มเข้าใจหลายอย่างเกี่ยวกับความลับของมาราอานและพลังที่สามารถฆ่าเขาได้แต่ก็ยอมที่เก็บชีวิตอันกะทัดรัดนี้ไว้ไม่ไกลทั้งที่เซเลียไม่ได้ห้ามไม่ให้มาราอานถูกฆ่าทิ้ง   มาร์เวทออกคำสั่งให้เธอถูกกักตัวอยู่ในห้องนอนของเธอตลอดเวลา   ให้ออกมาข้างนอกได้ต่อเมื่อมาร์เวทไม่อยู่ที่พระราชวังเท่านั้น   วันดีคืนดีองครักษ์บางคนจะเห็นมาร์เวทออกมาเดินเล่นในพระราชวังในยามวิการเพียงลำพัง   แม้จะไม่ได้สอบถามแต่พอเห็นเข้าทุกวันก็เริ่มเดาความคิดออกเพราะห้องๆนั้นที่เขามักหยุดยืนหน้าห้องคือห้องของมาราอาน   นั่นคือเศษความทรงจำสุดท้ายก่อนที่ภาพทั้งหมดจะกลับมาเป็นห้องนอนที่กำลังส่องสว่างตามเดิม   “.…”   มาร์เวทมองมือที่แบอยู่บนเตียง   สีเลือดนั้นชัดเจน   แตกต่างจากของตัวเขาที่มันซีดขาวจนน่ากลัว   ยิ่งมองใบหน้าอันงดงามยิ่งอยากรู้ว่านางกำลังแหวกว่ายอยู่ในฝันแบบใด   มาร์เวทยื่นมือออกไปสัมผัสที่มือของเธอ   กำความอบอุ่นที่ตนเพรียกหาและบัดนี้ทั้งสองได้กลับมาเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้ง  

          จริงหรือฝัน   ที่เห็นคือฝันหรือจริง   แยกไม่ออกอีกต่อไปกับทัศนวิสัยที่เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน   ทุ่งดอกไม้ที่นอนเอนกายดั่งเตียงที่รังสรรโดยธรรมชาติ   ข้างกันคือเธอผู้ส่งกลิ่นหอมของดอกไม้ที่เขาไม่รู้จัก   “ในที่สุดข้าก็ได้พบเจ้าอีกครั้ง   เด็กผู้น่าสงสาร”   มาราอานเอียงหน้ามองมาร์เวทที่ยังคงมีใบหน้าแหงนมองออกไปบนผืนฟ้าคราม   “ข้ามิใช่เด็ก   เลิกเรียกข้าแบบนั้นเสียที”   มาร์เวทกล่าว   เหมือนจะเป็นถ้อยคำไม่พอใจแต่น้ำเสียงกลับไปคนละทาง   “แม้ร่างกายจะเป็นผู้ใหญ่แต่ใจเจ้ายังคงเป็นเด็กคนนั้นไม่เปลี่ยน”   รอยยิ้มของเธอหายไป   ถูกแทนที่ด้วยความเศร้าและสงสาร   “เพราะชีวิตที่ตายไปแล้วครั้งหนึ่งของข้าจึงทำให้เจ้ามีสีหน้าแบบนั้นรึ?”   เธอส่ายหัวเล็กน้อย   รอยยิ้มกลับมาส่องประกายอีกครั้ง   “เพราะข้าอยากจะเข้าใจความเกลียดชัง   ความเจ็บปวดและความโศกเศร้าของเจ้าให้มากขึ้น    ข้าจึงเกิดความสงสารและอยากช่วยเหลือเจ้า   ช่วยปลดปล่อยเจ้าจากพันธนาการอันแข็งแกร่งในจิตวิญญาณของเจ้า”   “หึ!”   มาร์เวทลุกขึ้นนั่ง   ใบหน้าที่หันมองมาราอานแสดงออกว่าไม่สบอารมณ์อย่างมาก   “คนนอกอย่างเจ้าจะไปรู้อะไร?   บอกให้ข้าปล่อยวางรึ?”   เขาลุกขึ้นยืน   ดวงตายังล็อคที่อีกฝ่ายอย่างขมึงตึง   “เจ้ากำลังบอกให้ข้าให้อภัยพวกมันที่ฆ่าข้าและพ่อแม่ข้ารึ?!!!”   มาร์เวทไม่อาจกลั้นต่ออารมณ์ที่หุนหันพลันแล่น   ความร้อนในจิตใจทะลักออกมาราวกับน้ำท่วมที่ถูกแทนที่ด้วยอัคคีนรก   ทุ่งดอกไม้อันสวยงามบัดนี้ไม่เหลือเค้าเดิมอีกต่อไป   ดำ   เกรียม   มีแต่กลิ่นไหม้กับขี้เถ้าที่ลอยคลุ้งทั่วไปหมด  

          มาราอานลุกขึ้นยืนบ้าง   เธอค่อยๆก้มลง   มือสัมผัสพื้นอย่างไม่รังเกียจหรือกลัวในความร้อนที่ยังอาจสถิตอยู่พลันดอกไม้กลับมามีชีวิตอีกครั้งแต่ไม่ใช่ทั้งหมด   เพียงชนิดเดียวที่ถูกคืนชีพ   “หากไฟอันร้อนแรงเมื่อครู่เต็มไปด้วยความพยาบาท   ข้าคงมิอาจคืนชีพดอกนาร์ซิสซัสได้”   เธอยิ้มอย่างมีความสุข   “เจ้าจะคิดเช่นไรข้าคงมิห้ามเจ้า   อย่างไรก็ตามข้ามีของจะให้เจ้า   คงมีประโยชน์กับเจ้าไม่มากก็น้อย”   มาราอานส่งยิ้มแทนคำกล่าวขอบคุณ   ความสงสัยที่ผุดขึ้นทั้งที่ในอีกไม่ถึงนาทีก็จะได้เห็นในสิ่งที่อีกฝ่ายจะมอบให้   กระนั้นก็ยังสงสัยอยู่ดีว่ามันคืออะไร   มาร์เวทเดินไปที่ด้านหลังของหญิงสาว   มือยื่นออกระหว่างคอ   สัมผัสเส้นผมสลวยสีน้ำตาล   สิ่งที่ถืออยู่บนมือ   สร้อยคอที่ห้อยลูกแก้วสีฟ้าสว่างราวกับมันแบกน้ำทะเลไว้ภายใน   มาราอานมองลูกแก้วนั้นอย่างประหลาดใจ   “จักไม่มีความมืดใดเข้าใกล้เจ้าได้อีก   ไม่ว่าที่ใดที่เจ้าไปจงให้มันส่องแสงนำทางเจ้าไป   ไปยังโลกที่มีแต่แสงสว่างที่เจ้าโหยหา”   แสงสว่างที่เขากล่าวถึงกำลังส่องประกายออกจากลูกแก้วที่ห้อยอยู่ที่คอของเธอ   อบอุ่นมากกว่าจะทำให้แสบตาและพอแสงนั้นดับหายไปเสมือนสัญญาณบอกให้ดวงตาคู่นี้ลืมขึ้นอีกครั้ง  

          มาราอานลืมตาตื่นขึ้น   เธอลุกขึ้นนั่งบนเตียง   ก้มหน้ามองที่ลำคอ   ไม่เห็นสร้อยคอนั้นที่ปรากฏในฝัน   คงเป็นเพียงความฝันเท่านั้น   เธอถอนหายใจและทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่ม   ไม่ทันสังเกตว่าที่บานหน้าต่างที่กำลังมีแสงยามเช้าลอดผ่านเข้ามา   กระทบลงกับขอบโต๊ะหิน   ส่องประกายสีฟ้าสว่างราวผิวมหาสมุทรที่มองจากเบื้องล่างของผืนน้ำ  

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.