วาฬโต้คลื่น 2 ไอ้หัวเขียว

วาฬโต้คลื่น

-A A +A

วาฬโต้คลื่น 2 ไอ้หัวเขียว

 

วาฬโต้คลื่น 2 ไอ้หัวเขียว

 

เมื่อคืนโชคดีที่ป้าเจ้าของหอจับไม่ได้ เพราะนิลรีบเขียนเวลาเข้าหอให้ก่อนจะลากแขนฉันวิ่งขึ้นห้องทันทีเลยไม่มีเหตุการณ์ยากจะควบคุมอะไรเกิดขึ้นอีก

อาบน้ำสระผมก็มานอนตีพุงสบายใจเฉิบเลย

เห็นไหมล่ะ วาฬบอกแล้วว่ายังไงก็รอดถึงแม้จะดูเหมือนไม่น่าจะรอดก็ตามที

ส่วนวันนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่วาฬต้องกลับ

อืม...

มีเวลาเที่ยวแค่วันเดียวเท่านั้นแหละ วันหยุดที่เหลือก็ยังคงต้องทำงานเหมือนอย่างเช่นเคย

อาจารย์สั่งงานบานเบอะเหมือนโกรธนักศึกษาอะ เครียดจัด!

"มึงจำทางกลับได้แน่นะวาฬ"

เมื่อลงมาส่งถึงหน้าประตูหอ เพื่อนมันก็เอ่ยถามเพื่อความชัวร์อีกครั้งเพราะวาฬเป็นคนความจำสั้น จำเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยไม่ค่อยได้

มีหลงอะถ้าไปไหนแบบไร้กูเกิลแมพ

"สบายมากมึง น่าจะไม่หลง"

น่าจะจริง ๆ นะ แบบ 50:50 อะ

"กูจะไม่ชัวร์ก็เพราะคำว่าน่าจะของมึงนี่แหละ ขับรถดี ๆ ดูซ้ายดูขวาด้วย แล้วก็อย่าขับช้าเกินจนคนข้างหลังเขาบีบแตรไล่อีกล่ะ"

สอนเป็นแม่เลย เพื่อนรัก

"จ้า ๆ วาฬจะขับเร็วขึ้นกว่าเดิม 5 เปอร์เซ็นต์จ้าแม่จ๋า"

"เกลียดว่ะ กูไปละขับรถดี ๆ ถึงแล้วก็โทรมาบอกกูด้วย"

"จ้าแม่"

พอร่ำลากับแม่คนที่สองเสร็จ ฉันก็รีบวิ่งไปควบรถก่อนจะสตาร์ตเครื่องบิดคันเร่งโดยรักษาความเร็วอยู่ที่ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแบบไม่ขาดไม่เกิน

ชีวิตต้องอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัยไง แม้คันหลังจะแช่งเป็นบ้าเป็นหลังอยู่ก็ตามที

 

 

 

ร้านคาเฟ่เล็ก ๆ ใกล้มอเป็นสถานที่ทำงานของฉัน พอถึงร้านสั่งกาแฟแก้วเบ้อเริ่ม ชาร์จแบตโน้ตบุ๊กเสร็จสรรพก็รีบต่อสายรายงานนิลมันทันที พอวางสายก็กลับมาปั่นงานต่อ

งานที่ว่ามันเป็นคอลัมน์เกี่ยวกับเรื่องความรักที่อาจารย์แกเพิ่งสั่งมาน่ะ

แกให้นักศึกษาในsecโหวตว่าอยากเอาเรื่องอะไร ฉันน่ะอยากได้เรื่อง 'ทำไมต้องอยากไปนอกโลก' แต่มีฉันโหวตแค่คนเดียวหัวข้อเลยถูกปัดทิ้งไปอย่างไร้เยื่อใย

สุดท้ายหัวข้อเรื่องความรักก็ได้รับเลือกด้วยผลโหวต 37 ต่อ 1 ซึ่งหนึ่งคนที่โหวตไม่เหมือนใครเพื่อนก็คือวาฬเองแหละ

ถือว่าโชคยังดีที่มุมมองหรือหัวข้อย่อยทุกคนจะตีความหมายยังไงก็ได้ อาจารย์ไม่ห้าม

เบาใจได้นิดหนึ่ง

วาฬเลยกะจะตั้งชื่อคอลัมน์นี้ว่า

'รักให้ตาย ก็ตายอยู่ดี'

โหย โคตรคูลไม่มีใครคิดเหมือนแน่นอน

คิดอะไรในหัวไปเพลิน ๆ บวกกับรัวนิ้วลงบนแป้นพิมพ์อย่างสนุกมือ หันมองเวลาอีกทีก็พบว่าตอนนี้ผ่านไปเกือบสี่ชั่วโมงแล้ว ออกจากหอนิลมาตั้งแต่ 11 โมง และตอนนี้มันก็บ่ายสามเกือบจะสี่โมงเย็นแล้วด้วย

น่าจะต้องพักทุกอย่างไว้เท่านี้ก่อน

คิดได้ดังนั้นก็รีบเก็บข้าวของ และบอกลาพี่เจ้าของร้าน

"พี่ยีน วาฬกลับแล้วนะคะ"

ยกมือขึ้นไหว้พี่ยีน พี่สาวคนสวยซึ่งเป็นเจ้าของร้าน พี่ยีนแกจบคณะเดียวกันกับฉันแต่เรียนคนละสาขา จบมาก็มาเปิดร้านคาเฟ่ใกล้มหา'ลัยเพราะอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง

แกเคยบอกว่าทำงานกับคนอื่นมันน่าอึดอัด มาเป็นนายตัวเองสบายใจกว่าตั้งเยอะน่ะ

"นี่ค่าไฟนะพี่ยีน"

หยิบแบงก์ห้าสิบในกระเป๋าวางที่เคาน์เตอร์ให้พี่ยีน โดยไม่รอให้พี่แกได้ห้ามก็รีบวิ่งออกจากร้านสตาร์ตลูกรักบึ่งไปมอทันที

"วาฬ ก็บอกแล้วไงว่าไม่คิดค่าไฟโว้ยยยยย"

ได้ยินเสียงแหลม ๆ ดังขึ้นตามหลังแต่วาฬไม่สนหรอก

 

 

 

สระว่ายน้ำของภาควิชาพลศึกษาและนันทนาการเป็นข้อดีที่สุดของมหา'ลัยเลยก็ว่าได้ เพราะที่นี่อนุญาตให้นักศึกษาภายในมอเข้ามาใช้ได้ฟรี แม้จะกำหนดให้ออกจากสระก่อนหกโมงเย็นก็ตาม

ฉันรีบเปลี่ยนชุดว่ายน้ำที่มักพกติดกระเป๋าไว้เสมอ หลังจากทำงานเสร็จก็จะมาเป็นขาประจำที่นี่บ่อยจนป้าแม่บ้านแกจำหน้าได้

"อ้าวหนู มาซะเย็นเลยนะ วันนี้ไม่มีคนมาว่ายเลยด้วย"

คิดไม่ทันไรป้าในชุดยูนิฟอร์มสีฟ้าก็เดินมาทักทายพอดีหลังเดินออกมาจากห้องน้ำ

"ดีเลยจ้ะป้า วาฬอยากว่ายแบบเงียบ ๆ พอดี"

"ว่ายเงียบ ๆ มันจะไปสนุกอะไร คนเยอะ ๆ สิกระชุ่มกระชวย"

"ป้าแอบมองหุ่นหนุ่ม ๆ อะดิวาฬรู้ทันน้า"

ฉันชี้มือเป็นเชิงล้อเลียนใส่ป้า ก่อนรายนั้นจะเขินตัวม้วนแล้วทำเป็นโบกไม้โบกมือปฏิเสธ

"บ้าน่ะหนู ป้าไม่มองหรอกแก่จนปูนนี้แล้ว"

"จ้า วาฬจะพยายามเชื่อ"

ฉันตอบกลับไปพร้อมยิ้มแป้นแล้นส่งให้ก่อนจะขอตัวรีบไปว่ายน้ำเพราะนี่ก็ใกล้จะถึงเวลาปิดสระแล้ว

ตู้ม!!!!

เสียงกระโดดลงสระจากแท่นกระโดดดังขึ้นในวินาทีแรกก่อนทุกอย่างจะเงียบสงัดลงเมื่อตัวฉันจมดิ่งอยู่ใต้น้ำ ความเงียบสงบเข้าแทรกซึมในความรู้สึก

เหมือนอยู่คนเดียวบนโลกก็ตอนที่อยู่ในน้ำนี่แหละ

ฉันค่อย ๆ หลับตาลงและปล่อยตัวให้สบายที่สุด

ไม่ได้ผ่อนคลายแบบนี้มานานแล้วเหมือนกันนะ ตั้งแต่เปิดเทอมอาจารย์ก็เอาแต่สั่งงานจนไม่มีเวลาได้พักผ่อนเลย

"ฮ้าาา สบายใจที่สุดเล้ยยยยย"

เมื่อรู้สึกว่าไม่สามารถจะหายใจในน้ำได้อีกต่อไปก็รีบถีบตัวเองให้ขึ้นมาเหนือผืนน้ำแล้วตะโกนดังลั่นสระ

ในเวลาปกติไม่มีโอกาสได้ทำแบบนี้หรอก

เพราะคนเยอะ...

 

 

 

22.30 น.

"หายไปไหน"

ความจริงอาบน้ำสระผมเตรียมจะนอนแล้ว แต่ทุกครั้งก่อนนอนฉันมักจะจับสร้อยคอรูปฉลามที่ใส่ไว้ติดตัวตลอดเวลาก่อนนอนเสมอ ทว่าวันนี้มันกลับหายไปไหนไม่รู้จนทำให้เป็นกังวลมาก ๆ

มันคือสร้อยที่ฉันรักมากที่สุด

หายไม่ได้เด็ดขาด

ของในห้องถูกรื้อจนกระจัดกระจาย กระเป๋าเสื้อผ้าที่ยังไม่ได้ซักถูกรื้อออก ทั้งชุดว่ายน้ำ และชุดตอนไปนอนหอนิลก็ไม่มี

โทรไปถามนิล นิลก็บอกว่าไม่เจอ แล้วมันจะหายไปไหน

ฉันนั่งคิดไม่ตกอยู่บนปลายเตียงก่อนภาพตอนที่ว่ายน้ำดี๊ด๊าอยู่ในสระเพียงลำพังจะแล่นเข้ามาในสมอง

"ตกในสระแน่ ๆ "

พอคาดคะเนได้ว่าน่าจะเป็นแบบนั้นก็รีบคว้ากุญแจออกจากห้องทันที ลืมแม้กระทั่งว่าต้องเปลี่ยนชุดนอนลายวาฬออกด้วยซ้ำ

ลืมทุกอย่าง เพราะสร้อยฉลามสำคัญกับฉันมากเลยจริง ๆ

ตึก

ตึก

ตึก

นี่ไม่ใช่เสียงฝีเท้าของฉันหากแต่เป็นของลุงยามที่คอยเฝ้าสระในตอนกลางคืนเพื่อป้องกันไม่ให้นักศึกษาแอบมาใช้สระ และฉันรู้ดีว่าหากคืนนี้ขอไปดำน้ำหาสร้อยแกก็คงจะไม่อนุญาต

คงบอกให้รอวันพรุ่งนี้ หรือไม่งั้นก็คงจะบอกว่าปล่อยให้มันหายไปซะ

ฉันไม่อยากทำแบบนั้นจึงตั้งใจจะหาจังหวะเข้าไปในสระตอนที่แกเผลอ

"โอย ๆ ส้มตำปูปลาร้าตอนเที่ยงทำพิษเข้าให้แล้ว"

เสียงของลุงเอ่ยบ่นดังขึ้นก่อนแกจะยกมือกุมท้องแล้วพยุงตัวลุกขึ้นเดินไปทางฝั่งห้องน้ำ

ฉันร้อง 'เยส! ' ในใจดังลั่นและใช้จังหวะนั้นค่อย ๆ ย่องเข้าไปภายในตัวสระและโชคดีอีกเช่นกันที่ลุงแกไม่ได้ล็อกแม่กุญแจเอาไว้

เมื่อเดินเข้ามาในตัวสระฉันกะจะเริ่มส่องไฟหาตามรอบสระก่อนเผื่อมันจะตกอยู่แถว ๆ นี้

"บุ๋ม บุ๋ม บุ๋ม"

ทว่าเมื่อได้ยินเสียงแปลกประหลาดเกิดขึ้นกลางสระ กลับต้องรีบหันสายตาไปมองในทันที มันเป็นเหมือนฟองน้ำที่เวลาคนเราหายใจอยู่ใต้น้ำมันจะเกิดฟองนี้ขึ้นมา

แต่...

แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อทั้งสระมีแค่ฉัน

และมันก็มืดมากเกินกว่าจะมองเห็นว่าไอ้ที่อยู่ใต้สระเป็นคนหรือ

....ผะ....ผี

"สาธุ บุญใดที่ลูกได้ทำมาขอจงปกป้องคุ้มครองให้ลูกปลอดภัย อย่าได้เจอปีศาจหรือวิญญาณร้ายตนใดในสถานที่แห่งนี้เลยเจ้าค่ะ"

ฉันยกมือขึ้นไหว้ก่อนขมุบขมิบปากบอกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทว่าดูเหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะไม่เข้าข้าง และไม่อยากคุ้มครองวาฬ...

"เธอ....ทำไรวะ? "

"อึก..."

พอเงยหน้าขึ้นมาตามเสียงทุ้มต่ำนั่น กลับมองเห็นผู้ชายคนหนึ่งโผล่ตัวขึ้นมาจากกลางสระ เขาเหมือนจะหล่อมาก

แต่ว่า...

"ผะ ผีหรือคน"

ก็ต้องปลอดภัยไว้ก่อนไง ถ้าเป็นผีจะได้วิ่งแม้ตอนนี้ก้าวขาแทบไม่ออกก็ตาม

"คนดิวะ มาทำไม"

"ตะ ต้องถามมากกว่าไหมว่ามาทำไม เขาไม่ให้ว่ายน้ำหลังหกโมงเย็นนะ"

เมื่อได้รับการยืนยันว่าเขาไม่ได้เป็นผีฉันก็เริ่มกล้าจะเอ่ยปากต่อล้อต่อเถียง ในขณะที่ผู้ชายคนเดิมออกตัวว่ายน้ำมายังขอบสระฝั่งที่ฉันยืนอยู่ใกล้ ๆ ก่อนเขาจะกระโดดขึ้นมาจากน้ำแล้ว....

ยืนเปียกโชกอยู่ตรงหน้าฉัน

"ทำไม ว่ายไม่ได้เหรอ"

"ถะ ถอยไปนะ"

ร่างกายสูงใหญ่ที่มีเพียงกางเกงว่ายน้ำรัดรูปตัวเดียวปกปิดร่างกายค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ ฉันที่มองไม่เห็นความปลอดภัยเลยสักนิดเริ่มก้าวถอยหลังออกห่างจากเขาเช่นกัน

ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบราวกับป่าช้าของสระน้ำมหา'ลัยในตอนกลางคืน

วาฬไม่น่ามาเจอกับคนพรรค์นี้เลย

"ทำไมต้องถอย บังเอิญเจอกันสองรอบเขาว่ามันคือโชคชะตานะ"

 

 

ไอ้หัวเขียว....

 

 

ไอ้หัวเขียวเวลคัมแบ็กแล้วค้าบบบ

#คนเถื่อนหัวใจมุ้งมิ้ง เรายอม! >_<

เพจ: นางฟ้าดาวตก

…………………………..

สั่งหนังสือได้ทางเพจ

ลิงก์เพจ : https://web.facebook.com/nangfahdawtok

 

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.