บทที่ 21 ในถ้ำอสนีบาต

บทที่ 21 ในถ้ำอสนีบาต

 

ขาดคำเงาสีครามวาบออกไปทันที ระยะเพียงสามสี่วาสำหรับกับชนชั้นอันดับเลิศย่อมไม่นับเป็นอย่างไร จังหวะนั้นเองมวลน้ำมหาศาลจากเบื้องสูงสาดซัดลง ปรากฏเสียงโครมสนั่นหวั่นไหวกึกก้องทั่วบริเวณ พร่างพรมคนทั้งสองเปียกชุ่มโชกศีรษะจรดปลายเท้า เซี่ยเคอกริ่งเกรงขอทานน้อยได้รับอันตราย ดังนั้นยามโผพุ่งขึ้นอากาศจึงทุ่มเทสุดกำลัง ทะยานสูงกว่าหกวา

 

สายตาสังเกตุพบ บนผนังผาเป็นแอ่งน้ำกว้างยาวเทียบเท่าลำธารด้านล่าง กระแสน้ำเบาบางกว่ามากมายนัก ขณะลอยอยู่กลางอากาศสะบัดแขนทั้งสองอาศัยลมปราณซึ่งยังหลงเหลือลอยตัวขึ้นอีกสองวา เช่นนี้การปักตรึงแขวนร่างกับริมผนังย่อมไม่จำเป็น ละลิ่วลงบนผิวน้ำเบาๆแล้ว เป่าลมจากปากยาวๆคำหนึ่ง

 

แอ่งน้ำชั้นสองลึกเพียงสองเชียะเศษ พื้นใต้เท้าเป็นศิลาเขียวทั้งเรียบทั้งลื่นเย็นเฉียบราวหล่มหิมะ  ก้มสายตาลงมองเห็นริมผนังด้านหน้ามีช่องสี่เหลี่ยมเล็กๆมากมาย ลำน้ำนับสิบนับร้อยสายฉีดพุ่งจากรูผนังนี้นี่เอง

 

"นับเป็นพูมิประเทศพิสดารนัก"

 

เซี่ยเคอเพียงตอบรับคำหนึ่ง สอดกระบี่คืนฝักแช่มช้า เยี่ยนฟางแหงนเงยใบหน้าขึ้นมองแวบ พลันชี้นิ้วขึ้นไปกล่าวว่า

 

"เซี่ยเกอเกอท่านดูด้านบนมิใช่มีถ้ำแห่งหนึ่งหรอกหรือ"

 

บุรุษหนุ่มเพ่งมองตามนิ้วมืออีกฝ่าย  สามารถแลเห็นได้เลือนราง กระตุ้นความสงสัยใคร่รู้จนเลือดลมในอกประดัง สั่งเยี่ยนฟางยึดเกาะคอเสื้อไว้ให้มั่น ถีบยันสองเท้าพาร่างทะยานขึ้นสู่โถงถ้ำเบื้องบน พื้นใต้เท้าเป็นศิลาเขียวปลายเท้าพอยืนหยัดมั่น รู้สึกเย็นเยียบสุดทนทาน

 

หน้าปากถ้ำพอดีเป็นลานกว้างประมาณสามวา ขอทานน้อยทิ้งตัวลงเดินสำรวจเที่ยวหนึ่ง หลักหินซ้ายขวาสลักคำอสนีบาตเด่นชัด ตัวอักษรจมลึกไปในเนื้อหินหนึ่งนิ้ว ความลึกล้ำของดรรชนีความกล้าแข็งของพลัง นับว่าน่าแตกตื่นสะท้านใจ

 

ปากถ้ำมืดครึ้มปรากฏลมเย็นเสียดกระดูกโชยพัดออกมาตลอดเวลา สำหรับเซี่ยเคอมิมีผลกระทบอันใด แต่เยี่ยนฟางยามนี้อดสั่นสยิวริมฝีปากขยับเขยื้อนหลายครา

 

บุรุษหนุ่มขมวดคิ้วเอ่ยถามว่า

 

"ท่านยังทนทานได้หรือไม่"

 

เยี่ยนฟางผงกศีรษะส่งเสียงอืม เซี่ยเคอพลันเปลื้องชุดยาวภายนอกจากนั้นสวมใส่แก่มัน พากันสาวเท้าถึงหน้าถ้ำบุรุษหนุ่มเพ่งตาแน่วนิ่ง สัญชาตญาณระวังภัยก่อเกิดโดยฉับพลัน ฉุดรั้งเยี่ยนฟางมายังด้านหลัง ยกสันมือซ้ายป้องอกก้าวยาวๆเข้าไป

 

ทันใดมุมมืดสองฟากข้างเงาคนถลันวูบ ชายฉกรรจ์ชุดดำสองคนถาโถมใส่ดุจสายฟ้า ท่าร่างพวกมันรวดเร็ว...การลงมือว่องไวยิ่งกว่า กระบี่ทั้งแคบทั้งเรียวไขว้สลับจู่โจมลงจากกลางอากาศ สภาวะกระบี่กราดเกรี้ยวกระบวนท่าเผ็ดร้อนชั่วร้าย ครอบคลุมใส่ดุจตาข่ายเหล็กกล้า

 

เยี่ยนฟางเพิ่งอุทานจากปาก เซี่ยเคอก็เคลื่อนไหว สองมือแยกย้ายกรีดใส่ ปลายนิ้วทั้งห้าแฝงพลังราวดาบกระบี่ คนชุดดำทั้งสองเพิ่งใช้กระบวนท่าถึงกลางคัน ตัวกระบี่พลันชะงักวูบ คอหอยเย็นวะวาบทั้งคนทั้งกระบี่ปลิวลิ่วกลับไป เสียงโครมเมื่อแผ่นหลังกระแทกผนังถ้ำ โลหิตฉีดพุ่งเป็นเส้นสาย อาบชโลมพื้นศิลาแดงฉานขึ้นมา คอหอยถูกทะลวงเป็นรูสะบั้นหลอดลมตัดเส้นเลือดขาดใจตายแต่แรก

 

เยี่ยนฟางชมดูจนอ้าปากค้างกล่าวคำ

 

"ฝีมือที่อำมหิต"

 

เซี่ยเคอแค่นเสียงเฮอะ มันน้อยครั้งจะอธิบายเรื่องราวยืดยาว ครั้งนี้ก็เช่นกันเพียงเหลือบมองแวบ สาวเท้าล่วงล้ำถ้ำอสนีบาต ทางเดินคดเคี้ยววกซ้ายวนขวา ทว่าหินศิลาใต้เท้าเรียบลื่นสม่ำเสมอ รอบข้างแม้มืดมิดแทบสังเกตุอันใดไม่ถนัด เซี่ยเคอย่อมชินชาปราศจากท่าทีเขม็งตึงเครียด สายตากวาดกราดทั่วบริเวณ การพบเห็นครานี้สร้างความไหวหวั่นแก่เยี่ยนฟางจนขวัญสะท้าน

 

ซากศพแขนขาขาดกระเด็น คราบเลือดแปดเปื้อนผนังศิลา เศษอาวุธหักครึ่งท่อน สภาพเยี่ยงนี้ยิ่งมายิ่งเด่นชัด ตอนแรกเพียงทอดระยะห่างหลายวา ครั้นเลี้ยวซ้ายตามทางเดิน เบื้องหน้าปรากฏเส้นทางทอดยาวลาดต่ำลงทุกขณะ ซากศพนับสิบซากหากมิใช่อวัยวะภายในเรี่ยราด ก็ต้องแขนขาขาดกระเด็น แสดงแน่ชัดพวกมันก่อนตายผ่านการประหัตประหารนองเลือดอย่างสยดสยอง

 

เยี่ยนฟางยึดจับชายเสื้อบุรุษหนุ่มแนบแน่น ใบหน้าเผือดขาวอยู่บ้าง เซี่ยเคอกลับมิแยแสสนใจ หมกมุ่นครุ่นคิดเคร่งเครียด เหล่าผู้กล้าล้มตายสภาพดั่งเกิดเหตุผิดวิสัยหรือถ้ำอสนีบาตนี้ซุกซ่อนขุมกำลัง วางหลุมพรางชั่วร้ายมีเจตนาลึกซึ้ง

 

หนทางยิ่งนานยิ่งเอียงต่ำ คล้ายเดินลงสู่หุบเหวซึ่งมองมิเห็นก้นก็ปาน สองฟากข้างปรากฏหินลักษณะประหลาดสีสันผิดแผกแตกต่าง กลิ่นคาวอันฉุนเฉียวชนิดหนึ่งโชยปะทะนาสิกแทบอาเจียน จวบจนบรรลุถึงสุดทางที่แท้เป็นห้องโถงขนาดใหญ่ เพียงสภาพภายนอกก็สร้างความหวั่นหวาดแก่ผู้พบเห็น

 

คนชุดดำสิบกว่าคน คลุมหน้ามิดชิด เผยดวงตาเขียวปัดวูบวาบคล้ายฟอสฟอรัสหลายจุด ยืนเฝ้าปากโถงสองมือยึดกุมอาวุธเพ่งตาแน่วนิ่ง เซี่ยเคอแลเห็นแต่ไกลจึงหยุดยั้งในระยะอันสมควร ส่งเสียงกระด้างเอ่ยถามไป

 

"พวกท่านมีเจตนาขัดขวางผู้มา"

 

ไหนเลยคาดคิดคนชุดดำทั้งหมดยืนแข็งทื่อปราศจากท่าทีผิดปรกติ เยี่ยนฟางส่งเสียงเอ๊ะ พลางหยิบก้อนหินข้างเคียงก้อนหนึ่งซัดออกไป วัตถุพอห่างจากคนชุดดำผู้หนึ่ง มันพลันตวัดดาบในมือขึ้นปัดป่าย จากนั้นส่งเสียงร่ำร้องพิกล ซุ่มเสียงแหลมเล็กระคายหูยิ่ง

 

เซี่ยเคอจ้องมองด้วยความสงสัยใจ ขณะจะสืบเท้าเข้าหาคนชุดดำสิบกว่าคนก็เคลื่อนไหวแล้ว ขาไม่งอแขนไม่ขยับลอยตัวขึ้นจากพื้นวาเศษอากัปกิริยาแม้แคล่วคล่องแต่ปราศจากความพลิกแพลง การถาโถมเยี่ยงนี้เป็นที่ขัดตาทั้งพิกล อาวุธในมือพวกมันมีทั้งไม้เท้าเหล็กดาบสันหนาและกระบี่แคบเรียว

 

คนพอบรรลุถึงพากันกระจายโอบล้อมเซี่ยเคอทั้งสองไว้ ในห้องโถงก้นถ้ำปรากฏเสียงกู่กราดเกรี้ยวสำเนียงแหบโหย ภายใต้เสียงกู่ถ่ายทอดคำสั่ง คนชุดดำสิบกว่าคนบ้างแยกเขี้ยวหัวร่อบ้างทำท่ากระโดดเหยงๆเข้าหาเสือกแทงดาบกระบี่หวดไม้เท้าลงใส่ เซี่ยเคอทั้งนี้เพราะบดบังอยู่เบื้องหน้าขอทานน้อยย่อมตกเป็นเป้าโดยตรง เลิกคิ้วขยับกายพุ่งวนรอบหนึ่ง สองฝ่ามือตบฟาดดุจพายุร้าย เหล่าคนชุดดำผงะง๋ายแทบล้มคว่ำ ร่ำร้องเคี้ยกๆพลันเขย่งเท้ากระโดดเข้าหาคำรบสอง

 

เซี่ยเคอฉวยจังหวะพาเยี่ยนฟางล่าถอยถึงริมผนังกล่าวว่า

 

"ท่านคอยสังเกตุอยู่ด้านข้าง ระมัดระวังตัวให้มาก"

 

เยี่ยนฟางขยับเขยื้อนริมฝีปาก คำพูดเมื่อถึงลำคอจึงเลิกล้มความตั้งใจ บุรุษข้างหน้าไหนเลยเปิดโอกาสให้มันเอื้อนเอ่ยวาจา

 

เซี่ยเคอตวาดกึกก้องพุ่งสวนใส่คนชุดดำตรงๆ เงาอาวุธสาดครอบคลุม ทิ่มแทงกระหน่ำใส่ตลอดทั้งร่างด้วยอานุภาพดุดันหนักหน่วง เงาสีครามเคลื่อนไหวดุจสายฟ้าอาศัยโอกาสนี้สังเกตุกระบวนท่าศัตรู ประกายอาวุธแม้ถี่ยิบทว่าปราศจากพลังหนุนเสริมที่เพียงพอ หนำซ้ำพวกมันพอจู่โจมพลาดผิด แต่ละครั้งจะปรากฏรอยโหว่สามารถทำลายได้ทุกขณะ

 

ร่างหมุนคว้างสะบัดฟาดฝ่ามือออกสุดกำลัง วังวนพลังลมแน่นหนาม้วนทะลักทั่วแปดทิศ ดาบกระบี่ล้วนหักสะบั้นเศษเหล็กปลิวกระจัดกระจาย ขบวนคนชุดดำสับสนปั่นป่วนขึ้นมา คนชุดดำด้านหน้าถูกฟาดใส่ทรวงอกถนัดถนี่ เสียงทึบดังสนั่น คล้ายฟาดใส่กองหญ้าแห้งก็ปาน ร่างมันปลิวลิ่วไกลร่วมสองวา ทรุดฮวบล้มลงจากนั้นดีดกายกระโดดปราดขึ้น

 

เซี่ยเคอแตกตื่นจนหลั่งเหงื่อเย็นเยียบ คนชุดดำที่เหลือระดมทั้งหมัดฝ่ามือกระหน่ำโหมรุกราวคลุ้มคลั่ง ในวงล้อมเพิ่มพลังกดดันปานพะเนินเหล็ก กระบี่ที่หว่างเอวมิอาจไม่ชักออก ประกายเรืองรองส่องสว่างทั่วทั้งโถงถ้ำ สลับเท้าหลบเลี่ยงทางด้านตรง กวาดกระบี่เฉียงๆรูปครึ่งวงโค้งคุกคามคนชุดดำสามคนเซถลา

 

ระลอกแรกถดถอยอีกห้าหกคนพลันโลดแล่นถึงระยะจู่โจม เงาฝ่ามือสิบกว่าข้างผสานพลังลมอันแกร่งกร้าวกดกระหน่ำจากบนอากาศ เซี่ยเคอเคลื่อนขวางทางขวาสองก้าวปลายกระบี่จ่อจี้เฉียงๆ สั่นพลิ้วเป็นจุดแต้มๆถี่ยิบ คลี่คลายสภาวะฝ่ามือสลายกว่าครึ่ง

 

กระบวนท่าคนชุดดำชะงักงันชั่วขณะกระบี่ที่สองก็ตามติดในบัดดล พลิกข้อมือฟาดฟันใส่คนทางขวาสุดกำลัง กระบี่นี้แม้นธรรมดาสามัญ แท้จริงแฝงพลังแหลมคมสภาวะรวดเร็วดุดัน คนชุดดำผู้นั้นถูกฟันกลางลำตัวอย่างจัง ปลิวลิ่วชนผนังถ้ำสนั่นหวั่นไหว ถึงกับมิมีบาดแผลภายนอกสักน้อยนิด ร่างล้มครืนลงแน่นิ่ง ฉับพลันเกลือกกลิ้งกับพื้นตลบหนึ่ง ทำท่าตะเกียกตะกายผุดลุก สร้างความสั่นสยิวแก่ผู้พบเห็นจนขวัญแทบโบยบินลมหายใจขาดห้วง

 

ช่องแตกน้อยนิดนี้บุรุษหนุ่มสามารถถดถอยตั้งหลัก ทว่ากริ่งเกรงขอทานน้อยได้รับอันตราย สืบเท้าก้าวเฉียงกระบี่เสือกแทงแปดทิศทาง กระบวนเพลงเดียวแปดท่วงท่าพริบตาที่กระบี่แรกจ่อจี้ด้านตรง เท้าก็เหยียบย่ำตำแหน่งซึ่งผิดแผกกันสี่ทิศทาง หนึ่งก้าวย่างสองพลิกแพลงรวบรัดเฉียบขาด เปี่ยมอานุภาพอันเผ็ดร้อนและกราดเกรี้ยว

 

เงาอาวุธพร่าพรายปกคลุมรัศมีสองวา เงากระบี่ร้อยพันสายแฝงสภาวะคล้ายปรอทแทรกซึม คนชุดดำถดถอยแล้วบีบวงล้อมเข้าหา ดวงตาเขียวปัดเหลือกโปนแทบถลน ดาบไม้เท้าหลงเหลือครึ่งท่อนกวัดแกว่งจู่โจมราวคลุ้มคลั่ง

 

เสียงปะทะดังระคายหูเศษเหล็กปลิวกระเด็น เงาคนล้มง๋ายนอนแน่นิ่ง ตลอดร่างคนชุดดำปราศจากบาดแผลคมกระบี่ สร้างความสะพรึงแก่ขอทานน้อยจนหน้าถอดสีกรีดร้องแหลมเล็ก เซี่ยเคอแทบมิเชื่อสายตาข่มใจเยือกเย็นรั้งกระบี่ระดับเสมออก ยามนั้นได้คิดถึงในห้องโถงก้นถ้ำ ประดาคนชุดดำทั้งนี้เพราะถูกรังสีกระบี่ชำแรกสู่อวัยวะภายใน แม้นภายนอกไม่รับอันตรายใด ระยะเวลาอันสั้นอย่าหมายคืบคลานลุกขึ้นได้

 

กระโดดปราดถึงข้างกายเยี่ยนฟางโอบเอวอีกฝ่ายพุ่งโถมถึงก้นถ้ำ รู้สึกตลอดร่างมันอ่อนระทวย ใบหน้าแดงจรดใบหูก้มสายตาลงต่ำ บุรุษหนุ่มชิงล้ำหน้าสาวเท้าก้าวนำก่อน ด้านในห้องโถงยังมืดมิดกว่าภายนอกเสียอีก กระทั่งนิ้วมือยังแทบมองไม่เห็น ลมยะเยือกเสียดกระดูกโชยพัดใส่ กลิ่นอายลี้ลับจู่โจมจิตใจหนักอึ้ง หยุดยืนปากประตูเพ่งตาสำรวจตวาดกึกก้อง

 

"ผู้เยาว์บุกรุกโดยบังเอิญ ขอเชิญยอดคนด้านในออกมากล่าววาจาสักหลายประโยค"

 

ซุ่มเสียงสะท้อนอยู่เนิ่นนาน นอกจากกระแสลมอื้ออึงหามีสำเนียงตอบโต้สักแผ่วเบา เยี่ยนฟางกระตุกชายเสื้อมัน เอ่ยเสียงกังวาน

 

"ใช่แล้วบริวารเพียงเป็นนักสู้เดนตาย คาดว่าท่านคงมิมีใดยอดเยี่ยมกล้าพบปะผู้คน"

 

ขาดคำปรากฏเสียงแค่นอย่างเย็นชา พลังไร้สภาพมหาศาลแผ่ทะลักโดยไร้วี่แวว เซี่ยเคอระวังตัวอยู่ก่อน สอดกระบี่คืนฝักเหยียดแขนง๋ายใจกลางฝ่ามือทั้งสองขึ้น รับตรงๆฉับพลันพลังกดดันพอบรรลุ คล้ายถูกแม่เหล็กดูดรั้ง เปลี่ยนเป็นกระแทกใส่พื้นใต้เท้าหมดสิ้น หินเขียวปริแตกหลายแผ่น สั่นสะเทือนจนเยี่ยนฟางแทบเสียหลักล้มคว่ำ

 

เซี่ยเคอส่ายร่างโงนเงนหลายครา ใบหน้าคมคายซีดเผือดเล็กน้อย พลังการฝึกปรือของบุคคลลึกลับสูงส่งน่าตระหนกจริงๆ...