บทที่ 219 สอบปากคำ
คำพูดและอากัปกิริยาของผมทำให้คุณหมอสาวคนสวยดูท่าทางจะไม่สบอารมณ์
ใบหน้าขาวหมวยบึ้งตึงขึ้นมาทันที พร้อมกับปากที่ขมุบขมิบเหมือนกำลังบ่นอะไรบางอย่างด้วยความไม่พอใจ
“ชิ...หน้าตาก็ดี ปากไม่เห็นดีเหมือนหน้าตาเลย คนสวยไม่ปลื้ม...” คุณหมอสาวอดค่อนแคะแขวะคนที่เธอคิดว่าหล่อที่สุดเท่าที่เคยเจอผู้ชายมาไม่ได้ แต่ทว่า...พฤติกรรมและคำพูดของเขากลับทำให้เธอรู้สึกว่าคนตรงหน้าช่างพูดจาดูท่าทางไม่มีเสน่ห์สำหรับเธอเอาเสียเลย
และพฤติกรรมของคุณหมอสาวก็ไม่อาจรอดสายตาของผมไปได้ และถึงแม้ว่าผมจะเห็นท่าทางของเธอทุกอย่าง แต่กลับได้ยินไม่ถนัดว่าเธอพูดอะไร นั่นก็เพราะว่าเธอเหมือนกับแค่สบถกับตัวเองเบา ๆ ไม่ได้หวังว่าจะให้ใครได้ยิน
แต่ทว่า...ไอ้กิตที่นั่งแทบจะประชิดหน้าของคุณหมอสาวน่าจะเป็นบุคคลที่ได้ยินทุกคำพูดของเธอ...
และอากัปกิริยาของไอ้กิตที่แสดงออกมา ก็ทำให้ผมรู้ได้ในทันทีเลยว่าสิ่งที่ผมคาดเดาว่าคุณหมอสาวคงกำลังจะค่อนแคะผมอยู่นั้น ผมนะคิดถูกต้องแล้ว...
กิตที่ดูจะอึ้งกับสิ่งที่ตนได้ยิน ถึงกับทำให้ใบหน้าเข้มของตัวเองเหวอขึ้นมาทันที ก่อนที่ตัวเขาจะรีบดึงสติให้กลับมาอีกครั้ง แล้วปรับหน้าให้กลับมานิ่งตามเดิม
“ปากดีนักนะ...เดี๋ยวพ่อก็เลาะฟันออกมาดูเล่นซะนี่” กิตที่พูดเสียงเหี้ยมข่มใส่หมอสาวอีกครั้ง พร้อมกับเชยคางเธอให้เงยขึ้น จนเผยให้เห็นใบหน้าขาวสวยหมวยน่ารักภายใต้คราบขี้ฝุ่นดำ ๆ ที่เปรอะเปื้อนเต็มใบหน้าขาวของเธอ
“หึ...” ผมที่มองดูภาพตรงหน้าแล้วเกิดตงิด ๆ อะไรบางอย่างขึ้นมาในใจ นั่นก็เพราะปกติเวลาอยู่ข้างนอกกิตมันมักจะเคร่งขรึมพูดน้อยต่อยหนัก แต่จะกวนประสาทก็แค่กับผมเท่านั้น แต่ทว่า...วันนี้ดูมันจะไม่มีสมาธิเอาเสียเลย
และถึงแม้ผมจะรู้สึกสงสัยในพฤติกรรมที่ผิดแผกแปลกไปของลูกน้องคนสนิท แต่ทว่า ณ เวลานี้สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผมเลยก็คือการล้วงเอาข้อมูล และความจริงที่ผมอยากจะรู้ออกมาจากคุณหมอสาวที่อยู่ตรงหน้านี้ให้มากที่สุด
เมื่อคิดได้ดังนั้นผมก็ตรงเข้าเรื่องทันที ~~
“อย่างที่กูบอก มึงแค่ตอบคำถามกูมา แล้วกูก็จะปล่อยตัวมึงไปโดยที่ไร้รอยขีดข่วน แต่ถ้ามึงไม่ตอบหรือโกหกกู กูมีทางเลือกให้มึงสองทาง นั่นก็คือ...หนึ่งมึงจะได้เป็นเมียของลูกน้องกูทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ หรือสองมึงจะต้องตกเป็นเมียของลูกน้องกูคนนี้แค่คนเดียว...มึงเลือกได้นะ...หึหึ” ผมเอ่ยบอกเสียงเรียบ พร้อมกับแสยะยิ้มร้ายส่งไปให้คุณหมอสาว เพื่อให้เธอได้รับรู้ว่าผมไม่ได้ล้อเล่น และก็ไม่วายที่จะแอบเหล่มองไปทางไอ้ลูกน้องตัวดีของผมเพื่อดูอากัปกิริยามันอีกรอบ
นั่นก็เพราะว่าโดยปกติแล้วผมไม่ใช่คนที่จะมานั่งเล่นลิ้นอะไรแบบนี้ แต่เพราะไอ้อาการแปลก ๆ ของไอ้ลูกน้องตัวดี มันทำให้ผมอยากจะแกล้งมันขึ้นมา
และสิ่งที่ผมพูดออกไปมันก็ได้ผล ไอ้กิตถึงกับหน้าเหวอหันมามองผมในทันที
“นะ...นาย” กิตเรียกผมด้วยอาการละล่ำละลัก แต่ใบหน้าของมันกลับแดงแปร๊ดดูมีพิรุธ
ส่วนหมอสาวก็มีอาการตื่นตระหนกไม่แพ้กันกับไอ้กิต แต่ทว่า...อาการของเธอน่าจะเป็นเพราะว่าเธอกลัวคำขู่ของผมมากกว่าที่จะคิดอะไรลึกซึ้งไปมากกว่านั้น
หลังจากที่ผมเล่นสนุกพอหอมปากหอมคอ ก็ได้เวลาที่ผมจะเริ่มสอบปากคำเธอสักที...
“มึงชื่ออะไร??” ผมเริ่มสอบสวน
“นะ...น้ำค้าง” หมอสาวก้มหน้างุดตอบ
“รู้จักไอ้มาคินทร์ไหม??” ผมถามตรงประเด็น
และคำถามนี้ก็เหมือนจะจี้ถูกจุด นั่นก็เพราะว่าคุณหมอสาวเธอเกิดอาการลังเลขึ้นมาทันที
“ว่าไง...รู้จักไอ้มาคินทร์ไหม??” ผมถามขยี้ไปที่จุดเดิม
“มะ...มาคินทร์ไหน” เสียงใสเอ่ยตะกุกตะกัก
“อย่ามาเล่นลิ้นกับกู!!” ผมตวาดเสียงดังจนตัวเธอสะดุ้ง
“ก็มาคินทร์ไหนล่ะ” หมอสาวที่แม้จะตัวสั่นเพราะความกลัว แต่ทว่า...เธอเองก็ยังคงไม่ยอมบอกอะไรออกมาง่าย ๆ เหมือนกัน
“หึ...ก็ไอ้มาคินทร์ วงศ์เวชรุ่งเรือง ยังไงล่ะ มึงรู้จักมันไหม” ผมแค่นเสียงเย็นใส่ พร้อมกับส่งสายตาแข็งกร้าวไปให้เธอ
“อ่ะ...อ๋อ...ระ...รู้จัก” เธอที่แม้จะอึกอักดูลำบากใจที่จะพูด แต่ท้ายที่สุดเธอก็ยอมที่จะบอกออกมา
และคำตอบของเธอก็ทำให้ผมยกยิ้มที่มุมปากอย่างคนมีชัย
“มึงกับมันเป็นอะไรกัน” ผมถามเข้าประเด็นอีกครั้ง
“พะ...เพื่อน เพื่อนสมัยเรียน แต่ไม่เจอกันนานแล้ว” คุณหมอสาวเอ่ยปากโกหกคำโตออกมา โดยที่ไม่รู้เลยว่าผมมีข้อมูลมากมายอยู่ในมือ
“กูให้มึงพูดอีกรอบ” ผมกดเสียงต่ำจนทำให้เสียงที่เปล่งออกมานั้นดูเย็นยะเยือก
“ก็เพื่อนสมัยเรียนหมอมาด้วยกันจริง ๆ นิ...ฮึกๆๆ” หลังจากที่คุณหมอสาวโดนกดดันด้วยน้ำเสียงอำมหิต ทำให้เธอเริ่มจะมีก้อนสะอื้นจุกอยู่ที่ลำคอ
“หึ...ไม่ใช่ว่ามึงเป็นเมียมันหรอกหรอ??” ผมเลิกคิ้วถาม พร้อมกับจับจ้องดูอากัปกิริยาของเธอ
และคำกล่าวหาของผมก็ดูเหมือนว่าจะไปกระตุ้นความไม่พอใจบางอย่างของคุณหมอสาวเข้า เพราะจากที่เธอนั่งตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว ก็กลับกลายเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวทำตัวเป็นนักต่อสู้ทางการเมืองเพื่อผดุงความยุติธรรมให้ตัวเองขึ้นมาทันที
“ไอ้บ้า ใครบอกนาย...ห๊ะ ข่าวมั่วแล้ว...ฮึก ฉันบอกว่าฉันกับมาร์คเราเป็นแค่เพื่อนเรียนหมอมาด้วยกันแค่นั้น ก็แค่นั้นสิ...แล้วอีกอย่างนะถ้าที่พวกนายจับตัวฉันมาเพราะคิดว่าฉันเป็นเมียของมาร์คแล้วล่ะก็ พวกนายจับผิดตัวแล้วย่ะ เพราะฉันไม่ได้มีสถานะแบบนั้นกับเขา...ฮึ” คุณหมอสาวเชิดหน้าตอบ ออกอาการไม่พอใจขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากเธอไม่ค่อยพอใจที่ถูกปรักปรำแบบนี้ นั่นก็เพราะเธอเป็นเพื่อนกับมาร์คด้วยความบริสุทธิ์ใจ และไม่อยากให้ใครมาเข้าใจเธอผิด ๆ
แต่ทว่า...คำตอบของหมอน้ำค้างก็กลับทำให้ใครบางคนที่อยู่แถวนั้นเผลอลอบอมยิ้มออกมาเล็กน้อยอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“แน่ใจนะ!!” ผมถามย้ำ
“แน่ใจซิย่ะ ฉันบอกว่าเพื่อนก็คือเพื่อน ฉันชัดเจนพอ” คุณหมอสาวยืนยันด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น พร้อมกับสายตาที่ส่งตรงมาถึงความจริงใจอย่างไม่มีปิดบัง
“ก็ดี...กูชอบคนที่ชัดเจนไม่ตอแหล...” ผมกอดอกบอกด้วยท่าทีสบาย ๆ ก่อนที่ตัวเองจะยื่นมือไปรับเอกสารข้อมูลต่าง ๆ ที่รวบรวมมา จากมือลูกน้องอีกคน
“ถ้าอย่างนั้น เอกสารพวกนี้คืออะไร??”
ผมถามพร้อมกับโยนเอกสารในมือออกไป...
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 34
แสดงความคิดเห็น