บทที่ 204 สมควรแก่เวลา...
ณ เวลานี้ฉันมีความสุขมาก เพราะนอกจากอาหารที่เขาทำถูกใจฉันไปหมดทุกอย่างแล้ว ในตอนนี้ฉันก็ไม่มีอาการคลื่นไส้หรือเวียนหัวเลยด้วยซ้ำ มันยิ่งทำให้ฉันเจริญอาหารสุด ๆ
(เอ๊ะ...หรือว่าเขาเหมาอาการแพ้ท้องของฉันไปหมดแล้วนะ...>u<)
“ว่าแต่...เฮียไปฝึกทำอาหารตอนไหนกันค่ะเนี้ย ฝีมือพัฒนาไปไกลกว่าตอนที่ทำข้าวต้มไหม้เยอะมากเลยนะคะ” ฉันถามเขาด้วยความสงสัย พร้อมกับแอบแซวเขาไปหนึ่งกรุบ
“ก็ตามคลิปในอินเทอร์เน็ตบ้าง แล้วเฮียก็ให้เชฟมาทำให้ดูบ้าง” เขาเอ่ยบอก
“ว้าว...” *O* ฉันที่อึ้งกับสิ่งที่เขาบอก
“แล้วทำไมเฮียไม่ให้ป้าเสริมทำหรือสั่งเขาเอาก็ได้นี่ค่ะ เอลิซไม่อยากให้เฮียเหนื่อยมากเกินไป ทั้งที่หน้าที่พวกนี้ควรจะเป็นเอลิซดูแลเฮียมากกว่า” ฉันจากที่ตื่นเต้นกับสิ่งที่เขาเล่าในตอนแรก จู่ ๆ ก็กลับรู้สึกไม่สบายใจที่เขาต้องเหนื่อยกับงานและยังต้องมาทำอาหารให้ฉันกินอีก ทั้ง ๆ ที่เขาไปทำงานนอกบ้าน แต่ฉันเอาแต่อยู่บ้านไม่ได้ทำอะไรเลย
ใบหน้าระรื่นของฉันแปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าเศร้าสลดในทันที จนทำให้เขาถึงกับร้อนรนรีบเอ่ยปากปลอบประโลมเพราะกลัวว่าฉันจะร้องไห้
“ไม่คิดมากซิคะ มันเป็นสิ่งที่เฮียอยากทำให้เอลิซอยู่แล้ว และเฮียก็มีความสุขมากด้วยไม่รู้สึกเหนื่อยเลยสักนิด อีกอย่างที่เฮียตั้งใจเรียนรู้เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้ นั่นก็เพราะว่าเฮียอยากทำให้เอลิซมีความสุขที่สุด อยากให้เอลิซภูมิใจที่มีเฮียเป็นคู่ชีวิต เฮียอาจจะไม่ได้ทำให้เอลิซทานทุกวันแต่ถ้ามีโอกาสเฮียก็อยากจะทำให้เอลิซตลอดนะคะ” เขาที่เอ่ยพูดความในใจของตัวเองพร้อมกับปลอบฉันไปด้วย โดยที่มือหนาแสนอบอุ่นของเขาก็ยกขึ้นมาลูบเรือนผมสวยของฉันเบา ๆ ด้วยความรัก
ฉันรู้สึกซึ้งในคำพูดกินใจของเขา อีกทั้งสิ่งที่เขาทำให้ฉันทุก ๆ อย่างในวันนี้และตลอดมา มันยิ่งแสดงให้ฉันได้เห็นและได้รับรู้ว่าเขารักฉันมากขนาดไหน ทั้งพยายามที่จะรักษาคำสัญญาที่บอกว่าจะทำให้ฉันมีความสุขเหมือนอย่างที่เขาเคยพูดเอาไว้ และยังพยายามทำให้ฉันเห็นว่าฉันเลือกคู่ชีวิตไม่ผิด...
ความรู้สึกที่เกิดขึ้น มันก็ทำให้ฉันรู้สึกตื้นตันใจจนดวงตากลมโตสุกใสเริ่มมีมวลน้ำขึ้นมาเอ่อคลอ...
ฉันมองใบหน้าคมเข้มของเขาด้วยหัวใจที่อิ่มไปด้วยความสุข ก่อนที่สองมือของฉันจะเอื้อมไปจับมือของเขาที่กำลังลูบผมของฉันอยู่เอามาบรรจงจรดริมฝีปากลงเบา ๆ
จุ๊บ ~~
“ขอบคุณนะคะ...ขอบคุณที่รักเอลิซนะคะเฮีย...” ฉันพูดพร้อมกับส่งยิ้มละมุนไปให้เขาด้วยหัวใจที่เต็มตื้นไปด้วยความสุข
เขาที่ดูจะพึงพอใจกับสิ่งที่ฉันทำ อีกทั้งยังรู้สึกอิ่มเอมไปด้วยมวลความรัก ทำให้เขายกยิ้มละมุนส่งกลับมาให้ฉันด้วยความรักและเอ็นดู
“ก็เฮียบอกแล้วไงว่าเอลิซจะเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เฮียรักในฐานะภรรยา และจะรักไปตลอดชีวิตของเฮีย เฮียเคยให้สัญญาไปแล้วไงคะ และเฮียก็จะย้ำสัญญาของเฮียอีกครั้งเพื่อให้เอลิซเมียรักของเฮียได้มั่นใจ” เขาเอ่ยคำมั่นด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นและแววตาที่จริงใจ พร้อมทั้งกุมมือของฉันยกขึ้นไปจรดริมฝีปากคืนเช่นกัน
และความสุขที่เอ่อล้นในหัวใจของฉันตอนนี้ มันทำให้ฉันคิดว่า ณ เวลานี้มันเป็นเวลาที่เหมาะสมและควรค่าที่สุดแล้วที่เขาจะได้รับรู้ถึงความรู้สึกของฉันที่มันคั่งค้างอยู่ภายในใจ พร้อมกับข่าวดีระหว่างฉันกับเขาถึงการมีอยู่ของพยานรักที่ได้ถือกำเนิดขึ้นมาในท้องเล็ก ๆ ของฉัน...
“เอ่อ...เฮียค่ะ...เอลิซ...” ฉันยกยิ้มเตรียมตัวจะพูดทุกอย่างออกไป
ส่วนเขาที่เมื่อเห็นอากัปกิริยาของฉันที่เหมือนว่ามีอะไรจะพูด ก็ยกคิ้วสูงขึ้นพร้อมกับมองมาที่ฉันด้วยความตั้งใจที่จะฟังในสิ่งที่ฉันกำลังจะเอื้อนเอ่ยออกมา
และในขณะที่ฉันกำลังจะเอ่ยบอกความในให้เขาได้รับรู้...
ครืดดด ~~ ครืดดด ~~
เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น
“วะ...ว่าไงนะคะ” เขาที่พูดกับฉันแต่สายตากลับจับจ้องไปที่โทรศัพท์มือถือของตัวเอง
พฤติกรรมของเขามันทำให้ฉันรับรู้ได้ทันทีว่าเขาต้องมีเรื่องสำคัญที่กำลังรอฟังข่าวอยู่อย่างแน่นอน
“เฮียไปรับสายก่อนก็ได้ค่ะ เผื่อมีเรื่องด่วนอะไร” ฉันบอกเขาหลังจากที่สายตาเหลือบไปเห็นหน้าจอบ่งบอกว่าพี่กิตโทรเข้ามา ส่วนเรื่องของฉัน ฉันคิดว่ายังมีเวลาอีกถมถืดที่จะบอกกับเขา
“อ่ะ...โอเคจ้ะ งั้นเอลิซกินไปก่อนเลยนะไม่ต้องรอเฮีย” เขาที่พูดจบก็เดินไปยังห้องทำงานทันทีเพื่อรับโทรศัพท์
ฉันที่มองตามร่างสูงสง่าไป ก่อนจะหันมาจัดการอาหารแสนอร่อยของว่าที่คุณพ่อที่เขาบรรจงทำให้ด้วยความตั้งใจ พร้อมกับเอื้อมเอามือไปแตะที่ท้องเบา ๆ เพื่อพูดกับเจ้าสองแสบในท้อง
“วันนี้ป๊ะป๋าของลูก ๆ ลงมือทำอาหารให้ทานเลยนะคะ อร่อยมาก ๆ เลยค่ะลูก พวกหนูต้องกินเยอะ ๆ นะคะ” ฉันยิ้มน้อย ๆ ให้กับความรักในรูปแบบใหม่ที่ถือกำเนิดขึ้น ก่อนจะหันมาจัดการอาหารที่อยู่ตรงหน้าจนอิ่มแปล้...
--- เซฟ Talk ---
หลังจากที่ผมเดินออกมาจากโต๊ะอาหารเพื่อมารับสายของกิตลูกน้องคนสนิทของผม
ติ๊ด ~~
“เออ...ว่าไง” ผมกรอกเสียงตามสายไปด้วยความรู้สึกที่อยากรู้ถึงข้อมูลที่ลูกน้องของผมน่าจะได้เพิ่มเติมมามากขึ้น
“นายครับ ผมโทรมารายงานความคืบหน้าเพิ่มเติมครับ” กิตพูดด้วยความตื่นเต้น
ผมเงียบตั้งใจฟังในสิ่งที่ลูกน้องกำลังจะบอก
“หลังจากที่ผมได้ทำการสืบมาแล้วว่าโรงพยาบาลนั้นไอ้มาคินทร์ได้เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่จริงหรือไม่ ใช่ไหมครับ สรุปว่าเป็นมันจริง ๆ ด้วยครับนาย"
สิ้นสุดคำยืนยันจากลูกน้องคนสนิทของผมในสิ่งที่ผมมั่นใจอยู่แล้วถึงกับทำให้ผมยกยิ้มแสยะขึ้นมาด้วยความรู้สึกสะใจที่คาดเดาอะไรเอาไว้ไม่มีผิดเพี้ยน
"เป็นอย่างที่กูคิดเอาไว้ไม่ผิด...หึ" ผมแค่นเสียงเย้ยใส่ลูกน้อง ก่อนจะตั้งใจฟังในสิ่งที่คนสนิทของผมจะรายงานต่อ ด้วยลางสังหรณ์ที่คาดเอาไว้ว่าจะต้องมีข้อมูลเด็ด ๆ อะไรเพิ่มเติมอย่างแน่นอน
ส่วนกิตเองก็ไม่รอช้ารีบรายงานต่อทันที เพราะรู้ดีว่าเจ้านายของใจร้อนมากแค่ไหน...
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 40
แสดงความคิดเห็น