บทที่ 181 เป้าหมายใหม่!!
เสียงคำรามร้องของกิตที่ดังก้องกังวานอยู่ในใจของตัวเอง ด้วยความรู้สึกเสียดายที่เขากำลังจะได้บอกถึงเรื่องสำคัญให้กับผู้เป็นนายของเขาได้รับรู้ แต่ดันถูกผู้มีอำนาจมากกว่ามาสกัดดาวรุ่งเสียก่อน
และในจังหวะที่กิตจะหันมาบอกผู้เป็นนายอีกครั้ง
เซบาสเธียที่ไม่ได้สนใจในเรื่องราวของผู้หญิงที่กิตพร่ำพรรณนาให้ฟังตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ก็ได้โอกาสรีบลุกขึ้นเดินหนีไปในทันที เพราะในหัวใจอันซื่อสัตย์ของเขาไม่ว่าเธอจะเป็นใคร เขานั้นก็ไม่อยากรู้ไม่อยากรับมาใส่ใจ และไม่อยากให้มีเรื่องราวของผู้หญิงอื่นใดเข้ามาในโสตประสาทของเขา นอกจากเรื่องราวของเธอ...เอลิทิ้งบอมบ์...ผู้หญิงที่เขารักมากที่สุดแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น
และอีกอย่างเขาก็ไม่อยากให้เธอมารู้ทีหลังว่าตัวเขามานั่งฟังลูกน้องชื่นชมหญิงคนอื่น นั่นก็เพราะว่าเขากลัวเธอเสียใจ กลัวเธอจะทิ้งเขาไป เพราะเขาคงอยู่ไม่ได้แน่ ๆ ถ้าไม่มีเธอ...
ณ โต๊ะอาหาร คฤหาสน์ธิพัฒน์เดชะไพศาล
“สวัสดีครับพ่อ” ผมโค้งหัวเล็กน้อยให้กับพ่อของผมที่นั่งอยู่หัวโต๊ะอาหาร
“อืม...เป็นไงล่ะไอ้ตัวดี ไหนล่ะว่าที่ลูกสะใภ้ฉันที่แก่ซ่อนเอาไว้น่ะ...หื้อ” พ่อผมที่มักเปิดประเด็นเข้าตรงจุดทุกครั้งไม่มีอ้อมค้อม
ผมที่อึ้งไปไม่เป็นเมื่อโดนหมัดน็อกของพ่อตั้งแต่ยังไม่เริ่มชก ~~
“อ้าว แล้วป้าเธซ่าล่ะครับ” ผมเปลี่ยนประเด็นทันที เพราะไม่อยากตอบคำถามของพ่อ เนื่องจากผมไม่รู้ว่าไอ้เรน่ามันได้ไปบอกเล่าความจริงเกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมดแล้วหรือยัง
“แหม...ทำเป็นมาถามหาป้าเขา แกเล่นไปพูดใส่ป้าเขาแบบนั้น แกคิดว่าเขาจะยังมีหน้ามานั่งกินข้าวกับเราอีกหรอ...หึ...เฮ้ออออ ตาเซฟ น่ะ ตาเซฟ หัดรักษาน้ำใจคนอื่นซะบ้างซิลูก ~~” แม่ผมที่จัดรัวชุดใหญ่ให้ผมทันที หลังจากที่ผมทิ้งบอมบ์คำพูดให้กับป้าเธซ่าเอาไว้ จนแกน้อยอกน้อยใจงอนกลับคฤหาสน์แกไปทันที หลังจากที่แม่ของผมปลอบอยู่สักพัก
“ก็เชื้อพ่อมันแรง...นี่จ้ะ...แม่ยอดยาหยีของป๋า” พ่อผมหันไปหยอดแม่ด้วยความภูมิใจ เพราะนิสัยตรงนี้ของผม ต้องยอมรับเลยว่าผมได้มาจากพ่อเต็ม ๆ
แต่ทว่า...พ่อน่าจะหยอดแม่ผมโดยไม่ดูเวล่ำเวลา...
“หุบปากไปเลยนะคะ...เซบาสเตียน” แม่ผมหันไปแว๊ดใส่พ่อผมทันที
“โธ่...เมียจ๋า...อย่าเรียกชื่อเต็มอย่างนั้นสิ ผัวใจคอไม่ดีเลยน๊าาา เรียกป๋าเหมือนเดิมไม่ได้หรอ” พ่อผมที่ถึงกับเลิ่กลั่กทำอะไรไม่ถูกทันที เมื่อโดนแม่ผมดุใส่ พร้อมกับเอาหน้าเข้าไปนัวเนียที่ต้นแขนแม่ของผมทันที
ผมที่มองภาพเหล่านั้นด้วยความเคยชิน ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบา ๆ และไม่ต้องบอกก็รู้ว่านิสัยคลั่งรักเมียของผมนี่ได้มาจากใคร
“อ่ะแฮ่ม ~~” ผมที่แกล้งกระแอมเพื่อเตือนพ่อกับแม่ว่าผมยังนั่งอยู่ตรงนี้
“ไอ้เซฟ กลับบ้านไปเลยไป๊พ่อจะง้อเมีย” พ่อผมหันขวับมาบอกผม
O_O” ผมถึงกลับอึ้งในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน ‘โอ้โห้...ถึงขนาดไล่ลูกในไส้เพื่อจะง้อเมียเลยเนี้ยนะ...กำของกูที่มีพ่อแบบนี้
“ไล่ลูกไปได้ยังไงคะ นาน ๆ ลูกจะกลับมากินข้าวบ้าน วันนี้ทำตัวไม่ดี...คืนนี้...อด!!...อุ้ย...อุบ” (O//.//O) แม่ผมที่เหมือนว่าท่านจะลืมตัว พูดประโยคที่ทำเหมือนกับว่าผมเป็นเด็กที่ไม่ควรจะได้ยิน ถึงกับตกใจรีบปิดปากตัวเองทันที พร้อมกับใบหน้าที่แดงระเรื่อออกมา
ผมลอบยิ้มให้กับความน่ารักของแม่ผม เพราะบางมุมของท่านก็ทำให้ผมคิดถึงหน้าใครบางคน ที่ผมรักจนหมดหัวใจ
“โอ๊ยยยย เมียจ๋า ผัวไม่ยอมน๊าาา” พ่อผมที่ทำตัวดีดดิ้นเหมือนเด็ก ๆ จนผมไม่อยากจะคิดเลยว่ามาดเข้มสุดขรึมที่พ่อมักจะทำเมื่อตอนอยู่นอกบ้าน จนทำให้ใครที่ได้พบเห็นต่างหวาดกลัว จะมากลายเป็นคนแก่งอแงเป็นเด็กในบ้านของตัวเอง
ผมมองภาพตรงหน้าพร้อมกับมุมปากที่ยกขึ้นยิ้มเล็กน้อย ทำไมเมื่อก่อนผมถึงรำคาญพวกท่านได้นะ ทั้งที่พวกท่านมีมุมน่ารักขนาดนี้
ภาพที่ทำให้ผมรู้สึกเพลินใจ พร้อมกับคิดไปว่าถ้าวันนี้มีเธอผู้หญิงที่ผมรักมานั่งอยู่เคียงข้าง ผมจะมีความสุขมากขนาดไหน
ผมที่นั่งฟังพ่อแม่ จากที่เถียงกันไปมากลับกลายเป็นคำพูดกระเซ้าเย้าแหย่กัน จนความรู้สึกตรงหน้านั้นยิ่งกระตุ้นให้ผมคิดถึงคนที่กำลังรอผมอยู่ที่บ้าน จนผมอยากจะรีบกลับไปหาเธอแล้ว
“ทั้งคู่พอเถอะครับเดี๋ยวผมจะกินข้าวไม่ลง...” ผมทำเป็นพูดออกไปหลังจากที่เห็นพ่อของผมเอาแต่ดึงมือแม่ของผมไปจูบไปหอม
(>//v//<) / (^_<) สีหน้าของแม่กับพ่อที่ส่งมาให้กับผม ทำให้ผมอดขำในใจไม่ได้
“ถ้างั้นก็รีบ ๆ กินกันเถอะครับผมมีธุระต่อ ส่วนพ่อกับแม่จะได้รีบขึ้นห้องไป...เอ๊ย...รีบไปปรับความเข้าใจกัน...หึหึ” ผมเอ่ยแซวพ่อกับแม่ตัวเองออกไป จนทำให้ท่านสองคนออกอาการประดักประเดิด หน้าแดงก่ำที่ถูกลูกรู้ทัน
“เอ๊ะ...ตาเซฟ พูดอะไรเนี้ย...ทะเล้นใหญ่แล้วนะเรา” แม่ผมที่พูดตะกุกตะกักดูน่ารัก
“ดีมากหัดทำหน้าที่ลูกกตัญญูบ้าง” ส่วนพ่อผมกลับเอ่ยคำชมจนผมรู้สึกเอ๊ะขึ้นมาในใจ
“หึ...ก็เพราะกตัญญูนี่แหละครับถึงไม่กลับบ้านไง” ผมแสยะยิ้มมุมปากแบบมีเลศนัยส่งกลับไปให้ผู้เป็นบิดา
“ฮ่าๆๆๆ ให้มันได้ยังนี้ซิวะไอ้ลูกชาย ฮ่าๆๆๆ” พ่อผมที่ดูเหมือนจะถูกอกถูกใจในคำพูดของผม จนหัวเราะลั่นออกมา
“ป๋าเดี๋ยวเหอะ!!” แม่ผมที่อายจนแทบจะม้วนลงดินไปอยู่แล้ว เอ่ยปรามจนพ่อผมหุบปากกว้าง ๆ ที่กำลังหัวเราะอยู่แทบไม่ทัน
มันเป็นมื้ออาหารที่ผมรู้สึกอบอุ่นใจ จนอยากจะให้เธอได้มานั่งข้างกายแล้วได้เห็นภาพตรงหน้านี้เหมือนกันกับผม
ในขณะที่กินข้าวไปได้สักพักนั้น ~~
“แต่แม่อยากได้แม่หนูคนนั้นมาเป็นลูกสะใภ้จริง ๆ นะ” จู่ ๆ แม่ผมก็เปิดประเด็นขึ้นมา
“แค่กๆๆๆ ” ผมถึงกับสำลักอาหารที่เพิ่งกินเข้าไปทันที ที่จู่ ๆ แม่ผมทะลุกลางปล้องพูดออกมาแบบนี้
“อะไรนะครับแม่” ผมทำเป็นถามซ้ำ
“แม่บอกว่า...แม่อยากได้แม่หนูคนที่ช่วยแม่เอาไว้น่ะ มาเป็นลูกสะใภ้ แกนี้ยังไง ยังหนุ่มยังแน่นหูตึงซะแล้ว” แม่ผมออกปากเอ็ดผมเล็กน้อย ก่อนจะตักอาหารตรงหน้าไปให้พ่อของผม
“แล้วเรน่าล่ะ” ผมแกล้งถามหยั่งเชิงออกไป
“ชิ...พวกแกนะเล่นอะไรเป็นเด็ก ๆ ไปได้” แม่ผมบ่นขึ้นมาเมื่อผมพูดถึงเรื่องเรน่า
“เล่นอะไรครับ นู้นไอ้เรน่ามันเล่นของมันคนเดียวผมไม่เกี่ยวสักหน่อย” ผมรีบปฏิเสธ
“เอ๊ะ...แต่ว่าแม่พูดแบบนี้...ก็หมายความว่า” ผมที่เหมือนจะสะกิดใจบางอย่างกับคำพูดของแม่
“ใช่...หนูเรน่าเขาไปสารภาพกับพ่อแม่เขาหมดแล้ว ไอ้เรื่องที่เขากุขึ้นมาว่าแกไปขอเขาแต่งงานน่ะ แล้วพ่อแม่ของเขาก็ฝากมาขอโทษแกด้วยที่ทำให้เดือดร้อนกันไปใหญ่” แม่พูดเสียงเรียบ
แต่ทำไมผมถึงรู้สึกว่าในน้ำเสียงของแม่นั่น กลับไม่มีความเสียดายหรือเสียใจที่ไม่ได้เรน่ามาเป็นลูกสะใภ้เลย และความสงสัยนี้มันก็ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะถามออกไป
“เอ๊า...แล้วแม่ไม่เสียดายแล้วหรือไงครับ ที่ไม่ได้ไอ้เรน่ามาเป็นลูกสะใภ้น่ะ” ผมที่ทำเป็นโยนหินถามทาง
“จะไปเสียดงเสียดายอะไรกันเล่า...ก็แม่เขามีเป้าหมายใหม่แล้วนี่” พ่อผมพูดสวนขึ้นมาทันที จนแม่ผมที่ได้ยินหันไปค้อนขวับเข้าให้
“พูดเยอะจังนะคะ...เซบาสเตียนนนนน!!!” แม่ผมที่อดหมั่นไส้ไม่ได้ เอาช้อนของตัวเองที่ตักน้ำซุปยัดเข้าไปในปากของพ่อผมเพื่อปิดปาก
“เป้าหมายใหม่...!!”
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 77
แสดงความคิดเห็น