บทที่ 149 รอวันที่ได้เคียงข้าง
สีหน้าที่บ่งบอกถึงความเกลียดฉายออกมา จนทำให้ใบหน้าสาวที่เคยสดใสดูไม่เหมือนก่อน โดยเฉพาะเมื่อนึกไปถึงใครคนหนึ่งที่ทำให้เธอต้องรู้สึกแบบนี้
“อีเอลิซเป็นเพราะมึงคนเดียว อีหน้าด้านไร้ยางอาย จู่ ๆ มาจากไหนก็ไม่รู้มาชุบมือเปิบแย่งคนที่กูรักไปอย่างหน้าตาเฉย เท่านั้นยังไม่พอ มึงยังมาแย่งโอกาสที่จะได้ตำแหน่งนายหญิงของตระกูลธิพัฒน์เดชะไพศาลไปอีก แล้วโอกาสที่กูจะได้อยู่เคียงข้างคนที่กูรักล่ะ ทั้งที่มันอยู่แค่เอื้อมมือแท้ๆ...ฮึ” เนื้อนวลที่พูดกับตัวเองหน้ากระจกพร้อมกับเอื้อมมือออกไปคล้ายจะคว้าอะไรสักอย่างแต่ที่ได้กลับมามีเพียงแค่ความว่างเปล่าเท่านั้น...
ความคิดร้ายที่ไม่อยู่แค่เพียงในใจ แต่กลับพรั่งพรูออกมาคล้ายกับเลือดที่กระอักออก ทำให้เธอยิ่งเคียดแค้นผู้หญิงที่มาแย่งความหวังของเธอไป และเมื่อความรู้สึกที่ไม่ปกติเข้าเกาะกินความรู้สึกดีชั่วที่คนปกติควรจะมี ก็ยิ่งทำให้เนื้อนวลยิ่งสบถแต่สิ่งชั่วร้ายออกมา...
“หึ...ไม่สิต้องโทษอีแก่เธซ่าด้วย ที่มันทำทุกอย่างให้พังทลายลง เพราะนอกจากมันจะไม่สามารถเขี่ยอีหนามยอกอกอย่างอีเอลิซ ออกไปให้พ้นทางได้แล้ว ยังกลับกลายเป็นว่าทำให้มันได้อยู่ชูคอต่อ มิหนำซ้ำยังได้คะแนนความน่าสงสาร ความเป็นคนดีจากคุณเซฟไปอีกเต็ม ๆ หึ...แล้วดูสภาพกูตอนนี้ซิ ไม่ต้องถามถึงโอกาสที่จะได้บอกรักคุณเซฟเขาเลยด้วยซ้ำ แม้แต่หน้าของเขากูจะสามารถกลับไปเจอได้อีกไหมก็ไม่รู้...ฮึก...ฮึก” ใบหน้าอ่อนเยาว์บ่นพึมพำกับตัวเองหน้ากระจก ก่อนจะปิดปากกลืนก้อนสะอื้นความขมขื่นลงลำคอไป
“แล้วทำไม ทำไมกัน!! มึงมันมีดีอะไรก็แค่อีผู้หญิงใจแตกวิ่งโร่ตามผู้ชายมา...แต่กลับทำให้คุณเซฟรักมึงหัวปักหัวปำได้ขนาดนี้ ทั้งที่เขา เขาควรที่จะเป็นของกู ตำแหน่งนายหญิงมันควรเป็นของกู กูเท่านั้นที่เหมาะสม กูเท่านั้นที่ควรได้ยืนเคียงข้างกายของเขา ไม่ใช่มึง!!!” แววตาโรจน์ร้ายฉายวาบออกมาจากดวงตาสวยที่เคยสดใส ความใสซื่อบริสุทธิ์ที่เคยมีกำลังเลือนรางหายไปเพราะความริษยาที่เข้ามาแทนที่อย่างท่วมท้น
และก่อนที่ใบหน้าบิดเบี้ยวนั้นจะแปรเปลี่ยนเป็นแสยะยิ้มร้าย เนื่องจากคิดขึ้นมาได้ว่าเธอยังมีหนทางที่จะได้เขาคนนั้นมาครอบครอง คนเดียวที่เธอปรารถนามาโดยตลอดว่าอยากจะใช้ชีวิตร่วมกัน
“เหอะ...แต่คนอย่างกูมันไม่สิ้นหนทางหรอก เพราะถ้าหากกูได้เป็นลูกบุญธรรมของอีแก่เธซ่าเมื่อไร เมื่อนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะได้คุณเซฟมาเป็นของกู เขาจะต้องกลายมาเป็นของกูคนเดียวเท่านั้น!! ฮ่ะ ฮ่า ฮ้าาาา” เนื้อนวลที่ตอนนี้เหมือนคนบ้า คิดเข้าข้างตัวเองจนเสร็จสรรพ
ก่อนอารมณ์ที่กำลังแปรปรวนจะทำให้เธอเกิดอาการบ้าคลั่งขึ้นมาอีกครั้ง...
“อี๊ดดดดดดดดด แต่ตอนนี้ความรู้สึกเดียวของกูที่มีให้มึง คือกูเกลียดมึงอีเอลิซ มึงมันมารขวางความสุขของกู!!” เสียงกรีดร้องที่กรี๊ดอยู่ในลำคอของเนื้อนวล จากความรู้สึกเกลียดที่ปะทุขึ้นมา ดวงตาใสเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวเมื่อนึกไปถึงใบหน้าสวยหวานน่ารักและแถมยังเป็นที่รักของคนที่เธอแอบรักอีกด้วย
แรงเกลียดที่ก่อตัวขึ้นอย่างมหาศาลทำให้ตัวเธอกวาดเอาสิ่งของที่อยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งทุกชิ้น ทิ้งลงกับพื้น พร้อมกับหันไปฉีกทึ้งผ้าปูที่นอน หมอน ผ้าห่ม จนกระจัดกระจายไปทั่วไม่เหลือชิ้นดี
ตุบ! ตุบ! ตุบ!
กำปั้นที่ระรัวลงบนที่นอน ที่แม้จะไม่เจ็บเมื่อยามทุบ แต่เล็บที่จิกลงไปบนฝ่ามือเมื่อยามกำ ก็ทำให้เกิดรอยแดงจนห้อเลือดได้
แต่ถึงอย่างนั้น ในความรู้สึกของเธอกลับไม่รู้สึกเจ็บที่ฝ่ามือเลยสักนิด เพราะตอนนี้สิ่งที่เจ็บที่สุดคือเจ้าก้อนเนื้อที่อยู่ตรงอกด้านซ้าย ที่เหมือนว่ามันกำลังจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ ออกมา
ฮืออออออ ~~
เนื้อนวลระเบิดน้ำตาและเสียงร้องไห้ออกมาในขณะที่ตัวเองกดหน้าลงกับกองผ้าห่ม
ฮึก....ฮึก....ฮึก
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
เฮือก!!
เมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้น จึงทำให้เนื้อนวลที่กำลังจมดิ่งอยู่ในห้วงความเสียใจ สะดุ้งเฮือกขึ้นมาทันทีด้วยความตกใจ ก่อนจะรีบปาดน้ำตาเช็ดหน้าตาที่เปรอะเปื้อน แล้วปรับสีหน้าให้กลับเข้าสู่โหมดปกติทันที
“เนื้อนวลเป็นอะไรหรือเปล่า...” เสียงท่านหญิงเธซ่าเอ่ยตะโกนถามหลังจากเคาะประตูแล้วไม่มีเสียงตอบรับจากคนด้านใน
“ปะ...เปล่าค่ะ เนื้อนวลไม่เป็นอะไรคะ” เนื้อนวลที่พยายามปรับเสียงให้เป็นปกติที่สุดขานตอบกลับไป
“ฉันได้ยินเสียงดังโครมคราม มีอะไรหรือเปล่า ฉันเข้าไปได้ไหม” ท่านหญิงเธซ่าที่ไม่เก็บงำความสงสัยเอาไว้ เลือกที่จะถามออกไป และอยากจะเข้าไปดูให้เห็นกับตาตัวเองว่าเด็กสาวที่ตัวเองเอ็นดูนั้นไม่ได้เป็นอะไรเหมือนอย่างที่เด็กสาวบอกจริง ๆ เนื่องจากตัวเธอนั้นในใจก็เป็นห่วงอยู่มาก
เสียงเงียบที่ส่งมาแทนคำตอบ ยิ่งทำให้ท่านหญิงเธซ่าร้อนใจ...
“ว่ายังไง ฉันเข้าไปได้ไหม?” เสียงนุ่มของหญิงสูงวัยเอ่ยถามซ้ำ
เนื้อนวลที่แม้จะรู้สึกหงุดหงิดและไม่พอใจที่มีคนมาเซ้าซี้ เนื่องจากตนเองก็ไม่พร้อมที่จะให้ใครมาเห็นทั้งสภาพห้องและสภาพตัวเองในตอนนี้ แต่ก็ไม่สามารถจะขัดคนที่อยู่หลังบานประตูนั้นได้ นั่นก็เพราะคนคนนั้น เป็นถึงผู้มีพระคุณที่ชุบเลี้ยงตัวเองมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย และยังเป็นถึงเจ้าของบ้านที่ตัวเองอาศัยอยู่ แถมยังเป็นแหล่งขุมทรัพย์ที่จะทำให้ตัวเองสมหวังอีกด้วย
ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงหรือปฏิเสธได้เลย...
“ค่ะ...เข้ามาได้ค่ะท่านหญิง” เนื้อนวลเอ่ยบอกแม้ว่าในใจจะไม่พอใจก็ตาม
แกร๊ก ~~
เมื่อท่านหญิงเธซ่าเปิดประตูเข้ามาและได้พบเห็นกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า
“ว๊ายยย ตาเถร นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี้ย” ท่านหญิงเธซ่าถึงกับร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อได้เห็นสภาพห้องของเด็กสาวที่ตัวเองรักและเป็นห่วง
“ทำไมห้องมันเละขนาดนี้ล่ะ เนื้อนวล” สายตาของหญิงสูงวัยที่กวาดมองไปทั่วห้อง พร้อมกับความรู้สึกที่ทั้งตกใจและสงสัยในเวลาเดียวกัน
“คะ...คือว่าเมื่อกี้นี้ เนื้อนวลเจอหนูค่ะ เลยตกใจรื้อห้องจนเละไปหมดเลยค่ะ” เนื้อนวลละล่ำละลักแก้ตัวด้วยสายตาหลุกหลิก
“ตายแล้ว!! แล้วหาเจอหรือยังนี่ ไหนใครที่อยู่แถวนี้เข้ามาหาฉันหน่อยเร็ว!!” ท่านหญิงเธซ่าที่ออกอาการตกใจหลังจากได้ฟังคำแก้ตัวของเด็กสาว ก่อนจะเรียกหาคนรับใช้ในบ้านให้เข้ามาหาเธอเพื่อจะสั่งให้มาจัดการเจ้าหนูตัวปัญหา
“มะ...ไม่เป็นไรค่ะ มะ...เมื่อกี้เนื้อนวลเห็นมันวิ่งออกทางหน้าต่างไปแล้วค่ะ ส่วนห้องเดี๋ยวเนื้อนวลเก็บเองได้ค่ะ” เนื้อนวลที่ไม่อยากจะให้เรื่องราวมันยุ่งยากไปมากกว่านี้ เอ่ยปากห้ามคนที่ปรารถนาดี พร้อมโบกไม้โบกมือเชิงปฏิเสธมือเป็นพัลวัน
“อ่ะ...เอาอย่างนั้นหรอ” ท่านหญิงเธซ่าที่แม้จะอดสงสัยกับความมีพิรุธของเด็กสาวที่ตนเอ็นดูไม่ได้ แต่เนื่องจากเหตุการณ์ในวันนี้ มันก็วุ่นวายมากเกินพอแล้ว เธอจึงเลือกที่จะปล่อยความสงสัยนี้ให้ผ่านไป
“ค่ะ ท่านหญิงเธซ่า” เนื้อนวลที่กุมประสานมือไว้ด้านหน้าตอบกลับอย่างนอบน้อม
“เอางั้นก็ได้ ถ้างั้นก็เก็บห้องเถอะ แล้วก็พักผ่อนไปก่อนแล้วกัน เพราะคุณหมอยังมาไม่ถึงเลย ถ้ามาถึงเมื่อไรฉันจะให้คนมาตามไปนะ” หญิงสูงวัยบอกเด็กสาวก่อนจะหันหลังเดินออกไปจากห้องที่เต็มไปด้วยของที่กระจัดกระจาย
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 35
แสดงความคิดเห็น