บทที่ 50 บางอย่างที่หายไป!!
เสียงเคาะประตูห้องทำงานของเขาที่ดังขึ้น ทำให้เพลิงสวาทที่กำลังโหมกระหน่ำหยุดลงทันที เขาเงยหน้าขึ้นจากซอกคอขาวของฉันด้วยท่าทางหงุดหงิดที่ถูกขัดจังหวะ แต่มือหนายังกอบกุมสองมือของฉันไว้ที่เดิม
ส่วนตัวฉันเองตกใจกับเสียงเคาะประตู และกลัวว่าจะมีใครเข้ามาเห็นภาพน่าอายของฉันที่เป็นอยู่ ณ ตอนนี้ จึงทำได้แค่เอียงหน้าหันเข้าหาพนักโซฟา เพราะมือทั้งสองข้างยังไม่สามารถที่จะหลุดออกจากพันธนาการของคนตรงหน้าได้
เมื่อเขามองไปยังหน้าประตู เสียงเคาะเรียกเมื่อสักครู่ดูท่าจะเงียบไป เขาก็กลับมาโหมเพลิงสวาทที่กำลังจะมอดให้รุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง
เขาคลายมือที่กอบกุมสองมือของฉัน แล้วเลื่อนใบหน้าไปตามลำตัว มีแวะหยอกล้อตามผิวเนียนที่อยู่ระหว่างทางที่จะไปถึงจุดที่เขาปรารถนาไว้ตั้งแต่ต้น
เมื่อใบหน้าคมเลื่อนมาถึงจุดที่ใจคาดหวังไว้ นั่นก็คือจุดกึ่งกลางใจสาวที่อยู่ของดอกไม้กลีบอูมอิ่มที่ตอนนี้กำลังคลายน้ำค้างให้ไหลมาตามร่องกลีบ บ่งบอกถึงความบานสะพรั่งเพื่อรอรับลิ้นของเหล่าแมลงภู่ที่จะเข้ามาฉกฉวยดื่มกินน้ำหวาน
เขาค่อยๆ สอดมือทั้งสองข้างเข้ามายังชายกระโปรงหนังของฉัน การสัมผัสที่บางเบาแต่มั่นคงทำฉันขนลุกไปทั่วร่าง ปากอิ่มที่เคยพร่ำปฏิเสธความปรารถนาขบเม้มเข้าหากัน มือที่ถูกปลดจากพันธนาการเลื่อนมากอบกุมเส้นผมของเขาเพื่อหาที่ยึดเหนี่ยว
มือหนาค่อยๆ รูดจีสตริงตัวจิ๋วลงมาตามต้นขาให้พ้นจากการปกปิดดอกไม้กลีบอูม แม้จะยังไม่เห็นดอกไม้งามได้เต็มตา แต่แค่ได้เห็นเกราะป้องกันสีดำตัวจิ๋วที่ใช้ปกปิดมาอยู่ตรงหน้า ก็ยิ่งพาเลือดในกายวิ่งพุ่งวุ่นไปทั่ว โดยเฉพาะตรงจุดกึ่งกลางที่อยู่ของเจ้าเอ็นลำใหญ่ยักษ์ ที่ตอนนี้มันพยายามดุนดันให้โผล่พ้นกางเกงออกมาให้ได้
จีสตริงตัวจิ๋วถูกรูดลงมาถึงแค่บริเวณหัวเข่า เขาก็รอแทบไม่ไหวที่จะได้เห็นร่องน้ำค้าง มือหนาผละจากชิ้นผ้าน้อยที่อยู่ตรงหัวเข่า ลากมือมายังชายกระโปรงก่อนจะถลกขึ้นอย่างรวดเร็วโดยที่สาวเจ้าไม่ทันตั้งตัว
พรึ่บ!!
“อร๊ายยย...”
เมื่อสิ่งที่โชว์หราอยู่ตรงหน้าคือ ดอกไม้อูมกลีบอวบอิ่มสองกลีบแนบสนิทชิดกัน ไหมสีน้ำตาลบางเบาปรกคุมเล็กน้อยพอสวยงาม กลางร่องมีเพียงแค่น้ำค้างที่ไหลซึมเพิ่มความชุ่มชื้น เมื่อของโปรดที่ไม่ได้ชิมมานานลอยเด่นอยู่ตรงหน้า คนร่างโตก็รู้สึกคอแห้งขึ้นมาทันที ความปรารถนาพลุ่งพล่านอยากจะก้มลงไปดื่มกินให้คลายกระหาย
ขณะที่ใบหน้าคมกำลังจะก้มเอาลิ้นลงไปสัมผัสอาหารอันโอชะอยู่นั้น....
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! (เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง)
“นายครับ มีเอกสารด่วนที่ต้องเซ็นครับ” กิตลูกน้องคนสนิทเคาะเรียกเจ้านาย เนื่องจากเมื่อสักครู่นี้เขามาเคาะเรียกไปทีหนึ่งแล้ว แต่มานึกขึ้นได้ว่ายังมีเอกสารอีกตัวที่ต้องเซ็นเหมือนกัน เขาจึงรีบกลับไปหยิบมาเพื่อจะได้เซ็นเลยทีเดียว เพราะเขารู้ดีว่าสถานการณ์แบบนี้เขาไม่ควรที่จะมารบกวนเจ้านายบ่อยๆ นี่ถ้าไม่ติดว่าเอกสารนี้ด่วนมากจริงๆ ป่านนี้เขาคงจะพาตัวเองลงไปหาอะไรอร่อยๆ กินฆ่าเวลาแล้ว เพราะดูท่าเจ้านายของเขาน่าจะหิวมาตั้งแต่สี่แยกไฟแดงตรงนั้นแล้ว
ใบหน้าคมชะงักทันทีเมื่อได้ยินเสียงของคนที่มาขัดความสุขของเขา
จากใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความหื่นกระหายที่จะได้เชยชมดอกไม้งามเมื่อครู่ แปรเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงแผ่รังสีอำมหิตออกมาทันที จนฉันเองยังอดสยองแทนพี่กิตไม่ได้
พี่กิตจะโดนยิงไหมเนี้ย! ฉันได้แต่คิดสงสารเขาในใจ
เมื่อเขาหยัดกายลุกขึ้นจากตัวฉันเพื่อเดินไปเปิดประตูอย่างหัวเสีย ฉันก็รีบดีดตัวเองขึ้นนั่งทันที แล้วจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทาง พยายามทำตัวให้นิ่งที่สุดเพื่อไม่ให้มีพิรุธ แต่ตอนนี้สิ่งที่ทำให้ฉันกังวลใจมากที่สุดกลับไม่ใช่เรื่องที่กลัวว่าพี่กิตจะรู้ไหมว่าฉันกับคุณเซฟกำลังจะทำอะไรกัน เพราะฉันกลัวจะมองหน้าเขาไม่ติด แต่ที่ฉันกำลังกังวลใจก็คือ เจ้าจีสตริงตัวจิ๋วของฉันมัน ‘หายไป’
ฉันพยายามมองหาตามพื้นรอบโซฟา มือก็ควานหาไปตามร่องโซฟาอีกแรง แต่ก็ไม่พบ ได้แต่สงสัยว่ามันหายไปได้ยังไง ฉันนั่งกังวลจนเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดเต็มกรอบหน้า
แกร๊ก!!ครืดดด!!
เสียงคลายล็อกประตูพร้อมเลื่อนเปิดต้อนรับคนที่มาขัดจังหวะ
“นี่ครับนาย...อะ...เอกสารรร” พี่กิตเอ่ยบอกก่อนที่คำพูดช่วงปลายจะขาดหายไป เพราะเงยหน้ามาเจอกับสายตาอาฆาต นี่ถ้าดวงตาเขาคือกระบอกปืน พี่กิตคงตายไปแล้ว
“มาได้ถูกจังหวะจริงเลยนะมึง!!” เสียงเยือกเย็นที่เปล่งออกไป ทำคนที่ได้ฟังถึงกับขนต้นคอลุกเกรียวเสียวสันหลังวาบ
พี่กิตเหงื่อกาฬแตกออกทันที คงรับรู้ได้ถึงความไม่พอใจเป็นอย่างมากที่ส่งมาจากเจ้านาย เมื่อเห็นเจ้านายออกอาการโมโหอย่างเห็นได้ชัด คนที่เป็นลูกน้องที่ฉลาดอย่างเขาก็ต้องหาที่พึ่ง พี่กิตส่งสายตามองมายังฉันทันที แววตาท่าทางของเขาทำให้ฉันรู้ดีว่าเขากำลังส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ เพื่อขอให้ฉันช่วยเขาให้พ้นจากวิกฤตความเป็นความตายตรงนี้ด้วย
“อ้าวพี่กิตเองหรอค่ะ” ฉันแกล้งเอ่ยทักเขา หวังว่ามันจะช่วยคลายสถานการณ์ของเขาได้บ้าง
“สะ...สวัสดีอีกครั้งครับคุณเอลิซ” เขาเอ่ยทักทายเสียงตะกุกตะกัก แม้จะเป็นประโยคสิ้นคิด แต่ ณ เวลานี้ เขาคิดได้แค่นี้จริงๆ
ฉันยิ้มเจื่อนๆ ตอบกลับเขาไป เพราะตัวเองก็จนใจเหมือนกันไม่รู้จะช่วยเขายังไง คงต้องรอดูท่าทีของคุณเซฟก่อนว่าจะจัดการกับพี่กิตยังไง ถึงเวลานั้นฉันค่อยหาวิธีช่วยเขาอีกที
เมื่อเปิดประตูเสร็จ คุณเซฟก็เดินกลับไปนั่งยังโต๊ะทำงาน ส่วนพี่กิตก็ยืนทำตัวไม่ถูกอยู่หน้าประตู
“อ้าว ยื่นทำเหี้ยอะไรอยู่ ไม่เข้ามา แม่ง!! พอตอนควรเข้าไม่เข้า แต่ตอนที่เขาจะเข้ากันเสือกจะเข้า” เขาเอ่ยตะโกนเรียกอย่างหัวเสีย ก่อนจะบ่นกระปอดกระแปดใส่ลูกน้องคนสนิท
“นะ..นี่ครับนาย” พี่กิตค่อยๆ วางเอกสารลงบนโต๊ะอย่างระมัดระวัง
“หึ...” เขายังคงไม่พอใจ พร้อมจ้องเขม็งไปที่ลูกน้องคนสนิทที่ตอนนี้ยืนประสานมือก้มหน้าหลบสายตาอาฆาตอยู่
เมื่อการเซ็นเอกสารครบเสร็จสิ้นแล้ว กิตทำการโค้งคำนับเจ้านาย แล้วหันมาโค้งคำนับให้กับอีกคนที่นั่งอยู่ตรงโซฟา สิ่งที่เขาทำมันเป็นความเต็มใจของเขาทั้งสิ้น เขารู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่เจ้านายของเขาให้ความสำคัญเป็นอย่างมากและแน่นอนว่าในใจของเขา เขายอมรับผู้หญิงคนนี้และยกให้เป็นนายหญิงเพียงคนเดียวสำหรับเขา
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 124
แสดงความคิดเห็น