บทที่ 10 รวมตัวผู้แข็งแกร่ง

บทที่ 10 รวมตัวผู้แข็งแกร่ง

เมื่อแก่นแท้กลายเป็นของเหลว นี่เป็นสัญญาณว่าเขากำลังจะไปถึงขอบเขตการก่อตั้งรากฐานแล้ว

เจียงเฉิงซวนไม่กล้าที่จะผ่อนคลายแม้สักเล็กน้อย

เขามุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่การบีบอัดแก่นแท้ของหมอกที่ยังไม่ได้เปลี่ยนอย่างรวดเร็ว

จากนั้นปริมาณแก่นแท้ที่เป็นของเหลวในร่างกายของเขาก็ค่อยๆเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ

เมื่อเขาเปลี่ยนแก่นแท้ที่เป็นหมอกในร่างกายของเขาให้เป็นแก่นแท้ขั้นของเหลว ออร่าที่แตกต่างจากขอบเขตการปรับแต่งพลังปราณโดยสิ้นเชิงก็ระเบิดออกมาจากร่างของเจียงเฉิงซวน

คลื่นพลังปราณแห่งสวรรค์และโลกเริ่มพุ่งเข้าหาถ้ำของเจียงเฉิงซวน

และสามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าว่าเขาซึ่งแต่เดิมรูปลักษณ์ของเขานั้นดูเหมือนชายที่อยู่ในวัยสี่สิบหรือห้าสิบเริ่มกลับมาดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง

ในชั่วพริบตานั้นเจียงเฉิงซวนดูเหมือนชายหนุ่มในวัยยี่สิบกลางๆเท่านั้น

อายุขัยของเขาเพิ่มขึ้นทันทีประมาณหนึ่งร้อยปี

นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ต้องอ้าปากค้าง

ความแตกต่างระหว่างขอบเขตการก่อตั้งรากฐานและขอบเขตการปรับแต่งพลังปราณนั้นใหญ่เท่ากับความแตกต่างระหว่างผู้ใหญ่กับเด็กอายุสี่หรือห้าขวบ

นี่ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงทางอายุขัยเท่านั้น จากพลังแก่นแท้ไปถึงสัมผัสอันศักดิ์สิทธิ์ มีการเปลี่ยนแปลงในทุกด้าน

ส่วนในโลกภายนอกนั้น

เมื่อพลังปราณแห่งธรรมชาติโดยรอบเริ่มรวมตัวกันอย่างรวดเร็วไปยังถ้ำที่ซึ่งเจียงเฉิงซวนอาศัยอยู่ ผู้ฝึกตนที่อยู่ในขอบเขตการก่อตั้งรากฐานที่ยืนอยู่ในตลาดเหอหยางแห่งนี้ก็อดไม่ได้ที่จะพากันหรี่ตาลง

หือ เดี๋ยวก่อนนะ!

มีคนพยายามบุกทะลวงเข้าสู่ขอบเขตการก่อตั้งรากฐาน!

คนแรกที่ตอบสนองคือผู้ฝึกตนขอบเขตการก่อตั้งรากฐานที่รับผิดชอบในการจัดการถ้ำที่อยู่บริเวณใกล้เคียงแห่งนี้

บุคคลนี้เรียกว่าเสวี่ยเทียนหยาง ผู้รับผิดชอบจากนิกายเจียงหยาง

เมื่อห้าปีก่อนเขาได้ถูกส่งมาที่นี่เพื่อรับผิดชอบในการจัดการถ้ำที่อยู่อาศัยเหล่านี้

เมื่อมองดูพลังปราณแห่งธรรมชาติที่หนาแน่นขึ้น เขาก็รู้ว่าความน่าจะเป็นที่คนผู้นี้จะประสบความสำเร็จในการทะลวงไปสู่ขอบเขตการก่อตั้งรากฐานน่าจะมากกว่า 90% แล้ว

เขาพบผู้ฝึกตนซึ่งรับผิดชอบการเช่าถ้ำที่พำนักของเจียงเฉิงซวนทันที และเริ่มถามเขาว่าใครเป็นผู้อาศัยอยู่ในถ้ำนี้

โดยไม่คาดคิด จริงๆ แล้วเขากลับเป็นปรมาจารย์นักสร้างยันต์ระดับ 1 ขั้นสูง

เสวี่ยเทียนหยางรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย โดยไม่ต้องครุ่นคิดอะไรให้มากความ  เขาก็ไปปรากฏตัวอย่างรวดเร็วนอกถ้ำของเจียงเฉิงซวน

ไม่นานหลังจากที่เขาปรากฏตัวที่นอกถ้ำของเจียงเฉิงซวน แสงหลายสายก็พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วจากสถานที่ไม่ไกลนัก

มีทั้งหมดห้าคน ชายสามคนและหญิงสองคน

พวกเขาคือ กู่เฉียนซานผู้อาวุโสของนิกายฟ้านิรันดร์, ว่านตงไหลผู้อาวุโสของนิกายเมฆาคล้อย, เย่เฟยเฉินผู้อาวุโสของตระกูลผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งแห่งหนึ่ง ตระกูลเย่, ชิวยี่ซุยผู้อาวุโสของนิกายเมฆาอัสดง และ เซินหรูหยานผู้อาวุโสของตระกูลอธรรม ตระกูลเซิน

ทั้งห้าคนล้วนอยู่ในขอบเขตการก่อตั้งรากฐาน

ในหมู่พวกเขา กู่เฉียนซานจากนิกายฟ้านิรันดร์ และว่านตงไหลจากนิกายเมฆาคล้อยดูเหมือนชายวัยกลางคน

เย่เฟยเฉินจากตระกูลเย่ดูเหมือนจะเป็นชายชราในอายุหกสิบเศษ

ชิวยี่ซุยจากเมฆาอัสดง และเซินหรูหยานจากตระกูลเซิน เป็นหญิงสาวสวยอายุ 25 หรือ 26 ปี

ในขณะนี้ ทั้งห้าคนมองไปที่ถ้ำที่เจียงเฉิงซวนอยู่

กู่เฉียนซานจากนิกายฟ้านิรันดร์อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ด้วยความผันผวนของพลังปราณแห่งธรรมชาติที่รุนแรงเช่นนี้ หากข้าจำไม่ผิดสหายเต๋าในถ้ำที่พำนักแห่งนี้อาจบุกทะลวงเข้าสู่ขอบเขตการก่อตั้งรากฐานด้วยตัวเขาเองแทนที่จะเป็นใช้ยาสร้างรากฐาน”

อย่างที่ทุกคนรู้ดีว่า หากผู้ฝึกตนใช้ยาสร้างรากฐานเพื่อเข้าถึงขอบเขตการก่อตั้งรากฐาน เนื่องจากยาสร้างรากฐานมีปราณทางจิตวิญญาณที่อุดมสมบูรณ์มาก หลังจากบริโภคมันแล้วจะทำให้ร่างกายของพวกเขาสามารถดูดซับปราณแห่งธรรมชาติที่มีอยู่ในยาสร้างรากฐานก่อน

ในกรณีนี้ ความปั่นป่วนจะไม่ใหญ่เท่าตอนนี้อย่างแน่นอน

“สหายเต๋าคนนี้ช่างน่าชื่นชมจริงๆ ข้ารู้สึกสนใจในตัวเขาอย่างมาก"

ชิวยี่ซุยอดไม่ได้ที่จะพูดชมเชยออกมาด้วยรอยยิ้ม

เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ ว่านตงไหลจากนิกายเมฆาคล้อยก็หัวเราะเบา ๆ

"ทำไม? ท่านเริ่มมีความรู้สึกดีๆต่อสหายเต๋าในถ้ำแล้วหรือ? อย่าลืมว่านิกายเมฆาอัสดงรับเฉพาะสาวกผู้หญิงเท่านั้น”

ชิวยี่ซุยเหลือบมองที่ว่านตงไหลและพูดอย่างเยาะเย้ยว่า

“สหายเต๋าว่าน มีอะไรผิดปกติกับสิ่งที่ข้าเพิ่งพูดไปงั้นหรือ? เป็นเรื่องจริงที่นิกายเมฆาอัสดงของข้ายอมรับสาวกผู้หญิงเป็นหลัก แต่เราก็ค่อนข้างกระตือรือร้นที่จะรับสหายเต๋าที่กล้าหาญพอที่จะบุกทะลวงไปสู่ขอบเขตการก่อตั้งรากฐานได้ด้วยตัวเอง”

เช่นนี้ก็ชัดเจนแล้ว

ในขณะนี้ ทั้งหกคนที่ปรากฏตัว รวมถึงเสวี่ยเทียนหยางจากนิกายเจียงหยาต่างก็มาที่นี่เพื่อเจียงเฉิงซวน

เป้าหมายของพวกเขาคือการเชิญชวนเขาให้เข้าสู่นิกายของตัวเอง

เพราะท้ายที่สุด หากนิกายและตระกูลต้องการที่จะเติบโตและแข็งแกร่งขึ้น พวกเขาไม่สามารถพึ่งพาได้แค่คนของตนเองเท่านั้น

การสรรหาสาวกที่พรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ฝึกตนเช่นเจียงเฉิงซวน ที่มาถึงขอบเขตการก่อตั้งรากฐานด้วยตัวเขาเอง เป็นคนที่เหล่าตระกูลและนิกายฝึนตนต่างๆล้วนต้องการ

ท้ายที่สุดแล้ว ความจริงที่ว่าเขากล้าที่จะบุกทะลวงสู่ขอบเขตการก่อตั้งรากฐานในตลาดหมายความว่าเขาไม่ใช่ผู้ฝึกตนปีศาจ ภูมิหลังของเขาไม่น่าจะเป็นปัญหา

ความจริงที่ว่าเขามาถึงขอบเขตการก่อตั้งรากฐานด้วยตัวเขาเอง หมายความว่าหัวใจเต๋า และศักยภาพของเขานั้นต้องยอดเยี่ยมอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

ในแง่ของความหนาแน่นของพลังแก่นแท้นั้น ผู้ฝึกตนที่มาถึงขอบเขตการก่อตั้งรากฐานด้วยตัวเองจะแข็งแกร่งกว่าผู้ที่รับประทานยาสร้างรากฐานอย่างน้อยสองถึงสามเท่า

ดังนั้นในขณะนี้แม้แต่เสวี่ยเทียนหยางซึ่งเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตการก่อตั้งรากฐานจากนิกายเจียงหยาง ก็กระตือรือร้นที่จะรับสมัครเจียงเฉิงซวนอย่างมาก

เขาเหลือบมองคนทั้งห้าคนในปัจจุบันแล้วยิ้มออกมา

“ในเมื่อทุกคนมาที่นี่เพื่อสหายเต๋าในถ้ำผู้นี้ แล้วเราแต่ละคนก็ใช้วิธีการของเราเองและดูว่าใครจะรับสมัครเขาได้สำเร็จบ้าง? ไม่ว่าสุดท้ายแล้ว สหายเต๋าผู้นี้จะเลือกใครก็ตาม ทุกคนต้องยอมรับกับผลลัพธ์นี้”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ทุกคนต่างก็พยักหน้า

ณ ตอนนี้

ภายในถ้ำ

เจียงเฉิงซวนรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของเขาและในที่สุดเขาก็ยิ้มออกมา

ในที่สุดเขาก็มาถึงขอบเขตการก่อตั้งรากฐานแล้ว

ในเวลาเดียวกัน การแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นในใจของเขา

[ติ๊ง! ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ คุณได้บุกทะลวงไปสู่ขอบเขตการก่อตั้งรากฐาน และได้รับรางวัลเป็นดาบบินสิ่งประดิษฐ์ระดับ 2 ขั้นกลาง ดาบเพลิงม่วง] ทันใดนั้นดาบบินที่เป็นสีม่วงทั้งหมดเล่ม

และล้อมรอบด้วยเปลวไฟสีม่วงก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเจียงเฉิงซวน

เมื่อเห็นดาบบินระดับ 2 ขั้นกลางนี้ เจียงเฉิงซวนก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก

เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าระบบจะให้รางวัลแก่เขาหลังจากที่เขาก้าวเข้าสู่ขอบเขตการก่อตั้งรากฐานได้แล้ว

นี่ระบบช่างใจดีกับเขามากจริงๆ

ตอนนี้เขายังคงคิดเกี่ยวกับวิธีการได้รับสิ่งประดิษฐ์ เทคนิคการฝึกฝน และคาถาที่สอดคล้องกัน หลังจากที่เขาทะลวงเข้าสู่ขอบเขตการก่อตั้งรากฐานแล้ว

แต่โดยไม่คาดคิดนั้น ระบบได้ช่วยเขาแก้ไขปัญหาแล้วอย่างหนึ่ง

และด้วยดาบเพลิงม่วงนี้ ตราบใดที่เขาบ่มเพาะจนระดับของเขาเสถียรและเชี่ยวชาญเทคนิคการฝึกฝนเบื้องต้นของขอบเขตก่อตั้งรากฐาน เขาจะมีความสามารถในการต่อสู้กับผู้ฝึกตนขอบเขตก่อตั้งรากฐานระดับกลางได้เลยทีเดียว หากเป็นการสู้หนึ่งต่อหนึ่ง

สำหรับวิธีการได้รับเทคนิคการฝึกฝนและคาถาสำหรับขอบเขตการก่อตั้งรากฐานนั้น…

เจียงเฉิงซวนอดไม่ได้ที่จะมองออกไปนอกถ้ำของเขา

เขาสามารถได้รับมันจากพวกเขา

เจียงเฉิงซวนสัมผัสได้มานานแล้วว่ามีคนหกคนที่ปรากฏตัวอยู่นอกถ้ำของเขา

ยิ่งไปกว่านั้น เขารู้ภูมิหลังของคนทั้งหกคนนี้เป็นอย่างดี

ปัญหาเดียวก็คือว่าเขาจะเลือกกองกำลังไหน