บทที่ 380: ลูกของข้าสามารถตักน้ำได้
หลงโม่มักจะเป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้ว่าเขาจะมีท่าทีเฉยเมย เย็นชา บางครั้งก็โหดเหี้ยมและสามารถฆ่าคนได้อย่างเด็ดขาด แต่เขาก็ปฏิบัติต่อคนที่จริงใจด้วยความใส่ใจกับรายละเอียดอย่างพิถีพิถันในทุกด้าน เพราะเขาไม่ต้องการทำให้ภรรยาสาวต้องอับอายใครแม้แต่น้อย
“เจ้าเข้ามารออยู่ตรงนี้ก่อน ข้าจะไปเรียกเจียวเจียวมาให้”
มังกรหนุ่มเปิดประตูให้ลู่เมี่ยนเอ๋อเข้าไปในห้องนั่งเล่น
เมื่อกวางสาวเห็นเช่นนี้ก็พยักหน้าอย่างซาบซึ้งใจ “ขอบคุณมาก”
สำหรับภูตที่เข้าถึงยากอย่างเช่นหลงโม่ การที่อีกฝ่ายให้หญิงสาวเข้าไปรอในบ้านก็ถือว่าดีมากแล้ว
เมื่อร่างสูงเดินขึ้นไปชั้นบน หูเจียวเจียวก็เพิ่งตื่นขึ้น
ช่วงเวลานี้จิ้งจอกสาวมักจะสลึมสะลือตื่นขึ้นมา มันไม่ใช่เพราะเธอขี้เกียจ แต่เป็นเพราะเธอนอนไม่พอและลุกไม่ขึ้นต่างหาก
อีกทั้งหญิงสาวยังต้องพยายามเปิดเปลือกตาขึ้นด้วย
ในความเป็นจริง ลูก ๆ มาหาเธอเพื่อบ่นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น โดยบอกว่าเนื้อสัตว์ที่พ่อมังกรย่างในตอนเช้านั้นกลืนยาก ด้วยเหตุนี้เธอจึงเพิ่งตื่นนอนเพื่อลงไปทำอาหารเช้าให้พวกเขา
เมื่อหูเจียวเจียวเห็นหลงโม่ที่เพิ่งออกจากบ้านแล้วกลับเข้ามา เธอก็ถามอย่างประหลาดใจ “เจ้ากลับมาทำไม?”
ก่อนที่สามีหนุ่มจะทันได้ตอบ เธอก็พูดขึ้นมาว่า
“เอาเถอะ ถ้าเจ้าไม่รีบออกจากบ้านก็ค่อยออกไปอีกทีหลังกินอาหารเช้าดีไหม ข้าได้ยินจากเจ้าเมื่อวานนี้ว่าท่านผู้เฒ่าสร้างเครื่องเหวี่ยงหินเสร็จแล้ว วันนี้ข้าอยากจะไปดูหน่อย” ปัจจุบันจิ้งจอกสาวยังไม่เห็นเครื่องเหวี่ยงหินขนาดใหญ่กับตาตัวเอง
โดยธรรมชาติแล้ว เธอก็ต้องการสัมผัสภูมิปัญญาของคนโบราณและดูว่าอาวุธที่สร้างโดยเหล่าภูตนี้ทรงพลังเพียงใด
ทางด้านมังกรหนุ่มก็ไม่ได้ขัดจังหวะภรรยาสาว เขารอให้อีกคนกล่าวจบก่อนที่จะเปิดปากพูดว่า
“ลู่เมี่ยนเอ๋อมาหาเจ้า”
“เมี่ยนเอ๋อมาหรือ? ทำไมเจ้าไม่รีบบอกข้าเล่า”
หูเจียวเจียวนึกถึงข่าวที่เธอได้ยินจากหลงหลิงเอ๋อเมื่อไม่กี่วันก่อนขณะเหลือบมองตำหนิสามีของตน ก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องไป
“เจ้าเดินช้า ๆ หน่อย” เมื่อชายหนุ่มเห็นว่าหญิงสาวเดินลงบันไดเร็วเกินไป เขาก็ใช้มือโอบเอวของนางอย่างระมัดระวัง
เขาทำการบ้านหนักอย่างหนักมามากว่า 10 วัน บางทีตอนนี้เจียวเจียวอาจจะมีลูกอยู่ในท้องของนางแล้ว ดังนั้นนางจึงต้องระมัดระวังยามเคลื่อนไหว
ทว่าจิ้งจอกสาวไม่ได้สังเกตเห็นสายตาแปลก ๆ ของมังกรหนุ่ม
ช่วงนี้เธอปวดขามาก เธอจึงต้องจับราวบันไดตอนเดินลงไปชั้นล่าง
ทางด้านลู่เมี่ยนเอ๋อได้ยินเสียงฝีเท้าจึงเงยหน้าขึ้นมอง
แล้วกวางสาวก็เห็นคนที่ต้องการพบเดินพยุงตัวเองลงบันไดมาด้วยท่าทางแปลก ๆ ส่วนหลงโม่ก็คอยประคองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเป็นห่วงเป็นใย
นั่นทำให้นางชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนที่ดวงตาของนางจะฉายแววฉงน
“เมี่ยนเอ๋อ ทำไมวันนี้เจ้ามาที่นี่ได้ล่ะ?” หลังจากหูเจียวเจียวลงมาถึงชั้นล่าง หลงโม่ก็เดินออกไปเพื่อให้พื้นที่สำหรับหญิงสาวทั้ง 2 คน
พอร่างสูงออกมาข้างนอกก็ปิดประตู ซึ่งมันปิดกั้นสายตาของอิงหยวนที่ยืนรออยู่ตรงลานหน้าบ้าน
ขณะนี้ชายหนุ่ม 2 คนกำลังยืนขนาบประตู โดยที่คนหนึ่งอยู่ทางซ้ายและอีกคนหนึ่งอยู่ทางขวา พวกเขาเขม่นมองหน้ากันอย่างรังเกียจราวกับทั้งคู่เป็นเหมินเสิน*
*เหมินเสิน คือ เทพผู้พิทักษ์ประตูของชาวจีน
ในเวลาเดียวกัน ลู่เมี่ยนเอ๋อทักทายหูเจียวเจียวด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนแล้วเดินเข้าไปจับมืออีกฝ่าย
“ข้าได้ยินมาว่าเจ้าเป็นคนแนะนำให้สร้างบ่อน้ำ ข้าเลยมาที่นี่เพื่อขอบคุณเจ้า บ่อน้ำมีประโยชน์จริง ๆ มันช่วยข้าได้มากเลย”
ปัจจุบันหญิงสาวมีอิงหยวนเป็นคู่ครองเพียงคนเดียว
ตามปกติ นอกจากอินทรีหนุ่มจะคอยดูแลนางแล้ว เขายังมีงานที่ต้องทำในเผ่าอีก ดังนั้นเขาจึงไม่มีเวลามากพอที่จะอยู่กับภรรยา เพราะแบบนี้นางเลยจำเป็นต้องทำหลายอย่างคนเดียว
แม้กระทั่งการตักน้ำ ถ้าอิงหยวนอยู่ไกลยามที่ในบ้านไม่มีน้ำให้ดื่มให้ใช้ นางก็ต้องไปตักมาด้วยตัวเอง
ทว่าพอมีบ่อน้ำใกล้บ้าน ถึงแม้สามีหนุ่มจะยุ่งอยู่ข้างนอก แต่นางก็ไม่กังวลว่าน้ำที่บ้านจะหมดหรือไม่
เรื่องเล็กน้อยนี้อาจไม่สำคัญสำหรับผู้หญิงคนอื่น แต่กับลู่เมี่ยนเอ๋อมันช่วยนางแก้ปัญหาใหญ่ได้จริง ๆ
กวางสาวจึงยืนยันว่าจะมาที่นี่เพื่อขอบคุณหูเจียวเจียว แต่อิงหยวนไม่มีความคิดที่จะทำแบบเดียวกับนางและมาส่งนางอย่างไม่เต็มใจนัก
“เจ้าไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้าหรอก มันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย เจ้าอุตส่าห์ตั้งใจมาที่นี่เองเพื่อแสดงความจริงใจ ตอนนี้ข้างนอกมันหนาวมาก ดังนั้นเจ้าควรดูแลร่างกายให้ดี” ทางด้านหูเจียวเจียวรู้สึกทำอะไรไม่ถูก ในขณะที่สายตาของเธอเลื่อนไปยังหน้าท้องแบนราบของคนตรงหน้า
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา หลิงเอ๋อกลับมาจากถ้ำของหมอหนูและเล่าให้เธอฟังว่าลู่เมี่ยนเอ๋อรู้สึกไม่ค่อยสบายจึงไปหาหมอ แต่นางกลับพบว่าตัวเองกำลังตั้งท้องลูก
การตั้งครรภ์ในฤดูหนาวเป็นเรื่องปกติ
ความจริงแล้วจิ้งจอกสาวอยากจะแสดงความยินดีกับนางเอกสาว แต่เธอไม่อยากเจอหน้าอิงหยวนจริง ๆ อีกทั้งช่วงนี้เธอก็ไม่ได้ออกไปข้างนอก ดังนั้นเธอจึงพักเรื่องดังกล่าวไว้ก่อน
แต่หญิงสาวไม่คาดคิดว่าลู่เมี่ยนเอ๋อมาหาตนที่บ้านด้วยตัวเอง
“ข้าสบายดี หมอบอกว่าข้าแข็งแรงดี ไม่เป็นอะไร แค่ออกมาข้างนอกไม่นานก็พอไหวอยู่” ผู้เป็นนางเอกยิ้มอย่างอ่อนโยนพลางก้มศีรษะลงและสัมผัสที่ท้องส่วนล่างของตัวเองโดยไม่รู้ตัว
ขณะนี้ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความสุข
“ข้ารอวันนี้มานานแล้ว เจียวเจียว เจ้าคือดาวนำโชคของเผ่าเรา ข้าจะพาลูกของข้ามาพบเจ้าเพื่อให้พวกเขาได้รับพรจากเจ้า ข้าหวังว่าพวกเขาจะเติบโตอย่างแข็งแรง” ลู่เมี่ยนเอ๋อไม่ได้ปกปิดเรื่องที่ตนตั้งท้อง ทุกคนในเผ่ารู้ข่าวนี้แล้ว แน่นอนว่าอิงหยวนโอ้อวดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวไม่ขาดปาก
อีกทั้งกวางสาวไม่ได้หมกมุ่นกับการฝึกฝนให้ลูกแข็งแกร่งเท่าอินทรีหนุ่ม นางแค่ต้องการให้ลูกมีสุขภาพดีและปลอดภัย
เมื่อหูเจียวเจียวได้ยินคำพูดนั้น เธอก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “อืม ได้สิ”
ปัจจุบันเผ่าเพิ่งรอดพ้นจากภัยอันตราย และตอนนี้หลายคนกำลังจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง ประกอบกับเป็นช่วงเวลาที่ภูตหญิงในเผ่าจะให้กำเนิดลูกน้อยมากมาย
สำหรับเผ่า สิ่งนี้ถือว่าเป็นงานที่ยิ่งใหญ่
ซึ่งจิ้งจอกสาวเองก็มีความสุขที่เผ่าสามารถเจริญรุ่งเรืองต่อไปได้ เธอคิดว่าเผ่านี้เป็นบ้านของเธอจริง ๆ
“ว่าแต่ว่า...” ลู่เมี่ยนเอ๋อเปรยขึ้นมาพลางนึกถึงฉากเมื่อกี้ “เจียวเจียว ข้าเห็นท่าทางประคบประหงมของหลงโม่ตอนที่เจ้าเดินลงมาข้างล่าง เจ้าเองก็กำลังจะมีลูกหรือ...”
ตอนนั้นการแสดงออกของมังกรหนุ่มแปลก ๆ ซึ่งยากที่คนพบเห็นจะไม่สงสัย
คำถามของนางเอกสาวทำให้หูเจียวเจียวตกใจและรีบตอบโดยไม่รู้ตัว
“มันจะเป็นไปได้ยังไง ข้าไม่ได้ท้อง เป็นเพราะขาของข้าอ่อนแรงต่างหาก...”
วินาทีนี้จิ้งจอกสาวเกือบจะกัดลิ้นตัวเอง
บ้าเอ๊ย!
นี่ฉันกำลังพูดบ้าอะไรเนี่ย!
หูเจียวเจียวไม่เข้าใจว่าทำไมตนถึงพูดไร้สาระต่อหน้าลู่เมี่ยนเอ๋อ
ส่วนกวางสาวยิ้มแบบมีเลศนัย “เจ้า 2 คนมีความสัมพันธ์ที่ดีทีเดียว”
ในขณะที่บรรยากาศภายในบ้านเป็นไปอย่างชื่นมื่น
ทว่าด้านนอกประตูกลับเหมือนกำลังอยู่ในสนามรบ
บัดนี้หลงโม่กับอิงหยวนยืนอยู่คนละฝั่งตรงหน้าประตูขณะจ้องหน้ากันราวกับหมาป่า 2 ตัวที่ต่อสู้เพื่อแย่งชิงเหยื่อโดยที่ไม่มีใครยอมใคร
ถ้าดวงตาสามารถเปลี่ยนเป็นคมดาบได้ ตอนนี้ภูตหนุ่มทั้ง 2 คงจะมีบาดแผลเต็มตัวไปแล้ว
“ลูกของข้าชอบเล่นหนังสติ๊ก พวกนกและสัตว์ป่าเลยไม่ค่อยกล้ามาที่นี่” ใบหน้าเฉยเมยของมังกรหนุ่มแฝงไปด้วยการเยาะเย้ย “ข้าเกรงว่าพวกเขาจะเผลอฆ่านกบางตัวเข้า”
“นี่เจ้า!” คนที่เป็นภูตนกอินทรีโกรธมากจนเส้นเลือดปูดออกมาตรงขมับ และเขาพูดอย่างเย็นชาว่า
“ถ้าไม่ใช่เพราะเมี่ยนเอ๋อ เจ้าคิดว่าข้าอยากจะมาเหยียบที่นี่หรือไง”
หลังจากชายหนุ่มพูดจบ ไม่นานเขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
จากนั้นอินทรีหนุ่มก็ยืดหลังตรงมองไปที่อีกฝ่ายแบบภาคภูมิใจ
“ตอนนี้เมี่ยนเอ๋อกำลังตั้งท้อง”
“ข้าได้ยินมาว่ามังกรบางตัวยังไม่มีน้ำยาเลย”
สิ่งที่ภูตชายโอ้อวดได้ไม่มีอะไรมากไปกว่าการอวดเรื่องคู่ตั้งครรภ์ ลูกและความแข็งแกร่ง
ปัจจุบันอิงหยวนไม่สามารถเอาชนะหลงโม่ได้ และพวกเขาทั้ง 2 ก็มีภรรยาแล้ว ตอนนี้คงมีแต่เรื่องลูกที่จะสามารถเอามาเขม่นกันได้
อินทรีย์หนุ่มจึงพึงพอใจที่มีเรื่องที่เหนือกว่าอีกคน
แต่เขาไม่คาดคิดว่าสีหน้าของหลงโม่ยังคงเฉยชาไม่เปลี่ยนแปลง และทันใดนั้นเขาก็พูดสวนขึ้นมาว่า
“เจ้าคิดแต่เรื่องตั้งท้องแค่นั้นหรือ?”
“เจียวเจียวของข้ามีลูกกับข้าตั้งแต่เมื่อ 5 ปีก่อน”
“ตอนนี้ลูกของข้าสามารถทำงานช่วยข้าได้แล้ว พวกเขาช่วยเจียวเจียวตักน้ำทุกวัน”
มังกรหนุ่มกล่าวพลางปรายตามองอีกฝ่ายอย่างดูถูก
เจ้านกนี่คิดจะมาเปรียบเทียบกับเขางั้นหรือ? พวกเขา 2 คนไม่ได้มีอะไรใกล้เคียงกันเลยด้วยซ้ำ
“...” อิงหยวนที่ได้ยินเช่นนี้ถึงกับพูดอะไรไม่ออกไปชั่วครู่
“พวกเขาก็แค่เด็กไร้ประโยชน์ไม่กี่คน ไม่เห็นมีอะไรให้น่าภาคภูมิใจตรงไหน” อินทรีหนุ่มพูดอย่างฉุนเฉียว
ทางด้านหลงโม่เม้มริมฝีปากบาง หลับตา และพยักหน้าเห็นด้วยเล็กน้อยก่อนจะตอบว่า
“ใช่ ลูกของข้าแค่ตักน้ำได้ แต่ลูกนกบางตัวยังไม่ได้ออกมาลืมตาดูโลกด้วยซ้ำ”
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: เอาซี่ ถึงแม้พ่อมังกรจะไม่ค่อยพูด แต่อย่าให้ได้พูดเชียว ปากเจ็บพอ ๆ กับลูก รู้เลยว่าลูกได้ใครมา 5555555
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 117
แสดงความคิดเห็น