บทที่ 360: เทพอสูรโปรดอวยพร

[จบแล้ว] ขนเสบียงนับล้าน มาเป็นมาร(ดา)ของเหล่าวายร้าย (อ่านฟรีวันละตอน 12.00)

-A A +A

บทที่ 360: เทพอสูรโปรดอวยพร

ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า หูเจียวเจียวก็ได้อยู่บ้านทำอาหาร กิน แล้วก็นอน

 

นอกจากนี้ เธอจะออกไปรับส่งลูก ๆ แล้วส่งอาหารไปให้เหล่าภูตที่กำลังทำงานในเผ่าเพื่อเติมพลังให้กับพวกเขา

 

ปัจจุบันเสบียงในเผ่าร่อยหรอลงเรื่อย ๆ

 

นี่เป็นสิ่งที่เหล่าภูตกำลังเป็นกังวลกัน

 

แต่เมื่อหูเจียวเจียวเห็นว่าคนในเผ่ากำลังขาดแคลนอาหาร เธอจึงมอบเสบียงส่วนตัวให้พวกเขาเอง นั่นทำให้พวกภูตรู้สึกสะเทือนใจมาก และทุกคนก็คลายความกังวลลงทันที

 

และแล้ว 8 วันก็ผ่านไปในพริบตา 

 

เนื่องจากโกดังเก็บของไม่จำเป็นต้องวางรากฐานที่ซับซ้อน ด้วยความพยายามร่วมกันของภูตมากกว่าร้อยคน ในที่สุดโกดังแห่งใหม่ก็ถูกสร้างขึ้น

 

โดยที่ชาวเผ่าสร้างโกดังขนาดใหญ่ทั้งหมด 5 หลัง

 

ซึ่งโกดังแต่ละหลังมีขนาดใหญ่กว่าบ้านหินที่พวกหูเจียวเจียวอาศัยอยู่

 

การสร้างโกดังทั้ง 5 หลังนี้พวกเขาทั้งหมดทำตามคำขอของจิ้งจอกสาว 

 

แม้จะอยู่ภายใต้การวางแผนอย่างรอบคอบ เสบียงของเผ่าก็ลดลงถึงจุดต่ำสุดเช่นกัน

 

เย็นวันนั้น หัวหน้าเผ่ารวบรวมภูตทั้งหมดของเผ่าไปที่หน้าโกดัง

 

ขณะนี้ภูตทุกคนที่เป็นคนดั้งเดิมของเผ่ารู้ว่านี่คือโกดังเปล่า แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกสับสนอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีใครสงสัยอะไร

 

เพราะเหล่าภูตเชื่อในตัวหัวหน้าเผ่ากับหูเจียวเจียวหมดใจ

 

ส่วนภูตที่อยู่เบื้องหลังเซี่ยหมานต่างก็มึนงงพลางกระซิบพูดคุยกันด้วยความสงสัย

 

“เจ้าสิ่งนี้มีไว้ใช้ทำอะไร?”

 

“ท่านผู้เฒ่าจะแจกจ่ายเสบียงให้เราหรือ?” 

 

“เมื่อเร็ว ๆ นี้เสบียงในเผ่ามีน้อยลงเรื่อย ๆ ข้าได้ยินมาว่าเสบียงในเผ่ากำลังจะหมดแล้ว...” 

 

“อ่า งั้นเราต้องรีบออกไปล่าสัตว์แล้วสิ มิฉะนั้น พวกเราจะเอาอะไรกินในฤดูหนาว”

 

ภูตทั้งหลายรู้สึกขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือที่หัวหน้าเผ่าจัดหาให้พวกตนในทุกวันนี้ และพวกเขารู้สึกผิดมากเมื่อรู้ว่าในเผ่าจะไม่มีเสบียงแล้ว

 

ถ้าไม่ใช่เพราะกลุ่มคนที่อพยพจากเผ่าหมาป่ามาอยู่ที่นี่ แล้วพวกเขาใช้เสบียงจำนวนมากในเผ่าไป ปัจจุจบันเสบียงของเผ่าคงไม่ขาดแคลนขนาดนี้

 

พวกเขาต่างก็รู้สึกอยากออกไปล่าสัตว์และนำกลับมายังเผ่าโดยเร็วที่สุด

 

“ไม่ได้!”

 

“ถ้าไม่มีการสร้างกำแพงใหม่ เผ่าก็จะไม่ปลอดภัย” 

 

“ใช่แล้ว ถ้าภูตหมาป่าบุกโจมตีอีกครั้งล่ะ?”

 

ภูตที่เพิ่งเข้าร่วมเผ่าทั้งหมดเริ่มคาดเดาไปกันเองต่าง ๆ นานา

 

ในขณะนี้พวกเขากำลังรู้สึกกระวนกระวายและสิ้นหวัง

 

“แล้วเราควรทำยังไงดี? เราทำได้แค่นั่งรอความตายแบบนี้หรือ?”

 

ยามนี้เซี่ยหมานยืนอยู่แถวหน้าของเหล่าภูต

 

ความคิดเห็นของภูตคนอื่นดังเข้ามาในหูของเขาไม่หยุด เขาจึงขมวดคิ้วมองไปที่หูเจียวเจียวกับหลงโม่ที่กำลังเดินจับมือกันไปข้างหน้าอย่างใจเย็น

 

ตลอดเวลาที่ผ่านมาทั้งคู่ดูไม่เป็นเดือดเป็นร้อนเลยสักนิด

 

ระหว่างนั้นดวงตาของเซี่ยจื้อหนุ่มจับจ้องไปที่ใบหน้าสงบนิ่งของจิ้งจอกสาว แล้วสีหน้าของเขาก็ตึงเครียดยิ่งขึ้น

 

แน่นอนว่ามันยังคงเป็นเรื่องยากสำหรับภูตจำนวนมากที่จะเข้าร่วมเผ่าใหม่

 

หากมีปัญหาจริง ๆ เขาจะพาภูตครึ่งหนึ่งออกไปล่าสัตว์ แล้วก็จะพยายามกินอยู่กันอย่างประหยัดมากขึ้นเพื่อให้ทุกคนเอาชีวิตรอดในฤดูหนาวนี้

 

เซี่ยหมานได้คิดถึงแผนการการรับมือในกรณีที่เลวร้ายที่สุดในใจของเขาแล้ว

 

ณ เวลานี้หูเจียวเจียวเดินไปที่กลางโกดัง

 

จากนั้นเธอยืนเขย่งเท้า โน้มตัวเข้าไปใกล้ใบหน้าของหลงโม่และกระซิบ 2-3 คำ

 

มังกรหนุ่มพยักหน้ารับน้อย ๆ ก่อนจะหันหลังกลับเดินหายเข้าไปในฝูงชน

 

ในยามฤดูหนาว ท้องฟ้ามักจะมืดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งเวลาปัจจุบันมันกำลังเป็นสีฟ้าอ่อน

 

ภาพเบื้องบนประหนึ่งว่ามีมือที่มองไม่เห็นคู่หนึ่งกำลังทาสีใหม่ให้กับกระดานวาดภาพบนท้องฟ้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้สีฟ้าอ่อนมีสีเข้มขึ้นเรื่อย ๆ

 

ไม่นาน พระจันทร์เต็มดวงก็ค่อย ๆ โผล่ออกมาจากก้อนเมฆ ซึ่งมันเป็นแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียว ณ ตอนนี้ แต่มันก็ยังถูกปกคลุมด้วยชั้นเมฆหมอก แล้วภาพที่ปรากฏช่างดูสวยงามจนหลายคนคิดว่านี่เป็นความฝัน

 

ยามนี้หูเจียวเจียวเหลือบมองท้องฟ้า ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้หัวหน้าเผ่าที่ยืนอยู่ด้านข้างตน

 

ทางด้านชายสูงวัยเข้าใจและยกมือส่งสัญญาณให้ภูตที่อยู่รายรอบเงียบเสียงลง

 

“ทุกคน วันนี้ข้าเรียกพวกเจ้ามาที่นี่เพราะข้ามีประกาศสำคัญ”

 

เสียงของผู้อาวุโสสูงสุดฟังดูสงบ ทุ้มลึกและทรงพลัง

 

เขาเป็นผู้นำที่งานยุ่งอยู่ตลอดเวลาและเขาก็มีความสุขมากที่สุดในเผ่า

 

ช่วงนี้ชายชรายุ่งอยู่กับงานของเผ่าก็จริง แต่เขากลับไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเลย ตรงกันข้าม เขาดูเด็กลงหลายปีและแม้แต่ริ้วรอยบนใบหน้าก็น้อยลงด้วย

 

ส่วนกลุ่มภูตที่อยู่เบื้องหลังเซี่ยหมานเผลอกลั้นหายใจรอฟังข่าวร้ายโดยไม่รู้ตัวและตั้งใจฟังสิ่งที่หัวหน้าเผ่าพูดต่อไป

 

ในเวลานี้มีภูตหลายคนพึมพำอย่างไม่สบายใจว่า

 

“ท่านผู้เฒ่าอาจต้องการไล่เราออกจากเผ่าเพราะเขาคิดว่าเรากินมากเกินไปหรือเปล่า?” 

 

“ท่านผู้เฒ่าเสียใจที่รับพวกเราเข้ามา...”

 

“หูเจียวเจียวก็อยู่ที่นี่ด้วย นางคงอายเกินกว่าจะบอกเราเอง นางจึงทำได้เพียงพูดคุยกับท่านผู้เฒ่าเกี่ยวกับเรื่องนี้!”

 

บัดนี้อดีตทาสทั้งหมดรู้สึกไม่มั่นคงจนคิดฟุ้งซ่านไปไกล

 

พวกเขามีความรู้สึกว่าตนเพิ่งเป็นเจ้าของบ้านใหม่แต่กำลังจะถูกไล่ออกไป ซึ่งมันให้ความรู้สึกเจ็บปวดและตื่นตระหนก

 

เป็นเรื่องปกติภูตที่ไม่มีบ้านมักจะคิดมากแบบนี้กันทั้งนั้น

 

ในขณะที่หูชิงซานกับเหล่าภูตดั้งเดิมของเผ่าต่างก็มองไปที่ผู้อาวุโสด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

 

ไม่ว่าท่านผู้เฒ่าจะตัดสินใจอย่างไร พวกเขาก็จะสนับสนุนเต็มที่

 

“เจ้าเดาถูก”

 

เสียงของหัวหน้าเผ่าเอ่ยขึ้นมาช้า ๆ

 

“ในเผ่าไม่เหลือเสบียงแล้ว”

 

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมาจากปากผู้นำสูงสุดของเผ่า ใบหน้าของกลุ่มคนที่ได้ฟังก็ซีดเผือดลง

 

แน่นอนว่าการมาถึงของสมาชิกใหม่สร้างปัญหาให้กับหัวหน้าเผ่ารวมถึงคนอื่น ๆ ทำให้เผ่าขาดแคลนเสบียงและแม้แต่ชีวิตของพวกเขาเองก็ไม่สามารถรับประกันได้

 

พวกเขาคงไม่มีหน้าอยู่ที่นี่ต่อได้อีก…

 

“ท่านผู้เฒ่า เราเข้าใจแล้ว”

 

“พรุ่งนี้เราจะออกไปล่าสัตว์ และเราจะไม่ปล่อยให้ผู้หญิงกับเด็กของเผ่าไม่มีอาหารกิน”

 

“ถ้าท่านคิดว่าเราเป็นภาระ เราพร้อมที่จะไปได้ทุกเมื่อ”

 

ภูตที่เพิ่งเข้าร่วมเผ่ากล่าวกับผู้อาวุโสด้วยความรู้สึกผิด

 

แต่นั่นมันเป็นการขัดจังหวะคำพูดต่อไปของอีกฝ่าย หัวหน้าเผ่าจึงหันมามองพวกเขาด้วยสายตามีคำถาม

 

“ใครบอกว่าข้าจะขับไล่พวกเจ้าออกจากเผ่า?” ชายชรามีรอยยิ้มที่สงบสุขบนใบหน้า เขาไม่ได้แสดงความเกลียดชังหรือโกรธใด ๆ เลย แต่เขากลับพูดอย่างนุ่มนวลและอ่อนโยนต่อไปว่า 

 

“พวกเจ้าเป็นสมาชิกของเผ่าเรา ข้าจะมองพวกเจ้าเป็นภาระได้ยังไง!” 

 

“แล้วอีกอย่าง พวกเจ้าไม่ต้องออกไปล่าสัตว์ข้างนอกให้เสี่ยงอันตรายหรอก”

 

ทีแรกชายสูงวัยคิดว่าภูตพวกนี้จะควบคุมได้ยาก และเขาก็เตรียมพร้อมที่จะวิ่งไปแก้ปัญหาให้ทุกคนตลอดเวลา แต่เขาไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะมีจิตใจที่ดีแบบนี้ นอกจากจะไม่ได้สร้างปัญหาให้กับเผ่าแล้ว พวกเขาก็ยังนึกถึงตนที่เป็นหัวหน้าเผ่าเสมอ

 

ทางด้านเซี่ยหมานขมวดคิ้วพร้อมกับก้าวไปข้างหน้า “ท่านผู้เฒ่า แล้วเรื่องเสบียงล่ะ...” 

 

“นี่คือสิ่งสำคัญที่ข้าอยากจะบอกทุกคนในวันนี้” ผู้อาวุโสสูงสุดเพิ่มระดับเสียงพูด

 

นั่นทำให้พวกเซี่ยหมานต่างพากันตกตะลึง

 

การไม่มีเสบียงยังไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุดหรือ?

 

“เจียวเจียว มานี่สิ” คนเป็นหัวหน้าเผ่ากวักมือเรียกจิ้งจอกสาวให้มายืนอยู่ข้าง ๆ เขา

 

“ทุกคนคงรู้ดีอยู่แล้วว่าเจียวเจียวได้รับพรจากเทพอสูร วันนี้ข้าจะขอให้เทพอสูรมอบเสบียงให้เรามีกินมีใช้ในยามที่กำลังประสบความยากลำบาก”

 

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมาจากปากของชายชรา พวกภูตที่อยู่เบื้องหลังเซี่ยหมานก็ปั่นป่วนเหมือนน้ำเดือด

 

“เทพอสูร!?”

 

“หูเจียวเจียวสามารถอัญเชิญเทพอสูรได้งั้นหรือ!?”

 

“นางเป็นภูตเผ่าพันธ์ุใดกันแน่ นางทำแบบนั้นได้จริงหรือ!”

 

บัดนี้ชาวบ้านพากันตกใจและมองไปที่หูเจียวเจียวอย่างไม่เชื่อสายตา

 

เทพอสูรมีอยู่แค่ในตำนาน

 

แต่ท่านจะยอมมาช่วยเหลือเผ่าเล็ก ๆ ของพวกเขาจริงหรือ?

 

พวกเขาไม่ได้ฝันไปใช่ไหม!?

 

ส่วนภูตดั้งเดิมของเผ่าคุ้นเคยกับสถานการณ์แปลกประหลาดนี้มานานแล้ว เมื่อได้ยินเสียงฮือฮาของกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังเซี่ยหมาน พวกเขาก็เชิดคาง ยืดอกแสดงท่าทางภาคภูมิใจ

 

เผ่าอื่นมีพลังเท่าพวกเขาหรือไม่?

 

เผ่าอื่นมีผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมอย่างหูเจียวเจียวหรือเปล่า?

 

มีใครได้รับพรจากเทพอสูรบ้างไหม?

 

ถึงแม้ว่าเผ่าของพวกเขาจะไม่ได้โดดเด่นอะไร แต่เผ่าแห่งนี้แข็งแกร่งที่สุด!

 

เมื่อหูเจียวเจียวเห็นว่าฝูงชนเริ่มยืนอยู่ไม่นิ่ง เธอก็ก้าวไปข้างหน้าก่อนจะพยักหน้าให้ชาวเผ่าและพูดว่า

 

“ทุกคน ข้าจะขอให้เทพอสูรประทานพรแก่พวกเรา ข้าอยากให้พวกเจ้าอธิษฐานอย่างจริงใจ”

 

“หากพวกเจ้าไม่มีศรัทธา เทพอสูรจะไม่ประทานพรให้กับเผ่าของเรา”

 

--------------------------------------------------

พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: อื้อหือ ตอนนี้ขนลุกเลย มันเหมือนกับว่าเจียวเจียวเป็นเทพธิดาลงมาจุติจริง ๆ

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.