บทที่ 358: เทพธิดาแห่งโรคระบาด

[จบแล้ว] ขนเสบียงนับล้าน มาเป็นมาร(ดา)ของเหล่าวายร้าย (อ่านฟรีวันละตอน 12.00)

-A A +A

บทที่ 358: เทพธิดาแห่งโรคระบาด

“เฟิงเฉิง ท่านชอบอยู่ที่นี่ไหม?” หูเจียวเจียวรู้สึกกังวลใจ เธอจึงถามหมอผีย้ำอีกครั้ง

 

ท้ายที่สุดแล้ว หู่จิงกับหูชิงหยวนเพิ่งจะตกลงปลงใจกันไม่นานมานี้ มันคงจะค่อนข้างไม่สะดวกที่จะมีผู้หญิงอีกคนอยู่ในบ้าน

 

แต่เสือสาวไม่ได้คิดอะไรมาก นางคิดเพียงว่าอยากมีเพื่อนอยู่บ้านเท่านั้น

 

ขณะนั้นหู่จิงรีบตอบคำถามของหูเจียวเจียวก่อนที่เจ้าตัวจะทันได้ตอบ

 

“นางชอบ นางชอบมาก ๆ เราเข้ากันได้ดีมาก!”

 

เสือสาวตอบพลางโอบไหล่หมอสาวแล้วกระชับกอดเหมือนที่ผู้ชายทำกับสหายคนสนิท ก่อนจะหันไปถามอีกฝ่าย

 

“เจ้าคิดแบบเดียวกันใช่ไหมเฟิงเฉิง?”

 

ในสายตาของหู่จิง หมอผีคนนี้ไม่ได้ร้องไห้โวยวายอยากออกจากบ้านไป นั่นหมายความว่านางชอบและยินดีที่จะอาศัยอยู่ที่นี่

 

ซึ่งนี่คือโอกาสในการสร้างความสนิทสนมต่อกัน

 

“เอ่อ...ใช่” เฟิงเฉิงที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ ทันใดนั้นนางก็รู้สึกตัว ทว่าที่ผ่านมานางไม่ได้ยินสิ่งที่หู่จิงพูดเลย

 

แล้วคนเป็นหมอผีก็ทำเพียงกระชับไม้เท้าไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะผงกหัวตอบด้วยสีหน้าว่างเปล่า

 

ท่าทางของหญิงสาวทำให้หูเจียวเจียวยิ่งรู้สึกสงสัยมากขึ้นไปอีก

 

เธออดไม่ได้ที่จะแอบพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ว่า “ทำไมวันนี้คนที่ข้าเจอ 2 คนถึงดูแปลก ๆ เหมือนคนที่วิญญาณหลุดออกจากร่างไปแล้ว...”

 

แต่เมื่อจิ้งจอกสาวเห็นว่าเฟิงเฉิงเป็นคนเอ่ยปากพูดเอง เธอก็รู้ว่าไม่ควรคาดคั้นอะไรอีก

 

“เจียวเจียว ไม่ต้องห่วงนะ ข้าจะดูแลเฟิงเฉิงอย่างดี ข้าจะทำให้นางรู้สึกอบอุ่นเหมือนได้อยู่บ้านตัวเอง!”

 

หู่จิงให้คำมั่นพร้อมยิ้มยิงฟันขาวซี่ใหญ่

 

ในขณะที่เสือสาวพูด นางยังง้างมือตบหลังอันบอบบางของหมอผีถึง 2 ครั้ง

 

ป้าบ! ป้าบ!

 

“แค่ก ๆๆ!” คนถูกประทุษร้ายสำลักน้ำที่ดื่มเข้าไปจนไออย่างหนัก

 

มันจะสายเกินไปไหมหากนางมานึกเสียใจทีหลังแล้วเปลี่ยนใจตอนนี้?

 

“...” ส่วน 2 แม่ลูกที่ได้เห็นภาพตรงหน้าถึงกับพูดอะไรไม่ออก 

 

ป้าจิงดูไม่น่าเชื่อถือเลยสักนิด…

 

...

 

อีกด้านหนึ่ง

 

หลงหลิงเอ๋อกับหยินชางมาถึงถ้ำที่หมอหนูอาศัยอยู่

 

ท่านผู้เฒ่าได้จัดถ้ำแยกไว้ให้ทั้งคู่ต่างหาก ซึ่งมันตั้งถัดจากถ้ำที่พวกหัวหน้าเผ่าอาศัยอยู่ ดังนั้นภูตในเผ่าจึงสามารถไปเรียกตัวหมอได้หากพวกเขาต้องการอะไร

 

แล้วในถ้ำแห่งนี้มีโถงถ้ำว่างเปล่ากว่า 10 โถง

 

ปัจจุบันภูตหนูทั้ง 2 ต่างก็เลือกถ้ำที่อยู่ของตัวเองโดยเลือกโถงถ้ำ 2 แห่งเพื่อเก็บสมุนไพรหรือตัวยาของพวกตนเอาไว้

 

เมื่อหมอหนู 2 คนหลบหนีออกจากเผ่าหนู พวกเขาก็นำของดี ๆ ติดมือมาด้วยมากมาย

 

ในเผ่าเล่ยเหอ หมอจะเป็นผู้เก็บรักษาเสบียงต่าง ๆ อย่างเช่น ของที่ใช้ทางการแพทย์ สมุนไพรหลากหลายชนิด เป็นต้น 

 

เวลานั้นพวกเขาแทบจะกวาดสมุนไพรในเผ่าหนูมาทั้งหมดจนไม่เหลือทิ้งไว้แม้แต่อย่างเดียว

 

ส่งผลให้ตอนนี้ในถ้ำมีกลิ่นอับชื้นปะปนกับกลิ่นสมุนไพรฟุ้งไปทั่ว

 

แต่ถ้ำที่ใหญ่ขนาดนี้กลับอยู่กันแค่ 2 คน บรรยากาศจึงดูว่างเปล่าน่าวังเวง

 

เมื่อหมอหนูทั้ง 2 เห็นหลงหลิงเอ๋อเดินเข้ามาในถ้ำ พวกเขาก็รู้สึกมีความสุขมาก

 

“หลิงเอ๋อ เจ้ามาแล้วหรือ?”

 

ทั้งคู่ต้อนรับสาวน้อยอย่างยินดีก่อนจะพบว่าหยินชางกำลังติดตามนางมาไม่ห่าง

 

ชั่ววินาทีนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของคนเป็นหมอพลันสลายไป

 

“เจ้าตามนางมาทำไม?”

 

ยามนี้เด็กหนุ่มมีสีหน้าจริงจัง

 

ดวงตาสีดำสนิทคู่นั้นบางครั้งก็ให้ความรู้สึกน่าสะพรึงกลัวเหมือนสัตว์ร้ายบางชนิดในอเวจี ซึ่งมันทำให้พวกเขารู้สึกขนลุกขนพองอย่างห้ามเอาไว้ไม่ได้ 

 

สาวน้อยคนนี้ก็แค่จะมาเรียนวิชาแพทย์

 

แล้วเขาจะตามนางมาทำไม?

 

ส่วนหลงหลิงเอ๋อคุ้นเคยกับการมีหยินชางอยู่เคียงข้างอยู่แล้ว

 

เมื่อนางได้ยินสิ่งที่อาจารย์หมอพูด นางก็จำได้ว่าตนมาที่นี่เพื่อเรียนรู้วิธีการเป็นหมอ ซึ่งอีกคนไม่จำเป็นต้องติดตามนางมาก็ได้

 

“หยินชาง ถ้าเลิกเรียนแล้วข้ากลับเองได้ เจ้าอยากกลับไปก่อนไหม?” คนตัวเล็กหันกลับไปมองเด็กหนุ่มแล้วถาม

 

ทว่าหยินชางยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติง

 

จากนั้นเขาเม้มริมฝีปากมองไปที่หมอหนู 2 คน ก่อนจะชี้ไปที่หลงหลิงเอ๋อแล้วชี้มาที่ตัวเขาเอง

 

เขาต้องการบอกว่า ‘มาด้วยกันก็กลับด้วยกัน’

 

อีกทั้งใบหน้าของเด็กหนุ่มดูเคร่งเครียดและจริงจังมาก

 

ขณะนี้หมอหนูทั้ง 2 ไม่เข้าใจว่าเด็ก ๆ กำลังคุยอะไรกัน นอกจากหลงหลิงเอ๋อแล้ว ไม่มีใครสามารถเข้าใจภาษามือของหยินชางได้เลย

 

แค่เห็นท่าทางเคร่งขรึมของเด็กชาย คนเป็นหมอก็คิดว่าหูเจียวเจียวมีเรื่องสำคัญต้องการจะบอกพวกเขา ดังนั้นทั้งคู่จึงบีบมืออย่างประหม่า

 

แล้วพวกเขาก็อดที่จะถามเร่งเร้าไม่ได้

 

“พวกเจ้ากำลังพูดอะไรกันหรือ?”

 

“เราไม่เข้าใจ เจ้าช่วยบอกเราได้ไหม...”

 

ทางด้านหลงหลิงเอ๋อเข้าใจสิ่งที่เขาสื่อสารได้อย่างรวดเร็ว

 

“หยินชาง เจ้าอยากอยู่กับข้าใช่ไหม เจ้าอยากจะเรียนรู้วิธีการเป็นหมอหรือไม่?”

 

จากนั้นเด็กหนุ่มก็พยักหน้าตอบรับ

 

“...”

 

ทีแรกหมอหนู 2 คนตกใจกลัวแทบตายเพราะคิดว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น!

 

“ถ้าเจ้าอยากเรียนด้วย งั้นก็มาเริ่มกันเถอะ” ทั้งคู่มองหน้ากันและตกลงพร้อมเพรียงกัน

 

พวกเขารู้ว่าหยินชางเป็นเด็กในครอบครัวหูเจียวเจียวด้วยเหมือนกัน

 

อย่างไรก็ตาม การถ่ายทอดความรู้ให้คนหนึ่งหรือ 2 คนมันก็ไม่ได้มีความแตกต่างอะไรสำหรับพวกเขา

 

“เยี่ยมมาก หยินชาง ในอนาคตเราจะเป็นหมอด้วยกัน!” หลงหลิงเอ๋อมีท่าทีตื่นเต้น ในขณะที่ใบหน้าสวยใสเปลี่ยนเป็นสีชมพูเหมือนลูกท้อสุก

 

“ข้าจะพาพวกเจ้า 2 คนไปรู้จักสมุนไพรก่อน” ต่อมา ผู้เป็นอาจารย์ก็พาลูกศิษย์เข้าไปในถ้ำ

 

ขณะที่เดินไปพวกเขาก็เอ่ยเตือนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

 

“พวกเจ้าอย่ายุ่งกับของข้างในเด็ดขาด เพราะสมุนไพรทุกชนิดที่นี่มีค่ามาก พวกเจ้าจะกินมันไม่ได้...”

 

ตอนที่ภูตหนู 2 คนกำลังอธิบาย ทันใดนั้นพวกเขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างลอยอยู่ในอากาศตรงหน้าตน ซึ่งมันเป็นเหมือนละอองฟุ้งกระจาย

 

“แค่ก ๆๆๆ...”

 

ผู้เป็นหมอทั้ง 2 ปิดปากปิดจมูกไอไม่หยุด พอพวกเขาก้มลงไปมองหลงหลิงเอ๋อกับหยินชาง ปรากฏว่าเด็ก ๆ กลับวิ่งหนีหายไปอย่างไร้ร่องรอย

 

“!!!”

 

เจ้าเด็กพวกนั้นหายไปไหนแล้ว!?

 

ทางด้านพวกหลงหลิงเอ๋อวิ่งหนีมาถึงถ้ำที่เก็บสมุนไพร

 

ถ้ำแห่งนี้เต็มไปด้วยกลิ่นแปลก ๆ ทุกประเภท ทันทีที่หยินชางก้าวเข้ามา เขาก็ถูกกลิ่นรบกวนจนเขาต้องขมวดคิ้ว

 

โดยทั่วไปแล้วคนเป็นหมอจะถูกเลือกมาจากภูตที่อ่อนแอ เพราะยิ่งภูตแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งยากที่จะต้านทานกลิ่นแรง ๆ ได้

 

“นี่คือสมุนไพรที่สามารถรักษาโรคและช่วยชีวิตผู้คนได้หรือ?” หลงหลิงเอ๋อมองซ้ายมองขวาด้วยความสงสัย ก่อนจะถอนสมุนไพรที่มีรูปร่างแปลกประหลาดขึ้นมา

 

“มันไม่ต่างอะไรกับหญ้าเลยสักนิด”

 

พอเด็กหญิงพูดจบก็วางสมุนไพรในมือ แล้วก็หยิบสมุนไพรอันอื่นมาถือไว้ต่อหน้าเพื่อสังเกตอย่างระมัดระวัง

 

เมื่อหมอหนู 2 คนเข้ามาในโถงถ้ำ

 

พวกเขาก็เห็นว่าสมุนไพรทั้งหมดที่ตนอุตส่าห์ทำงานหนักเพื่อปลูกมาทั้งคืนถูกเด็กน้อยดึงออกมา

 

“หยุดนะ!!”

 

รูม่านตาของภูตทั้ง 2 หดลงฉับพลัน พร้อมกับที่หัวใจของพวกเขากำลังจะหยุดเต้น

 

จากนั้นผู้เป็นหมอก็รีบวิ่งไปใกล้หลงหลิงเอ๋อเพื่อหยิบสมุนไพรในมือของนางกลับคืนมาอย่างระมัดระวัง

 

ขณะนี้หมอหนูทั้ง 2 อยากจะร้องไห้ แต่ก็ไม่มีน้ำตาไหลออกมาสักหยด

 

“สมุนไพรของเรา...”

 

“อันนี้ถอนไม่ได้ เราเพิ่งปลูกเมื่อวาน มันใกล้จะตายแล้ว!!”

 

พวกเขาโอดครวญพร้อมกับทำหน้าคล้ายคนกำลังร้องไห้

 

ครั้งนี้หมอหนูนำสมุนไพรที่ยังมีชีวิตมาเพียงไม่กี่ชนิด แล้วตลอดทางก่อนที่จะมาถึงเผ่า พวกเขาพยายามดูแลพวกมันสุดชีวิต จนในที่สุดทั้งคู่ก็ปลูกมันได้สำเร็จ แต่ตอนนี้กลับมีเด็กมือบอนถอนมันออกมาภายใน 1 คืน

 

สมุนไพรเหล่านี้ช่างน่าสงสารเหลือเกิน…

 

“นี่คือสิ่งที่พวกท่านปลูกหรือ?” หลงหลิงเอ๋อเกาหูแก้เก้อ และพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “ข้าเห็นพวกมันนอนเหี่ยวแห้งอยู่ ข้าเลยคิดว่าพวกมันถูกตากแห้งไว้แล้ว” 

 

ทางด้านหยินชางเหลือบมองไปยังสมุนไพรที่อยู่ในฝ่ามือของหมอหนู

 

สภาพของมันดูเหี่ยวเฉา ปลายใบเหลืองซึ่งมันดูไม่มีชีวิตชีวาเอาเสียเลย

 

แต่เรื่องนี้หมอหนูทั้ง 2 ก็ไม่ควรตำหนิหลงหลิงเอ๋อ มันเป็นเพราะพวกเขาประมาทเอง

 

เวลานี้อาจารย์หมอ 2 คนยืนตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยินคำพูดของเด็กหญิง 

 

“นี่...” สมุนไพรที่พวกเขาปลูกมันแย่ขนาดนั้นเลยหรือ?

 

พอหลงหลิงเอ๋อเห็นสีหน้าเศร้าโศกของผู้เป็นอาจารย์ นางก็ตระหนักว่าตนทำผิดพลาด นางจึงรีบหยิบสมุนไพรจากมือของอีกฝ่ายมาแล้วตั้งท่าพร้อมที่จะชดเชย

 

“ท่านอาจารย์ ข้าขอโทษ ข้าไม่รู้ว่ามันยังไม่ตาย ข้าจะช่วยท่านปลูกมันเดี๋ยวนี้!”

 

ขณะที่เด็กหญิงพูด นางก็เริ่มใส่สมุนไพรลงในดินแล้วไม่ลืมเทน้ำในขันหินลงไปเป็นการตบท้าย

 

“สมุนไพรนี้ดูจะเหี่ยวแห้งไปหน่อย ท่านอาจารย์ ท่านควรรดน้ำให้มากกว่านี้”

 

จากนั้นนางก็รดน้ำเพิ่มอีก 2-3 ขัน

 

การกระทำของลูกศิษย์ทำให้หมอ 2 คนเหมือนถูกฟ้าผ่าลงกลางหัว

 

“!!”

 

“สมุนไพรชนิดนี้รดน้ำมากไม่ได้ มันจะจมน้ำตาย!”

 

ทั้งคู่รีบพาหลงหลิงเอ๋อออกจากถ้ำปลูกสมุนไพรไปโดยเร็วที่สุด

 

“ไม่ต้องห่วง เราไม่โทษเจ้าหรอก”

 

“เรามาเรียนรู้เกี่ยวกับสมุนไพรแห้งเหล่านี้กันก่อนแล้วกันนะ!”

 

นางเป็นแค่เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ

 

แต่ทำไมพวกเขาถึงรู้สึกว่านางเป็นเหมือนเทพธิดาแห่งโรคระบาดมากกว่า!?

 

--------------------------------------------------

พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: ยังไม่ทันได้เริ่มเรียนเลย หลิงเอ๋อก็สร้างผลงานให้อาจารย์ปวดหัวแล้ว 55555555

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.