บทที่ 160: เอามันไปกินซะ ไอ้พวกลูกหมา!

[จบแล้ว] ขนเสบียงนับล้าน มาเป็นมาร(ดา)ของเหล่าวายร้าย (อ่านฟรีวันละตอน 12.00)

-A A +A

บทที่ 160: เอามันไปกินซะ ไอ้พวกลูกหมา!

ขณะนี้ภูตทุกคนในเผ่าต่างก็ตกตะลึงที่เห็นหลงโม่สามารถกำราบจ่าฝูงของฝ่ายตรงข้ามได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

 

“หลงโม่ เจ้า...” หูชิงซานเบิกตากว้างอย่างเหลือเชื่อ มังกรหนุ่มแข็งแกร่งมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

 

“ดูสิ ความเร็วของหมาป่ากลุ่มนี้ดูเหมือนจะช้าลง!”

 

ก่อนที่หลงโม่จะทันได้พูดอะไร เป้าเฟิงก็ส่งเสียงร้องตกใจ ทันทีที่สมาชิกในกลุ่มหันไปมอง พวกเขาก็เห็นพวกหมาป่าที่อยู่ใกล้ที่สุดนอนสลบเหมือดอยู่บนพื้น

 

เป็นไปได้อย่างไร?

 

ภาพนั้นทำให้เหล่าภูตชายทั้งหมดตะลึงงัน

 

“มันคือผงแป้ง หูเจียวเจียวบอกว่าผงนี้สามารถทำให้ภูตมึนงงได้” เสียงเย็นชาของหลงโม่ดังเข้าไปในโสตประสาทของทุกคน

 

ภูตเสือดาวถามพร้อมกับแสดงสีหน้าสับสน “แล้วทำไมพวกเราถึงไม่เป็นไรเลยล่ะ?”

 

“สิ่งที่เจ้าเพิ่งกินเข้าไปคือยาแก้พิษ” มังกรหนุ่มอธิบาย

 

จากนั้นหูชิงซานก็โพล่งขึ้นมาทันที “ถ้าอย่างนั้นเราจะรออะไรอยู่ล่ะ รีบขนดอกเกลือไปจากที่นี่เถอะ!”

 

ใครจะรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ศัตรูพวกนั้นจะกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง

 

ยาพิษของจิ้งจอกสาวสามารถทำให้ภูตเกิดอาการมึนงงได้ก็จริง แต่ไม่ใช่ว่ามันจะได้ผลกับภูตทุกคน ยิ่งภูตคนนั้นแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งใช้เวลานานในการออกฤทธิ์ และผลกระทบก็จะน้อยลงเท่านั้น

 

นี่คือสิ่งที่หูเจียวเจียวบอกหลงโม่ตอนที่นางห่อมันให้เขา

 

ภูตหมาป่ากลุ่มนี้บางคนเป็นลมหมดสติไปในขณะที่บางคนเคลื่อนไหวช้าลง บ้างก็แค่เดินไม่มั่นคง ส่วนคนที่มีสติยังคงไล่ตามพวกเขามา แต่อย่างน้อยภูตทั้ง 10 คนก็ยังมีโอกาสให้หลบหนี

 

มังกรหนุ่มพยักหน้าและมองไปที่หูชิงซาน ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายยังคงงุนงงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เขาก็รู้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการหนีจากศัตรูให้ได้

 

“ใช่ ทุกคน เร็วเข้า!” หูเฉียงผู้เป็นพ่อกลับมามีสติอีกครั้ง เขาถือดอกเกลือพร้อมค้นหาจุดที่กองกำลังของกลุ่มภูตหมาป่าอ่อนแอที่สุดอย่างแม่นยำ และนำสมาชิกในทีมฝ่าวงล้อมออกมา

 

ในเวลาเดียวกัน หลางเมี่ยตกลงมาจากท้องฟ้าแล้วกระแทกเข้ากับต้นไม้อย่างแรง ทำให้ต้นไม้หนา 4 ต้นโค่นลงก่อนที่เขาจะล้มลงกับพื้น

 

“อาวู้ววววว!”

 

อย่าคิดว่าจะหนีพ้นนะโว้ย!

 

เขาส่งเสียงหอนชั่วอึดใจหนึ่ง ไม่นานร่างหมาป่าที่แข็งแรงก็ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ราวกับว่าแรงกระแทกเมื่อกี้ไม่ต่างจากการถูกจั๊กจี้ ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าชายผู้นี้แข็งแกร่งเพียงใด

 

จากนั้นหลางเมี่ยก็แยกเขี้ยววิ่งไล่ตามภูตต่างเผ่าไปทันทีที่ลุกขึ้น

 

“ไม่ได้การ ผงนี้ดูเหมือนจะใช้ไม่ได้ผลกับไอ้หมาป่าตัวใหญ่นั่น มันตามเรามาแล้ว!” หูชิงซานหันกลับมามองแล้วพบว่าคนเป็นจ่าฝูงกำลังตามหลังตนมา ความเร็วของอีกฝ่ายเร็วมาก ส่งผลให้ระยะห่างระหว่างทั้ง 2 กำลังสั้นลงเหลือ 10 เมตรในไม่กี่อึดใจ 

 

ความแข็งแกร่งของภูตหมาป่าคนนี้น่ากลัวเกินไป!

 

ในขณะที่ฝ่ายกำลังหลบหนีแอบคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติ จู่ ๆ หลงโม่ก็โฉบลงมาจากท้องฟ้าและพูดกับจิ้งจอกหนุ่มว่า ”หลบไป!”

 

สิ้นเสียงของมังกรดำตัวใหญ่ ถุงหนังสัตว์ที่แขวนอยู่บนกรงเล็บมังกรก็ถูกเปิดออก เผยให้เห็นห่อสีกากีที่อยู่ข้างใน เขาใช้กรงเล็บมังกรอันแหลมคมตวัดครั้งเดียว เชือกที่ผูกห่อนั้นไว้ก็ถูกตัดขาด 

 

ปั่ก!

 

มังกรหนุ่มขว้างห่อในมือใส่หลางเมี่ยอย่างแม่นยำ

 

“กรรซ์!” 

 

พวกมันหลอกข้าอีกแล้ว ข้าไม่กลัวมันหรอก มันก็แค่ผงแป้งไร้ประโยชน์ไม่ใช่หรือ?

 

ผู้เป็นจ่าฝูงหมาป่าแสดงท่าทางดูถูกโดยไม่มีความตั้งใจที่จะหลบเลยแม้แต่น้อย นอกจากนี้เขายังเปิดปากกัดห่อที่ปล่อยควันสีขาวออกมาแบบไม่เกรงกลัวใด ๆ

 

“ยังกล้าหลอกให้ข้ากลัวอีกงั้นรึ...”

 

ขณะที่หลางเมี่ยกำลังจะกระโจนไปข้างหน้า ทันใดนั้นก็มีรสเผ็ดร้อนแผ่ออกมาจากห่อในปากของเขา วินาทีต่อมา เขาเห็นการปะทุของไฟที่กะพริบต่อหน้าตัวเอง ไม่นานความรู้สึกแสบร้อนก็พุ่งออกมาจากปากอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว 

 

ตูม!!

 

“เอ๋งงง!”

 

เสียงร้องของหมาป่าพร้อมกับเสียงระเบิดดังขึ้น ถึงเวลานี้หลงโม่ได้พาทุกคนหนีออกไปจากสถานที่เกิดเหตุแล้ว

 

พวกหูชิงซานอดไม่ได้ที่จะมองย้อนกลับไป เมฆคล้ายเห็ดสีเทาขนาดเล็กปรากฏขึ้นข้างหลังพวกเขาห่างไป 100 เมตร และสมาชิกทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะแอบสั่นสะท้านในใจ

 

มันคืออะไร? ดูอันตรายมาก!

 

ทว่ามีเพียงหูเฉียงเท่านั้นที่กล้าถุยน้ำลายเป็นการเยาะเย้ยหลางเมี่ย และพูดอย่างโกรธเคือง “เอามันไปกินซะ ไอ้พวกลูกหมา!”

 

“...”

 

หูชิงซานผู้เป็นลูกชายมุมปากกระตุก

 

ท่านพ่อ เมื่อกี้ตอนที่ท่านพยายามเจรจากับศัตรู ท่านไม่ได้มีท่าทางเช่นนี้เลยนะ

 

แม้ว่าภูตหมาป่าที่อยู่ข้างหลังจะไม่มีทีท่าว่าจะตามพวกตนมาทัน แต่หลงโม่ก็นำคนในเผ่าวิ่งหนีไปไกลก่อนที่จะหยุดพัก

 

ต่อให้พวกเขาทุกคนจะหลีกเลี่ยงฝ่ายตรงข้ามมาได้ ทว่ามันก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีการซุ่มโจมตี

 

โชคดีที่อีกฝ่ายดูเหมือนจะยอมแพ้ไปแล้วจริง ๆ จึงไม่มีภูตหมาป่าคนไหนปรากฏตัวอีก

 

ขณะนี้ภูตชายทั้ง 10 กำลังพักผ่อนอยู่ที่ริมแม่น้ำ

 

ช่วงเวลาที่ผ่านมา พวกเขาวิ่งเตลิดเปิดเปิงอย่างไม่คิดชีวิตมานาน

 

ส่งผลให้ลำคอของภูตทุกคนแห้งจนแทบจะเป็นผง 

 

ยกเว้นหูเฉียงที่ยังมีแรงสบถด่าศัตรูอยู่ ในขณะที่ภูตคนอื่นนอนอยู่ริมแม่น้ำ เมื่อพวกเขาดื่มน้ำจนอิ่มแล้วก็ทิ้งตัวนอนหอบเสียงดังอยู่ที่เดิม

 

นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ฉากดังกล่าวก็ปรากฏขึ้นที่ริมสายธาร

 

ไม่ว่าจะเป็นภูตสุนัขจิ้งจอก, เสือโคร่ง, สิงโตและเสือดาวตัวใหญ่ต่างก็นอนแผ่พลางแลบลิ้นออกมาหอบหายใจแบบหมดสภาพ

 

ทันใดนั้น หลงโม่ในร่างมนุษย์ก็มาถึงต้นน้ำและค่อย ๆ ใช้มือตักน้ำขึ้นมาดื่ม

 

เมื่อมังกรหนุ่มกลับมาหลังจากดื่มน้ำเสร็จแล้ว ในที่สุดสมาชิกทุกคนก็กลับมาหายใจได้ตามปกติ

 

ยามนี้พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน ภูตชายทั้งหลายจึงกลายร่างเป็นมนุษย์เพื่อจุดไฟตั้งค่ายพักแรมกันอยู่ริมแม่น้ำ

 

หูชิงซานมองผู้เป็นพ่อที่เหนื่อยล้าและกำลังหายใจหอบถี่ เขาจึงอาสาพาภูตอีก 2 คนออกไปล่าเหยื่อมาทำอาหารสำหรับวันนี้

 

ทางด้านหลงโม่ เขาเดินไปหามุมห่างไกลที่ไม่มีใครอยู่แล้วนั่งลงคนเดียวโดยไม่เข้าไปยุ่งกับใคร

 

เนื่องจากชายหนุ่มเคยชินกับการอยู่เพียงลำพัง แต่จู่ ๆ เขาก็ถูกใครบางคนตบไหล่ทันทีที่ตนนั่งลง

 

“หลงโม่ เมื่อกี้เจ้าขว้างอะไรออกไป ทำไมมันถึงทรงพลังนัก?”

 

ที่ผ่านมาเป้าเฟิงหมกมุ่นอยู่กับระเบิดที่มังกรหนุ่มขว้างตลอด ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะเข้ามาถามอีกฝ่าย

 

เมื่อหลงโม่ได้ยินคำพูดของภูตเสือดาว พวกภูตชายที่วุ่นอยู่กับสิ่งที่กำลังทำไม่ไกลก็ส่งสายตาอยากรู้อยากเห็นมาเช่นกัน

 

พวกเขาเองก็อยากรู้ว่ามันคืออะไร

 

แต่ติดตรงที่ว่ามังกรหนุ่มคนนี้มักจะทำสีหน้าเย็นชาอยู่ตลอดเวลา จึงไม่มีใครกล้าเข้ามาถามเขาแม้แต่คนเดียว

 

ฝ่ายที่ถูกยิงคำถามเหลือบมองไหล่ที่มีมือของอีกคนวางอยู่ด้วยสายตาเหมือนไม่พอใจ ก่อนจะขมวดคิ้วและพูด 2 คำออกมาอย่างเฉยเมย

 

“ระเบิด” 

 

“ระ…เบิด?” เป้าเฟิงทวนคำตอบอีกครั้งพร้อมทำสีหน้างุนงง “มันทำมาจากอะไร?”

 

ทำไมเขาไม่เคยได้ยินชื่ออะไรแบบนี้มาก่อน?

 

“ไม่รู้เหมือนกัน”

 

“ถ้าเจ้าไม่อยากพูด เจ้าก็ไม่ต้องพูด เจ้าจะโกหกทำไม...” เสือดาวหนุ่มเม้มริมฝีปาก เขาคิดว่าอีกฝ่ายกำลังปิดบังเรื่องส่วนตัวและไม่ต้องการบอกตน

 

นั่นทำให้ดวงตาเย็นชาของหลงโม่กลอกไปทางคนพูด

 

ทางด้านเป้าเฟิงที่กำลังพึมพำบ่นรู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นที่แล่นไปทั่วแผ่นหลัง จึงปิดปากเงียบทันที

 

ชายหนุ่มไม่รู้จริง ๆ หูเจียวเจียวบอกเขาเพียงชื่อและวิธีใช้ ก่อนที่นางจะอธิบายส่วนที่เหลือ เขาก็ต้องรีบออกเดินทางแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม เขาเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ด้วย

 

อีกทั้งเขาเป็นคนที่ค่อยรู้อะไรอยู่แล้ว

 

ตอนนี้หลงโม่ได้รู้แล้วว่าของที่เขาไม่รู้จัก ภูตคนอื่นก็ไม่รู้จักเหมือนกัน

 

“เสี่ยวโม่ ระเบิดนี้เจียวเจียวเป็นคนทำขึ้นมาหรือ?” หูเฉียงพุ่งเข้ามาถาม

 

ทันทีที่มีหัวข้อเกี่ยวกับลูกสาวสุดที่รัก เขาก็กลายเป็นคนที่อยากรู้อยากเห็นเรื่องของคนอื่นขึ้นมาทันที

 

เสี่ยวโม่?

 

เมื่อเจ้าของชื่อได้ยินคำเรียกนี้ มุมปากของเขาก็กระตุก

 

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ยามที่ชายวัยกลางคนพูดคุยกับหูเจียวเจียว เขามักจะเรียกหลงโม่ว่า ‘ไอ้ขยะหลงโม่’ แล้วทำไมวันนี้เขาถึงใจดีขึ้นมา?

 

ก่อนที่มังกรหนุ่มจะทันได้ตอบ ภูตที่อยู่ข้าง ๆ เขาก็ขัดจังหวะขึ้นมาก่อน

 

“หูเฉียง ท่านไม่ได้รู้อยู่แล้วหรือ?”

 

“นอกจากหูเจียวเจียวของท่านแล้ว จะมีใครอีกบ้างที่สามารถสร้างสิ่งแปลกประหลาดเช่นนี้ได้”

 

“ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ระเบิดนี้ทรงพลังมาก ข้าคิดว่าความแข็งแกร่งของภูตหมาป่าน่าจะไม่น้อยไปกว่าอิงหยวน เจ้าสิ่งนี้กลับทำให้ศัตรูขยับตัวไม่ได้อีก คิดดูสิว่ามันต้องทรงพลังขนาดไหน”

 

บัดนี้ภูตหลายคนดูเหมือนจะกระปรี้กระเปร่ามากขึ้นตอนที่พูดถึงเจ้าสิ่งมหัศจรรย์ดังกล่าว

 

ส่วนฝูงหมาป่าพวกนั้นจะตายหรือไม่ พวกเขาไม่มีเวลากลับไปตรวจสอบดู

 

อย่างไรก็ตาม มีเพียง 2 คำที่ทุกคนบอกได้เกี่ยวกับสภาพของอีกฝ่ายก็คือ

 

สาหัส!

 

--------------------------------------------------

พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: ระทึกมากกก ดีนะที่เจียวเจียวเอาของดีติดตัวหลงโม่มาด้วย ไม่งั้นลำบากแน่

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.