บทที่ 31: เขาสละชีวิตตัวเองเพื่อแลกกับชีวิตของหลงเหยา

[จบแล้ว] ขนเสบียงนับล้าน มาเป็นมาร(ดา)ของเหล่าวายร้าย (อ่านฟรีวันละตอน 12.00)

-A A +A

บทที่ 31: เขาสละชีวิตตัวเองเพื่อแลกกับชีวิตของหลงเหยา

“เหยาเอ๋อ เจ้าบินข้ามไปได้ใช่ไหม...”

 

หูเจียวเจียวเตะก้นของโหวเสี่ยวเตียว จากนั้นเธอก็คว้าเชือกและกระโดดลงไปในแม่น้ำ

 

“ว้ากกกกกก!”

 

ซู่ม!

 

ชายหนุ่มส่งเสียงร้องด้วยความตกใจ ในขณะที่มือทั้ง 2 ข้างจับเชือกแน่นโดยสัญชาตญาณ แต่เขาก็ยังสำลักน้ำไปหลายอึก แล้วจู่ ๆ เขาก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ  “ข้าไม่ได้ถูกน้ำพัดจมไป? ข้ายังตาย...”

 

เมื่อหลงเหยาเห็นว่าผู้เป็นแม่ก็กระโดดลงไปในแม่น้ำเช่นกัน เขาจึงรีบบินขึ้นไปเหนือหัวพวกนาง

 

“ยอดไปเลย ข้ายังไม่ตาย! ข้ารอดแล้ว ข้ารอดแล้ว...” โหวเสี่ยวเตียวตะโกนอย่างตื่นเต้นยามที่เขาแน่ใจว่าตนรอดพ้นจากความตาย

 

ทันทีที่เขาพูดจบ หมาป่าสีเทาหลายตัวก็พุ่งออกมาจากฝั่ง

 

ภาพนั้นทำให้ชายหนุ่มหวาดกลัวจนสั่นไปทั้งตัว ส่งผลให้เขาเกือบจะทำเชือกหลุดมือ แต่หลังจากที่เขามองกลับไปอีกครั้ง หมาป่าที่พุ่งลงแม่น้ำมาก็ถูกกระแสน้ำพัดหายไปในพริบตา

 

ทางด้านจ่าฝูงที่อยู่บนฝั่งจ้องมองเหยื่อที่เพิ่งหลุดรอดไปพร้อมกับกลุ่มหมาป่าสีเทา ประหนึ่งว่าพวกหูเจียวเจียวจะถูกฝูงของมันฉีกเป็นชิ้น ๆ หากพวงนางยังไม่ไปจากตรงนั้น

 

โหวเสี่ยวเตียวที่เพิ่งรอดพ้นจากเงื้อมมือของมัจจุราชไม่อยากเสียเวลารอช้าอีกต่อไป เขาจึงไต่เชือกไปอีกฝั่งอย่างรวดเร็ว

 

หลังจากที่ทั้ง 3 คนข้ามฝั่งมาได้สำเร็จ ลิงหนุ่มก็ล้มตัวลงนอนอยู่กับพื้นพลางหอบหายใจอย่างหนัก

 

ภายในไม่กี่อึดใจ จู่ ๆ เขาก็จำได้ว่ามีผู้หญิงอยู่ข้างหลังตน เขาจึงรีบลุกขึ้นจากพื้นอีกครั้ง ก่อนจะเอื้อมมือไปช่วยดึงหูเจียวเจียวที่ยังอยู่ในแม่น้ำ

 

หลงเหยาเองก็รีบบินเข้าไปช่วยเช่นกัน โดยที่กรงเล็บมังกร 4 ข้างคว้าเสื้อด้านหลังแม่จิ้งจอก แล้วเขาก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ จนแก้มพองพร้อมกับออกแรงดึงผู้เป็นแม่ขึ้นมาสุดแรง

 

“แฮ่! แฮ่!” 

 

เนื่องจากแม่มาช่วยชีวิตเขา ถึงเวลาที่เขาต้องช่วยแม่กลับคืนบ้าง!

 

แต่แรงอันน้อยนิดนั้นแทบไม่มีประโยชน์อะไรเลย

 

หลังจากที่โหวเสี่ยวเตียวเข้ามาช่วย ในที่สุดหูเจียวเจียวก็ขึ้นฝั่งได้สำเร็จ จากนั้นเธอล้มลงไปหอบหายใจอยู่กับพื้นอยู่สักพักกว่าจะมีเรี่ยวแรงกลับคืนมา

 

ร่างกายนี้ยังบอบบางเกินไปจริง ๆ แค่ข้ามแม่น้ำเธอก็แทบจะขาดใจตายแล้ว!

 

เมื่อหลงเหยาเห็นแม่จิ้งจอกนอนนิ่งอยู่บนพื้น เขาก็บินไปมาอย่างกระวนกระวายพลางเอามือกุมศีรษะ

 

“เหยาเอ๋อไม่ต้องกลัว แม่ไม่เป็นอะไร” หูเจียวเจียวที่เพิ่งฟื้นคืนพละกำลังลุกขึ้นมาเห็นเจ้าตัวเล็กยังมีชีวิตอยู่ ในที่สุดก้อนหินก้อนใหญ่ที่ถ่วงอยู่ในใจของเธอก็ถูกยกออกจากอก 

 

ในเวลาเดียวกัน โหวเสี่ยวเตียวที่เพิ่งช่วยหญิงสาวขึ้นมาจากน้ำก็นอนหมดแรงอยู่บนพื้นเช่นเดิม

 

ขณะที่เขาไม่ได้สนใจ จิ้งจอกสาวก็ลุกขึ้นไปตัดเชือกที่ผูกไว้กับต้นไม้ 2 ต้นอย่างเงียบ ๆ แล้วโยนเชือกที่เหลือเข้าไปในมิติ

 

ก่อนหน้านี้ตอนที่เธอมาถึงที่นี่ เธอพบว่าน้ำในแม่น้ำไหลแรงมาก เธอจึงค้นหาเชือกจากมิติ โชคดีที่แม่น้ำสายนี้ไม่ได้กว้างมากนัก เชือกที่เธอได้มาจึงยาวพอที่จะนำมายึดเข้ากับต้นไม้ที่อยู่ทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำ

 

ทว่า…

 

หญิงสาวรู้สึกแปลกในใจ เนื่องจากในความฝันเธอเห็นหลงเหยาที่ทุ่งหญ้าแห้งแล้ง แต่เธอไม่รู้ว่าโหวเสี่ยวเตียวก็อยู่ด้วยเช่นกัน ตอนนั้นเธอเห็นแค่ลูกชายที่กำลังดิ้นรนบินหนีฝูงหมาป่าอยู่เพียงลำพัง นั่นหมายความว่าถ้าเธอมาไม่ทัน โหวเสี่ยวเตียวจะตายอยู่ที่นี่ใช่ไหม?

 

จู่ ๆ หูเจียวเจียวก็คิดว่าเมื่อเธอมาถึงที่เกิดเหตุ เจ้ามังกรตัวน้อยเกือบจะถูกกัดแล้ว

 

หากหลงเหยาถูกหมาป่ากัดอยู่ที่นี่คนเดียว ก็เป็นไปได้สูงมากที่เขาจะต้องเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่ ในความฝันเขาพยายามตะเกียกตะกายหลบหนีศัตรูด้วยร่างกายที่เหลืออยู่เพียงครึ่งเดียวโดยหวังว่าจะมีใครสักคนมาช่วยชีวิตเขาไว้ 

 

หรือว่า…

 

โหวเสี่ยวเตียวเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อให้เจ้ามังกรน้อยหนีไป

 

เมื่อหูเจียวเจียวนึกถึงสิ่งนี้ เธอก็มองไปที่ชายหนุ่มด้วยความรู้สึกขอบคุณ

 

ชายผู้นี้ได้ช่วยชีวิตหลงเหยา และเธอจะจดจำมันไว้ในใจเสมอ

 

“หูเจียวเจียว ขอบคุณที่ช่วยข้าไว้ โชคดีที่เจ้ามาทันเวลาแล้วฆ่าหมาป่า 2 ตัวนั้น ไม่งั้นข้าคงตายไปแล้ว...”

 

ทันทีที่โหวเสี่ยวเตียวมีเรี่ยวแรงกลับมาก็ลุกขึ้นมากล่าวขอบคุณหญิงสาว 

 

หลังจากประสบกับความเป็นความตาย เขาได้ละทิ้งความคับข้องใจในตัวหูเจียวเจียวไปจนสิ้น

 

เมื่อนึกถึงตอนที่เขาช่วยพวกภูตในเผ่าขโมยเหยื่อของจิ้งจอกสาวก่อนหน้านี้ เขาก็รู้สึกเสียใจอยู่พักหนึ่ง ตอนนี้ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้มีนิสัยเสีย น่ารังเกียจและไร้ยางอายอย่างที่ใคร ๆ พูดกัน

 

ทางด้านหูเจียวเจียวที่กำลังปลดเชือกและกำจัดร่องรอยสิ่งแปลกปลอมทิ้ง พอเธอได้ยินคำพูดของโหวเสี่ยวเตียว เธอก็โบกมือเป็นพัลวัน

 

“ข้าต่างหากที่ควรจะขอบคุณเจ้า ถ้าไม่ได้เจ้ามาช่วย ตอนนี้เหยาเอ๋อคงตายไปแล้ว”

 

เนื่องจากโหวเสี่ยวเตียวเต็มใจที่จะช่วยชีวิตหลงเหยา นั่นจึงทำให้เธอรู้ว่าเขาเป็นคนดี

 

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เขาก็คือผู้มีพระคุณของเจ้าตัวเล็ก 

 

“เอ่อ...” ลิงหนุ่มเกาหัวด้วยความลำบากใจ เขาเองก็ไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไรอยู่ครู่หนึ่ง

 

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นหูเจียวเจียวพูดเสียงเบาเช่นนี้

 

เพราะที่ผ่านมานางเป็นคนที่ชอบเอะอะโวยวายเสียงดัง แต่พอนางพูดด้วยน้ำเสียงปกติมันกลับน่าฟังมากยิ่งขึ้น

 

หญิงสาวยิ้มด้วยความซาบซึ้งใจ และทันใดนั้นเธอก็สังเกตเห็นเลือดที่ขาของอีกคน 

 

เธอขมวดคิ้วพลางเอามือข้างหนึ่งไพล่ไว้ข้างหลังตามสัญชาตญาณของคนที่ต้องการจะปิดบังอะไรบางอย่าง 

 

“เจ้าเจ็บมากไหม?”

 

หลังจากที่โหวเสี่ยวเตียวได้ยินคำถามของอีกฝ่ายก็ก้มลงมองต้นขาซ้ายของตัวเองแล้วยกชุดหนังสัตว์ชั้นนอกสุดออก ก่อนจะเห็นว่าบาดแผลที่ต้นขาของเขาลึกจนเห็นกระดูกสีขาว

 

เมื่อครู่ที่ผ่านมาเขาอยู่ในแม่น้ำซึ่งกระแสน้ำพัดแรงมากจนทำให้แผลชา เขาจึงไม่รู้สึกอะไร

 

ในขณะนี้พอเขาเห็นว่าเลือดไหลออกมาไม่หยุด เขาก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา

 

ทว่าชายหนุ่มก็ยังกัดฟันตอบว่า “ข้าไม่เป็นอะไร ข้าแค่ถูกหมาป่ากัด ดีแล้วที่ยังสามารถเอาชีวิตรอดมาได้”

 

เนื่องจากภูตลิงต่อสู้ไม่เก่งและความเร็วของเขาก็ไม่เร็วเท่าหมาป่า ในยามที่ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูบนพื้นราบที่เป็นพื้นที่จุดอ่อนของเผ่าพันธุ์จึงทำให้เขาเสียเปรียบ

 

เป็นเพราะเขารู้เรื่องนี้ดี เขาจึงต้องการให้หลงเหยาหนีกลับไปก่อน

 

เมื่อหูเจียวเจียวได้ยินคำพูดของอีกคน เธอก็ขมวดคิ้วแน่นยิ่งขึ้น ก่อนจะแอบหยิบยาห้ามเลือดกับผ้าก๊อซออกมาจากมิติอย่างใจเย็น

 

โหวเสี่ยวเตียวเป็นผู้ชายที่มีพันธะ ในโลกของปีศาจ ผู้ชายที่มีเมียแล้วไม่ควรมีปฏิสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้หญิงคนอื่นเหมือนมนุษย์ผู้หญิงในสมัยโบราณ

 

หูเจียวเจียวใช้ความคิดระหว่างที่คลายเกลียวขวดยาออก เธอคลี่ผ้าก๊อซแล้วเทผงยาสีเหลืองหนา ๆ ลงไป ก่อนจะยื่นมันให้โหวเสี่ยวเตียว

 

“หูเจียวเจียว นี่คืออะไรหรือ?”

 

เมื่อชายหนุ่มที่กำลังบาดเจ็บเห็นการเคลื่อนไหวของจิ้งจอกสาว เขาก็เอ่ยถามอย่างสงสัย 

 

“นี่คือยาห้ามเลือด เจ้านำมันไปผูกไว้ที่แผลเพื่อห้ามเลือด เจ้าผูกเองได้ใช่ไหม?” หูเจียวเจียวอธิบายสั้น ๆ แล้วเปลี่ยนเรื่องถามเขา

 

ทว่าโหวเสี่ยวเตียวลังเลอยู่ครู่หนึ่ง

 

ในเวลาเดียวกัน หลงเหยาก็บินเข้าไปหาชายหนุ่ม 

 

“ฮว่า~” มังกรตัวเล็กม้วนหางรอบนิ้วของโหวเสี่ยวเตียวแล้วดึงมือเขาไปที่ผ้าก๊อซเพื่อกระตุ้นให้เขารับผ้านั้นมา

 

“เอ่อ ข้า ข้า...”

 

จากนั้นโหวเสี่ยวเตียวก็ฟื้นคืนสติแล้วนำผ้าก๊อซมาพันแผลของตัวเอง

 

หลังจากเวลาผ่านไปไม่ถึง 2 นาที ผ้าก๊อซก็ถูกย้อมด้วยสีแดงจนเกือบหมด และในที่สุดเลือดก็หยุดไหล

 

แม้แต่หูเจียวเจียวเองก็ยังแอบประหลาดใจกับประสิทธิภาพของยาที่นำออกมาใช้ เธอไม่คิดเลยจริง ๆ ว่ายาห้ามเลือดที่ได้มาจากในมิติจะดีขนาดนี้ 

 

ทันใดนั้นก็มีความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัวของเธอ

 

หากยาในมิติมีประสิทธิภาพในการรักษาสูงเช่นนี้ ถ้าเธอสามารถปลดล็อกชั้นวางในมิติได้มากขึ้น เธอก็อาจจะมียาให้ใช้เพิ่มอีก ซึ่งตอนนั้นเธออาจจะมีโอกาสในการรักษาดวงตาของลูกชายคนรอง และรอยแผลเป็นบนใบหน้าของลูกชายคนที่ 3 ได้ด้วยใช่ไหม?

 

“น่าทึ่งมาก ไม่มีเลือดไหลออกมาแล้ว แล้วข้าก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บเหมือนเดิมด้วย หูเจียวเจียว เจ้าไปได้ยานี้มาจากไหน?”

 

ดวงตาของโหวเสี่ยวเตียวเบิกกว้างพร้อมกับที่เขาแสดงสีหน้าเหลือเชื่อ

 

เขาไม่เคยเห็นยาคุณภาพดีเยี่ยมที่สามารถห้ามเลือดได้ในทันที แม้แต่หมอในเผ่าก็ไม่มียาแบบนี้

 

“ไม่สิ หมอในเผ่าของเราไม่มียาที่ดีขนาดนี้ หูเจียวเจียว เจ้าต้องเป็นหมอผีแน่เลยใช่ไหม!?”

 

หมอผี!?

 

หูเจียวเจียวตกตะลึงกับคำพูดของอีกฝ่าย

 

ในขณะที่สมองของเธอเรียกความทรงจำที่เคยอ่านนิยายเรื่องแดนปีศาจมหัศจรรย์ ในหนังสือเขียนเอาไว้ว่าคนที่รักษาอาการบาดเจ็บได้นอกจากหมอแล้วยังมีหมอผีอีก 

 

ส่วนใหญ่แล้วหมอจะมีความรู้เรื่องการใช้สมุนไพรง่าย ๆ ซึ่งสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ในขณะที่หมอผีสามารถใช้คาถารักษาอาการบาดเจ็บของภูตได้อย่างมหัศจรรย์

 

แต่ว่าหมอผีนั้นไม่ได้สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นเหมือนหมอทั่วไป มันเกิดจากพรสวรรค์ส่วนบุคคลเสียมากกว่า

 

นอกจากนี้มีเพียงผู้หญิงเท่านั้นที่สามารถเป็นหมอผีได้

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.