เขียวขจี อบอุ่น สงบเงียบ เพื่อนฝูงและครอบครัว

ดอกนาซิสซัสกับความฝันที่ฆ่าฉัน

-A A +A

เขียวขจี อบอุ่น สงบเงียบ เพื่อนฝูงและครอบครัว

          เช้าตรู่ของอีกวัน   ในช่วงเวลาการรับประทานอาหารเช้าของจักรพรรดิหนุ่ม   เอเฟเฟียยืนก้มหน้า   กล่าวข่าวที่ถูกรายงานตรงมาจากองครักษ์ประจำที่ประเทศเลดนิคโควีและประเทศทาเซรอฟ   “องครักษ์จับชาวบ้านที่มีท่าทีขัดขืนต่อกฏของจักรวรรดิแห่งไฟและมีความเป็นไปได้ว่ากลุ่มกบฏที่ผุดขึ้นทีละเล็กทีละน้อยนี้มีผู้อยู่เบื้องหลังคนเดียวกันซึ่งก็คือเอเลโอร่า คามิลิตาขอรับฝ่าบาท”   ความเงียบจากอีกฝ่ายทำให้เอเฟเฟียเริ่มเอะใจแต่ก็ไม่กล้าแหงนหน้าขึ้นมอง   ได้แต่ใช้หูฟังเสียงของช้อน   ส้อมที่กำลังกระทบจานไม่เป็นจังหวะ   “ข้าไปไม่ถึงหุบเขาสีดำ”   เอเฟเฟียแทบจะไม่มีสีหน้าตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน   “ข้าคิดจะทำลายสมาคมสีดำให้สิ้นซาก   ให้สมกับที่พวกมันกล้าสงสัยในอำนาจและความเด็ดขาดของข้า”   “ฝ่าบาท   ขอเพียงท่านสั่งข้าให้จัดการกับพวกมันที่บังอาจดูหมิ่นพระเกียรติและอำนาจของพระองค์   ข้าจะนำกองทัพของข้าถล่มขุนเขาให้หายไปจากแผนที่เองขอรับฝ่าบาท”   ท่าทีของเอเฟเฟียดูแปลกจากวันก่อนเสมือนคนละคนซึ่งมาร์เวทเองสัมผัสได้อย่างชัดเจน  

          สีหน้าที่แสดงออกว่ากำลังไตร่ตรองข้อเสนอทำให้ใบหน้าของผู้เสนอแสดงออกอย่างเป็นกังวลแม้จะพยายามปกปิดความรู้สึกที่ว่าอย่างเต็มที่   “พวกปลาที่ว่ายวนอยู่ในกำมือของข้า   จะบีบก็ตาย   จะคลายก็รอด   ข้าจะทำยังไงกับพวกมันก็ย่อมได้   ถึงอย่างนั้นข้ากลับอยากลองใจพวกมันและปฏิกิริยาที่พวกมันจะแสดงออกเมื่อได้ยินถึงเรื่องที่ข้าฆ่าเซเลียด้วยมือของข้าเอง   เจ้าจัดการประกาศข่าวให้พวกมันได้รับรู้   แล้วพรุ่งนี้ข้าจะเดินทางไปที่นั่นอีกครั้ง”   เอเฟเฟียรับคำสั่งโดยง่ายดาย   ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ   “ในส่วนพวกกบฏ   ฝ่าบาทจะทำเยี่ยงไรกับพวกมันดีขอรับฝ่าบาท?”   “พวกมันสมควรตายก็จริง   แต่ข้าอยากได้ข้อมูลของแม่มดขาวคนนั้นเสียก่อน   ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม”   มาร์เวทเน้นเสียงที่ประโยคหลัง   “ขอรับฝ่าบาท”   เอเฟเฟียแสดงความเคารพก่อนจะหันหลัง   เตรียมที่จะก้าวออกไปข้างหน้ากลับได้ยินคำสั่งทิ้งท้ายจากผู้นั่งบัลลังก์ที่ทำให้ดวงตาเบิกกว้างเล็กน้อย   แต่ก็หันกลับมาและแสดงท่าทำความเคารพก่อนจะเดินออกมา

 

          เป็นอีกคืนที่มาร์เวทและมาราอานจะได้ใช้เวลาร่วมกันอีกครั้ง   ความเงียบคือสิ่งที่พวกเขาคุ้นเคยที่สุดกับบรรยากาศภายในห้องเดิมๆ   เธอยืนรอให้อีกฝ่ายหลับตาลงอย่างใจจดใจจ่อ   เป็นเพราะใบหน้านั้นหรือที่ทำให้หลงใหลหรือเป็นเพราะสิ่งใดที่กำลังสะท้อนอยู่ในดวงตาสีแดงคู่นี้   “เจ้าชื่ออะไร?”   มาราอานก้มหน้าลงด้วยความตกใจก่อนจะค่อยๆแหงนขึ้นมองที่อีกฝ่าย   ดวงตาคู่นั้นก็ยังคงล็อคอยู่กับฝ้าเพดานตัว   เธออ้าปากเหมือนจะบอกชื่อของเธอแต่สิ่งที่ลอดผ่านริมฝีปากอิ่มน้ำกลับเป็นเสียงที่ฟังไม่ได้ศัพท์   “นั่นสินะ   เจ้ามันก็แค่คนไบ้”   หญิงสาวทำท่าทางมองหาบางอย่าง   “ชั่งมันเถอะ   ทำหน้าที่ของเจ้าก็พอ”   มาร์เวทปิดตาลง   เตรียมเข้าสู่นิทราแต่ครั้งนี้ไม่รับรู้ถึงสัมผัสจากมืออุ่นของหญิงสาว   “หากขัดขืนเท่ากับความตาย   เจ้าเลือกเอาก็แล้วกัน”   มาร์เวทกล่าวทั้งที่ตายังปิดอยู่   หลังประโยคขู่ของเขาเหมือนจะได้ผลเพราะสักพักเริ่มรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ทาบอยู่บนฝ่ามือ   เสมือนกุญแจนำทางไปสู่โลกอีกใบ   โลกที่เขาอยากจะอยู่ไปนานๆถ้าเป็นไปได้   สุดท้ายก็แค่ความฝันที่ต้องจบลงเมื่อเช้าของอีกวันมาถึง   แต่ก็น่าแปลก   แปลกที่ฝันนี้เขาได้ยินเสียงของผู้หญิงที่ไม่คุ้นหู   เสียงของเธอในฝันที่กำลังกระซิบที่ข้างหูเขา   บอกชื่อของเธอให้ฟัง   “มาราอาน”

 

          ณ   หุบเขาสีดำ   ฐานทัพอันน่าภาคภูมิใจของสมาคมสีดำ   ภาคีแห่งความชั่วร้าย   แหล่งรวมของพ่อมด   แม่มดดำจากทั่วทั้งทวีป   มีแกนนำหลักคือสุดยอดพ่อมดดำทั้งเจ็ด   เป็นที่น่าหวาดกลัวของผู้คนตั้งแต่สมัยก่อนการถือกำเนิดของจักรวรรดิแห่งไฟ   และเริ่มมีอำนาจมากขึ้นหลังจากการตกลงเป็นพันธมิตรกับจักรวรรดิแห่งไฟ   อัคคีฟ้าทะลักออกจากช่องว่างที่กลางหุบเขา   ใช้ระยะเวลาชั่วอึดใจก่อนสลายไป   ควันและไอร้อนพวยพุ่งออกจากปากหุบเขา   ด้านในเต็มไปด้วยสีดำอันน่าหม่นหมอง   ไม่เหลือเค้าโครงเดิม   มีเพียงชายสามและหญิงหนึ่งคน   หนึ่งในนั้นนั่งบนบัลลังก์หินสีดำที่ถูกสร้างขึ้นอย่างหยาบๆ   ตรงข้ามกันมีชายสูงอายุหนึ่งคนกำลังนั่งขดตัว   มือที่สั่นอย่างรุนแรงถูกยกขึ้นบังใบหน้าราวกับสิ่งที่พบเห็นก่อนหน้านี้มันชั่งน่ากลัวเกินจะอยากมีดวงตาไว้มองเห็น   “และนั่นคือจุดจบของมันผู้บังอาจเหิมเกริมต่อพระจักรพรรดิและจักรวรรดิแห่งไฟ   แม้เพียงเสี้ยวความสงสัยจักนำพวกมันสู่ความมืดตลอดกาล”   เอเฟเฟียกล่าวในขณะก้มหน้าต่ำเล็กน้อย   มาราอาน   ใบหน้าของเธอแสดงออกอย่างชัดเจนว่าตกใจกับสิ่งที่เพิ่งได้มองเห็น   ทั้งความร้อนที่สะท้อนกลับ   ทั้งฉากอันน่าสยดสยองของการหลอมละลายจนไม่เห็นแม้แต่กระดูก   หรือจะเป็นเศษซากของคนที่เคยนั่งร่วมโต๊ะ    ทุกอย่างมันหายไปหมด   ไม่มีสัญญาณเตือนใดๆในยามที่เท้าเปล่าสัมผัสพื้น   เพียงชั่ววินาทีเท่านั้น   “ท่านสวอม   จงกระจายพระราชสาส์นของพระจักรพรรดิแห่งไฟถึงจอมเวทย์ดำทุกคนที่ขึ้นตรงต่อจักรวรรดิแห่งไฟว่าเซเลีย   ราชินีสีดำของพวกเจ้าได้ตายไปแล้ว   ด้วยน้ำมือของจักรพรรดิในฐานะผู้บังอาจสงสัยในตัวพระจักรพรรดิจึงมีชะตากรรมเช่นเดียวกับเหล่าผู้อาวุโสในวันนี้”   เอเฟเฟียกล่าว   “ฮะ-พะ-พะ-พ่ะย่ะค่ะ…พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท   กระผมจะ-จะ-ทำตามพระประสงค์-ทะ-ทะ-ทุกประการขอรับฝ่าบาท”   สวอมนั่งในท่าคุกเข่า   ใบหน้าก้มต่ำ   ส่วนมือยกขึ้น   ทำท่าอ้อนวอนขอความเมตตาต่อพระพักตร์ของจักรพรรดิ  

          มาร์เวทลุกขึ้น   สร้างความผวาให้สวอมจนต้องถอนร่นออกไปไกล   “จากนี้ไปเจ้าคือหัวหน้าสมาคมสีดำ   อำนาจของสมาคมมีเจ้าคือผู้นำสูงสุดและจงจำให้ดีว่าหากไม่เชื่อฟังข้า   มันจะเกิดสิ่งใดขึ้น”   หางตาอันสูงส่งชำเลืองมองบุรุษผู้ไร้อำนาจเมื่ออยู่ต่อหน้าตน   แสยะยิ้มเล็กน้อยอย่างมีความสุข   เขาหันหลังกลับและได้เห็นถึงดวงตาสีน้ำทะเลคู่นั้นที่กำลังมองมาที่เขาด้วยความไม่เข้าใจ   กำลังต่อต้านเขาจากภายในจิตใจและมีเศษของความกลัวเจือปนอยู่ภายในนั้น   ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันใด

 

          แม้จะเข้าสู่ช่วงเวลาที่คุ้นเคยแต่ในครั้งนี้กลับต่างออกไป   บรรยากาศภายในห้องที่แสงมีอยู่น้อยนิดผสมกับความเย็นจากภายนอกไม่ใช่สิ่งที่ทำให้รู้สึกหวั่นไหวแต่เป็นใบหน้าของมาราอาน   ใบหน้าที่ดูเศร้าหมอง   ผิดหวังหรือเสียใจกับอะไรบางอย่าง   เพราะเขาอย่างงั้นหรือ?   พอคิดว่าตัวเองอาจเป็นต้นเหตุก็บังเกิดความหงุดหงิดขึ้นในใจ   "เจ้าเองก็อยากตายนักรึไง?"   มาร์เวทกล่าวเสียงเรียบ   ใบหน้ามองทอดยาวออกไปข้างหน้า   หลังพิงกับหัวเตียง   พยายามใช้เพียงหางตามองปฏิกิริยาบนใบหน้าของอีกฝ่าย   ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง   เธอยังทำสีหน้าที่เขาเกลียดต่อไป   เพียงเสี้ยววินาที   คมดาบสัมผัสที่ลำคอของหญิงสาวพร้อมที่จะทำให้ขาดจากกันแต่น่าแปลกที่ใบหน้านั้นกลับนิ่งสงบ   ไม่เกรงกลัวต่อความตายที่กำลังจ่อคอหอยอยู่   ยิ่งทำให้มือดันคมดาบจนปรากฏรอยของโลหิตบนผิวขาวเนียนนั้นก่อนที่ไม่นานจะมีเสียงของวัตถุที่ทำจากเหล็กกระทบกับพื้นห้องตามมา   “ถือเสียว่าข้าจำเป็นต้องมีเจ้า   ข้าจะปล่อยเจ้าไปสักครั้ง”   มาร์เวทกลับเข้าสู่ท่านอนในที่สุด   แขนข้างเดิมยื่นออกจากลำตัวเพียงเล็กน้อยก่อนที่ไม่นานจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกอันอบอุ่นจากอีกฝ่าย  

          ลืมตาขึ้นอีกครั้ง   ไม่ใช่ทัศวิสัยที่วาดฝัน   ครั้งนี้แตกต่างกันออกไป   มีแต่ความมืดของค่ำคืนไร้แสง   รู้เพียงว่าตัวเองกำลังวิ่ง   เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว   แขนข้างหนึ่งถูกจับโดยร่างที่กำลังวิ่งนำไปข้างหน้า   ฟังจากเสียงหอบรู้ว่ากำลังร้อนรน   กำลังหนีจากอะไรบางอย่าง   เริ่มได้ยินเสียงเดินที่หนักอึ้ง   เสียงของรองเท้าเหล็กหลายคู่ที่กำลังไล่ตามหลังมาจนเกือบจะถึงตัว   มือที่จับแขนไว้ปล่อยออก   เสียงกระซิบที่คุ้นหู   บอกว่ารักและภูมิใจมากแค่ไหนที่มีเขา   กำชับ   กำชับให้วิ่งออกไปข้างหน้าอย่าได้หยุด   เขาทำตามอย่างเชื่อฟัง   แม้จะได้ยินเสียงร้องโหยหวนของพวกเขาดังขึ้นหลังจากนั้นเพียงไม่นาน   ไม่เหลียวหลังไปมองเพราะเสียงฝีเท้าเหล่านั้นยังดังตามมาติดๆ    ยิ่งสูงยิ่งชัน   ชันจนแทบจะก้าวต่อไม่ไหว   ร้อน   ทั้งที่เป็นตอนกลางคืน   ความร้อนที่แผ่ออกจากพื้นสีดำทำให้แขนและขาพุพองแต่แม้จะเจ็บปวดจนร้องออกมา   กลับไม่อาจหยุดวิ่งหนีได้   สุดปลายทางคือปล่องภูเขาไฟ   เบื้องล่างคือของเหลวสีเหลืองสว่างหยุดนิ่งกับที่ราวกับผืนน้ำอันนิ่งสงบ   มองกลับมาเห็นกลุ่มอัศวินชุดเกราะหนัก   สีแดงกุกสกาวสะท้อนรูปร่างของมังกร   ดาบยาวที่เปื้อนเลือดสดๆ   เสียงหอบหายใจถี่ขึ้น   อาการของความตกใจกลัวและอารมณ์ที่แปรผันอย่างรวดเร็ว   ความสิ้นหวัง   ความรู้สึกที่เคยทิ้งไว้มันกลับมาอีกครั้งในรูปแบบของฝันร้าย   ถูกต้อนจนจนมุม   พลัดตกจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ   ความร้อนแผดเผาร่างกายแม้ยังไม่ทันสัมผัสผิวทะเลเดือด   กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด   ความเจ็บปวดที่เกินจะต้านแปรเปลี่ยนเป็นความคับแค้น   จมลงสู่ท้องทะเลสีทองที่กำลังแหวกออก   ปากขนาดใหญ่ของมังกรลาวากลืนกินวิญญาณอันไร้กายยึดเหนี่ยว   รวมตัวเป็นหนึ่งในร่างกายใหม่   มือโผล่พ้นผิวน้ำเดือด   สยายปีกอันใหญ่ยักษ์จากแผ่นหลังที่ห่อหุ้มด้วยผลึกดำ   บินออกจากผนึก   ขึ้นสูงถึงฟากฟ้าพร้อมเสียงคำรามที่แผดออกจากลำคอยาว   จากวันนี้จะไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของเขา   ชื่อใหม่ที่เขาตั้งให้ตัวเอง   มาร์เวท

          เสียงร้องอันดุดันดังลั่นห้องจนเอเฟเฟียต้องถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามา   สิ่งที่เห็นคือมาร์เวทผู้กำลังใช้มือเพียงข้างเดียวบีบคอมาราอานจนตัวลอย   เอเฟเฟียรีบวิ่งเข้าไปห้ามทั้งที่ไม่ควรจึงถูกมืออีกข้างต่อยเข้าที่หน้าท้องจนตัวงอล้มลงกับพื้น   “ฝ่าบาท   โปรดทรงหยุดการกระทำด้วยพ่ะย่ะค่ะ”   ไม่มีการตอบสนองของอีกฝ่าย   “มันบังอาจอ่านใจข้า   บังอาจนำความฝันของข้ากลับมาทำร้ายข้า   มันสมควรตาย!!”   มาร์เวทกระแทกร่างของเธอลงกับพื้นห้องอย่างจัง   ไม่มีอาการหวาดกลัว   ไม่ใช่ดวงตาที่กำลังอ้อนวอนขอชีวิตจากเขาผู้กุมชะตาชีวิตของหล่อนแต่เป็นดวงตาของความสงสารและเวทนา   “หายไป”   มาร์เวทยกมืออีกข้าง   นิ้วทั้งห้ากางออกพลันเปลวไฟสีดำแดงลุกโชติ   “ฝ่าบาท!!”   เอเฟเฟียตะโกนเพื่อเรียกสติที่ถูกครอบงำด้วยโทสะและเหมือนจะได้ผลเมื่ออยู่ๆมาร์เวทก็ปล่อยมือจากคอ   และเดินไปนั่งบนเตียงนอน   ทำเหมือนกับที่ผ่านมาไม่มีอะไรเกิดขึ้น   “พามันออกไปจากที่ที่ข้าจะมองเห็นได้มิเช่นนั้นข้าจะฆ่ามัน”   แม้จะยังมีอาการเจ็บที่หน้าท้องแต่ก็พามาราอานออกจากห้องบรรทมได้สำเร็จ   ปล่อยให้มาร์เวทนั่งอยู่ในความมืดเพียงลำพัง   หวนทบทวนถึงสิ่งที่สะท้อนอยู่ในดวงตาคู่นั้น   “สงสาร...สงสารข้าคนนี้ยังงั้นรึ?”   ขมวดคิ้วแน่น   ทั้งที่น่าจะหงุดหงิดกับมันแต่อยู่ๆก็มีอีกความคิดแล่นเข้ามา   ความเข้าใจและเห็นด้วย….

          “ฝ่าบาท   เช่นนั้นแล้วคืนนี้จะทรงทำอย่างไรรึขอรับฝ่าบาท?   หากทรงมิประสงค์ให้มาราอานรักษาพระองค์   กระผมเกรงว่าอาการฝันร้ายอาจกลับมาทำร้ายพระองค์ได้ขอรับฝ่าบาท”   เอเฟเฟีย   แม้จะรู้สึกกลัวและรู้ดีว่ามาร์เวทจะต้องหัวเสียแต่ก็ต้องถามออกไป   น่าแปลกที่อีกฝ่ายกลับเงียบไปอย่างผิดปกติ   มีเพียงเสียงเครื่องรับประทานอาหารที่ได้ยิน   “นังนั่นจงใจใช้ฝันร้ายเล่นงานข้าเมื่อคืน”   เขาหยุดกล่าวไปครู่หนึ่ง   “แล้วเจ้าจะมั่นใจได้เช่นไรว่านางจะไม่ทำอย่างเดิมซ้ำอีกครั้ง?”   เขากล่าวเสียงเรียบแต่แฝงความโกรธแค้นอยู่ภายใน   เอเฟเฟียหลับตาลงชั่วขณะก่อนจะลืมตาขึ้นอีกครั้งเพราะคิดบางอย่างได้   “ก่อนหน้านี้ก็มิเห็นมีสิ่งใดผิดปกติ   หรือว่านางเปลี่ยนไปเพราะเรื่องเมื่อวานขอรับฝ่าบาท?   บางทีนางอาจมีความเกี่ยวข้องกับผู้นำสมาคมสีดำก็เป็นได้ขอรับฝ่าบาท”   มาร์เวทคิดตาม   “อาจารย์ของนาง   ไปตามนางมาให้ข้าโดยไว”   เอเฟเฟียก้มหน้ารับคำสั่ง   เมื่อองครักษ์คนสนิทจากไป   เขาจึงค่อยๆโงนหัวขึ้น   มองขึ้นไปบนเพดานสีทึบ   แสงสว่างที่มองเห็นกำลังดำมืดลงทันใด   รู้ตัวอีกทีก็อยู่บนเตียง   สายตามองตรงไปที่บานประตู   สัมผัสถึงการเต้นของหัวใจที่เร็วขึ้น   ไม่เหมือนทุกคืนที่ผ่านมา   เหมือนกับกำลังรอดูประตูบานนั้นจะเปิดออกไหมแต่จนแล้วจนเล่ามันก็ไม่เปิดออก  

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.