ตอนที่ 12 เยี่ยมท่านประธาน

ร้อยเล่ห์เกมรัก

-A A +A

ตอนที่ 12 เยี่ยมท่านประธาน

จบบริบูรณ์
เปิดขาย

ประโยคที่ผู้ช่วยลู่พูดว่า " คงรู้นะว่าต้องทำยังไง เตรียมตัวรับมือดีๆ " ดังก้องอยู่ในหัว 
เฟิร์นนั่งนิ่งแข็งทื่ออยู่บนเก้าอี้อยู่นาน เธอกลับมาบ้านอย่างเหม่อลอย
รู้ตัวอีกทีก็ถึงบ้านแล้วเธอเดินเข้ามาในบ้านป้าลี่เห็นเธอเดินใจลอยจึงเข้ามาถาม
" หนูเฟิร์นเป็นอะไรไปคะ ป้าเห็นเดินใจลอยตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว "
เฟิร์นได้สติมองไปทางป้าลี่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดกังวลและหวาดกลัวเธอเกือบจะฆ่าคุณชายทายาทตระกูลหลี่แล้ว
แบบนี้เธอจะอยู่ยังไงถ้าคุณชายออกจากโรงพยาบาลจะบอกว่าไม่ตั้งใจแต่ก็ทำลงไปแล้วเธอไม่สามารถหาทางรอดให้ตัวเองได้อีกแล้ว
เธอเครียดกับเรื่องนี้มาครึ่งวันตอนนี้เธอรู้สึกเหนื่อยล้าไปหมดแทบไม่มีแรง
" ป้าลี่คะ คือ หนู หนูเป็นคนวางยาคุณชายเองค่ะ "
"ห้ะ! "
ป้าลี่ตกใจเหวอตาโตอ้าปากค้างแล้วเอามือมาปิดปากอย่างไม่อยากจะเชื่อ
พอได้สติก็รีบดึงเฟิร์นเข้าไปคุยในห้องของเธอแล้วปิดประตูแน่น
" เมื่อกี้หนูพูดว่าอะไรนะ ป้าไม่ได้หูฝาดไปใช่มั้ย "
ป้าลี่ถามขึ้นด้วยความตื่นตระหนก เฟิร์นส่ายหัวเบาๆใบหน้าสวยดูซึมๆพร้อมกับเอ่ยตอบ
" ป้าไม่ได้หูฝาดค่ะเป็นหนูวางยาเขาจริง หนูไม่คิดว่ายานั่นจะทำให้อาการเขาหนักขนาดนี้ หนูไม่ได้มีเจตนาอยากทำให้เขาเกือบตายจริงๆนะคะป้า "
ป้าลี่เห็นเฟิร์นน้ำตาคลอเบ้าท่าทางจะร้องให้ป้าลี่จึงเข้ามาโอบกอดปลอบใจเธอ
" ไม่เป็นไรๆ เรื่องมันผ่านไปแล้วแก้ไขอะไรไม่ได้ถ้าคุณชายฟื้นขึ้นมาหนูก็ไปขอโทษเขาแล้วไปจากที่นี่ดีมั้ย "
ป้าลี่เองก็รู้นิสัยคุณชายดีครั้งนี้คงไม่ปล่อยเฟิร์นไปง่ายๆแน่และคุณท่านหลี่คงจะช่วยเฟิร์นไม่ได้เพราะครั้งนี้มันร้ายแรงถึงชีวิต
เมื่อตอนกลางวันเขาไม่เข้าใจว่าที่คุณท่านหลี่โทรมาบอกว่า 
" หากมีอะไรไม่ต้องออกหน้าแทนปล่อยให้คนสองคนเคลียร์กันเอง "
ที่แท้เป็นเรื่องนี้นี่เองความหมายของคุณท่านหลี่คือไม่ต้องเข้ามายุ่ง
เฟิร์นกอดป้าลี่และคิดไตร่ตรองไปด้วยจึงตัดสินใจได้
" ดีค่ะป้าลี่ หนูคิดว่าหนูจะหนีกลับไปอยู่บ้าน แต่หนูจะจองตั๋วยังไงคะหนูไม่เคยจองตั๋วเครื่องบินมาก่อน "
" หนูคิดไว้หรือยังจะไปวันไหน  "
เฟิร์นพยักหงึกๆ " หนูจะไปมะรืนนี้ เพราะพรุ่งนี้ยังต้องไปคุยงานแทนคุณชาย "
มางั้นป้าจะสอนการจองตั๋วเครื่องบินทีหลังจะได้ไปไหนมาไหนเองสะดวก
" ค่ะ "
ป้าลี่สอนการจองตั๋วแก่เฟิร์น เมื่อจองตั๋วเสร็จป้าลี่จับมือเธอจึงเอ่ยขึ้น
" อย่าคิดมากอีกเลย ดูสิหน้าซีดเซียวหมดแล้ว ไปไปกินข้าวเถอะวันนี้ป้าทำอาหารให้กินดีมั้ย "
ป้าลี่รักและเอ็นดูเฟิร์นเหมือนญาติแท้ๆคนหนึ่งมักจะเป็นห่วงเธอเสมอพอๆกับที่รักและเป็นห่วงหลี่อวี้หาน 
ป้าลี่เข้าครัวทำอาหารให้เฟิร์นนั่งรอบนโต๊ะไม่นานป้าลี่ก็ยกข้าวกะเพราะหมูสับไข่ดาวรสเผ็ดมาวางตรงหน้าเธอ
เฟิร์นกินไปคำหนึ่งเธอรู้สึกคิดถึงบ้านขึ้นมาเลยดวงตาลุกวาวความอร่อยทำให้เธอลืมเรื่องทุกข์ใจไปชั่วขณะ
" ว้าว น่ากินมากเลยค่ะ " 
เธอเอ่ยชมจากนั้นก็ตักเข้าปากอย่างมีความสุข
" อื้ม อร่อยมากเลยค่ะป้าลี่รสเด็ดเผ็ดสุดยอดเลยค่ะ "
" ชอบก็ดีแล้วค่ะ "
ป้าลี่นั่งมองเธอกินอย่างเอร็ดอร่อยในใจรู้สึกเศร้าที่เธอจะจากไปแต่ก็ห่วงถ้าเธอจะอยู่ต่อ
ในตอนเช้าเฟิร์นก็ไปทำงานปกติเหมือนเดิมตอนเย็นผู้ช่วยหลงก็มารับเธอเพื่อไปพบลูกค้า เมื่อเข้าไปนั่งในรถเธอจึงเอ่ยขึ้น
" คุณหลงคุณช่วยพาฉันไปเยี่ยมท่านประธานสักครู่จะได้มั้ยคะ "
ผู้ช่วยหลงมองดูนาฬิกาในมือเห็นว่ายังพอมีเวลาที่จะไปเยี่ยมได้จึงตอบตกลง
" ครับ แต่คุณจะเยี่ยมท่านประธานได้ไม่นานนะ "
" ค่ะ ฉันไปแค่แป๊บเดียว "
จากนั้นผู้ช่วยหลงก็ขับรถเคลื่อนออกไป ทางด้านคุณท่านหลี่ 
ใจหนึ่งก็โกรธเฟิร์นที่ทำเกินเหตุเกือบทำให้ทายาทเขาตาย
อีกใจหนึ่งก็พยายามจะเข้าใจเธอ แต่พยายามยังไงเลือดย่อมข้นกว่าน้ำ
ผู้ช่วยหลี่ที่เห็นคุณท่านหลี่นั่งเครียดมาหลายวันตั้งแต่วันที่รู้ว่าคุณชายอาการหนักไม่ได้สติ
พอสอบถามหมอถึงรู้ว่ากินยาระบายเกินขนาดคุณท่านหลี่ก็รีบไปโรงพยาบาลทันทีข้าวก็กินไม่ลง
" ท่านครับแล้วเรื่องคุณหนูเสี่ยวเฟินจะให้ทำยังไงต่อครับ "
" เรื่องนี้รออวี้หานฟื้นค่อยให้เขาตัดสินใจเองเถอะครั้งนี้เราเข้าไปยุ่งไม่ได้ "
" ครับ "
ผู้ช่วยลู่แอบหวาดหวั่นในใจคราวนี้ไม่มีคนคอยหนุนหลังคุณหนูเฟิร์นเธอคงจะลำบากแล้ว
สำหรับคุณท่านหลี่แล้ว ถ้าหลานเขาฟื้นขึ้นมาจะลงโทษเฟิร์นยังไงเขาก็จะไม่ให้ใครยื่นมือเข้าไปเกี่ยว 
เขาคิดว่าเฟิร์นทำเกินเหตุสมควรได้รับการลงโทษ
เขามัวแต่กังวลเรื่องหลานจนลืมคิดไปว่านิสัยเฟิร์นไม่เคยยอมเสียเปรียบใคร มีหรือจะยอมอยู่ให้คนจับลงโทษหรือรังแก
โรงพยาบาล หน้าห้องผู้ป่วย
" คุณรอด้านนอกก่อน ฉันอยากเข้าไปเยี่ยมท่านประธานคนเดียว "
ผู้ช่วยหลงเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจด้วยความสงสัย 
เฟิร์นเองก็พอจะเดาออกว่าเขากำลังระแวงในตัวเธอ
เธอจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบใบหน้าแววตานิ่งสงบ
" คุณไม่ต้องห่วงหรอกที่นี่โรงพยาบาล ฉันคงไม่กล้าทำอะไรท่านประธานหรอก ฉันขอเวลาส่วนตัวแค่แป๊บเดียว "
ผู้ช่วยหลงถึงกับสายตาเลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูกนิดหน่อยจึงเอ่ย
" ไม่ใช่ผมไม่ไว้ใจคุณแต่มันเป็นคำสั่งของท่านประธานใหญ่แต่เอาเถอะครั้งนี้ผมจะละเลยหน้าที่สักครั้ง "
" ขอบคุณค่ะ "
เฟิร์นเอ่ยขอบคุณแล้วก็ผลักประตูเข้าไปในห้องผู้ป่วย
มองดูใบหน้าหล่อเหลาคิ้วเข้ม จมูกโด่งเรียวเล็กปากได้รูปริมฝีปากขาวซีด มีถุงน้ำเกลือแขวนอยู่ข้างๆ 
" เสียดายหน้าตาอันหล่อเหลาไร้ที่ติ ของเจ้าปีศาจก้อนน้ำแข็งจริงๆ ตอนไม่ได้สติน่ามองกว่าเยอะเลย "
เธอบ่นพึมพำจากนั้นก็นั่งลงข้างๆหลี่อวี้หานแววตาบ่งบอกชัดเจนว่ารู้สึกผิดจากนั้นเธอจึงจับมือเขาแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าๆและเหมือนจะเศร้าแต่ไม่เศร้า
" ปีศาจน้ำแข็งฉันมาขอโทษนาย นายช่วยฟื้นขึ้นมาเร็วๆได้มั้ย 
นายคือทายาทของตระกูลหลี่นะ นายจะมาไม่รู้สึกตัวหลายวันแบบนี้เพราะยาระบายแค่นั้นไม่ได้นะ 
นายรู้มั้ยที่บริษัททุกคนต้องการนายรอนายไปเซ็นเอกสาร ตอนนี้วางกองอยู่เต็มโต๊ะนายแล้ว 
ทุกครั้งที่ฉันเอาเอกสารเข้าไปวางมันทำให้ฉันรู้สึกไม่สบายตาเอามากๆรีบๆฟื้นขึ้นมาเถอะนะ 
อีกอย่างนายไม่มีสิทธิ์ตายห้ามตายเด็ดขาดปีศาจน้ำแข็งนายได้ยินที่ฉันพูดมั้ย 
ฉันขอโทษฉันรู้ว่าฉันผิดแต่นายก็ผิดถ้านายไม่แกล้งฉันก่อนฉันก็คงไม่ทำแบบนี้ 
ฉันขอโทษที่ทำให้นายกับแฟนนายเลิกกันฉันทำเพื่อเงินก็จริงแต่ถ้านายยอมรักษาตาสักนิดก็จะมองเห็นว่าแฟนนายน่ะ
ไม่ได้อ่อนหวานอ่อนโยนจิตใจดีอย่างที่นายคิดแต่เสียดายที่นายตาบอดมองไม่เห็นตรงส่วนนี้ของเธอ "
เธอนั่งพูดยาวเยียดตั้งแต่ต้นจนจบคนที่นอนหลับอยู่ฟังไม่ออกเลยสักนิดว่าคนที่มามีเจตนาอะไร
มาขอโทษเขา รู้สึกผิด หรือมาบ่นมาต่อว่าเขากันแน่ 
" เอาล่ะฉันยังจะต้องไปคุยงานแทนนายอยู่นายรีบๆฟื้นขึ้นมานะ ฉันมาบอกนายแค่นี้แหละ ฉันขอโทษ ลาก่อน "
พูดจบเธอก็ลุกขึ้นแล้วหมุนตัวเตรียมเดินออกไป
แต่ข้อมือของเธอกลับถูกคว้าไว้
เธอหันไปมองด้วยความตกใจมองเห็นคนที่เมื่อกี้หลับสนิทตอนนี้จ้องมองเธอด้วยสายตาเย็นชา 
แถมจับมือเธอแน่นไม่ยอมปล่อยเฟิร์นพูดขึ้นตะกุกตะกัก
" หนะ นาย นายฟื้นตั้งแต่เมื่อไหร่ "
" เธอคิดว่าเมื่อไหร่ล่ะ "
" นี่หมายความว่านายฟื้นนานแล้วงั้นเหรอ "
หลี่อวี้หานไม่ตอบแต่กลับถามออกไปด้วยน้ำเสียงสุขุมราบเรียบสีหน้าเย็นชา
" ใครใช้ให้เธอมาพูดพล่ามอะไรตรงนี้ น่ารำคาญ "
พูดจบก็สะบัดมือเฟิร์นทิ้งอย่างแรงแต่เธอกลับไม่โกรธและโวยวายอย่างที่ผ่านๆมา
เฟิร์นเงียบจ้องมองเขาด้วยสีหน้าจริงจังสักพักก็โค้งตัวพร้อมกับเอ่ยว่า
" ฉันขอโทษค่ะ "
เสร็จเธอก็หันหลังเดินออกมาจากตรงนั้น เพราะเธอถือว่าเธอได้ขอโทษเขาแล้ว
หลี่อวี้หานอึ้งกับท่าทางจริงจังเธอจนเขาเองรู้สึกแปลกใจที่อยู่ๆผู้หญิงคนนี้ก็มาก้มหัวขอโทษมันทำให้เขารู้สึกว่ามันมีอะไรที่มันผิดวิสัย
แต่สักพักเขาก็สลัดความคิดเกี่ยวกับเธอออกสักพักคุณหมอและพยาบาลก็เข้ามาตรวจดูอาการหลี่อวี้หานจึงเอ่ยถาม
" ผมสลบไปกี่วันครับ "
" อืมถ้านับกับที่บ้านด้วยคาดว่าคุณสลบไปสองคืนสองวันครับ "
หลี่อวี้หานนึกย้อนไปวันเกิดเหตุเขากินบะหมี่จากนั้นก็ท้องเสียปวดท้องหนักมากเข้าห้องน้ำหลายรอบ
รอบสุดท้ายพอออกจากห้องน้ำก็ปวดท้องบิดจนยืนไม่ไหวเหงื่อซึมออกมาทั่วทุกอนูรูขุมขนจากนั้นก็ไม่รู้อะไรอีกเลย
" แล้วผมเป็นอะไรไปครับ "
" ร่างกายคุณขาดน้ำและหัวใจเต้นผิดจังหวะเกิดจากการทานยาระบายที่เกินขนาดครับแล้วก็มีติดเชื้อในกระแสเลือด ดีที่ผู้ผู้ช่วยหลงพาคุณมาโรงพยาบาลทันเวลา ต่อไปหมอแนะนำถ้าคุณมีปัญหาระบบขับถ่ายแนะนำให้ทานผลไม้จะดีกว่าครับ "
หลี่อวี้หานได้ฟังก็โมโหขึ้นมาใบหน้าเคร่งขรึมมืดมัวเอ่ยเสียงเยือกเย็นราวกับปีศาจ
" คุณออกไปเถอะ "
หมอและพยาบาลรีบออกไปอย่างไว โรงพยาบาลนี้อยู่ในเครือของบริษัทเขาเรียกได้ว่าเขาเป็นเจ้าของคนหนึ่ง
ทางด้านเฟิร์นเข้าไปในร้านอาหารพร้อมกับผู้ช่วยหลงด้วยชุดทำงานกระโปรงสีดำเสื้อแขนยาวผูกโบว์ลายลูกไม้สีขาวสวมเสื้อสูททับอีกชั้น
ช่วยผู้หลงใส่สูทผูกเน็กไทรองเท้าหนังด้วยท่าทางและบุคลิกเคร่งขรึมสุขุมทั้งคู่ดูสง่าน่าเกรงขามแก่ผู้พบเห็นรวมถึงผู้บริหารที่เธอมาคุยงานด้วย
เข้าไปถึงเธอจึงเอ่ยขึ้นตามมารยาท
" สวัสดีค่ะ ฉันเลขาเฟิร์นเป็นตัวแทนท่านประธานหลี่เนื่องจากท่านประธานติดธุระด่วนจึงไม่สามารถมาได้หวังว่าประธานคิมจะไม่ว่าอะไรนะคะ "
ประธานคิมใบหน้าหล่อเหลาสมวัย40ปลายๆเอ่ยด้วยรอยยิ้มพร้อมกับยื่นมือออกไป
" ไม่ว่าครับยินดีที่ได้รู้จักครับคุณเลขาเฟิร์น นึกไม่ถึงเลยว่าท่านประธานหลี่จะมีเลขาที่สวยมีเสน่ห์ขนาดนี้ช่างเป็นเกียรติจริงๆที่ได้เจอ "
" ขอบคุณค่ะ "
เฟิร์นยื่นมือออกไปจับมือกับเขาตามธรรมเนียม
" เชิญนั่งครับ "
เฟิร์นนั่งลงจากนั้นก็ขยิบตาให้ผู้ช่วยหลงเป็นอันรู้กันผู้ช่วยหลงก็เดินออกจากห้องมาเดินไปยังห้องๆหนึ่ง
เฟิร์นดื่มเหล้าไม่เป็นแน่นอนว่าการคุยธุรกิจแบบเธอเธอจะไม่ยอมให้เหล้าเข้าปาก
ดังนั้นเธอจึงเข้าประเด็นทันทีพร้อมกับเอาเอกสารสัญญาวางบนโต๊ะ
ประธานคิมเห็นดังนั้นจึงเอ่ยขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์สำหรับเขาแล้วก็เหมือนผู้ชายทั่วไปสาวงามอยู่ตรงหน้าจะพลาดโอกาสไปได้ยังไง
และคิดว่าจุดประสงค์ของประธานหลี่คือส่งเลขามาให้เขาเป็นของขวัญในการที่จะร่วมงานกันเป็นแน่
คิดได้ดังนั้นประธานคิมเลยเขยิบเข้าไปนั่งใกล้ๆเฟิร์นพร้อมกับยื่นแก้วเหล้าให้เธอดื่ม
" เลขาเฟิร์นอย่าใจร้อนไปหน่อยเลยครับค่อยๆคุยไปดีกว่านะครับเอางี้คุณดื่มให้ผมแก้วนี้แล้วผมจะเซ็นทันที "
" ฉันไม่ดื่มแอลกอฮอลระหว่างคุยงานค่ะ "
ได้ยินเธอพูดแบบนี้ประธานคิมก็รู้ได้ทันทีจึงเอ่ยขึ้น
" เลขาเฟิร์นวงการนี้เข้ามาแล้วต้องหัดดื่มให้เป็นนะครับ เอางี้เห็นแก่ที่คุณไม่เคยดื่มเดี๋ยวผมสั่งเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อ่อนๆให้คุณแล้วกัน "
พูดจบก็ยกมือขึ้นสั่งเครื่องดื่ม สักพักเด็กเสิร์ฟก็ยกเครื่องดื่มมาให้เธอ
เฟิร์นรับมาด้วยสีหน้าบ่งบอกถึงอารมณ์ที่ใกล้จะระเบิดลุกเป็นไฟ จากนั้นก็ดื่มเข้าไป เธอรู้สึกว่ามันอร่อยดีเป็นครั้งแรกที่ได้กินอะไรแบบนี้
" เป็นยังไงบ้างครับ อร่อยใช่มั้ย เมื่อก่อนตอนผมหัดดื่มใหม่ๆผมก็ดื่มอันนี้แหละครับ "
" ค่ะ ฉันว่าเรามาเริ่มคุยเรื่องงานกันเถอะค่ะ "
" อ๊ะใจเย็นๆสิครับเลขาเฟิร์นช่างใจร้อนเหลือเกินเอางี้ผมรับปาก แก้วนี้แก้วสุดท้ายลองแบบเข้มขึ้นมาหน่อย "
เฟิร์นรับมาแล้วดื่มเขาไปทีเดียวหมดแก้วประธานคิมหัวเราะชอบใจ
" ฮ่าๆๆๆเลขาเฟิร์นนี่สุดยอดมากเลยครับ ผมประทับใจในตัวคุณจริงๆเพิ่งเคยเห็นคนดุแบบคุณผมชอบจริงๆ ฮ่าๆๆ "
ประธานคิมเข้ามานั่งใกล้เฟิร์นแล้วโอบไหล่เฟิร์นด้วยสีหน้าหื่นกระหาย
เฟิร์นเริ่มรู้สึกมึนๆคล้ายกับง่วงนอนประธานคิมลูบคลำไหล่เธอเบาๆเธอพยายามควบคุมสติแล้วเอ่ยขึ้นพร้อมกับดึงปากกาออกมายื่นให้ประธานคิม
" ฉันดื่มหมดแล้วประธานคิมรักษาคำพูดด้วยเซ็นซะ "
ประธานคิมเมื่อเห็นสาวงามก็หน้ามืดตามัวหัวเราะขึ้น 
" ฮ่าๆๆๆเลขาเฟิร์นพูดเล่นอะไรเนี่ยดูคุณจะไม่ไหวแล้วมา พักผ่อนก่อนผมจะดูแลคุณเอง "
ประธานคิมไม่พูดเปล่ามือค่อยๆลูบขาเฟิร์นเบาๆแล้วโน้มตัวเข้าไปใกล้แล้วไล่จูบเธอเธอรู้สึกขยะแขยงประธานคิมพยายามขืนใจลวนลามเฟิร์นแต่เฟิร์นก็รวบรวมสติหลบหลีกได้จนสุดจะทนเฟิร์นกดปากกาที่ยื่นให้ประธานคิมเมื่อกี้กดปุ๊บมิดก็เด้งออกมาเฟิร์นควงมีในมืออย่างเร็วพร้อมกับใช้ศอกดันอกประธานคิมไว้กดประธานคิมลงแผ่นหลังชิดเบาะแล้วตวัดปลายมีดเฉียบคอประธานคิมจนมีเลือดค่อยๆไหลออกมาใบหน้าสวยกลายเป็นใบหน้าโหดเหี้ยมเคร่งขรึมเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นทำให้ประธานคิมถึงกับตกใจ
" ประธานคิมคุณจะเซ็นดีๆหรือจะรอให้เส้นเอ็นคุณขาดไปสักเส้นก่อนดี "
ประธานคิมโมโหและรู้สึกแสบที่คอเอามือแตะก็พบว่าเลือดออกก็โกรธจัด ตะคอกออกมา
" นี่คุณอยากโดนข้อหาทำร้ายร่างกายแล้วพกอาวุธในที่สาธารณะหรือไง "
" หึ อย่าพูดพล่ามไร้สาระรีบๆเซ็นไม่อย่างงั้นฉันจะไม่รับประกันว่าฉันจะทำอะไรคุณ รีบเซ็นซะ! "
เฟิร์นพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นและตบท้ายด้วยน้ำเสียงดุดันข่มคู่ต่อสู้ได้ดี
จากนั้นก็ลุกขึ้นควงมีดแล้วตวัดลงกลางหว่างขาของประธานคิม
" อย่าคิดว่าผมเซ็นแล้วผมจะปล่อยคุณไปนะ "
" แล้วยังไง จะเซ็นไม่เซ็น " 
เธอเอ่ยขึ้นอย่างไม่เกรงกลัว
เฟิร์นล้วงเอาปากกาขึ้นมาอีกสองด้ามด้ามหนึ่งเก็บไว้ควงเล่นในมืออีกด้ามยื่นให้ประธานคิมด้วยใบหน้ายิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์
ตอนนี้สติเธอเหลือเพียงน้อยนิดประธานคิมก็พยายามถ่วงเวลาเฟิร์นรู้ทันจึงเอ่ยขึ้น
" อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ความคิดชั่วๆของคุณนะรีบเซ็นซะ "
ประธานคิมเซ็นลงไปด้วยใบหน้าโกรธจัดเขาคิดไม่ถึงว่าจะถูกเด็กสาวคนหนึ่งเล่นงานมันเป็นอะไรที่เขารับไม่ได้เสียชาติเกิดจริงๆ
เมื่อเซ็นเสร็จเฟิร์นก็เก็บเอกสารขึ้นมาเตรียมตัวเดินออกไปด้วยสติที่เหลืออันน้อยนิด นึกอะไรขึ้นมาได้จึงเอ่ยขึ้น
" คุณไม่พอใจสินะ อ้อแล้วคุณแน่ใจเหรอที่พูดว่าจะไม่ปล่อยฉันไป ฉันคู่หมั้นของท่านประธานหลี่อวี้หานคุณคิดว่าอวี้หานจะปล่อยคุณไปเหรอที่มอมเหล้าและลวนลามคู่หมั้นเขาน่ะ เหอะ "
พูดจบเธอก็ยกมือขึ้นชี้ไปที่กล้องวงจรปิดแล้วเดินออกมาแบบสะเปะสะปะเซไปเซมาทรงตัวไม่ได้ดวงตาสลืมสลือมึนๆแต่พยายามไปให้ถึงรถ
เธอแอบอ้างว่าเป็นคู่หมั้นของหลี่อวี้หานเพื่อให้คนเกรงกลัวไม่กล้าเล่นงานเธอทีหลังเท่านั้นเธอไม่ได้อยากเป็นจริงๆสักหน่อย
ประธานคิมได้ยินและเห็นกล้องวงจรปิดถึงกับเข่าอ่อนทรุดลงไปกับพื้นเมื่อนึกถึงสิ่งที่ตัวเองทำลงไป ผู้ช่วยหลงรีบเก็บข้อมูลวีดีโอเสร็จก็รีบวิ่งไปหาเฟิร์นที่เซไปเซมาเท้าก้าวแกว่งขัดกันไปมาแทบจะล้มลุกคลุกคลาน
" ผมขอโทษครับ " เขาเอ่ย
เฟิร์นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเมามายว่า
" ไม่เป็นไร จะขอโทษฉันทำไมล่ะ จะโทษต้องโทษไอ้บ้ากามน่าขยะแขยงนั่น "
"  ครับ " 
ผู้ช่วยหลงไม่อยากพูดอะไรเยอะเพราะรู้ว่าเธอเมาหนัก แต่เฟิร์นกลับพูดไม่หยุด
" เรามาทำงาน งานสุดท้ายของฉัน ฉันก็ต้องทำให้มันดีที่สุด "
คำว่างานสุดท้ายทำให้ผู้ช่วยหลงที่ประคองเธอถึงกับชงัก
[ ที่เธอพูดหมายความว่ายังไง งานสุดท้าย ]
ผู้ช่วยหลงก็พาเฟิร์นไปนอนข้างหลังจากนั้นก็ขับรถออกไป เอกสารถูกวางไว้ข้างๆคนขับ รถก็เคลื่อนออกไปท่ามกลางความมืดที่ส่องสว่างอ่อนด้วยหลอดไฟสองข้างทาง

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.