ผีนางตะเคียน ผีสาวในป่าดงดิบ

-A A +A
ผีนางตะเคียน ผีสาวในป่าดงดิบ

ผีนางตะเคียน ผีสาวในป่าดงดิบ

สมชาย มีอาชีพเก็บของป่า และหาสมุนไพรขายให้พ่อค้าในเมือง ทุกวันก็พอมีรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัวไปวัน ๆ ไม่เดือดร้อน วันไหนถ้าโชคดีก็จะมีนายพรานมาจ้างให้เป็นลูกหาบ เพื่อเดินป่าไปกับคนกรุง ก็ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นไม่ต้องออกหาของป่าไปได้หลายวัน แม้จะเป็นงานหนัก เพราะต้องเดินป่าไปกับคณะของนายพรานที่รับจ้างคนกรุงเดินป่า และยังต้องแบกของให้นายจ้างอีก แต่ก็คุ้มเพราะมีรายได้ดี

 

บ่ายวันนั้นสมชายก็ได้รับการว่าจ้างจากนายพรานเพื่อเป็นลูกหาบให้กับคณะนายจ้างชาวกรุงที่ต้องการเข้าป่าเพื่อการท่องเที่ยว และล่าสัตว์ นายพรานนำทางบอกให้สมชายเตรียมของไปด้วยประมาณ 3 วัน โดยให้ทำหน้าที่ลูกหาบร่วมกับเพื่อนลูกหาบอีก 2 คน แล้วก็ส่งเงินค่าจ้างล่วงหน้ามาให้ มันมากกว่าการเก็บของป่าหลายเท่า สมชายดีใจมาก เขาส่งเงินให้แม่ของเขา แล้วรีบเก็บของเดินตามนายพรานนำทางผู้นั้นเข้าป่าไปทันที

 

หน้าที่ของลูกหาบอย่างสมชายก็ไม่มีอะไรมาก เหมือน ๆ กับทุกครั้งที่เข้าป่า ได้แก่ การหาฟืนมาก่อกองไฟ เพื่อประกอบอาหารที่นายพราน หรือนายจ้างไปล่ามาได้ ซึ่งก็ไม่พ้นหมูป่า หรือเก้ง นาน ๆ จะมีกวาง และควายป่า หรือกระทิงมาให้ทำสักครั้งซึ่งก็ไม่ต่างกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นไก่ป่า ซึ่งสมชายก็ชำนาญอยู่แล้ว

 

บางครั้งถ้าเป็นนายจ้างที่นำอาหารมาด้วย ซึ่งก็มักจะเป็นอาหารกระป๋อง สมชายก็พลอยได้กินไปด้วย ก็ไม่ว่ากัน เพื่อน ๆ ลูกหาบด้วยกัน ก็ผลัดกันทำหน้าที่กางเต้นบ้าง ใครที่พอมีฝีมือในการยิงปืน นายพรานก็จะจัดให้อยู่เวรคู่กับตัวนายพรานบ้างเป็นบางครั้ง แต่สำหรับสมชายแล้ว ก็จะถูกจัดให้ก่อกองไฟเสียมากกว่า เพราะนายพรานคงยังไม่เห็นความสำคัญพอที่จะให้อยู่เวรยามได้

 

คืนแรกของการเดินป่าก็ผ่านไปด้วยดีไม่มีวี่แววของเรื่องร้ายที่จะเกิดขึ้น แต่พอมาถึงคืนที่สอง เรื่องร้ายก็เกิดขึ้นจนได้

 

กลางดึกคืนนั้นอย่างที่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าเหตุร้ายจะเกิดขึ้น เสียงแปร๋น ๆ ของช้างป่าร้องมาให้ได้ยินแต่ไกล แล้วเสียงเหมือนแผ่นดินสะเทือนก็เริ่มใกล้เข้ามา มันเป็นเสียงของช้างป่านั่นเอง พวกเราได้ยินแล้วตกใจแทบช็อก ต่างหาที่หลบภัยซึ่งก็น่าจะเป็นต้นไม้ใหญ่ ที่สูงพอที่ช้างจะใช้งวงเอื้อมขึ้นไปไม่ถึง

 

สมชายวิ่งเข้าหาต้นไม้ที่เขามองเห็นอยู่ไม่ไกล จึงรีบวิ่งและปีนขึ้นไปทันที สมชายรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่บนต้นไม้นั้น เหมือนอยู่ในอ้อมกอดของหญิงสาว เขามองดูคนอื่นที่วิ่งกันวกวน และช้างป่าที่กำลังวิ่งไล่ เพื่อนลูกหาบบางคนต้องตกเป็นเหยื่อของช้างป่าโดนเหยียบเสียชีวิตไปแล้ว 1 คน ส่วนพรานผู้ช่วยก็กำลังวิ่งหนี

 

สมชายส่งเสียงให้รู้ว่าเขาอยู่บนต้นไม้นี้ และให้ผู้ช่วยพรานวิ่งมาหา แต่ก็ช้าไปเสียแล้วเพราะเขาโดนช้างใช้งวงรัดตัวแล้วโยนขึ้นไป เมื่อตกลงมาก็โดนเหยียบเละไปอีกคน ส่วนคนอื่นรวมทั้งนายจ้างต่างก็วิ่งกันไม่รู้ทิศรู้ทาง แต่มองไม่เห็นนายพรานว่าเขาวิ่งไปทางไหน แต่ก็แน่ใจว่าน่าจะเอาตัวรอดได้ เพราะเป็นผู้ที่มีประสบการณ์กว่าใคร

 

เหตุร้ายเกิดอยู่นานสักชั่วโมงเห็นจะได้กว่าช้างฝูงนั้นจะผละไป เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วสมชายก็ไต่ลงมาจากต้นไม้ แล้วมองหาเพื่อน ๆ นายจ้าง และพรานนำทาง แต่ก็ไม่เห็นใคร อากาศเริ่มหนาว และมืดมาก เพราะกองไฟถูกช้างเขี่ยให้กระจัดกระจายหมดแสงไปแล้ว เหลือแต่ท่อนฟืนที่ติดไฟยังแดงวาบ ๆ อยู่ และแตกเป็นลูกไฟเมื่อมีลมพัดมา

 

สมชายมองดูซากศพเพื่อน และผู้ช่วยนายพรานที่เละไม่มีชิ้นดี กลิ่นเลือดส่งกลิ่นเหม็นออกมาเล็กน้อย แต่ศพยังไม่เน่าเปื่อย เพราะเพิ่งตายไม่นาน สมชายทำการฝังศพทั้งสองในวันรุ่งขึ้น แล้วพยายามมองหาผู้ที่อาจเหลือรอดอยู่จากการที่ถูกฝูงช้างป่าโจมตีเมื่อคืน แต่ก็ไม่พบใคร สมชายใจไม่ดีเพราะเขาไม่เคยต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้มาก่อน

 

คืนนั้นสมชายต้องปีนขึ้นไปนอนบนต้นไม้เพื่อความปลอดภัย โดยยึดต้นไม้ใหญ่ที่หนีช้างเมื่อคืนเป็นที่นอนอีกครั้งหนึ่ง โดยไม่รู้มาก่อนว่าเป็นต้นตะเคียน และมีนางผีตะเคียนสิงอยู่

 

สมชายนอนอยู่บนต้นตะเคียนจนถึงเช้า เสียงไก่ป่าขันมาให้ได้ยิน สมชายรีบไต่ลงมายืนอยู่ข้างล่าง สักครู่ก็ได้ยินเสียงกู่มาแต่ไกล เขาจำได้ว่าเป็นเสียงของนายพรานนำทางนั่นเอง เขาจึงกู่รับออกไป แล้วพยายามจับทิศของเสียงที่ได้ยินเพื่อเดินตามไปสมทบ

 

ไม่นานก็พบต้นเสียง เขาคือนายพรานนำทางอย่างที่คิดไว้

 

“อ้าวเฮ้ย ไอ้สมชายเอ็งยังไม่ตายหรือ นี่ข้าเองนายพราน” นายพรานนำทางร้องเรียก

 

สมชายดีใจเดินเข้าไปหา แล้วยิ้มให้ “คนอื่นหายไปไหนกันหมด ผู้ช่วย กับลูกหาบอีกคนตายอยู่ทางโน้น ผมฝังไปเรียบร้อยแล้ว” สมชายรายงานให้นายพรานรับทราบ

 

"ดีแล้ว ข้าก็ไม่เห็นใครเลย ไม่รู้ว่ายังรอดอยู่หรือเปล่า” นายพรานพูด แล้วมองหน้าสมชายด้วยสายตาประหลาดพร้อมทั้งใช้ลิ้นเลียริมฝีปากแผลบ ๆ แต่สมชายไม่ทันได้สังเกต

 

“เราช่วยกันหาคนอื่น ๆ กันดีกว่า” สมชายพูดแล้วมองไปรอบ ๆ ตัว เผื่อจะเห็นใครได้บ้าง แต่ก็ไม่มี

 

เวลาล่วงเลยไปจนถึงเย็น และก็มืดค่ำ ซึ่งเป็นเวลาที่เสือสมิงออกหากิน พรานนำทางมองสมชาย แล้วเริ่มมีอาการที่ผิดออกไป ร่างกายของนายพรานบางส่วนเริ่มมีขนสีเหลือง สลับลายดำขึ้นมา และมันก็ก้มลงเพื่อเดินสี่ขา สมชายเห็นแล้วรู้ได้ทันทีว่าเป็นเสือสมิงที่แปลงมา ทำให้เขาคิดได้ว่านายพรานนำทางคงโดนเสือสมิงกัดตายไปแล้ว แล้วมันก็แปลงเป็นนายพรานเพื่อมากินเขาอีกคน

 

ขณะที่เสือสมิงกำลังย่อตัวลงมาเพื่อกระโดดเข้าหาสมชายซึ่งมันคิดว่าต้องกินเป็นอาหารมื้อค่ำนี้ มันก็กระโดดเข้าหาสมชายทันที แต่ก่อนที่เขี้ยวเล็บของเสือสมิงจะสัมผัสร่างกายของสมชาย ก็มีร่างของผีสาวนางตะเคียนเข้ามากั้นไว้

 

นางตะเคียนจับร่างของเสือสมิงไว้เต็มมือ พร้อมเหวี่ยงออกไปอย่างแรง ร่างใหญ่ของเสือสมิงแปดศอกกระเด็นออกไปตามแรงเหวี่ยง มันล้มลุกคลุกคลานไม่เป็นท่า เมื่อลุกขึ้นได้มันก็ร้องคำรามเสียงดังโฮก ลั่นป่า แต่ก็ยังไม่ยอมที่จะผละไป มันยืนจังก้าก่อนที่จะย่อตัวลงแล้วกระโดดเข้ามาอีกครั้งหนึ่ง

 

แต่คราวนี้นางตะเคียนไม่ยอมให้มันมีโอกาสโจมตีอีกเป็นครั้งที่สอง นางใช้มือที่มีเล็บยาวแหลมคมกดฝังลงไปที่ท้องเจ้าเสือร้ายแล้วกระชากออกอย่างแรง เป็นผลให้ท้องเสือสมิงถูกแหวะออก เครื่องในทั้งพวงก็ทะลักออกมา มันสิ้นใจตายวิญญาณเสือสมิงออกจากร่างของมันไปโดยไม่ทันได้รู้ตัว

 

สมชายเห็นการกระทำของนางผีตะเคียนโดยตลอด เขาตกตะลึงไปชั่วขณะก่อนที่นางตะเคียนจะได้บอกเขาว่าไม่ต้องกลัว

 

“พี่ไม่ต้องกลัวน้องนะ ระหว่างนี้น้องจะคอยปกป้องไม่ให้พี่ได้รับอันตรายใด ๆ” ผีนางตะเคียนรับประกันความปลอดภัยให้สมชาย

 

“นี่ นี่ แล้วนางเป็นผะ ผะ ผีหรือ เป็นผีนางตะเคียนหรือ” สมชายพูดตะกุกตะกัก ไม่เป็นภาษา นางตะเคียนพยักหน้า

 

“ใช่ น้องเป็นผีนางตะเคียนสิงอยู่ที่ต้นไม้ที่พี่ขึ้นไปเมื่อคืนไง แล้วพี่ก็นอนอยู่ในอ้อมอกของน้องตลอดคืนด้วย” ผีนางตะเคียนบอกความจริงที่สมชายไม่รู้

 

“นอนอยู่ในอ้อมอกหรือ” สมชายพูดเหมือนได้ยินไม่ชัด นางตะเคียนพยักหน้าอีกครั้งเพื่อให้สมชายแน่ใจ ก่อนที่สมชายจะสิ้นสติไป

 

คืนนั้นสมชายได้รับการดูแลจากนางตะเคียน ด้วยการอุ้มมานอนอยู่โคนต้นตะเคียนใหญ่ที่นางสิงอยู่ เขาหลับไปอย่างเป็นสุข ฝันไปว่าได้นอนอยู่ในบ้านหลังใหญ่ที่มีกลิ่นหอมของดอกไม้นานาพันธุ์ มีนางฟ้ามาดูแลให้ความปลอดภัย มีอาหารกินอย่างมากมาย และมีความสุขอยู่กับสาวสวยเหมือนอยู่ในวิมาน

 

กลางดึกคืนนั้น ขณะที่สมชายกำลังหลับอย่างมีความสุขใต้ต้นตะเคียนใหญ่ นางผีป่าที่อยู่บริเวณนั้นซึ่งเห็นว่านางตะเคียนให้การดูแลสมชายเป็นอย่างดีก็เกิดความอิจฉา และต้องการได้สมชายมาสมสู่เป็นผัวบ้าง จึงได้แปลงร่างเป็นนายจ้างชาวกรุงที่เดินป่ามาด้วยกัน สมชายตื่นขึ้นมาเขาจำได้ทันที แล้วเรียกให้มาหาเพื่อพักด้วยกันที่ใต้ต้นตะเคียน

 

นางผีป่าในร่างแปลงดีใจที่นางตะเคียนพลั้งเผลอ ทำให้นางผีสามารถเข้ามาได้ใกล้เพียงนี้ นางในร่างแปลงของนายจ้างชาวกรุง ทำท่าว่าเจ็บหนักจากการวิ่งหนีช้างเมื่อคืน ทำให้สมชายเข้าใจผิด และรีบเข้าไปช่วย พอได้จังหวะนางผีร้ายก็จับตัวสมชายไว้ได้ สมชายรู้ตัวทำให้เขาตกใจสิ้นสติไป

 

นางผีป่าอุ้มสมชายกลับยังที่อยู่ของมันทันที นางตะเคียนกลับมาไม่เห็นสมชาย ก็พอจะรู้ได้ว่าคงถูกนางผีป่ามาลักพาไปเสียแล้ว นางจึงตามไปยังที่อยู่ของนางผีป่าโดยไม่รอช้า เมื่อได้ประจันหน้ากัน นางตะเคียนก็ทวงสมชายที่นางผีป่าลักพาตัวมาทันที

 

“อีผีป่า มึงไม่มีปัญญาหาผัวหรือไง ถึงได้มาลักพาของคนอื่นเขา” นางตะเคียนพูดเสียงดัง อย่างวางอำนาจ

 

“อีผีตะเคียน กินอิ่มแล้วก็แบ่งให้กูบ้างซิวะ จะใจแคบไปถึงไหน” นางผีป่าพูดเพื่อให้นางตะเคียนแบ่งปันสมชายให้นางบ้าง

 

“ไม่ได้ มึงมีปัญญาก็ไปหาเอาเอง ชายคนนี้เป็นของกู” นางตะเคียนไม่ยอม และก็เริ่มแสดงอำนาจด้วยการทำตัวให้สูงใหญ่เท่าต้นตะเคียน

 

นางผีป่าเห็นดังนั้นก็ไม่รอช้านางก็มีอำนาจไม่แพ้กัน ด้วยการแปลงร่างให้สูงใหญ่ให้เท่ากัน แล้วตรงเข้าประหัดประหารกันอย่างตะลุมบอน ผีสองนางต่อสู้กันอย่างสามารถยังไม่มีใครแพ้ใครชนะ และยังไม่เสียเปรียบซึ่งกันและกัน

 

สมชายค่อย ๆ ฟื้นขึ้นมาจากการสิ้นสติ เขาเห็นการสู้กันของผีสาวสองตัวอย่างถนัด โดยไม่รู้ว่ามีสาเหตุมาจากเขานั่นเอง

 

เจ้าป่าเจ้าเขาซึ่งเป็นเจ้าของผีทั้งปวงในป่าดงดิบแห่งนี้ เห็นการสู้กันของผีสาวทั้งสองแล้วก็ทนไม่ได้ จึงออกมาห้าม และอบรมไม่ให้ทะเลาะกันโดยเฉพาะเรื่องการแย่งผัวซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมควร นางผีทั้งสองเหมือนได้สำนึก เพราะอย่างน้อยก็เคยอยู่กันมานาน ไม่น่าจะมาทะเลาะกันเรื่องคนเพียงคนเดียว จึงคิดได้และเลิกรากันไป

 

นางตะเคียนพาสมชายกลับไปยังที่อยู่ของนาง และพากลับไปส่งยังหมู่บ้านที่สมชายจากมา

 

ทางบ้านสมชายดีใจที่สมชายปลอดภัย แต่ก็ต้องเสียใจเมื่อได้ทราบว่าทั้งนายพราน ผู้ช่วยนายพราน ลูกหาบ และนายจ้างทุกคนเสียชีวิตทั้งหมด แต่เขาก็ไม่ได้บอกใครว่าเขาได้รับการช่วยเหลือจากนางตะเคียน เพราะเกรงว่าชาวบ้านจะไม่เชื่อ หรือหาว่าเขาเสียสติไปแล้ว...

 

ข้อมูลเพิ่มเติม: ภาพประกอบเป็นภาพนางไม้ตามความเชื่อตะวันตก ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องตามความเชื่อของไทยแต่ประการใด ใส่เข้ามาเพื่อเป็นภาพประกอบเท่านั้น

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.