ตอนที่ 77 เจิมศีรษะส่งพลังบริสุทธิ์ (1)

สวรรค์มวลดาว (Heavenly Star)

-A A +A

ตอนที่ 77 เจิมศีรษะส่งพลังบริสุทธิ์ (1)

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 77 เจิมศีรษะส่งพลังบริสุทธิ์ (1)

 

ณ ตระกูลเย่แห่งเมืองเทียนหลง

 

เมื่อเย่หวูเฉินกับหนิงเสวี่ยกลับมาถึงคฤหาสน์ตระกูลเย่ เพียงก้าวผ่านประตูทางเข้าก็มีเสียง ‘กระซิบกระซาบ’ กับสายตาจำนวนมากจ้องมองมา กระทั่งยามคุ้มกันที่ปกติจะมองตรงไปข้างหน้า รวมไปถึงผู้คุ้มกันลับ พวกเขาทั้งหมดต่างมองสำรวจด้วยแววตาสับสน ราวกับว่านี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบนายน้อยของตระกูล

 

“....เร็วขนาดนี้เลยเหรอ? อย่าบอกนะว่าข่าวมาถึงที่นี่เร็วกว่าข้าเสียอีก?” เย่หวูเฉินพึมพำกับตัวเอง

 

ข่าวลือเรื่องนายน้อยตระกูลเย่ได้แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลงด้วยความเร็วอันน่าตกใจ... เผชิญหน้าหลินเสี่ยวในการประลองยุทธและประชันอักษรอีกสองรอบ ผลคือชนะทั้งหมด! เขาสามารถเอาชนะผู้นำตระกูลฮั่วโดยใช้สติปัญญา กระทั่งเอาชนะประมุขราชวิทยาลัยเทียนหลงได้ราวกับเทพ ภาพวาดดอกบัวคู่บนก้านเดียวอันน่าอัศจรรย์ รวมถึงเพลงขลุ่ยสด ‘ฝันรำพึงถึงอดีต’ ที่ทำให้ผู้คนหลายพันต้องหลั่งน้ำตา ยิ่งกว่านั้นเขายังเป็นผู้สืบทอดของเทพกระบี่ องค์จักรพรรดิยังยกย่องเขาในฐานะสุดยอดอัจฉริยะ มอบตำแหน่งขุนนางชั้นสามรวมถึงยกพระธิดาองค์หญิงเฟยฮวง... ข่าวลือเหล่านี้แพร่สะพัดอย่างต่อเนื่อง หากเป็นคนธรรมดาที่กล่าวเรื่องเหล่านี้ย่อมถูกมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ หากแต่เหล่าคนที่พูดเรื่องพวกนี้ออกมา... กล่าวได้ว่าหากพวกเขากระทืบเท้าก็เพียงพอเขย่าโลกทั้งใบ หากพวกเขากล่าวเรื่องเหล่านี้ด้วยตนเอง คนอื่นๆจะไม่เชื่อพวกเขาได้อย่างไร?

 

“นายน้อย นายท่านสั่งพวกเราให้เชิญท่านไปที่ห้องโถงประชุมในทันทีที่ท่านกลับมาถึง” เป็นบ่าวชราที่เข้ามาทักทาย

 

“เข้าใจแล้ว” เย่หวูเฉินพยักหน้า จากนั้นเดินตรงไปที่โถงประชุม สายตาหลายคู่มองทุกการเคลื่อนไหวของเขา ในอดีต แม้ว่าพวกเขาเป็นคนรับใช้ของตระกูลเย่ พวกเขาก็ยังมีความรู้สึกดูหมิ่นและรังเกียจเขาอยู่บ้าง เนื่องจากนายน้อยเย่เคยเป็นบุคคลที่อ่อนแอ แต่เวลานี้เขาเดินเตร่ไปทั่วหลังจากกลับมา เขาใช้พลังของตนข่มเหงนายน้อยตระกูลอื่น ยามนี้แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นตะลึงและเชื่อไม่ลง

 

ภายในโถงประชุมที่กว้างขวางสว่างไสว ตระกูลเย่ทุกคนอยู่ที่นี่รวมถึงเย่หวูหยุนที่มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า เมื่อเย่หวูเฉินก้าวเข้ามา เย่หนู่ที่หัวเราะเสียงดังมาตลอดก็หยุดเสียงลง จากนั้นเขาถามเสียงต่ำ “เฉินเอ๋อร์ ทำไมเจ้าไม่เข้ามาก่อนและบอกความจริงกับพวกเรา!”

 

เย่หวูเฉินนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆหวังเวิ่นชู วางหนิงเสวี่ยไว้บนตัก แล้วล้วงนิ้วมือขวาเข้าไปในปากน้อยๆเล่นกับลิ้นของนาง เขากล่าวด้วยสีหน้าไร้เดียงสา “ข้าไม่ได้ทำสิ่งใดให้ตระกูลเย่ต้องเสียหน้า... ทำไมข้าถึงต้องพูดอธิบายด้วย?”

 

การที่เขาแสดงความโปรดปรานต่อหนิงเสวี่ยอย่างเกินธรรมดาไม่ได้ทำให้ตระกูลเย่แปลกใจอีกต่อไป พวกเขาคุ้นชินกับเรื่องนี้แล้ว หวังเวิ่นชูพูดพร้อมรอยยิ้ม “ท่านพ่อ พวกเราแค่ถามเฉินเอ๋อร์ไปตามตรง อย่าทำให้เขากลัวสิ”

 

เย่หนู่หัวเราะเสียงดังเมื่อได้ฟัง เขากล่าวพลางหัวเราะ “เจ้าเด็กนี่หลอกตระกูลหลินจนหัวปั่นทั้งตระกูล ข้าจะหัวเสียกับเรื่องนี้ได้อย่างไร กลับกันข้ามีความสุขมาก ข้าต้องเจอเจ้าพวกนั้นมาตลอดหลายปี และข้าไม่เคยรู้สึกพึงพอใจมากขนาดนี้มาก่อน ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...แต่!”

 

เย่หนู่พลันเปลี่ยนอารมณ์ คิ้วของเขาขมวดมุ่นขณะถาม “เฉินเอ๋อร์ โปรดบอกความจริงกับพวกเรา วรยุทธกับพรสวรรค์ของเจ้าได้มาได้อย่างไร? ผู้คนภายนอกอาจเข้าใจว่าเจ้าแสร้งทำเป็นป่วยมาตลอดสิบหกปี แล้วรอเผยความสามารถให้โลกตะลึงในคราเดียว แต่ว่า พวกเราตระกูลเย่ไม่อาจปฏิเสธความจริงที่ว่า เมื่อปีก่อนเจ้ายังเป็นคนที่ไร้เรี่ยวแรง แม้แต่จะหักคอไก่ยังไม่อาจกระทำ และพรสวรรค์ของเจ้ายังต่ำต้อยยิ่งกว่าเด็กสิบขวบ ยิ่งกว่านั้นเจ้าเคยบอกว่าเจ้าพึ่งได้สติเมื่อหนึ่งเดือนก่อน อย่าบอกข้านะว่าเจ้าเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างภายในเวลาแค่เดือนเดียว? ข้าไม่เชื่อ ถึงแม้เทพกระบี่จะมีความสามารถสุดวิเศษ แต่ก็ยังคงเป็นไปไม่ได้ที่จะฝึกฝนเจ้าจนถึงระดับนี้ได้!! หากไม่ใช่เพราะพวกเราหยดเลือดพิสูจน์กันก่อนหน้า กระทั่งข้ายังสงสัยว่าเจ้าคือบุตรชายของพวกเราหรือไม่ เฉินเอ๋อร์!”

 

เย่เว่ยพยักหน้าขณะมองเย่หวูเฉินไม่ละสายตา เขาถาม “ไม่เพียงแค่หนึ่งเดือน ต่อให้ใช้เวลาถึงหนึ่งปีก็ยังนับว่าเป็นเรื่องเหนือจินตนาการ นอกจากเรื่องพวกนี้แล้ว เจ้ายังมีความลับอื่นใดที่พวกเราสมควรรับรู้?”

 

เย่หวูเฉินอยากกล่าวบางอย่าง แต่จากนั้นเขาก็ลังเล ดูเหมือนเขากำลังมีปัญหาบางอย่าง

 

ดูจากท่าทางที่อึดอัดของเย่หวูเฉิน หวังเวิ่นชูดุด่าเย่เว่ยทันที “ดูท่านสิ บิดากับบุตรชาย ท่านกลับยังสงสัยในตัวเฉินเอ๋อร์ นี่สมควรเป็นเพราะว่าเฉินเอ๋อร์มีพรสวรรค์ฟ้าประทาน ถึงได้ใช้เวลาแค่หนึ่งเดือนบรรลุได้ถึงขั้นนี้....”

 

“แม้มีพรสวรรค์ฟ้าประทานก็ยังคงมีขีดจำกัด” เย่หนู่โบกมือขัดหวังเวิ่นชู “อย่างที่รู้กันดี หลินเสี่ยวแห่งตระกูลหลินก็เป็นที่รู้จักว่าเป็นอัจฉริยะผู้มีพรสวรรค์ฟ้าประทาน เจ้าจะบอกว่าความสำเร็จที่เขาใช้เวลาถึง 20 ปีไม่อาจเทียบได้กับหนึ่งเดือนของเฉินเอ๋อร์อย่างนั้นหรือ? เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!”

 

“อันที่จริง ท่านเดาได้ถูกต้อง” ในที่สุดเย่หวูเฉินก็เปิดปากพูด “อาจารย์ของข้าใช้วิธีการที่แปลกประหลาดอย่างมาก อย่างไรก็ตาม วิธีนี้เป็นสิ่งที่ทั่วโลกหล้าต้องตกตะลึง เขาขอให้ข้าอย่าบอกต่อแก่ผู้ใด แต่....อืม บอกให้คนในครอบครัวคงไม่มีปัญหาอะไร”

 

“ดี!” เย่หนู่พยักหน้ากล่าวหนักแน่น “บอกพวกเรามาไม่เช่นนั้น หัวใจของข้าคงไม่อาจสงบลงได้”

 

“อันที่จริง ท่านอาจารย์ใช้วิธีที่เรียกว่า ‘เจิมศีรษะส่งพลังบริสุทธิ์’ ซึ่งเป็นทักษะในตำนานที่สามารถส่งผ่านวิชาและพลังให้ข้าได้โดยตรง นี่คือเหตุผลที่มีตัวข้าในวันนี้” เย่หวูเฉินกล่าวอย่างไม่ละอาย วิธีที่บอกไปเขาเคยอ่านมาจากนิยายกำลังภายใน นิ้วชี้มือขวาของเขายังคงเคลื่อนไหวไปมาเบาๆอยู่ในปากหนิงเสวี่ย รู้สึกได้ว่านางกำลังดูดนิ้วอยู่

 

“เจิมศีรษะส่งพลังบริสุทธิ์!?” เกินความคาดหมายของเย่หวูเฉินโดยสิ้นเชิง เย่หนู่และเย่เว่ยไม่มีสีหน้าสงสัยใดๆ พวกเขากลับอุทานชื่อออกมา

 

หรือว่าจะมีอะไรทำนองนี้อยู่บนโลกใบนี้จริงๆ?

 

“พวกท่านเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนหรือ?” เย่หวูเฉินถามด้วยความแปลกใจ

 

“ข้าไม่เคยได้ยินชื่อ ‘เจิมศีรษะส่งพลังบริสุทธิ์’ แต่ข้าเคยได้ยินวิชาอื่นที่มีชื่อว่า ‘เจิมศีรษะส่งพลังแห่งสวรรค์และปฐพี’ แม้ว่าสองชื่อนี้จะแตกต่างกัน แต่ชื่อของพวกมันก็คล้ายกันมาก ทั้งจุดประสงค์ของพวกมันก็เหมือนกัน...ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง ข้าเริ่มเข้าใจแล้ว” เย่เว่ยกล่าว ในขณะที่นึกถึงคำว่า ‘เจิมศีรษะ’ เขาก็เกิดความคิดบางอย่างขึ้นมา

 

“เจิมศีรษะส่งพลังแห่งสวรรค์และปฐพี เป็นพลังลึกลับที่ใช้กันภายในสำนักจักรพรรดิใต้และสำนักจักรพรรดิเหนือ พลังนี้ทำให้เจ้าสำนักจักรพรรดิใต้และเจ้าสำนักจักรพรรดิเหนือสามารถถ่ายทอดพลังและวิชาทั้งหมดของตนให้แก่ผู้สืบทอดได้ จากนั้นพวกเขาจะตายเพราะไม่มีพลังหลงเหลืออยู่ นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่ตลอดมาไม่เคยมีผู้ใดกล้ากระตุ้นโทสะของพวกเขา”

 

ที่แท้วิชานี้ก็มีอยู่จริง...เย่หวูเฉินคิด

 

“พวกเขาสูญเสียพลังบ้างหรือไม่ ไม่เช่นนั้น ทั้งสำนักจักรพรรดิใต้และสำนักจักรพรรดิเหนือย่อมแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่มีขีดจำกัด?” เย่หวูเฉินถาม

 

“ถูกต้อง แท้จริงแล้วเกิดความเสียหายเกิดขึ้นด้วย แต่จะรุนแรงแค่ไหนพวกเราคนนอกไม่อาจทราบได้ แต่ถึงอย่างนั้น ทุกๆรุ่นของทั้งสองสำนักต่างก็มีพลังไร้ที่เปรียบ สิ่งนี้ไม่มีผู้ใดสงสัย”

 

“พลังไร้ที่เปรียบ? พลังของพวกเขาหรือจะเป็น...ขอบเขตเทวะ?” เย่หวูเฉินขมวดคิ้ว “แต่ในเหล่าเทพทั้งสี่แห่งทวีปเทียนเฉิน ไม่มีการกล่าวถึงพวกเขา”

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.