ตอนที่ 67 ประชันอักษร – ตบหน้าตัวเอง

สวรรค์มวลดาว (Heavenly Star)

-A A +A

ตอนที่ 67 ประชันอักษร – ตบหน้าตัวเอง

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 67 ประชันอักษร – ตบหน้าตัวเอง

 

“แต่ข้าเชื่อว่าผู้อาวุโสชื่นชอบสุรายิ่งกว่าภาพวาด ดังนั้น” เขาเคลื่อนสายตาออกจากฮั่วเจิ้นเทียนที่ยังคงตาโต แล้วมองไปยังฮั่วฉุ่ยโหรวที่อยู่ข้างๆ สายตาอ่อนโยนและรอยยิ้มบางก่อกวนจิตใจของนาง “ข้าขอมอบภาพวาดนี้ให้กับแม่นางฮั่วฉุ่ยโหรวแทน”

 

ฮั่วฉุ่ยโหรวสั่นไปทั้งร่าง บีบมือแน่นลืมเคลื่อนไหว นางสบประสานสายตากับเย่หวูเฉิน ต่างมองหน้ากันและกัน

 

บรรยากาศพลันเงียบสนิท ผู้คนมองหน้ากันอย่างสะดุ้ง ไม่คาดคิดกับผลลัพธ์ที่ออกมา พวกเขาเริ่มลอบมองที่หลินเสี่ยว ทุกคนในอาณาจักรเทียนหลงล้วนรู้กันว่าฮั่วฉุ่ยโหรวได้หมั้นหมายกับหลินเสี่ยว พวกเขาจะแต่งงานกันเมื่อนางอายุครบ 16 ปี บุรุษที่พรสวรรค์สร้างกับสตรีงามฟ้าประทาน ทุกคนล้วนมองว่าเขาทั้งคู่เหมาะสมกัน บุรุษมากมายที่มีพรสวรรค์และรูปโฉม แม้จะชื่นชมนางแต่ไม่อาจเอื้อมมีความคิดไม่เหมาะควร

 

เวลานี้นายน้อยแห่งตระกูลเย่กลับกล้ามอบภาพวาดดอกบัวคู่บนก้านเดียวให้กับนางต่อหน้าทุกคน เห็นได้ชัดว่าเขายิ่งขุดหลุมลึกฝังหลินเสี่ยวลงมิใช่หรือ? จะมีชายใดที่ทนต่อการหยามละเมิดเช่นนี้ได้?

 

สองสิ่งที่ทำให้ผู้คนชิงชังอย่างที่สุด หนึ่งคือสังหารบิดา สองคือพรากสตรีของตน... นายน้อยตระกูลหลินจะตอบสนองกลับไปเช่นใด!?

 

แม้หลินเสี่ยวจะยังไม่เอ่ยคำ แววตาของเขาก็สะท้อนความโกรธขึ้งอย่างสุดแสน ไม่ว่าเขาจะมีความยับยังชั่งใจหรือเป็นสุภาพบุรุษถึงปานใด หากถูกเหยียบย่ำเกียรติภูมิ เขาก็ยากที่จะทานทน

 

“เจ้าหนูตระกูลเย่ เจ้าทำแบบนี้หมายความว่ายังไง!” หลินซานยืนขึ้นตะโกน ใช้ภาพวาดสื่อใจมอบให้ว่าที่ลูกสะใภ้ของตน ทั้งต่อหน้าตระกูลหลินรวมถึงต่อหน้าผู้คน หมอนี่ไม่มีความเคารพตระกูลหลินสักนิดเลยหรือไง? เรื่องนี้ไม่อาจทนไหว หากคนตระกูลหลินไม่ลุกขึ้นประท้วงหลังถูกหยาม พวกเขาก็มีเพียงต้องขายขี้หน้าอับอาย มีเพียงคนโง่ที่ไม่รู้ความหมายของภาพว่าสื่อถึงสิ่งใด

 

“โอ้?” เย่หวูเฉินมองด้วยความงุนงง จากนั้นถามกลับไป “ท่านพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?”

 

“ฮึ่มม!” หลินขวงแค่นเสียงหนัก อยากทุบตีชายคนนี้ให้ย่อยยับ “พวกเราตระกูลหลินและตระกูลฮั่วได้ตกลงเรื่องการแต่งงานกันไว้แล้ว คุณหนูตระกูลฮั่วเป็นคู่หมั้นของเสี่ยวเอ๋อร์ตั้งแต่หกปีก่อน เจ้ามอบภาพวาดนี้เป็นของขวัญให้นาง จะให้หมายความว่าเช่นไร?”

 

ผู้คนต่างพยักหน้าเห็นด้วย คิดว่าเย่หวูเฉินไม่สมควรกระทำแบบนี้เช่นกัน

 

“โอ้!” เย่หวูเฉินพลันทราบเรื่อง หากแต่ไม่ได้มองไปที่เขา สายตายังคงจ้องตรึงที่ฮั่วฉุ่ยโหรว ทำให้นางต้องเบือนหน้าหนีและก้มศีรษะลง เย่หวูเฉินหันไปแล้วกล่าว “ข้าขอบังอาจถาม ว่าคุณหนูฮั่วเป็นคนของตระกูลหลินแล้วหรือยัง?”

 

“แน่นอนว่าตอนนี้ยังไม่ใช่ แต่ภายในสัปดาห์นี้นางจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลหลินเรา”

 

“ในเมื่อนางยังไม่ใช่ส่วนหนึ่งของตระกูลหลิน เช่นนั้นข้ามอบภาพวาดให้นางก็ไม่ใช่ธุระกงการใดของพวกท่าน” เย่หวูเฉินแสดงสีหน้าไม่พอใจ

 

หลินซานพูดไม่ออก ผ่านไปครู่หนึ่งก็ยังไม่อาจหาถ้อยคำใดมาตอบโต้

 

“ข้าต้องการมอบภาพดอกบัวคู่บนก้านเดียวให้กับแม่นางฮั่ว ไม่ได้จะมอบให้ผู้ใดในตระกูลหลิน พวกท่านมีสิทธิ์อะไรมาห้ามข้า! ตระกูลหลินของพวกท่านมีสิทธิ์อะไรในตัวแม่นางฮั่ว นางยังไม่ทันแต่งเข้าตระกูลหลิน พวกท่านก็แสดงความไร้เหตุผลและบ้าอำนาจ กระทั่งล่วงล้ำก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของนาง แล้วถ้าเกิดนางแต่งเข้าตระกูลหลินของพวกท่านจริงๆ….” เย่หวูเฉินไม่กล่าวต่อ เขาถอนหายใจแล้วมองฮั่วฉุ่ยโหรวด้วยแววตาสงสาร ทั้งยังเจตนาให้ฮั่วเจิ้นเทียนมองเห็น

 

ฮั่วเจิ้นเทียนคราแรกยังไม่ยอมรับ แต่พอได้ยินประโยคสุดท้ายของเย่หวูเฉิน เขาพลันบังเกิดโทสะแล้วยืนขึ้นตะโกน “ตาแก่หลิน! ขนาดข้าเป็นพ่อ ข้ายังไม่เคยปริปากสักคำ พวกเจ้าตระกูลหลินเป็นคนประเภทไหน ถึงได้ยุ่งเรื่องของลูกสาวข้า! เจ้าฟังข้าให้ดี ข้าฮั่วเจิ้นเทียน มีลูกสาวเพียงคนเดียว ถ้าใครกล้าปฏิบัติต่อนางไม่ดีข้าจะเลาะกระดูกมัน! หากลูกสาวข้าชอบภาพนี้ จะจักรพรรดิหรือพระเจ้าก็ไม่อาจขัดขวาง!”

 

สาปส่งองค์จักรพรรดิทั้งที่เขาอยู่ที่นี่ ฮั่วเจิ้นเทียนคงเป็นผู้เดียวที่ยังมีชีวิตหลังพูดแบบนั้น หากบุคคลอื่นกระทำแบบเดียวกัน หลงหยินย่อมต้องบันดาลโทสะในทันที แต่เขากลับทำเพียงยิ้ม ไม่ถือสาใส่ใจ เขารู้จักอุปนิสัยของฮั่วเจิ้นเทียนอย่างดี ฮั่วเจิ้นเทียนจงรักภักดีต่อราชตระกูล แต่เป็นผู้มีอารมณ์ดุเดือด ทั้งโผงผางและตรงไปตรงมา ไม่เคยสนใจในกฎเกณฑ์ เป็นผู้เถรตรงและเปิดเผย เขารักสุราเท่าชีวิตและไม่เคยขาดมัน

 

หลินซานแทบทนคำตะโกนด่าทอไม่ได้และลอบสบถ... บิดาแค่สนใจเรื่องชื่อเสียงของตระกูลหลินของข้า ไม่ใช่เรื่องลูกสาวขี้ประติ๋วของเจ้า เจ้าสมองกลวงนี่กลับถูกล่อลวงอย่างง่ายดายด้วยวาจาเพียงไม่กี่คำ!

 

ฮั่วเจิ้นเทียนไม่ทันรู้ตัวเลยว่า ถ้อยคำที่เขากล่าวปกป้องลูกสาวของตน แสดงให้เห็นเป็นนัยว่าเขาอยู่ข้างเย่หวูเฉิน และผลกลับกลายเป็นว่าตระกูลหลินตบหน้าตนเองอย่างรุนแรง

 

หลินเสี่ยวเฝ้ามองสถานการณ์ เห็นว่านี่ย่อมคุกคามความสัมพันธ์ของตระกูลฮั่วและตระกูลหลิน เขาทำลายความเงียบในทันที “ขุนพลฮั่ว ท่านพ่อ โปรดอย่าพึ่งมีโทสะ สตรีที่ฉลาด งดงามและอ่อนหวานนุ่มนวล ย่อมเป็นที่หมายปองของบุรุษ แม่นางฮั่วงดงามจนดึงดูดแม้กระทั่งปักษาและเหล่าสัตว์ ผู้คนชมชอบนางมีมากมายไม่อาจนับได้ การกระทำของคุณชายเย่ล้วนนับว่าเป็นเรื่องปรกติ แม้ว่าแม่นางฮั่วและตัวข้าจะเป็นคู่หมั้นกัน แต่นางก็ยังไม่ใช่ส่วนหนึ่งของตระกูลหลิน ดังนั้นทุกคนจึงยังมีสิทธิ์ที่จะไขว่คว้านาง พวกเราตระกูลหลินไม่มีสิทธิ์ยุ่งเกี่ยวเรื่องนี้อย่างแท้จริง อีกอย่าง นายน้อยเย่พึ่งกลับมาหลังจากสูญเสียความทรงจำ ดังนั้นเขาย่อมไม่รู้ว่าแม่นางฮั่วหมั้นหมายแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องกล่าวตำหนิเขา”

 

ผู้คนจำนวนมากลอบพยักหน้า หลินเสี่ยวไม่เพียงอ้างความทรงจำของเย่หวูเฉินเพื่อรักษาหน้าให้ตระกูลหลิน แต่ยังแสดงให้เห็นถึงจิตใจที่กว้างขวางน่านับถือต่อผู้คน พวกเขาแน่ใจว่าบุตรผู้นี้ย่อมมีอนาคตที่รุ่งเรือง

 

“ยอดเยี่ยม! ยอดเยี่ยม! ท่านกล่าวได้ถูกต้อง!” เย่หวูเฉินปรบมือยอมรับ จากนั้นกล่าวพุ่งเป้าไปที่หลินเสี่ยว “เป็นคำพูดของสุภาพบุรษอย่างแท้จริง เป็นวาจาของนักศึกษาปริญญาเอก คุณชายหลินคู่ควรถูกยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะผู้ทรงปัญญา ทั้งความคิดเห็นที่ฉลาดหลักแหลมและความอดทน ล้วนทำให้ข้านับถืออย่างที่สุด เมื่อเทียบความอดทนกันแล้ว ท่านกับข้านับว่าต่างกันห่างไกล”

 

จากนั้นเขาใช้น้ำเสียงที่มีแค่หลินเสี่ยวได้ยินเพียงคนเดียว “ช่างอดทนอะไรเช่นนี้ หากข้าเป็นท่าน ข้าคงตบหน้าสองฉาดใหญ่กับมันผู้ใดก็ตามที่เข้ามาตอแยสตรีของข้า”

 

หลินเสี่ยวกัดฟันแน่น ทั่วทั้งร่างสั่นสะท้านเล็กน้อย

 

แม้เย่หวูเฉินจะกล่าวเช่นนั้น แต่ไม่ว่าคนเสียสติใดก็ฟังออกว่านั่นเป็นคำเย้ยหยัน หากพวกเขาได้ฟังเพียงคำกล่าวของหลินเสี่ยว พวกเขาจะรู้สึกว่าหลินเสี่ยวมีอุปนิสัยโดดเด่นและมีอนาคตที่สดใส แต่หากพวกเขาได้ยินคำกล่าวของเย่หวูเฉิน...พวกเขาจะรู้สึกว่าหลินเสี่ยวเป็นคนขี้ขลาด!

 

ยังทำตัวเป็นคนดีได้ทั้งๆที่ว่าที่ภรรยากำลังถูกรุกคืบถึงเพียงนี้ หากเขาไม่ใช่คนขี้ขลาด แล้วจะเป็นอะไร?

 

อย่างไรก็ดี คำที่นายน้อยเย่พูดถึง ‘นักศึกษาปริญญาเอก’ นั้นมันคือสิ่งใด? ทีละคนๆผู้ชมเริ่มถามกันแต่ไม่มีผู้ใดรู้คำตอบ

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.