ตอนที่ 41 .. “ กลับใจ ”

พยัคฆ์ร้าย..สายลับ

-A A +A

ตอนที่ 41 .. “ กลับใจ ”

ฟังเพลงเพราะๆ ประกอบ นิยาย พยัคฆ์ร้าย..สายลับ 

    เป็นเพียงความบันเทิงในการฟัง เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ รวมถึง เหตุการณ์ของตัวละครในนิยาย เพื่อให้เกิดอรรถรสในการอ่านเท่านั้น ไม่ได้มีผลใดๆกับทางการค้าทั้งสิ้น

.. ด้วยความเคารพ ผู้ประพันธ์นิยาย .. พัชฌา

 

 (เพลงประกอบ นิยาย พยัคฆ์ร้าย..สายลับ)  พัชฌา

ขอขอบคุณ คุณก้อย พรพิมล ธรรมสาร จาก Rose Media & Entertainment ที่เอื้อเฟื้อเพลงให้มาประกอบในนิยาย

แหวนแลกใจ – พรพิมล ธรรมสาร

https://www.youtube.com/watch?v=vqU8mVr3xeU

นิยาย แนว อาชญากรรม และนักสืบ (Detective and Crime Novel) / สืบสวนสอบสวน (Suspense) / Action

ตอนที่ 41 .. “ กลับใจ ”

“จริง..ไม่เชื่อใช่ไหม เอ้า ถ้างั้นตามมา” ป๋องลุกไป ทับทิมเดินตามไปที่รถ ป๋องเปิดท้ายรถ กระเป๋าเสื้อผ้าเอย ตุ๊กตาเอย เต็มไปหมด

“คุณอา ไปเอามาเมื่อไหร่ นี่ ใครอนุญาตให้อาเข้าบ้านหนูเนี่ย ถึงเป็นผัวก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำแบบนี้นะ เอาใหญ่แล้ว”

“อาไม่ได้เข้าบ้านหนู อาแค่วานให้สาวใช้บ้านหนูเก็บให้ก็เท่านั้น น่านะ ไหนๆก็เรียบร้อย คงไม่มีข้อแก้ตัวอะไรอีกแล้ว ไปนะเมียจ๋า กลับบ้านเรากัน” ป๋องรีบปิดกระโปรงรถ แล้วกอดเมีย ทับทิมหันมาขณะที่อยู่ในอ้อมกอดสามี เธอเอามือชี้หน้าป๋อง

“ได้ เจ้าเล่ห์นักผัวชั้น แต่..มีข้อแม้” ทับทิมกลับใจแล้ว ทีแรกว่าจะกลับตอนค่ำๆ พอสามีเล่นแผนนี้มาก็ไม่ว่ากัน

   ป๋องเอามือบีบนิ้วเมียไว้ “ว่าไป ถ้าทำได้ อาจะทำให้นะ ถ้ามันไม่เหนือบ่ากว่าแรงจนเกินไป” ทับทิมยิ้ม ได้โอกาสแล้ว

“ข้อแรก ห้ามขัดใจหนู ข้อสอง ห้ามเอาเกินวันละ 2 ครั้ง และข้อสาม ต่อไปนี้เงินเดือนออก ต้องเอามาให้หนู รวมทั้งบัตรเครดิตและ Atm ด้วย ทำได้ไหม” ป๋องผงะเลย ข้อแม้แต่ละข้อหนักๆทั้งนั้น

“โอ้โฮ..นี่เท่ากับอาไม่มีเงินติดตัวเลยนะ” ทับทิมได้ทีกอดอกยิ้มเยาะ สบายใจที่จะได้ยึดอำนาจและกุมบังเหียนผัวแล้วก็คราวนี้

“หนูบอกรึยังว่าจะริบกระเป๋าตังอา ไม่เคยพูด หรือว่าจะให้ยึด ว่าไง ถ้าทำได้ หนูก็จะไป แต่ถ้าไม่ก็ No เคร บ้านใครบ้านมัน”

   ป๋องคิดหนักจึงขอต่อรอง “เออๆ ได้ๆ ข้ออื่นอาไม่มีปัญหา แต่ข้อสองอาขอต่อรองได้ไหม”

“อะไร” ทับทิมหันขวับหรี่ตาจ้องไปที่ผัวแล้วชี้หน้า

“เกิน 2 ครั้ง ไม่ได้เหรอ” ป๋องทำหน้าเว้าวอนน่าสงสารอีกแล้ว

“ไม่ได้” ทับทิมตวาดใส่ ป๋องกลัวเมียยังกะอะไรดีแล้วตอนนี้

“ทำไมหละ ก็เมื่อก่อนยังได้เลย” ป๋องสงสัย เลยอยากรู้

“นั่นมันเมื่อก่อน นี่มันตอนนี้ หนูไม่ได้บ้า Sex เหมือนอานะ เมื่อก่อนที่ตามใจเพราะเห็นว่าทำตัวน่ารัก แต่ตอนนี้อาทำตัวไม่น่ารัก มันก็ต้องมีการลงโทษกันบ้าง ขืนตามใจ อยากเอาเมื่อไหร่ก็เอา ของหนูก็พังหมดดิ ถ้าอยากมีไว้ใช้เป็นของตัวเองนานๆ ก็ต้องห้ามใจไว้บ้าง เข้าใจไหมคะคุณสามี 2 ครั้ง เช้าเย็น ก็พอแล้ว ถ้าวันไหนทำตัวดี หนูอาจจะมีแถมให้บ้างก็ได้ ว่าไง”

   ป๋องพยักหน้ารับคำ < เอาเหอะป๋องเอ๊ย ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย > เมื่อทับทิมยึดอำนาจได้สำเร็จก็จบไม่มีปัญหาอะไรอีกแล้ว เธอยอมกลับมาอยู่กับป๋องอย่างเต็มใจ และไม่น้อยใจอะไรอีกเลย ป๋องรีบพาเมียขึ้นรถ บริการอย่างดีเปิดประตูหน้าให้ด้วย ทับทิมก้าวเท้าเข้าไปนั่งยังกะนางพญา ทับทิมยิ้มเป็นคุณนายผู้กำกับมันก็สบายแบบนี้ ยิ่งกุมอำนาจผัวได้แล้วด้วย ยิ่งสบายใจใหญ่ พอป๋องสตาร์ทรถกำลังจะออก “เดี๋ยว” ป๋องหันมา “มีอะไรอีกเหรอ ก็ทุกอย่างครบหมดแล้วนี่”

“ลืมอะไรไปรึเปล่า” ป๋องนึกไม่ออก เลยแกล้งตีเนียน หันไปหอมแก้มขวาเมีย

“ไม่ใช่..เนียนนะเราเนี่ย ดอกไม้ ไหนหละของที่ให้เมียหนะ”

   ป๋องลืมไปเลย จึงรีบเปิดประตูรถแล้ววิ่งเข้าไปหยิบช่อดอกไม้ที่อยู่บนเคาน์เตอร์ แล้วเอามาให้เมียสุดที่รัก

“นี่ครับ สำหรับเมียสุดที่รักของป๋อง” ทับทิมยิ้มแล้วก็ดมและชมความงามของดอกไม้ “ไปได้แล้ว”

“รอคำนี้นานแล้ว ไปหละนะ” แล้วป๋องก็หันไปหอมแก้มขวาเมียอีกที

   ทับทิมก็เลยให้รางวัลสามีที่น่ารัก เพราะแกล้งมาพอแล้ว เลยหันไปหอมแก้มซ้ายและเอาหัวพิงไหล่ไปตลอดทางจนถึงบ้าน พอรถจอด ป๋องก็รีบเปิดประโปรงรถแล้วลากและขนของเมียเข้าบ้านทันทีกลัวเมียเปลี่ยนใจ

   ทับทิมกลับมาคราวนี้เหมือนสบายสุดๆเพราะไม่มีอะไรที่จะมารบกวนจิตใจเธออีกแล้ว เธอมองไปรอบบ้านเดินสำรวจทรัพย์สินของเธอทันที เข้าห้องนั้นออกห้องนี้ ทุกอย่างในที่นี้เป็นของเธอจริงๆเสียที บ้านหลังใหญ่หรูหราราคาเกือบ 20 ล้าน คนใช้ 2 คนวิ่งออกมาช่วยป๋องขนของ สักพักพอเอาของขึ้นไปไว้ข้างบนเสร็จ ป๋องก็เดินตามหาทับทิม ทับทิมออกไปยืนอยู่ที่สวนข้างแม่น้ำ สูดอากาศที่บริสุทธิ์ ป๋องเข้ามากอดเอวทับทิมจากข้างหลังแล้วก็หอมแก้มซ้าย ทับทิมหันมาหอมแก้มขวา แล้วก็มองออกไปที่แม่น้ำ สักพักทับทิมก็เอ่ยวาจาออกมาเบาๆ “พี่ป๋อง” ป๋องแปลกใจมากที่อยู่ดีๆทำไมเมียถึงเปลี่ยนสรรพนามเรียกเขา

“เดี๋ยวนะ เมื่อกี้ทิมเรียกอาว่าไงนะ” ทับทิมพูดออกมาเบาๆ

“พี่ค่ะ” แล้วเธอก็หันมามองหน้าสามี เอามือชี้ไปที่ปาก

“หนูมาคิดดูแล้ว ผัวเมียกัน อยู่กินกันแล้วจะมาเรียกอาอีกทำไม เรียกพี่ดีกว่าจะได้กำราบได้ถนัดๆดี”

   ทับทิมเอามือจิ้มไปที่หน้าอกสามี 4-5 ที ป๋องทำหน้าไม่ค่อยดี

“จะกลับตัวกลับใจเป็นคนดีของครอบครัวได้ไหม เลิกใจร้อน เลิกวู่วาม และเลิกอคติกับทุกๆเรื่อง ว่าไง ทำได้ไหม”

   ป๋องไม่รู้จะพูดยังไงดี แต่ก็ต้องยิ้มแหยๆออกมา “จ้าๆ” ท่าทางจะเป็นโจรกลับใจก็คราวนี้แหละป๋องเอ๊ย

“เรียกอาทีไรไม่เคยกลัวและอีกอย่างลูกจะได้ไม่สับสนด้วย”

“ลูก” ป๋องทำท่าแปลกอีกครั้ง “ค่ะลูก” ทับทิมยิ้มให้ “นี่อย่าบอกนะว่าหนูมีน้องแล้ว”

“ยังค่ะ แค่บอกเอาไว้ เผื่ออนาคต ถ้าเขามา เขาจะได้ไม่สับสนว่าทำไมแม่ถึงเรียกพ่อว่าอา โอเครไหมคะ พี่ป๋อง”

“ได้ๆ อยากจะเรียกอะไรก็ได้ ขอแค่หนูอยู่กับพี่ พี่ก็พอใจแล้ว” แล้วป๋องก็โอบกอดทับทิมอย่างมีความสุข

   ทั้งสองหันออกไปมองบรรยากาศของแม่น้ำเจ้าพระยายามเย็น หมดทุกข์หมดโศกซะทีนะป๋อง 5555+

***** >>><<< *****

   5 โมงเย็น พอได้จังหวะ ช่วงที่เผด็จไป Clear งานที่สำนักงาน เพ็ญพยายามขัดขวางโบว์ทุกอย่าง ที่ไม่ให้เจอเผด็จ อีก แกล้งเธอไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมก็เถอะ เมื่อโบว์หาทางเจอเผด็จจนได้ จึงทะเลาะกับเผด็จอีกครั้งอย่างรุนแรง

“ไม่เอาน่าโบว์ ก็ไหนบอกว่าเข้าใจป๊าดีแล้ว เราเข้าใจกันดีแล้วไง แล้วทำไมถึงมาวีนใส่ป๊าอีกหละ” โบว์เดินขึ้นไปบนห้อง

“ป๊าดูมัน ดูอีเพ็ญมันทำกะหนู มันแกล้งมันกีดกันไม่ให้หนูเจอป๊าตั้งแต่บ่ายหลังกินข้าวแล้ว ตั้งแต่ป๊าไป Clear งานที่สำนักงานคราวนี้หนูจะไม่ทนไม่ฟังและไม่ยอมทำตามอะไรอีกแล้ว เพราะหนูทนมาเกือบจะทั้งวันแล้ว หนูเบื่อ ป๊าเข้าใจไหมว่าหนูเบื่อ”

   อาการมันเหมือนคนที่กำลังท้อง หงุดหงิด เห็นอะไรก็พาลพะโลไปหมด โดยที่ตัวโบว์เองก็ไม่รู้ว่า เธอเองเริ่มตั้งครรภ์อ่อนๆให้กับเผด็จแล้ว เป็นอะไรหาคำตอบไม่ได้ คือรู้อย่างเดียวคือหงุดหงิดไม่พอใจ เห็นอะไรก็ขวางหูขวางตาไปหมด ทำอะไรก็ไม่เคยถูกใจ โบว์เดินเข้าห้องมาเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า เผด็จก็ดึงออก เธอก็เอาใส่ เผด็จก็เอาออกอยู่นั่นแหละ จนโบว์ต้องตบหน้าสามีไปหนึ่งที เผด็จถึงหยุดได้ พอทุกอย่างเรียบร้อย คราวนี้โบว์ไม่ทนไม่ฟังและไม่ยอมทำตามอีกแล้ว เพราะทนมาเกือบจะทั้งวันแล้ว ครั้งนี้จึงได้หนีหายไปจากชีวิตของเผด็จอีกครั้ง ( โดยหนีไปอยู่ที่ รีสอร์ท เจ๊ดาว) โดยที่ไม่สนใจคำขอของใครอีกเลย

   เดินออกไปที่หน้าเคาน์เตอร์ เห็นสว่างช่างซ่อมเรือประจำรีสอร์ทอยู่ตรงนั้นพอดี “พี่หว่าง”

“ครับนายหญิง” สว่างวิ่งเข้ามา “มีไรครับ” โบว์ยื่นกระเป๋าส่งให้

“เอาเรือออกไปส่งฉันที่ท่าในเมืองด้วย ฉันจะกลับเดี๋ยวนี้”

“ครับๆ” แล้วสว่างก็รีบหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกไป เผด็จวิ่งมาทันพอดี “ไอ้หว่าง”

“ครับนาย” สว่างหันมา “มีไรครับ” เผด็จวิ่งผ่านโบว์ เข้าไปดึงกระเป๋าเมียกลับมาถือไว้

“ไม่ต้อง เมียฉันเค้าไม่กลับแล้ว” สว่างเกาหัวยิกๆ เป็นลูกจ้างเค้าก็ต้องเหนื่อยใจแบบนี้แหละ

“ตกลงจะเอาไงเนี่ย ว่าไงครับนายหญิง” สว่างหันไปตะโกนถามโบว์

“ไปเอาเรือออก ไม่ต้องไปฟังใคร ฟังฉันคนเดียว เร็ว ฉันรีบ” แล้วโบว์ก็รีบเดินออกไปรอที่ท่าเรือ ไม่สนใจเผด็จ

“ผมต้องขอโทษนายด้วยนะครับ” แล้วก็ดึงกระเป๋าโบว์ที่เผด็จถืออยู่กลับมาอีกครั้ง และก็รีบวิ่งไปที่เรือไอ้แก่ของโบว์ทันที

“ไอ้หว่าง นี่ตกลงใครจ่ายเงินเดือนแกวะ ไอ้หว่าง ไอ้คนทรยศ มันเป็นพวกเมียกรูตั้งแต่เมื่อไหร่วะ”

   เผด็จรำคาญใจมากหัวเสีย ไม่รู้จะทำยังไง ดูเวลา 5 โมงกว่าเกือบจะ 6 โมงเย็นแล้ว จึงเดินกลับขึ้นไปที่บ้าน เห็นเพ็ญยืนกอดอกหัวเราเยาะใส่ ดีใจที่สามารถกำจัดก้างชิ้นใหญ่ให้ออกไปจากเกาะนี้ได้สักที เผด็จเดินผ่านเพ็ญไปแบบไม่ใยดี หน้าบูด ไม่พูดอะไร เพ็ญเดินตามขึ้นห้องไปที่ห้องนอน เห็นเผด็จนอนเอาหัวหนุนมืออยู่บนเตียง คิดว่าจะช่วยทำให้ผัวหายเครียดช่วยผ่อนคลายผัวสักหน่อยจึงล๊อกห้อง แล้วค่อยๆคลานขึ้นเตียง ไปนอนเล่นข้างๆอยู่ข้างซ้ายเผด็จ เธอนอนตะแคงเอามือขวาท้าวหัวไว้

“เสียดายมันเหรอคะพี่เด็จ แล้วทำไมไม่ตามมันไปหละ ตามไปซิ ทำไมไม่ตามมันไป ทำมานอนเสียดาย ยังทันนะ”

   เผด็จหันมามองเพ็ญแบบไม่พอใจ น่ารำคาญมาก “อะไรก็ไม่รู้ หาเรื่องเค้าอยู่ได้ ไม่เข้าใจ ทำไมนะ ต่างคนต่างอยู่ไม่ได้รึไง”

“ก็หนูไม่ชอบที่พี่ไปเอาใจมันคนเดียว โอ๋มันอยู่คนเดียว แล้วหนูหละ หนูเป็นใคร หนูก็เป็นเมียพี่คนนึงเหมือนกันนะ ถึงพี่จะไม่รักไม่เคยสนใจ แต่ก็ควรเห็นใจและเข้าใจหนูบ้าง หนูอุ้มท้องลูกพี่อยู่นะ” เพ็ญเอาเรื่องลูกมาอ้างอีกแล้ว

“เพ็ญอย่าเอาเรื่องลูกมาอ้างกับพี่ได้ไหม” เผด็จลุกขึ้นพรวดเลยจากที่นอน เมื่อพูดถึงเรื่องลูก

“ทำไมคะ ทำไมหนูจะพูดไม่ได้” เธอลุกขึ้นมานั่งบนเตียงเช่นกัน สักพักพอเห็นว่าแผนนี้ใช้การไม่ได้ก็ใช้แผนใหม่

“ได้ ถ้าพี่คิดว่าไอ้เด็กคนนี้มันเกิดมาจากความเกลียดชัง ไม่ใช่ความรักที่แท้จริงของพี่ มันเกิดมาจากความผิดพลาด มันก็อย่าเกิดมาดูโลกเลย” ว่าแล้วเพ็ญก็แกล้งทุบไปเบาๆที่ท้อง ไม่กล้าทุบแรง เพราะกลัวเจ็บเหมือนกัน เผด็จหันไป

“อย่านะเพ็ญ หนูทำอะไรหนะ นั่นลูกพี่นะ อย่า” เผด็จหลงกลเพ็ญรีบวิ่งเข้าไปจับมือเพ็ญทั้งสองข้างที่กำลังทุบท้องตัวเองอยู่

“พอๆ เด็กมันไม่รู้เรื่องอะไรด้วยจะไปฆ่าเค้าทำไม เพ็ญไม่รักลูก ไม่รักเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองเลยเหรอ”

“ก็พี่ไม่ได้รักมัน พี่ไม่เคยรักหนู แล้วจะเอามันไว้ทำไม” เพ็ญทำท่างอน

“ใครบอกว่าพี่ไม่รักลูกไม่รักเพ็ญ พี่รักทั้งสองคนนั่นแหละ” เผด็จเข้ามาบีบมือทั้งสองข้างเพ็ญเอาไว้

“จริงนะ” สำเร็จแผนนี้ใช้ได้ เพ็ญจึงเริ่มมีความหวังกลับมาอีกครั้ง

“จริง” แล้วเผด็จก็ปล่อยมือและดึงเพ็ญเข้ามากอดและจูบหน้าผาก

   เพ็ญได้โอกาสว่าจังหวะนี่เหมาะแล้ว จึงค่อยๆเอามือแอบมาแกะกระดุมเสื้อเชิ๊ตแขนสั้นเผด็จออก จากนั้นก็ดึงมันออกจากตัว แล้วเอาหน้าตัวเองหอมและจูบไปทั่วแผ่นอกที่ใหญ่บึกบึนของสามี เอื้อมมือปลดตะขอกางเกงขาสั้นให้หลุดลงไปที่ปลายเท้าอย่างช้าๆและดึงกางเกงในที่เหลืออีกตัวตามลงไป แล้วก็หมุนตัวผลักให้เผด็จอยู่ข้างล่าง เพ็ญดึงชุดคลุมท้องออกให้พ้นตัว จนร่างกายเปลือย แล้วก็เสพสุขร่วมรักกับสามีอีกเช่นเคย ไม่รู้ว่าครั้งนี้กี่รอบเพราะโบว์ไม่อยู่แล้วจึงไม่ต้องคอยเกรงใจใคร

   เกือบ ชั่วโมงผ่านไปหลังจากเสร็จกิจ ทั้งสองก็มานอนกอดกันคุยกันเช่นเดิม นึกว่าอะไรๆจะดีขึ้นเมื่อได้ร่วมรักกับคนรักไปแล้ว นึกว่าเผด็จจะใจอ่อนลงบ้าง แต่เปล่าเลย เพ็ญกับพูดมากไม่ยอมจบเรื่องโบว์ เผด็จรำคาญเพ็ญมาก พูดอะไรก็ไม่ได้เอาแต่ใจตัวเอง จนเผด็จกลุ้มใจลุกขึ้นจากเตียงเก็บเสื้อผ้าใส่ แล้วเดินหนีออกมาจากห้องและหายไปเลยตามหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ

   ทำให้เพ็ญต้องหงุดหงิดมากเพราะต้องนอนคนเดียวอีกตามเคยคืนนี้ จึงเป็นโอกาสของเกศินีที่สามารถเข้ามาปลอบใจเผด็จได้อีกครั้งโดยที่เพ็ญไม่ระแคะระคายอะไรเลย คืนนั้นเผด็จออกไปนอนที่บังกะโลเล็กๆบนเขา เกศินีแอบตามขึ้นไป

“เกศ มาได้ยังไง” เกศไม่พูดพร่ำทำเพลงปิดประตูล๊อกกลอน เหลือเพียงไฟตะเกียงริบหลี่ เธอรีบปลดชุดนอนบางๆของเธอให้มันหลุดลงกับพื้น จนร่างกายเปลือยไม่มีอะไรปิดร่างกายสักชิ้น แล้วเดินเข้าไปกอดเผด็จ เอาปากเธอประกบกับปากเผด็จทัน เกศินีจึงมีโอกาสได้ร่วมรักกับเผด็จหลังจากที่หาโอกาสมาหลายครั้ง จนเธอมีความสุขสมปรารถนา เผด็จจะเอ่ยปากพูด เธอเอามือมาปิดปาก

“ไม่ต้องพูด ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้นหนูเข้าใจ หนูขอแค่นี้ แค่มีความสุขกับพี่เท่าที่มีโอกาส หนูไม่โลภมากเหมือนเพ็ญและไม่โง่เหมือนโบว์ สบายใจได้” เผด็จซาบซึ้งใจเกศมากจึงให้รางวัลเธอของขวัญอีกชิ้นที่เขาไปทำมา เหลือเกศคนเดียวที่เขายังไม่ได้ให้

   แล้วเผด็จดึงเป้คู่ใจเขาออกมา แล้วก็ล้วงเข้าไปหยิบกล่องเลสทองกล่องสุดท้าย เพื่อความมั่นใจ ว่าไม่ผิด จึงหงายดูชื่อ ถูกต้อง จึงส่งให้เกศ เกศงง “อะไรคะพี่” เผด็จยิ้มแล้วก็เปิดกล่องออกให้เกศเห็นว่าข้างในคืออะไร

“เลสทองคำหนัก 1 บาท” เกศหยิบขึ้นมาดู “สวยมากเลยพี่ ให้หนูเหรอ” เผด็จยิ้มและพยักหน้า เกศไหว้เผด็จที่อกอย่างสวยงาม

“มาพี่ใส่ให้นะ” แล้วเผด็จก็เอื้อมมือหยิบเลสเส้นนั้นมาใส่ไว้ให้ที่ข้อมือซ้าย “แหวนก็มีแล้ว เลสก็ได้แล้ว มีความสุขไหมครับ”

   เกศหอมแก้มเผด็จทั้งสองข้าง “มีซิคะพี่ หนูไม่คิดว่าในชีวิตนี้หนูจะได้ของอะไรจากพี่อีก ขอบคุณนะพี่ที่ยังรักเมียคนนี้อยู่”

“พี่ก็รักเมียของพี่ทุกคนแหละ ไม่ว่าจะหนู จะเพ็ญ หรือโบว์” เมื่อได้ของ เกศจึงอารมณ์ดี

“รวมถึงอีหอมด้วยใช่ไหม” เผด็จไม่พูด “ใช่” พยักหน้าเอาแทน

“ช่างเถอะ ในเมื่อเรื่องมันก็แล้วมาแล้ว ตอนนี้หนูไม่ต้องการอะไร ไม่อยากแย่งชิงอะไรกับใครอีกแล้ว”

“ดีครับ น่ารักแบบนี้พี่ชอบ” เผด็จอารมณ์เริ่มดีขึ้น เพราะเกศกลับเป็นคนที่ไม่เรื่องมากต่างจากเมียคนอื่นๆ

“หนูเห็นสงครามระหว่างโบว์กับเพ็ญ หนูก็เบื่อเหมือนกัน เหนื่อยแทน”

       สักพักเผด็จคิดเรื่องของเพ็ญขึ้นมาได้ จึงให้เกศช่วย เผด็จกล่อมให้เกศินี พาเพ็ญกลับบ้านให้ได้

“ถ้าหนูทำให้เพ็ญยอมกลับบ้านได้นะ พี่จะยอมนอนด้วยอาทิตย์ละครั้งเหมือนเดิม”

“จริงนะ พูดแล้วห้ามคืนคำด้วย” เผด็จยิ้ม “จริง ไม่เชื่อใช่ไหม งั้นเอามัดจำไปก่อนเลย” แล้วเผด็จก็ดับตะเกียงผลักเกศลงที่นอน

“ว๊ายพี่เด็จ” เผด็จไม่เสียคำพูด เพราะเขาทั้งสองก็เปลือยอยู่แล้ว แค่ดับไฟก็สามารถเริงรักกันได้ต่ออีกทั้งคืน

       หลังจากที่ไม่ได้ทำแบบนั้นมาหลายเดือน เกศินีจึงยอมทำ เพื่อที่จะได้อยู่กับเผด็จเหมือนเดิม คือสัปดาห์ละครั้ง ไม่ถึง 2 วันหลังจากคืนนั้นที่เผด็จได้บอกเกศ เกศก็พาเพ็ญกลับบ้านได้สำเร็จ เผด็จโทรหาเกศระหว่างที่เธอเดินทางกลับ

“ขอบใจมากนะที่รักที่ทำได้สำเร็จรอพี่อยู่ที่บ้านนะ แล้วพี่จะตามกลับไปเร็วๆนี้แต่ต้องขอเวลาหน่อย ขอให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับระหว่างเราสองคนนะ” เผด็จดีใจมาก ที่แผนแรกสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

“ค่า..คุณสามี รักนะ จุ๊บๆ” แล้วเกศก็วางสาย หันไปดูเพ็ญที่ทำหน้าบูดเบี้ยว แต่เธอก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะมีความสุขกับของที่ได้

///// +++++ /////

   ต้นกล้าตัดสินใจ ออกตามเผด็จและคนรักอีกครั้งโดยไม่กลัวการจับกุม ต้นกล้ามุ่งไปที่เกาะรีสอร์ทของเผด็จก่อนทันที โดยมีการปลอมแปลงตัวเองนิดหน่อย การเดินทางจึงค่อนข้างล่าช้า เพราะต้องหลบตำรวจเป็นระยะๆ จากราชบุรี ลงใต้มาแบบไม่ธรรมดา ขึ้นรถทั่วไปก็ไม่ได้ เพราะด่านตั้งเต็มไปหมด ต้องใช้รถโบกพวกรถบรรทุกหิน บรรทุกทรายบ้างตามโอกาสและระยะทาง บางครั้งก็รถขนส่งพวกเฟอร์นิเจอร์ บางทีก็ล้อเกวียน แล้วแต่ว่าจะเจออะไรกลางทาง

***** ///// *****

  ทับทิมตอนนี้ก็กลับมาใช้ชีวิตปกติกับป๋อง มีความสุขดีวันนี้วันเสาร์ ทับทิมจึงใช้เวลาในช่วงเช้าจัดบ้านใหม่ของเธอ

“ตกลงว่าจะจัดงานแต่งเมื่อไหร่ดีครับที่รัก” ป๋องเดินเข้ามากอดเมียรักแต่เช้า หลังจากทานมื้อเช้าเสร็จ

“ขอเวลาคิดหน่อยก็แล้วกัน เพราะลืมเรื่องนี้ไปแล้ว อาจจะหลังสงกรานต์ ยังไงก็ขอหาเวลาก่อน ได้เมื่อไหร่แล้วจะบอกนะคะ”

“ก็ตามใจนะ พี่ตามใจหนูเสมอแหละ ว่าแต่ตอนนี้พี่ขอตังหน่อยซิ เมื่อวานหมดแล้ว” เมียหันมามองหน้า

“อะไรกันพี่ สองพันวันเดียว เอาไปทำอะไร ทำไมเดี๋ยวนี้ใช้ตังเปลืองจัง หนูต้องเก็บไว้ให้ลูกนะ”

“ก็เค้ายังไม่มา ตอนนี้ก็ให้พี่ก่อนนะเดี๋ยวถ้าเค้ามา พี่จะเบิ้ลให้สองเท่าเลยเอ้า”

“ก็บอกมาก่อน ว่าเอาไปทำอะไร 2 พันหนะหนูให้พี่ใช้ 5 วันนะ วันละ 400 จันทร์-ศุกร์ น้ำมันหนูก็เติมให้เต็มทุกครั้ง นี่อะไรวันก่อนก็ขอ วันนี้มาขออีกแล้ว ไม่เอา” ทับทิมเริ่มเผด็จการกับสามี

“นะ วันก่อน ที่ตึกเขามีงานแต่งพี่ใส่ซอง ไปพันนึง และงานศพญาติลูกน้องอีก 2 คน พี่ช่วยไปคนละ 500 วันนี้ท่าน ผบ.คนใหม่ชวนไปออกรอบอีก พี่ก็เลยขอติดตัวสัก 500-600 ก็ยังดี”

“อ้อ ที่มาขอเนี่ย จะออกนอกบ้าน เชอะ” แล้วก็เดินหนี < บอกแล้วว่าอย่ามีเมียเด็ก ป๋องเอ๊ย ซวย > ป๋องเดินตาม

“300 ก็ได้นะทิม พี่ต้องมีติดตัวไว้บ้าง ไม่งั้นขายหน้าเพื่อนๆแน่เลย”

“กลัว หน้าบาง แล้วงานตัวเองเสร็จรึยัง รดน้ำต้นไม้หนะ เห็นแห้งคาสวนตั้งแต่เมื่อวาน”

   เมื่อขอไม่ได้ ก็ทำงอน เดินตุ๊บป่องออกไป ทับทิมเห็นปฏิกิริยา จึงมีน้ำโหนิดๆ ในเมื่อรับปากแล้วทำไม่ได้ นี้ยังไม่กี่วันเลย ยังไม่ถึงอาทิตย์ ผัวก็เริ่มออกลาย ทับทิมจึงโยนบัตร Atm ให้ลงบนโต๊ะอาหาร พร้อมเงินสดอีก 5 พันบาท

“เอาไป อยากจะใช้เท่าไหร่ อยากจะทำอะไรก็เชิญ หนูคืนให้ ต่อไปนี้ หนูจะไม่ยุ่งไม่เกี่ยวเรื่องเงินๆทองๆของพี่อีกแล้ว ในเมื่อพี่รับปากแล้วทำไม่ได้ ก็ต่างคนต่างใช้ กระเป๋าใครกระเป๋ามัน เรื่องเงินลูก หนูเก็บของหนูเองได้ ถ้ามันลำบากใจนักหนูก็ขอโทษด้วยแล้วกัน ที่มาวุ่นวายกับชีวิตพี่ หนูรู้นะว่าพี่มีแอปธนาคารแอบกดเงินออกไปก็หลายครั้งแล้ว อย่านึกว่าหนูไม่รู้ แค่หนูไม่พูดก็เท่านั้น แล้ววันนี้ทำมาเป็นพูดดี ทำมาขอตังมีมารยาท Fake หวะ” พูดจบก็เดินไปขึ้นรถตัวเอง ขับออกไปเลย

   ป๋องได้แต่จ้องมองของทั้งสองสิ่งที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วก็คว้าใส่กระเป๋ากางเกง และก็ออกไปตีกอล์ฟกับผบ.คนใหม่ตามที่พูดไว้

%%%%%% ----- %%%%%%

“วิทย์ อย่าทำหน้าแบบนั้นซิ ขิงรักวิทย์จริงๆนะ ไม่ได้รักเพราะป๊าใช้ให้มารัก ตามข่าวลือ ถ้าวิทย์ไม่เชื่อ ขิงจะทำให้วิทย์ดูก็ได้”

“ขิงจะทำยังไง ไอ้พูดหนะ ใครก็พูดได้” วิทย์ได้ยินข่าวลือมาหนาหูมากเรื่องขิง ที่ว่ามารักเขา เพราะพ่อตัวเอง

“ขิงจะยอมถอนตัวไม่ช่วยงานป๊าและออกมาจากบ้านหลังนั้น จะกลับมาช่วยงานราชการอย่างเต็มที่ ขิงจะมาใช้บริการแฟลตตำรวจที่ว่างอยู่แค่นี้พอไหม” ขิงเดินเข้ามาหาวิทย์ขณะที่วิทย์ยืนหันหลังให้ ยืนอยู่บนสะพานในสวนสาธารณะ

“อย่าเลยขิง ขิงเคยอยู่สบายๆมีคนรับใช้ แล้วอยู่ดีๆจะออกมาลำบากทำไม ไม่ต้องทำขนาดนั้นหรอก เอาเป็นว่า วิทย์เชื่อก็แล้วกันที่ขิงบอกว่า จะไม่ช่วยงานพ่อของขิง วิทย์จะเชื่อนะ ส่วนที่หลับที่นอนขิงก็อยู่ที่เดิมนั่นแหละ ถ้าขิงคิดว่าขิงจะใจแข็งพอ ที่จะไม่ทะเลาะกับพ่อตัวเองภายหลัง” ขิงเดินเข้ามาหาและกอดวิทย์เอาหน้าซบที่หลัง

“ขิงสัญญานะวิทย์ ว่าที่ตัดสินใจแบบนั้นก็เพราะ ขิงรักวิทย์จริงๆไม่อยากให้วิทย์หนักใจ ขิงก็แค่อยากทำดีทดแทนกับสิ่งไม่ดีต่างๆที่ผ่านมา เชื่อใจขิงนะ ขิงขอบอกตามตรงกับวิทย์ก็ได้ว่า ขิงกลับใจแล้วจริงๆเพราะไม่อยากให้คนที่ขิงรักเป็นทุกข์มากไปกว่านี้

   วิทย์หันมากอดขิง “ขอบใจนะขิง ขอบใจที่ทำเพื่อประเทศชาติ” ขิงกอดวิทย์แล้วก็ร้องไห้ออกมา

+++++ ****** +++++

  หลายคน ฝ่ายอธรรม ที่มีความรัก เริ่มกลับใจ มาช่วยทีมของเผด็จและอัธวุฒิลับๆอย่างไม่เปิดเผย เช่น ลีซอ ด้วง คฑา ขิง และ 2 หน้ากากสาวตัวปลอม แก้วกับกลอย แม้กระทั่ง นางเสือดาว และ นางสิงห์ดำ รวมถึง สุนีย์ ผู้อำนวยการสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า

..... +++++ .....

   เทียนหอม 1 ในเมียสาวของเผด็จ เป็นหัวหอกในการนำทีมไปช่วยผัวตัวเองในครั้งนี้ เสี่ยงดวงอยากทำความฝันของสามีให้เป็นความจริง เนตรอีก 1 เมียก็เห็นด้วย เพราะเผด็จมีความคิดอยากรวมทีมของคนหน้ากากทั้งหมดให้มาอยู่ในทีมเดียวกัน แล้วเปลี่ยนชื่อเป็นทีมพญายมเฉยๆ ตอนที่นอนอยู่กับเทียนหอมก่อนที่ฐานลับจะถูกทำลายทิ้ง เทียนหอมจึงบากหน้าไปหาเบ็นซ์กับแป๋ว

   < ติ๊งหน่องๆ > แป๋วเดินมาส่องดูที่รูมอง เห็นเป็นสองสาวของเผด็จ จึงเปิดประตูไว้นิดนึงพอเห็นหน้า

“คุณหอมคุณเนตร มาได้ยังไง” ทั้งสองมองซ้ายขวา “จะยืนพูดกันตรงนี้เหรอ มันไม่ปลอดภัยนะ”

“เออ..ใช่โทษที พวกคุณก็โดนตามจับเหมือนเราสองคนเลยนี่”

   เบ็นซ์เดินออกมาจากห้อง ลงมาจากข้างบน “ใครมาหนะแป๋วแต่เช้าเลย” พอมองไปเห็นสองสาวของเผด็จ

“คุณหอมคุณเนตร” พอเดินลงมาถึงชั้นล่างก็ตรงมานั่งที่โต๊ะอาหาร “แล้วคุณอาหละมาด้วยไหม ทำไมหนูไม่เห็นเลย”

“นายไม่มาหรอก ตั้งแต่มีข่าวว่าโดนยิงตกน้ำหายไป พวกเราสองคนก็ยังหาตัวไม่เจอเหมือนกัน” เนตรบอกด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ

“แล้ววันนี้มีอะไรกันเหรอถึงได้มาถึงที่นี่ และรู้ได้ยังไงว่าเราสองคนอยู่ที่นี่” แป๋วถาม

“ไม่ต้องถามว่าพวกเราสองคนมาได้ยังไงและรู้ได้ยังไงว่าเธอสองคนหลบอยู่นี่” หอมรีบบอก

“งั้นมีอะไรก็รีบว่ามา ดีนะที่มาเช้า ไม่งั้นก็ไม่เจอฉันแล้ว พอดี ฉันมีธุระ มีงานที่ต้องไปทำ” เบ็นซ์รีบถาม

“มาขอความร่วมมือ” หอมรีบบอกสั้นๆ

“อะไร” เบ็นซ์กับแป๋วพูดพร้อมกัน

“ขอให้มาร่วมทีมช่วยพวกเราหน่อย เพราะฝีมือของพวกเธอสองคน เข้าขั้นใช้ได้พอๆกับพวกเรา”

“ทีมอะไร ฝีมืออะไร นี่เธอสองคนเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า” เบ็นซ์รีบออกตัว

“นั่นซิ เธอสองคนพูดถึงเรื่องอะไรกันหนะ เราสองคนไม่เข้าใจ ช่วยพูดให้ชัดๆด้วย”

   เทียนหอมเอารูปจี้ที่เธอทั้งสองใส่อยู่มาให้ดู เบ็นซ์กับแป๋วตกใจนิดๆที่เห็นในครั้งแรก แต่ก็ทำนิ่ง

“รูปอะไร เอาอะไรมาให้ดู” เบ็นซ์ปฏิเสธิหน้าตาย “ใช่ รูปอะไร สร้อยอะไร เธอสองคนเล่นอะไรกัน”

   ทีแรกสองคนไม่ยอมรับว่าเป็นนางเสือดาวและนางสิงห์ดำ จนเนตรและหอมต้องขอเสียมารยาท

   หอมมองหน้าเนตร แล้วพยักหน้าพร้อมกัน เนตรดึงคอเสื้อแป๋วเพราะอยู่ใกล้ และหอมก็ดึงคอเสื้อของเบ็นซ์

“ต้องขอเสียมารยาทด้วยก็แล้วกันนะคุณผู้หญิง” ที่ต้องดึงคอเสื้อดูตอนนั้น “แล้วนี่อะไร” เบ็นซ์กับแป๋ว พูดไม่ออก ไม่ทันตั้งตัว

   เมื่อจนด้วยหลักฐาน เบ็นซ์และแป๋วจึงยอมรับว่าเขาทั้งสองคนคือ นางเสือดาวและนางสิงห์ดำ

“ต้องขอโทษด้วยนะที่ต้องใช้วิธีนี้” หอมกล่าวขอโทษอีกครั้ง เบ็นซ์กับแป๋ว ไม่ได้ว่าอะไร แล้วก็แล้วไป

“ช่างมันเถอะ ว่าแต่ที่จะให้มาร่วมทีม ทีมอะไร พวกเราสองคนยังไม่รู้เรื่องเลย” เบ็นซ์กล่าว

“นั่นซิ ดูๆแล้วพวกคุณสองคนก็เป็นแค่..คนนึงผู้อำนวยศูนย์ อีกคนนึงก็แค่เลขา” แป๋วกล่าวเสริม

   หอมกับเนตรหันมองกันอีกครั้งแล้วปาอาวุธลับไปที่ฝาผนังห้อง มีดเล็กของหงส์หยกและเข็มบินของหงส์ฟ้า เบ็นซ์กับแป๋ว เคยเห็นและได้ยินถึงพิษสงของสองอาวุธนี้มาก่อน

“นี่เธอสองคน” เบ็นซ์อ้าปากหวอ เบ็นซ์กับแป๋ว ถึงกับไม่เชื่อสายตา ถ้าไม่เห็นด้วยตาของตัวเธอเอง เนตรกับหอมยิ้มและพยักหน้า

“แล้วใครเป็นใครกันหละเนี่ย” แป๋วถาม”

“ลองทายดูซิคะ คุณนางสิงห์ดำ ว่าฉันเป็นใคร” หอมแกล้งเล่นทายปัญหาซะแล้ว

“รู้อีกว่าฉันเป็นใคร ไม่เบาเลยหวะไอ้เบ็นซ์ แน่จริงๆลูกน้องคุณอาเนี่ยๆ”

“ฉันขอทายว่า คุณหอมเป็น หงส์ฟ้า” เบ็นซ์ทายก่อน

“ผิดคะคุณนางเสือดาว” หอมเฉลย

“ฉันค่ะหงส์ฟ้า” เนตรลุกขึ้นมา

“ว่าแล้ว ฉันกะจะตอบอยู่แล้วเชียว” แป๋วรีบเอาหน้าขึ้นมาทีเดียว

“ถ้าเป็นหงส์ฟ้ากับหงส์หยก ฉันเชื่อฝีมือ ถ้าจำไม่ผิดในทีมยังมีเด็กสาวอีกคนนึงเด็กๆหน่อยใช่ไหม” เบ็นซ์กล่าว

“ใช่ๆ ฉันนึกออกแล้วมีผู้ชายอีกคนด้วยนะทีมชื่อว่า นางฟ้าพญายม อะไรนี่แหละ เก่งมากเลยนี่เด็กคนนั้น นึกออกแล้ว วันนั้นไงเบ็นซ์ วันที่เราพลาดท่าโดนไอ้สองเสี่ยมันลอบกัดหนะ ทีมนางฟ้าพญายมเนี่ยแหละ ที่มาช่วยพวกเราไว้ ฉันจำได้แล้ว ไม่ผิดๆ”

“เออใช่ ฉันลืมไปได้ยังไง เหตุการณ์นั้น ยังจำฝังใจฉันอยู่เลย และยังมีเหตุการณ์ที่ถล่มหุบเขามรณะอีก แหม..ลีลามันส์หยด ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเธอสองคนได้ เห็นหุ่นเอวบางร่างน้อย ฝีมือไม่เบาจริงๆ ดีๆ ถ้างั้นฉันเอาด้วย จะขึ้นช้างลงม้าที่ไหน ไปกัน”

“ฉันก็ด้วย ได้ร่วมงานกับคนเก่งๆ ฝีมือพอๆกันแบบนี้ซิถึงจะมันส์” แป๋วเอาด้วยอีกคน

   เนตรกับหอมดีใจมาก แล้วทั้งสี่สาวก็จับมือกัน เท่ากับว่า ตอนนี้ทีมพญายมทีมใหม่มี 4 คนแล้ว พอทางนี้เรียบร้อย ทั้งสองคนก็ตรงไปหาปูนกับทับทิม ที่ฟิตเนตทันที เช่นเดิมมาขอร้องว่า อยากให้ทั้งสามคนเข้าร่วมทีมพญายม

“ทำไมต้องเป็นพวกเราสามคน” ทับทิมยิงคำถามสุดโหดที่ตอบยาก เนตรกระซิบข้างหูหอมเบาๆ

“แหมพี่ อีนังหนูเมียผู้กำกับนี่แสบไม่เบาเลยนะ ไม่รู้ว่าผู้กำกับจับทำเมียได้ยังไง”

“นินทาอะไรหนูมิทราบคะพี่สาว หนูได้ยินนะ” ทับทิมตะโกนออกไป

“ก็เพราะพวกเธอมีฝีมือที่ดีและสูสีกับพวกเรา หรืออาจจะน้อยนิดก็ได้ แต่ก็พอไหว” เนตรแหย่ทับทิม ทับทิมยิ่งขี้วีนอยู่ด้วย

“หรือจะลอง” ปูนรีบดึงตัวเพื่อนไว้ “แล้วพี่สองคนมีจุดประสงค์อะไร”

“ช่วยคนและช่วยประเทศ” หอมพูดออกมา

“ไม่เข้าใจ” ปูนถามกลับ

“ช่วยคนก็คือผู้การเผด็จ แฟนเก่าเธอไง” เนตรพูดออกไป ปูนทำหน้างงและตกใจ

“ทำไมถึงรู้หละ ว่าฉันเคยเป็นแฟนคุณอา”

“แล้วใครหละที่วันนั้นหนะ เมาไม่ได้สตินอนแก้ผ้าหราอยู่ที่คอนโด จนเกือบจะเสียตัวให้กับเจ้านายฉันแล้วหนะ เป็นเธอไม่ใช่เหรอวิหคขาวหรือว่าไม่ใช่ ไหนลองตอบมาซิ” เนตรจี้ใจจำ จนปูนมีสีหน้าอายขึ้นมาเลย

“พี่รู้ได้ยังไง เรื่องนี้ไม่มีใครรู้นอกจากทับทิม” ปูนถามเนตร ทับทิมมองหน้าเนตร

“เอาเป็นว่าอย่ารู้เลย แค่ตอบฉันมาว่าจริงไหม ฉันถามเธอตอบมันก็จบ” ปูนพยักหน้า

“ช่างเถอะ เรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว แล้วช่วยประเทศหละ” ทับทิมถามต่อ

“ก็พวกตัวปลอมทั้ง 6 คน มันยังป่วนประเทศกันอยู่แบบนี้ ฉันถึงต้องการรวมพวกหน้ากากทุกคนให้มาช่วยกันและทำความฝันของผู้การให้เป็นความจริงขึ้นมาสักที ที่จริงก็ไม่ใช่เพื่อใคร คนใดคนหนึ่ง มันก็เพื่อความสงบสุขของทุกคนนี่แหละ” หอมอธิบายให้ฟัง

“เรื่องนี้พวกเราสองคนตัดสินใจอะไรเองไม่ได้หรอกนะ ต้องรอถามพี่โมก่อนแล้วกัน” ปูนรีบบอก

“แล้วพิราบเทาหละ” หอมหันไปมองหน้าทับทิม “เหมือนกัน ต้องรอถามพี่โมก่อน” เนตรรีบแซวต่อ

“หรา นึกว่าต้องรอถามผัว” ทับทิมชี้หน้าเนตร

“พี่มีอะไรกับหนูมากรึเปล่าเนี่ยถามจริง ทำไมชอบกัดหนูจังหนูไปทำอะไรให้พี่ไม่พอใจเหรอ ทำไมหนูมีผัวเร็วแล้วมันผิดตรงไหน หนักหัวใครมิทราบ หรือว่าหนูไปแย่งผัวพี่มา ไหนบอกมาซิ อะไรแขวะไม่เลิก หลายครั้งแล้วนะ”

“เอาน่า ทับทิม พี่ขอโทษแทนไอ้เนตรมันด้วยก็แล้วกันนะ ไอ้เนตรแกก็เหมือนกันไปแหย่น้องเค้าทำไม ได้เรื่องเลยเห็นไหม เค้าจะมีใคร มีครอบครัวหรือไม่ มันก็ไม่เกี่ยวกับแกเลย ไป ไปนั่งตรงโน้นเลย เสียงานหมด”

   แตงโมเดินลงมาจากข้างบน พอดี (สำนักงานนักสืบอยู่ชั้น 3 ชั้น 2 เป็นฟิตเนต เและชั้น 1 เป็นที่เรียนเทควนโด)

“มีอะไรกันเหรอปูน แล้วทำไมไอ้เตี๋ยหน้าถึงเป็นแบบนั้น” ปูนโบ้ยปากไปที่ หอมกับเนตร

“คุณสองคนมีอะไรกับน้องสาวผมเหรอครับ” แล้วเทียนหอมก็เล่าทุกอย่างที่เคยบอกกับปูนและทับทิมให้แตงโมฟังทั้งหมด

“นางเสือดาวกับนางสิงห์ดำ สองสาวนั้นรับปากพวกเราแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแต่พวกคุณสามคนนี่แหละ จะว่าไง” หอมเปิดอกพูด

   ที่แรกแตงโมไม่ยอม แต่เมื่อเทียนหอมอธิบายถึงเหตุผลที่แท้จริง

“เพื่อความสงบสุขของทุกคน ผู้การเผด็จของฉัน ถึงกับยอมเสี่ยงชีวิตเพียงคนเดียว ที่ให้ทุกคนเข้าใจเขาผิด เขาเสียสละขนาดนี้ แล้วพวกเราจะทำเพื่อเค้าบ้างสักนิดไม่ได้เชียวเหรอ ขอได้ไหมเพื่องานนี้งานเดียวนะ มาช่วยกันหน่อย เพราะหอมคิดว่า ในไม่ช้านี้นายจะกลับมา เมื่อรักษาตัวเองจนหายดี ทีมเราก็ต้องรวมตัวกันให้ได้ เพื่อนาย ได้ไหมคุณโม จะให้หอมไหว้ก็ได้นะ”

“โอ๊ย ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอกครับ อีกอย่างคุณหอมก็แก่กว่าผมอีก จะมาไหว้คนที่อ่อนกว่าได้ยังไง”

   ทำให้แตงโมคิดหนัก เพราะยังโกรธเผด็จอยู่ที่ทำให้ปูนเจ็บในเรื่องของความรักและความรู้สึก แตงโมหันไปถามน้องสาวทั้งสองคน เพื่อขอแรงสนับสนุน

“เอาไหงหละแกสองคน โดยเฉพาะปูน ไหวไหม ถ้าไม่พร้อมพี่ก็ไม่ว่านะ ส่วนไอ้เตี๊ยแกก็ลองไปถามผัวแกดูว่าอนุญาตไหม งานนี้มันเสี่ยงนะ” หอมกับเนตรรอฟังคำตอบ ลุ้นระทึก จึงบิ๊วอารมณ์ต่อ เมื่อยังไม่ยอมตัดสินใจ

“แต่ถ้าไม่ยอมช่วย พวกฉันก็ไม่ว่านะ งานนี้บอกแล้วว่าไม่ได้บังคับ แค่มาขอความช่วยเหลือ ถ้าพวกคุณสามคนไม่ช่วย พวกฉันก็จะทำกันเพียง 6 คน” หอมยังพูดไม่ทันจบ แตงโมก็ยิงคำถามสวนทันที

“ทำไม 6 ก็คุณ 2 ทางโน้นอีก 2 แล้วอีก 2 มาจากไหน” แตงโมสงสัย

“เทพ พญายม กับ ธิดา พญายมไงคะ คุณโม คุณลืม 2 คนนั้นไปแล้วเหรอ ลูกศิษย์สองคนสุดท้ายของผู้การหนะ” เนตรสวนมาบ้าง

“เออ ใช่ ผมลืมนึกถึงสองคนนั่นไปเลย มีเหรอที่จะไม่มาช่วยเจ้านาย ขอโทษที ผมลืมไปจริงๆ”   

“ถ้าได้มาอีก 3 ก็เป็น 9 นี่ยังหาตัวอีกาดำไม่เจอนะ ถ้ามาก็ครบ 10 ส่วนนางแมวป่าก็เหมือนกัน ยังหาตัวไม่เจอเช่นกัน ถ้ามากันครบหมด 11 คน หอมว่า ทีมใหม่ของเราเอาพวกมันอยู่แน่” หอมมั่นใจมาก

“พวกเราทุกคนนึกไม่ออกว่านายจะไปอยู่ไหน เพราะทุกทีที่นายอยู่ ตำรวจรู้หมด ก็เลยไม่รู้ว่านายไปอยู่ไหน จึงต้องรอให้นายโผล่ออกมาเอง” เนตรกล่าวทิ้งท้าย ก่อนที่จะจากไป

“ไปเนตร ถือว่าเราทำดีที่สุดแล้ว” แล้วเทียนหอมก็เอามือแตะไหล่เนตรเดินคอตกออกไป

“เดี๋ยว” แตงโมเรียก เนตรและหอมจึงหยุด

“พวกเราสามคน ตกลงเข้าร่วมทีมด้วย” สามหน้ากากคนดี กลับใจ มาช่วยทีมพญายม เพราะเหตุผลอะไรไม่มีใครรู้ได้

“ขอบใจมากนะคุณโม เราสองคนจะไม่ลืมพระคุณของพวกคุณที่ได้ช่วยเราในครั้งนี้เลย ขอบใจจริงๆ”

   หอมกล่าวขอบคุณแล้วก็เดินยิ้มน้ำตาไหลออกไป ดีใจที่ความฝันของผัวตัวเองเป็นความจริงขึ้นมาแล้ว

%%%%%% ----- %%%%%%

   โบว์น้อยใจเผด็จจึงจากมา หลายวันที่ได้หนีความเจ็บมาอยู่ที่รีสอร์ทเล็กๆของเจ๊ดา เธอไม่เคยมีความสุขเลยสักวัน เมื่อเพ็ญและเกศินี กลับไปแล้ว เผด็จจึงบอกให้ผู้จัดการรีบโทรหาโบว์ด่วน

“จำไว้นะชื่นจิต ถ้าเธอทำไม่ได้ ไล่ออกสถานเดียว”

“โธ่นายเห็นใจชื่นหน่อยนะ อายุชื่นก็มากแล้วถ้าชื่นตกงาน แล้วครอบครัวชื่นจะทำยังไง นะนายนะ ชื่นขอร้องหละ”

“ไม่ ถ้าเธอทำไม่ได้ ฉันจะง้อเมีย แต่ถ้าเธอไม่มีความสามารถนำนายหญิงกลับมาได้ พวกเธอตกงานแน่ แต่ถ้าทำได้จะขึ้นเงินเดือนให้เอาไหม” มีเหรอที่จะไม่ทำ ไม่ตกงาน แถมได้เงินเดือนเพิ่ม ชื่นรีบโทรไปหาโบว์ทันที

   โบว์เห็นเป็นเบอร์แปลกๆไม่ใช่เบอร์ผัว ทีแรกก็ไม่กล้ารับ มันดังอยู่นาน ดับแล้วดับอีก

“ไม่รับหนะนาย” ชื่นจิตมองหน้าเผด็จ

“ก็โทรอีก โทรจนกว่าจะติด จำไว้ ตกงาน ตกงาน ท่องเอาไว้ เงินเดือนขึ้น เงินเดือนขึ้น”

“เอาวะ เพื่อครอบครัว กรรมของกรูแท้ๆ อีชื่นเอ๊ย”

“บ่นอะไร ชื่น” เผด็จแซว “ป่าวค่ะนาย” แล้วเธอก็โทรอีก โชคดีคราวนี้รับ ชื่นจิตดีใจมาก หันไปบอกเผด็จ “รับแล้ว”

“น้องบัวบูชาใช่ไหมค่ะ” เสียงสดใสมาเชียว

“ใชค่ะ จากไหนคะ” โบว์ตะโกนออกไป เพราะลมที่รีสอร์ทแรงมาก

“จำพี่ได้ไหมพี่ชื่นจิต ผู้จัดการรีสอร์ทของท่านผู้การหนะค่ะ”

“อ๋อค่ะ มีอะไรกับหนูเหรอคะพี่ ช่วยพูดดังๆด้วยนะคะ หนูไม่ค่อยได้ยินพี่เลย”

“ค่ะๆคือตอนนี้ เราต้องสั่งจ่ายเช็ค จำนวนมาก เป็นพิเศษ ด่วน แล้วนายไม่อยู่ติดต่อก็ไม่ได้เลย กลับไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน โทรไปที่บ้าน กรุงเทพ เขาก็บอกว่าท่านไม่ได้เข้าบ้าน ไปไหนไม่รู้ พี่ก็ลืมให้ท่านเซ็นต์ พี่รีบมากเลย ต้องใช้ภายใน วันสองวันนี้ ไม่งั้นพวกอาหารบนเกาะนี้และเงินเดือนพนักงาน ไม่ออกแน่ แล้วจะเอาอะไรทำให้ลูกค้าทานกันหละ”

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับหนูหละคะพี่ หนูไม่เกี่ยวอะไรกับที่นั่นซะหน่อย” โบว์ก็ตะโกนสู้กับเสียงธรรมชาติ

“เกี่ยวซิค่ะ เต็มๆเลย” ผจก.ยิ้มให้เผด็จ เลยให้อออกมาคุยข้างนอก นั่งตรงสวนแล้วเปิดโฟนที่มือถือด้วย เขาจะฟัง

“เกี่ยวตรงไหน หนูไม่เข้าใจ” โบว์ยังงงและสับสน

“ก็ นายเคยสั่งเอาไว้ว่า ถ้านายไม่อยู่ ให้น้องบัวบูชา มีอำนาจสามารถเซ็นต์สั่งจ่าย และตัดสินใจแทนท่านได้เลยค่ะคนเดียวเลย”

“เอ๊ย ทำไมหนูไม่รู้หละ คุณอาไม่เคยบอกอะไรหนูเลย หนูไม่เอา ถ้าพลาดอะไรขึ้นมา หนูก็ซวยซิ”

“โธ่นายหญิงขา นึกว่าช่วยพี่และพนักงานทุกคนในเกาะนี้ด้วยเถอะนะ”

“เดี๋ยวๆ พี่เรียกหนูว่าอะไรนะ นายหญิง โอ๊ย นี่มันอะไรกันหนูสับสนไปหมดแล้ว”

“ก็น้องเป็นเมียเจ้านาย พี่ก็ต้องเรียกน้องว่านายหญิงซิ”

   โบว์ตกใจที่ผจก.รู้ได้ยังไง “ไปใหญ่แล้วพี่ พี่เข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า ไม่ใช่หนู พี่จำผิดแล้ว โน้น คุณเพ็ญนภาอะไรนั่นต่างหาก”

“ไม่ผิดหรอกค่ะ” ชื่นจิต ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้โบว์กลับไปให้ได้ ไม่งั้นซวยแน่ ชีวิตนี้

“หึ ไม่ใช่หนู คนที่ท้องโย้ๆเดินไปเดินมาบนเกาะนั่นต่างหากเมียตัวจริงเค้า หนูไม่ใช่ แค่นี้นะที่นี่ลมแรงมาก หนูหูอื้อไปหมดแล้ว”

“ถ้าไม่เชื่อนายหญิงก็ต้องมาดูเอาเองแล้วกันว่าชื่อ กรรมสิทธิ์ถือครองเกาะนี้เป็นของใคร แต่ที่แน่ๆตอนนี้ นายหญิงต้องรีบมานะคะ ไม่งั้นพวกเราทุกคนในเกาะตกงานกันหมดแน่ เพราะไม่มีอาหารทำให้แขกทานแล้ว แค่มาเซ็นชื่อให้พี่ไม่ถึง 5 นาที ไม่ทราบว่าตอนนี้นายหญิงอยู่ที่ไหนคะ เห็นใจพวกเราลูกจ้างตาดำๆด้วยเถอะ พี่จะโกหกนายหญิงทำไม เซ็นต์เสร็จปุ๊บ นายหญิงจะไปไหนต่อพี่ก็จะไม่ว่าเลย” ชื่นจิตหันไปยิ้มกับเผด็จ รอฟังคำตอบ งานนี้เงินเดือนกรูขึ้นแน่ ชื่นจิตมั่นใจว่าได้ Sure

“เอาไงดีวะโบว์ ถ้าพี่เขาไม่ได้โกหก ก็เท่ากับว่า เราทำให้คนตกงานทั้งเกาะ แต่ถ้าเป็นแผนของผัวจะทำไง เอาไงดี”

“ว่าไงค่ะนายหญิงตอนนี้อยู่ไหนค่ะ เดี๋ยวพี่จะส่งฮอร์ไปรับเลย ตอนนี้”

“รีสอร์ทที่เมืองกาญจน์ค่ะ” โบว์หลุดปากออกไป เผด็จดีใจมาก “ Yes!! ” เขาตบไหล่ ชื่นจิต แล้วพูดเบาๆ

“เอาไปอีก 2 หมื่น ขอพิกัดเลย ด่วนเลยเร็ว” ชื่นจิตรีบเลยทันที  

“นายหญิงช่วยส่งพิกัดมาให้ด้วยนะ เดี๋ยวจะให้คนไปรับเดี๋ยวนี้เลย”

   แล้วโบว์ก็ส่งพิกัดมาให้ เผด็จเมื่อได้พิกัด จึงรีบไปเอาฮอร์ขึ้นและไปรับเมียทันที โบว์ยืนรอไม่ถึง 5 นาที มาเร็วมาก จากเกาะมาถึงเมืองกาญจน์ โบว์ยังไม่รู้ว่าเป็นเผด็จเพราะใส่หมวกคลุมอยู่ พอโบว์ขึ้นมานั่งข้างเขา ก็รีบกลับไปที่เกาะทันที

   พอฮอร์มาถึงเกาะ จอดสนิทโบว์ก็รีบวิ่งไปหา ชื่นจิต ผจก.ทันทีด้วยความเป็นห่วง

“ไหนค่ะพี่ จะให้หนูช่วยอะไร แต่ก่อนที่หนูจะเซ็นต์อะไรลงไปหนูขอดู ไอ้กรรมสิทธิ์อะไรที่พี่บอกให้หนูฟังก่อน”

   โบว์กลัวถูกหลอก แล้วชื่นจิต ก็ส่งใบถือกรรมสิทธิ์ผู้ถือครอง ส่งให้โบว์ดู

“มันก็เป็นชื่อเผด็จนี่” โบว์บอกให้ชื่นจิตฟัง

“ให้ดูที่กระดาษที่แนบมาด้วยค่ะนายหญิง มันเป็นสัญญาที่นายทำขึ้นไว้ตั้งนานแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 มกรา แล้วดูดีๆซิคะ”

   โบว์อ่านดูอย่างช้าๆมันเป็นวันที่เขาได้เธอเป็นเมียนั่นเอง นี่ก็ 3 เดือนเข้าไปแล้ว ในนั้นระบุว่า

“ขอโอนกรรมสิทธิ์นี้ให้กับ น.ส.บัวบูชา เพชรรัตน์ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม นี้เป็นต้นไป ถ้าข้าพเจ้า นาย เผด็จ รุจินานนท์ เป็นอะไรไปขึ้นมา เช่นเสียชีวิต หรือสูญหาย ลงชื่อ นาย เผด็จ รุจินานนท์ และเว้นที่ไว้ให้ น.ส.บัวบูชา เพชรรัตน์ เซ็นต์” โบว์น้ำตาซึมทันที“ป๊า” ทำให้โบว์รักผัวตัวเองมากขึ้น ที่กล้าให้ของขวัญวันปีใหม่ชิ้นใหญ่กับเธอขนาดนี้ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา โบว์นึกว่าที่นี่เป็นของเพ็ญ และเผด็จเกลียดเธอที่ไปหลอกลวงเขามาตลอด แต่เมื่อเธอรู้ความจริงว่า เธอคิดผิดมาตลอด โบว์จึงเสียมาก

“ป๊าหนูขอโทษ ป๊าอยู่ไหน หนูอยากขอโทษป๊าจริงๆ หนูมันโง่ หนูมันดื้อ หนูมันเอาแต่ใจตัวเอง ที่ไม่เคยฟังและเชื่อป๊าเลยสักครั้ง”

“แค่เซ็นต์เท่านั้นค่ะนายหญิง นะคะเซ็นต์เลยเซ็นต์ พี่จะได้มีเจ้านายคนใหม่เต็มตัวซะที”

   พอโบว์ยอมเซ็นต์ พนักงานทุกคนก็เย้ ดีใจ ไม่มีใครตกงานแล้ว และชื่นจิตก็ให้โบว์เซ็นต์เช็คสั่งจ่ายจริงๆ 10 ใบ ที่จริง ชื่นจิตผจก.ก็เซ็นต์ได้ แต่เผด็จต้องการที่จะให้โบว์ใจอ่อนยอมยกโทษให้กับเขา จึงยอมยกกรรมสิทธิ์เกาะนี้ให้เธอ แล้วเผด็จก็เดินออกมาจากในเงามืด โบว์อายเขินเลย เขาอ้าแขนรอรับเมียสุดที่รัก พนักงานทุกคนเชียร์ “ไปเลย ไปเลย”

   แล้วโบว์ก็เดินเข้าไปกอดสามี “ป๊าขอโทษนะ ยกโทษให้ป๊านะ” โบว์พยักหน้า น้ำตาซึม จะไม่ให้ร้องไห้ได้ยังไง ได้เกาะทั้งเกาะ แถมยังกิจการของผัวอีก แถมยังมีอำนาจคุมเกาะนี้คนเดียว ใครไม่ใจอ่อนก็บ้าแล้ว “บ้า ป๊าเนี่ย แผนเยอนักนะ”

“แล้วรักเปล่าหละ” เผด็จถาม “รัก มากด้วย” โบว์จูบปากเผด็จ

“ไม่งอนผัวแล้วนะ” เผด็จเอามือปาดผมที่หน้า ลมที่นี่ก็แรงเช่นกัน “ไม่แล้ว”

“ไป เราเข้าบ้านกัน” เผด็จจับมือทั้งสองของโบว์รวบมาไว้ที่มือเขา แล้วดึงขึ้นมาหอม โบว์โยกตัวขึ้นไปหอมแก้มทั้งสองข้างของสามี แล้วก็สวมกอดสามีสุดที่รัก “หนูรักป๊า มากที่สุดในโลกเลยนะ รู้ไหม” เผด็จก้มลงมาจูบที่หน้าผากโบว์

   แล้วทั้งสองคนก็พากันเข้าบ้านไปหาความสุขกันทันที หลังจากที่ไม่ได้มีความสุขด้วยกันมานานแรมเดือน แล้วจากนั้นเป็นต้นมา โบว์ก็มาบริหารงาน แทนเผด็จ ตัดสินใจทุกอย่าง ไม่ว่าจะวางแผน และจัดการ เผด็จ ยกทุกอย่างให้โบว์ทำหมด เพราะอยากให้โบว์มีความสุข ทดแทนกับสิ่งที่เคยทำผิดไปเมื่อครั้งที่แล้ว

   โบว์มีความสุขมาก เธอบริหารงานที่นี่ได้ดีจริงๆ มีไอเดียใหม่ๆจนลูกน้องทุกคนรัก เพราะเธอเป็นเจ้านายที่ดี ไม่ถือตัว กันเองกับลูกน้อง อยู่มาวันนึง โบว์เกิดหน้ามืด หมดแรงไปดื้อๆ จนพนักงานต้องมาช่วยเอายาดมมาให้ โบว์ไม่รู้ว่าตัวเองเริ่มตั้งครรภ์มีน้องมีทายาทให้กับเผด็จแล้ว เพราะพึ่งสัปดาห์กว่าๆเท่านั้นเอง หลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดเมื่อปลายเดือนมีนาคมแล้วไม่ได้คุม นี่อีกไม่กี่วันก็จะสงกรานต์แล้วแต่เธอไม่ได้คิดอะไร ทุกคนคิดว่านายหญิงคงจะทำงานหนักก็เลยโทรให้เผด็จมารับและกลับไปพักผ่อน

%%%%%% ----- %%%%%%

   ทับทิมไม่ได้สนใจชีวิตของสามีอีกเลยตั้งแต่เรื่องที่ป๋องทำตามสัญญาไม่ได้ ต่างคนก็ต่างอยู่ไป เหมือนคอนโดหรือห้องชุดยังไงยังงั้น เพราะบ้านหลังใหญ่มีหลายห้อง แต่ไม่ได้หนีกลับบ้านตัวเองอีกแล้ว เช้าก็ขับรถของตัวเองไปทำงาน เย็นก็ขับกลับ วันไหนอยากไปเที่ยวกับปูนก็ไป ทำตัวเหมือนโสด ไม่แคร์สามี นอนก็ไม่ให้นอนด้วย แยกห้องกันอยู่ไปเลยโดยปริยาย คนรับใช้ก็มี เงินก็คนละกระเป๋า สบายใจ ใครอยากทำอะไรก็ทำไป จนป๋องเริ่มอึดอัด คิดว่าจะมีความสุขแต่กลับหนักกว่าเดิม กะอีแค่เรื่องไม่เป็นเรื่อง ไม่รู้จะทำยังไง ดักรอเจอบางวันก็ไม่กลับบ้าน โทรไปก็ไม่รับสาย หนักๆเข้าบล๊อกเบอร์เลย พอใช้ไลน์ ก็ไม่ตอบเพราะบล๊อก

+++++ ****** +++++

   อย่าว่าแต่โบว์เวียนหัวเลย เนตรก็เริ่มมีอาการเช่นกันเพราะเธอเสียตัวก่อนโบว์ประมาณ 2 อาทิตย์ จนเทียนหอมสงสัยว่าเป็นอะไร บางครั้งก็อ๊วกและอาเจียน และสองคนนี้ดันหมดเมนต์ใกล้ๆกันอีก วันที่ได้กับเผด็จ เป็นวันที่ไข่สุกพอดี โดยที่ตัวของสองสาวเองก็ไม่รู้ตัว จะโชคดีหรือโชคร้ายของทั้งสองสาวนะที่มาตั้งท้องลูกของเผด็จพร้อมๆไล่ๆกัน

“เป็นอะไรหนะเนตร พี่เห็นแกเข้าห้องน้ำบ่อยมาก ตั้งแต่ที่ฟิตเนตแล้ว แดดวันนี้ก็ไม่แรงนี่”

“ไม่มีอะไรหรอกพี่สงสัยพักผ่อนน้อย” แล้วก็อ๊วกอีก เนตรไม่ไหวแล้วจึงรีบเข้าห้องน้ำ

   พอออกมาหอมหยิบผ้าขนหนูให้ และเอายาดมมาให้

“สงสัยโรคกระเพาะกำเริบหนะพี่ หนูไม่ได้กินข้าวกินอาหารตามเวลา ยาก็ไม่ได้กินหมอให้มาหนูก็ลืม”

“เออ แล้วจะเอาอะไรก่อนไหม นมอย่ากินเชียวนะแก เท่าที่พี่รู้มา คนที่เป็นโรคกระเพาะทานไม่ได้ งั้นเดี๋ยวพี่ทำข้าวต้มให้ทานก็แล้วกัน รออยู่ตรงนี้” แล้วหอมก็พาเนตรมานั่งที่โซฟา เนตรนั่งดมยาดมเอียงหัวพิงพนัก เอามือซ้ายจับหน้าผาก

..... +++++ .....

   หมอตัดสินใจมาหาม่านมุกอีกครั้ง เพื่อคุยเรื่องแต่งงาน < ติ๊งหน่องๆ > เพื่อนม่านมุกมาเปิดประตู

“แฟนแกมาแหนะมุก ขอโทษนะคะ ขอตัวไปทำงานก่อน” แล้วเพื่อนก็ออกไป แล้วหมอก็เดินเข้ามานั่งในห้อง

“มาทำไม มุกว่าเราพูดกันรู้เรื่องแล้วนะ แล้วหมอจะมาทำไมอีก”

“แต่ผมอยากให้มุกคิดดูให้ดีๆอีกครั้งนะ ผมเองก็ไม่อยากให้แฟนตัวเองมาเสี่ยงอันตรายแบบนี้ ผมเป็นห่วง”

“แต่มุกรักงานนี้ หมอก็รู้ตอนที่คบกันแรกๆไหนหมอบอกว่ารับได้ไง”

“ก็ตอนนั้นผมไม่นึกว่ามันจะรุนแรงมากขึ้นขนาดนี้ ดูซิขนาดคนดีๆอย่างผู้การ ยังกลายเป็นผู้ร้ายไปได้เลย”

“หมอไม่รู้อะไรก็อย่าพูดเลยเอาเป็นว่า มุกขอยืนยันคำตอบเดิมนะ ถ้ามันทำให้หมอตัดสินใจยากนะ งั้นเราก็เลิกกัน Ok นะ เชิญค่ะ”

   ม่านมุกประกาศลั่นต่อหน้าแล้วก็ไล่หมอกลับทันที “ไม่นะมุก ผมไม่เลิก และไม่กลับด้วย”

“ไม่กลับใช่ไหม ได้ ถ้างั้นมุกไปเอง” แล้วเธอก็เดินไปหยิบโทรศัพท์กระเป๋าสตางค์ เดินออกไปเลย ปล่อยให้หมอยืนอยู่คนเดียว

***** ฿฿฿฿฿ *****

  ต้นกล้า ยังไปไม่ถึงไหน เพราะ ตำรวจตรวจเข้มมาก

“เอาไงดีวะ ทำไมทางลงใต้ ด่านเยอะนักวะช่วงนี้ ขนาดหลบมาทางเล็กแล้วนะ”

   ต้นกล้าหลบอยู่หลังต้นไม้ เห็นรถกระบะ 6 ล้อเล็ก ขนพวกกระดาษขายของเก่ามาจอดต่อแถวพอดี จึงรีบแอบขึ้นหลังรถคันนั้นทันที พอรถเลื่อนไปถึงด่าน “ไงลุง วันนี้ได้เยอะไหม”

“ก็พอประมาณเหมือนทุกวัน” ตำรวจกำลังเดินตรวจเดินไปหลังรถ จ่าตะโกนบอกพวกหมู่ทั้งหลาย

“ไม่ต้องตรวจหรอกคันนี้ ลุงแกผ่านทุกวัน ไปได้เลยลุง ขอให้ได้เยอะๆนะ”

   แล้วทั้งหมดก็หันไปตรวจคันอื่น ต้นกล้าโชคดีที่เลือกถูกคัน เขาเลยนั่งพักผ่อนและเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ เวลาผ่านไปเกือบ ครั้งชั่วโมงลุงกลับมาถึงบ้าน มาเปิดหลังรถเพื่อจะเอาของลง “เอ๊ย..ใครวะ พ่อหนุ่ม เอ็งเป็นใครเนี่ย แล้วขึ้นมาตอนไหน ทำไมมาหลับอยู่ที่นี่ได้” ต้นกล้าตื่นมา ยกมือไหว้ ขอโทษลุง

“ขอโทษด้วยครับลุง ผมตกรถตังหมด พอเห็นรถลุงก็เลยแอบขึ้นมา ผมไม่ได้มีเจตนามาขโมยของลุงจริงๆนะ”

“เออๆ ไม่เป็นไร ของพวกนี้ขโมยไปก็ทำอะไรไม่ได้ ว่าแต่แกเถอะ หิวไหมหละ มะมะ ลงมาทานอะไรก่อน แต่เอ..ทำไมหน้ามันคุ้นๆนะ ข้าว่าข้าเคยเห็นเอ็งที่ไหนนะ จำไม่ได้วะ ช่างเถอะ มามา มาทานข้าวกัน สงสัยท่าทางจะไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน”

   แล้วต้นกล้าก็รอดตายมีที่หลบและมีอาหารทานประทังชีวิตต่อไป

>>>>> ***** <<<<<

   อ้อมกับปริ๊นซ์นับวันยิ่งหวานขึ้นโดยไม่รู้ตัว จนปริ๊นซ์เผลอใจไม่ไหวล่วงเกินอ้อมไป ทำให้อ้อมโกรธที่ปริ๊นซ์ไม่ทำตามสัญญา

“อ้อมของพี่ ทำไมน่ารักขึ้นทุกวัน พี่พี่ ทนไม่ไหวแล้ว”

   ปริ๊นซ์ หันไปหอมแก้มซ้ายและจู่โจมอ้อมจนเธอตั้งตัวไม่ติด เอามือสองข้างจับมืออ้อมดันขึ้นไปที่หัว แล้วดันตัวลงไปที่โซฟา จมูกก็เริ่มไซร์ซอกคอจากซ้ายไปขวา อ้อมพยายามดิ้นมือทั้งสองข้างก็ถูกปริ๊นซ์กำไว้แน่น สักพักปริ๊นซ์ก็ปล่อยมือแล้วเลื่อนมาแกะกระดุมเสื้อของอ้อมออกอย่างรวดเร็ว อ้อมพยายามเอามือทุบหลังปริ๊นซ์ ปากก็พูด

“อย่านะพี่ พี่ปริ๊นซ์” ปริ๊นซ์ห้ามใจไม่ได้ เมื่ออยู่กับอ้อมด้วยกันสองต่อสอง ขณะที่ดูหนังกันอยู่ในห้องที่สำนักงาน วันนี้วันเสาร์สำนักงานจึงเงียบ แตงโมก็ออกไปทำงานข้างนอกเขาจึงเฝ้าสำนักงานคนเดียว

“พี่ ปล่อยหนูนะ อย่าพี่ปริ๊นซ์ อย่านะ” ปริ๊นซ์ไม่สนใจ ดึงเสื้อเชิ้ตแบะออก แล้วก็ดันเสื้อในขึ้นจนเห็นเต้าของอ้อม

   ปริ๊นซ์เอาหน้าลงไปซุกที่ร่อง เอาจมูกและปากโลมเล้าไปที่เต้าทั้งสองของอ้อม เอามือมาขยำ จนอ้อมต้องรวบรวมแรงเท่าที่มีอยู่ผลักปริ๊นออกไปจากตัวเองกระเด็นออกไปและเดินตามไปตบหน้าปริ๊นซ์อย่างแรงจนเรียกสติปริ๊นซ์ กลับมาได้

   อ้อมรีบแต่งตัวและวิ่งออกจากห้องไปทันที ปล่อยให้ปริ๊นซ์นั่งฝันค้างอยู่ที่พื้น อ้อมเกือบเสียตัวให้กับปริ๊นซ์โดยไม่ได้ตั้งใจ

****** ----- *****

   แตงโมหลังจากหาข่าวเรียบร้อย ก็หาโอกาสมาคุยกับปูนอีกครั้งหลังจากที่ตอบตกลงยอมร่วมมือกับทีมใหม่ของหอม

“ทำไมทำหน้าแบบนั้นหละปูน ถ้าโกรธพี่ที่ตอบตกลงเรื่องรวมทีมกับคุณหอม ก็บอกพี่ได้นะพี่จะได้ไปยกเลิก”

“เปล่าหรอกพี่” แตงโม ไม่เข้าใจ

“ถ้าไม่ใช่เรื่องนั้นแล้วเรื่องอะไร อย่าบอกนะว่าเรื่องผู้การ” ปูนพยักหน้า

“ทำไมหละ ไหนบอกว่าตัดใจจากเค้าแล้วไง”

>>>>>>>>> ********** <<<<<<<<<<

โปรดติดตามตอนต่อไปใน ตอนที่ 42 .. “ เวลาไม่เคยเดินถอยหลัง ” 

ตอนที่ 41 .. “ กลับใจ ”

นิยาย แนว อาชญากรรม และนักสืบ (Detective and Crime Novel) / สืบสวนสอบสวน (Suspense) / Action

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.