บทที่ 51: ชีพจรแห่งนคร
ความเงียบ... คือสิ่งแรกที่กลับคืนสู่ห้องควบคุมของบ่อหมักที่ 5
เสียงสัญญาณเตือนภัยที่เคยดังระงมจนแสบแก้วหูได้เงียบสนิทลงแล้ว เหลือเพียงเสียงฮัมที่นุ่มลึกและสม่ำเสมอของระบบที่กลับมาทำงานอย่างมีเสถียรภาพ ไฟฉุกเฉินสีแดงฉานได้ดับลง ถูกแทนที่ด้วยแสงไฟปฏิบัติการสีขาวนวลที่สาดส่องให้เห็นภาพความโกลาหลที่เพิ่งจะผ่านพ้นไป
ดร. อรรถ ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ทำงานของเขาอย่างหมดแรง อะดรีนาลีนที่เคยสูบฉีดทั่วร่างได้เหือดหายไป ทิ้งไว้เพียงความเหนื่อยล้าที่กัดกินไปถึงกระดูก เขายกมือที่สั่นเทาขึ้นมาลูบใบหน้าที่เปียกชื้นไปด้วยเหงื่อเย็นๆ การเดิมพันที่บ้าคลั่งที่สุดในชีวิตของเขา... มันได้ผล
ดร. พลอย ยืนเกาะอยู่ที่แผงวิเคราะห์โฮโลแกรม ดวงตาของเธอเบิกกว้างและเป็นประกายราวกับเด็กที่เพิ่งจะได้เห็นปาฏิหาริย์เป็นครั้งแรก เธอกำลังจ้องมองภาพจำลองของจุลินทรีย์สายพันธุ์ใหม่ที่กำลังทำงานอย่างกลมเกลียวในแท็งก์ด้วยความหลงใหล "ดูสิคะ" เธอกระซิบออกมา "มันสมบูรณ์แบบ... มันคือชีวิตรูปแบบใหม่ที่เราสร้างขึ้น"
มีเพียง ดร. เฉิน ที่ยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่กลางห้อง เขายืนกอดอก จ้องมองไปยังกราฟข้อมูลที่บัดนี้กลับมาเป็นสีเขียวทั้งหมดด้วยสายตาที่ซับซ้อนและยากจะอ่านออก เขาไม่ได้แสดงความยินดี แต่ก็ไม่ได้เกรี้ยวกราดอีกต่อไป มันคือสายตาของนักปราชญ์ผู้ยึดมั่นในตำรามาทั้งชีวิต แต่เพิ่งจะถูกบังคับให้ยอมรับว่าโลกภายนอกนั้นมีความจริงบทใหม่ที่ตำราของเขาไม่เคยกล่าวถึง
"เราโชคดี" เขาพูดขึ้นในที่สุด ทำลายความเงียบ "แค่ครั้งนี้เท่านั้น"
"มันไม่ใช่โชคหรอกค่ะ ดร. เฉิน" พลอยหันมายิ้มให้เขา "มันคือข้อมูล"
"ข้อมูลที่เกิดจากการกระทำที่ไร้ซึ่งความรับผิดชอบ" เขาสวนกลับ แต่ในน้ำเสียงกลับไม่มีความเกรี้ยวกราดเหมือนเคย "ข้าต้องทำรายงานเรื่องนี้... เรื่องการละเมิดโปรโตคอล 7-Delta และการใช้พลังงานสำรองโดยไม่ได้รับอนุญาต... สภาต้องรับรู้ถึงความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในวันนี้"
"ผมจะรับผิดชอบทั้งหมดเองครับ" อรรถพูดขึ้น เสียงของเขาแหบแห้ง "แต่ก่อนอื่น... เราต้องทำให้ระบบกลับมาเสถียร 100% ก่อน"
เขากำลังจะลุกขึ้นเพื่อเริ่มกระบวนการปรับเทียบค่าต่างๆ แต่แล้ว... สัญญาณแจ้งเตือนเล็กๆ ก็ปรากฏขึ้นที่มุมจอโฮโลแกรมหลัก มันไม่ใช่สัญญาณเตือนภัย แต่เป็น "บันทึกช่วยจำ" (Memo) ที่ถูกส่งมาจากแผนกอื่น พร้อมกับหัวข้อที่ดูไม่น่าจะเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขาเลย
"ถึงทุกหน่วยงาน: จาก DIAS of Applied Chronometry, ตรวจพบความคลาดเคลื่อนเชิงเวลาของระบบนาฬิกาหลัก (Systemic Chrono-Deviation) ค่าเบี่ยงเบน -0.0013 นาโนวินาที กำลังอยู่ในระหว่างการสืบสวนหาสาเหตุ"
"0.0013 นาโนวินาที?" พลอยทวนคำพลางขมวดคิ้ว "ใครจะไปสนใจความคลาดเคลื่อนที่น้อยขนาดนั้นกัน?"
"คนที่หน้าที่ของเขาคือการทำให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ" อรรถตอบ เขารู้จักชื่อเสียงของแผนกมาตรวิทยาเชิงเวลาดี "แต่แปลก... ความผิดพลาดระดับนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นได้เลย ระบบนาฬิกาอะตอมของเราควรจะเที่ยงตรงไปอีกหลายล้านปี"
"นี่แหละ!" ดร. เฉิน พูดแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเหมือนคนที่ค้นพบหลักฐานชิ้นสำคัญ "นี่คือสิ่งที่ข้าพยายามจะบอก! ความโกลาหลมันได้เริ่มแทรกซึมเข้ามาในระบบของเราแล้ว! มันไม่ได้เริ่มต้นที่บ่อหมักนี่... แต่มันได้เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่พวกเขายอมให้ 'ความเป็นมนุษย์' ที่คาดเดาไม่ได้เข้ามาปะปนกับตรรกะที่สมบูรณ์แบบของเรา!"
เขาชี้ไปยังข้อความแจ้งเตือนนั้น "เรื่องนี้... ใหญ่กว่าปัญหาของเราในตอนนี้เสียอีก อรรถ... เราต้องเข้าไปในเมือง ไปที่ศูนย์บัญชาการ รายงานเรื่องของเรา และหาคำตอบเรื่องนี้ให้ได้ ก่อนที่ 'รอยร้าว' เล็กๆ นี่จะทำให้กำแพงทั้งหมดพังทลายลงมา"
การเดินทางจากเขต 7G เข้าสู่ใจกลางมหานครนั้นเปรียบเสมือนการเดินทางจากห้องเครื่องจักรที่อึกทึกขึ้นมาสู่ห้องนั่งเล่นที่ดูเหมือนจะสงบสุข พ็อดขนส่งสาธารณะเคลื่อนที่ไปตามท่อโปร่งใสด้วยความเร็วสูง เผยให้เห็นภาพสถาปัตยกรรมอันงดงามของดุษฎีนครที่อาบไล้ด้วยแสงตะวันยามสาย แต่สำหรับสายตาที่ถูกฝึกมาให้มองหารอยร้าวในระบบของ ดร. เฉิน, ดร. อรรถ และ ดร. พลอย แล้ว... การเดินทางครั้งนี้กลับเต็มไปด้วยความน่ากังวลที่ซ่อนอยู่ในรายละเอียด
"เห็นไหม?" ดร. เฉิน พูดขึ้นเป็นคนแรก เขาไม่ได้ชื่นชมทิวทัศน์ แต่กลับจ้องมองไปยังพ็อดอีกคันที่วิ่งสวนไปในท่อคู่ขนาน "การเคลื่อนที่ของมันไม่ราบรื่น มันมีการ 'กระตุก' เล็กน้อยในระดับไมโครวินาทีตอนที่มันผ่านช่วงโค้ง... เหมือนระบบนำร่องแม่เหล็กไฟฟ้ากำลังคำนวณค่าผิดพลาดแล้วต้องคอยปรับแก้ตัวเองตลอดเวลา"
"ฉันก็รู้สึกค่ะ" พลอยเสริม เธอวางมือลงบนผนังของพ็อดที่กำลังเคลื่อนที่ "แรงสั่นสะเทือนมันไม่สม่ำเสมอ มันมีคลื่นความถี่สูงแทรกเข้ามาเป็นระยะๆ เหมือนเสียง 'กระซิบ' ที่น่ารำคาญใจ"
อรรถดึงข้อมูลการเดินทางแบบเรียลไทม์ขึ้นมาดูบนแท็บเล็ตของเขา "ระบบรายงานว่าทุกอย่างปกติ" เขากล่าว "แต่เวลาที่คาดว่าจะถึงที่หมาย... มันคลาดเคลื่อนไปจากค่ามาตรฐาน +2.7 วินาทีแล้ว ทั้งๆ ที่เราเพิ่งเดินทางมาได้แค่ครึ่งทาง"
สำหรับคนทั่วไป เวลาสองวินาทีอาจไม่มีความหมายอะไรเลย แต่สำหรับพวกเขา มันคือสัญญาณของโรคร้ายที่กำลังก่อตัวขึ้นในเส้นเลือดของเมือง มันคือความไร้ประสิทธิภาพ คือความไม่แน่นอน คือทุกสิ่งที่อารยธรรมของพวกเขาพยายามจะกำจัดทิ้งมาตลอดสามศตวรรษ
เมื่อพ็อดเดินทางมาถึงสถานีกลางใจกลางเมือง พวกเขาก็ก้าวออกมาสู่โลกที่แตกต่างจากเขต 7G อย่างสิ้นเชิง ที่นี่อากาศบริสุทธิ์จนแทบจะไร้กลิ่น แสงสีขาวนวลสาดส่องลงบนพื้นโลหะขัดเงาที่ไร้ฝุ่นแม้แต่อนุภาคเดียว เหล่าด็อกเตอร์ในชุดทำงานสีขาวบริสุทธิ์เดินสวนกันไปมาอย่างเงียบเชียบและเป็นระเบียบ ทุกอย่างดู "ปกติ" อย่างน่าขนลุก
แต่ ดร. เฉิน กลับหยุดยืนนิ่งอยู่กลางทางเดิน เขากำลังเงยหน้ามอง "นาฬิกาแห่งนคร" โฮโลแกรมทรงกลมขนาดยักษ์ที่ลอยเด่นอยู่ใจกลางโถงสถานี
"ดูนั่นสิ" เขากล่าวเสียงเรียบ แต่แฝงไว้ด้วยความตื่นตระหนกที่พยายามสะกดกลั้นไว้
อรรถกับพลอยมองตาม... และพวกเขาก็เห็นมัน
ตัวเลขดิจิทัลบนนาฬิกาที่ควรจะเปลี่ยนอย่างราบรื่นและพร้อมเพรียงกัน... กลับมีการ "ฉีกขาดของภาพ" (Screen Tearing) เกิดขึ้นในระดับที่ต้องสังเกตอย่างตั้งใจจึงจะเห็น มันคือเสี้ยววินาทีที่ตัวเลขเก่าและตัวเลขใหม่ปรากฏขึ้นซ้อนทับกัน ก่อนที่ระบบจะแก้ไขตัวเองได้ทัน... มันคืออาการ "สะดุด" ของหัวใจที่ควบคุมเวลาของทั้งมหานคร
"นี่ไม่ใช่แค่ 'รอยร้าว' แล้ว" อรรถพึมพำกับตัวเอง "แต่โครงสร้างทั้งหมดกำลังจะถึงจุดแตกหัก"
"เราต้องรีบไปที่ DIAS of Algorithmic Governance" ดร. เฉิน กล่าวอย่างร้อนใจ "เรื่องนี้... ใหญ่กว่าปัญหาที่บ่อหมักของเราหลายร้อยเท่า"
พวกเขารีบเร่งฝีเท้าไปยังอาคารที่เคยเป็นศูนย์บัญชาการของโอราเคิล ตึกระฟ้าที่สร้างจากโลหะชีวภาพซึ่งบิดตัวเสียดฟ้าดั่งเกลียว DNA แต่เมื่อไปถึง พวกเขากลับถูกขวางไว้ที่โถงต้อนรับโดยหุ่นยนต์ประชาสัมพันธ์
"ขออภัยค่ะ" เสียงสังเคราะห์ที่ไร้อารมณ์ดังขึ้น "ขณะนี้คณะกรรมการเฉพาะกิจกำลังอยู่ระหว่างการประชุมเรื่อง 'การจัดสรรทรัพยากรสำหรับภารกิจกู้ภัยทีมอัลฟ่า' กรุณาทำการนัดหมายล่วงหน้าและกลับมาใหม่ในภายหลัง"
"นี่มันเรื่องฉุกเฉินระดับสูงสุด!" ดร. เฉิน เถียงกับหุ่นยนต์อย่างหัวเสีย "ระบบของเมืองกำลังจะล่มสลายนะ!"
"ข้อมูลของท่านไม่ได้ถูกจัดอยู่ในหมวด 'ฉุกเฉินระดับสูงสุด' ค่ะ" หุ่นยนต์ตอบกลับอย่างเย็นชา "กรุณาทำการนัดหมาย..."
ความไร้ประสิทธิภาพของระบบราชการที่เพิ่งจะถือกำเนิดขึ้นใหม่กำลังจะทำให้พวกเขาบ้าตาย และในขณะที่ ดร. เฉิน กำลังจะระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างเต็มที่นั้นเอง... อรรถก็สังเกตเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนอยู่ไม่ไกล... เธอกำลังเถียงกับหุ่นยนต์ประชาสัมพันธ์อีกตัวหนึ่งด้วยท่าทีที่ทั้งสุภาพและสิ้นหวังไม่แพ้กัน... และในมือของเธอก็คือแท็บเล็ตที่แสดงกราฟของคลื่นเวลาที่ซับซ้อน... กราฟแบบเดียวกับที่เขาเคยเห็นในเอกสารแจ้งเตือนเมื่อเช้านี้...
ดร. เฉิน กำลังจะระเบิดอารมณ์ใส่หุ่นยนต์ประชาสัมพันธ์ที่ไร้ความรู้สึกเป็นรอบที่สาม แต่สายตาของอรรถกลับจับจ้องไปยังผู้หญิงคนนั้น เขาสะกิด ดร. พลอยเบาๆ "นั่น... ดร. หมิง จากแผนกมาตรวิทยาเชิงเวลา"
พลอยมองตาม "อ๋อ 'ท่านหญิงแห่งเวลา' น่ะเหรอคะ ได้ยินว่าเธอเป็นคนที่เที่ยงตรงยิ่งกว่านาฬิกาอะตอมซะอีก"
ภาพที่เห็นตรงหน้าคือ ดร. หมิง (Dr. Ming) หญิงสาววัย 24 ปี ที่ดูเหมือนหลุดออกมาจากสมการคณิตศาสตร์ที่สมบูรณ์แบบ เธอยืนอยู่เบื้องหน้าหุ่นยนต์อีกตัวด้วยท่วงท่าที่นิ่งสงบแต่กลับแผ่แรงกดดันที่น่าประหลาด ผมบ๊อบสีดำขลับของเธอถูกตัดตรงราวกับใช้เลเซอร์ ไม่มีเส้นผมแม้แต่เส้นเดียวที่หลุดออกมาจากแนวที่สมบูรณ์แบบ ชุดทำงานสีขาวของเธอไม่มีรอยยับแม้แต่น้อย แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือดวงตาของเธอ มันไม่ได้แค่เฉียบคม แต่กลับเคลื่อนไหวสแกนสภาพแวดล้อมอยู่ตลอดเวลาอย่างรวดเร็วและเป็นระบบ ราวกับกำลังวัดระยะ, คำนวณมุม และประมวลผลข้อมูลทุกอย่างที่มองเห็นให้กลายเป็นตัวเลข
"ดิฉันไม่ได้ต้องการจะ 'นัดหมาย'" เสียงของ ดร. หมิง ดังขึ้น เรียบเฉยแต่เฉียบขาด "ดิฉันกำลังรายงาน 'ความล้มเหลวเชิงโครงสร้าง' ของระบบเวลาหลัก มันคือสถานการณ์ฉุกเฉินระดับแกมม่า"
"ข้อมูลของท่านไม่ได้ถูกจัดอยู่ในหมวด 'ฉุกเฉินระดับแกมม่า' ค่ะ" หุ่นยนต์ตอบกลับด้วยตรรกะเดิมๆ
อรรถตัดสินใจเดินเข้าไปหา "ขอโทษที่รบกวนครับ ดร. หมิง" เขาเริ่มต้นอย่างสุภาพ "ผม ดร. อรรถ จากเขต 7G พอดีผมเห็นบันทึกช่วยจำของคุณเรื่องความคลาดเคลื่อนทางเวลา..."
ดร. หมิง หันขวับมาทางเขาทันที ดวงตาของเธอสแกนร่างของอรรถตั้งแต่หัวจรดเท้าในเวลาไม่ถึงหนึ่งวินาที "คุณเข้าใจในความรุนแรงของมันงั้นรึ ดร. อรรถ?" เธอถามกลับโดยไม่รอคำตอบ "นี่ไม่ใช่แค่ 'ความคลาดเคลื่อน' แต่มันคือการล่มสลายของ 'ภาวะธำรงดุลทางเวลา' (Temporal Homeostasis) ของทั้งระบบ! ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานในการซิงโครไนซ์ระบบของเราควรจะอยู่ที่ศูนย์ แต่นี่มันเบี่ยงเบนไปถึง 0.0013 นาโนวินาที และมันเกิดขึ้น 'ซ้ำๆ' อย่างมีรูปแบบ! มันคือ 'การกระเพื่อมของนาฬิกาควอนตัม' (Quantum Clock Jitter) ที่ไม่ทราบสาเหตุ!"
"ถ้าเราไม่สามารถเชื่อมั่นใน 'วินาที' ที่เป็นหน่วยวัดพื้นฐานที่สุดได้" เธอกล่าวต่อด้วยความเกรี้ยวกราดที่เยือกเย็น "ข้อมูลทุกอย่าง... ตั้งแต่การขนส่งไปจนถึงการสังเคราะห์โปรตีน... ก็จะกลายเป็นข้อมูลขยะทั้งหมด! เมืองนี้กำลังป่วยจากรากฐาน และไม่มีใครสนใจเลย!"
"ปัญหาแค่หลักนาโนวินาทีเนี่ยนะ!" ดร. เฉิน ที่เดินตามเข้ามา ตะคอกขึ้นอย่างหมดความอดทน "นี่คุณหนู! ทางเรากำลังเจอปัญหาที่ 'บ่อหมักชีวภาพ' กำลังจะระเบิดจนอาจจะทำให้คนทั้งเขตตายได้! นั่นคือปัญหาที่จับต้องได้! ไม่ใช่ตัวเลขทศนิยมในจินตนาการของเธอ!"
ดร. หมิง หันไปจ้อง ดร. เฉิน ด้วยสายตาที่เย็นเยียบ "ท่านกำลังพูดถึง 'อาการป่วย' แต่ดิฉันกำลังพูดถึง 'สาเหตุ' ค่ะ ท่านด็อกเตอร์ ถ้าเวลาซึ่งเป็นแกน X ของทุกสมการในจักรวาลนี้เกิดความไม่แน่นอนขึ้นมา 'การระเบิด' ที่ท่านกังวลมันก็เป็นเพียงผลลัพธ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว การแก้ปัญหาที่ปลายเหตุมันก็เหมือนกับการกินยาแก้ปวดเพื่อรักษาเนื้องอกในสมองนั่นแหละค่ะ!"
"เนื้องอกในสมองรึ!" พลอยที่ทนฟังไม่ไหวอีกต่อไป ก้าวเข้ามาในวงสนทนา "สิ่งที่เกิดขึ้นในบ่อหมักของเราไม่ใช่ 'เนื้องอก' แต่มันคือ 'การวิวัฒนาการ' ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน! มันคือ 'คุณสมบัติอุบัติใหม่' (Emergent Properties) ที่อาจจะเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหาพลังงานของเมืองนี้ก็ได้!"
"คุณสมบัติอุบัติใหม่ที่เกิดจากความโกลาหล ก็ยังคงเป็นความโกลาหล" ดร. หมิง สวนกลับทันที "มันคือตัวแปรที่คาดเดาไม่ได้ซึ่งกำลังทำให้ระบบที่เคยสมบูรณ์แบบต้องเสียสมดุล และความคลาดเคลื่อนทางเวลานี่ก็คือหลักฐาน!"
"บางทีระบบที่ 'สมบูรณ์แบบ' เกินไปต่างหากที่เป็นปัญหา!" พลอยเถียงกลับ "มันเปราะบางเกินไปจนรับมือกับ 'ชีวิต' ที่แท้จริงไม่ได้!"
การปะทะกันทางความคิดได้ระเบิดขึ้นกลางโถงต้อนรับที่เคยเงียบสงบ มันคือสงครามที่ไร้สาระอย่างที่สุดในสายตาของคนนอก...
ดร. หมิง กำลังเถียงเรื่องความล้มเหลวของ "เวลา" ในระดับควอนตัม...
ดร. เฉิน กำลังเถียงเรื่องหายนะทางกายภาพที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมง...
และ ดร. พลอย กำลังเถียงเรื่องโอกาสในการค้นพบทางชีววิทยาครั้งประวัติศาสตร์...
พวกเขาทั้งสามคนต่างพูดถูกในมุมของตัวเอง ต่างก็พยายามจะช่วยเมืองในแบบของตัวเอง แต่กลับไม่สามารถสื่อสารกันได้เลยแม้แต่น้อย... พวกเขากำลัง "หวด" กันด้วยทฤษฎีและข้อมูลจากโลกคนละใบ โดยมีอรรถยืนอยู่ตรงกลาง... พยายามจะหาทางเชื่อมต่อจุดที่ดูเหมือนจะไม่มีวันมาบรรจบกันได้... ท่ามกลางเสียงประกาศที่ไร้อารมณ์ของหุ่นยนต์ประชาสัมพันธ์ที่ยังคงดังซ้ำไปซ้ำมา...
"กรุณาทำการนัดหมายล่วงหน้า..."
เสียงสังเคราะห์ที่ไร้อารมณ์ของหุ่นยนต์ประชาสัมพันธ์ดังซ้ำเป็นครั้งที่สิบ แต่ไม่มีใครสนใจมันอีกต่อไปแล้ว โถงต้อนรับที่เคยเงียบสงบของ DIAS of Algorithmic Governance บัดนี้ได้กลายเป็นเวทีโต้วาทีที่ร้อนระอุที่สุดในรอบหลายศตวรรษ มันคือการปะทะกันของสามขั้วความคิดที่ดูเหมือนจะไม่มีวันมาบรรจบกันได้
"ท่านไม่เข้าใจ!" ดร. หมิง กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ความเยือกเย็นที่สมบูรณ์แบบของเธอเริ่มปรากฏรอยร้าว "ปัญหาของดิฉันไม่ใช่เรื่องของ 'ประสิทธิภาพ' แต่มันคือเรื่องของ 'ความเป็นจริง' พื้นฐาน! ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป สอนเราว่าเวลาและอวกาศเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกัน การที่ 'เวลา' ของทั้งเมืองเกิดการกระเพื่อมอย่างมีนัยสำคัญ มันอาจจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความไม่เสถียรของสนามแรงโน้มถ่วงที่เราใช้เป็นแหล่งพลังงาน! บ่อหมักของท่านอาจจะระเบิด... แต่ถ้าทฤษฎีของดิฉันถูกต้อง... เมืองทั้งเมืองอาจจะถูก 'ลบ' ออกไปจากสมการแห่งกาลอวกาศได้เลย!"
"ทฤษฎีเพ้อฝัน!" ดร. เฉิน ตะคอกกลับอย่างไม่ยอมแพ้ "เจ้ากำลังเอาทฤษฎีระดับจักรวาลมาปนกับปัญหาทางวิศวกรรมที่อยู่ตรงหน้า! สิ่งที่ข้ากำลังเผชิญคือ 'ปฏิกิริยาเคมีที่ควบคุมไม่ได้' (Runaway Chemical Reaction) ที่มีตัวแปรชัดเจนและผลลัพธ์ที่คำนวณได้! เรามีแรงดัน อุณหภูมิ และอัตราการขยายตัวที่จับต้องได้! เราสามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วย 'โปรโตคอล' และ 'การกระทำ' ที่เด็ดขาด! ไม่ใช่การมานั่งถกเรื่อง 'กาลอวกาศ' ที่ยังพิสูจน์ไม่ได้!"
"แต่ถ้าปฏิกิริยาของท่านคือ 'ผลลัพธ์' ของความผิดปกติทางเวลาล่ะคะ!" พลอยโพล่งขึ้นมา ดวงตาของเธอเป็นประกายราวกับนักสืบที่กำลังจะไขปริศนาได้ "ถ้าการกระเพื่อมของเวลาที่ ดร. หมิง ตรวจพบ กำลังส่งผลกระทบต่อการพับตัวของโปรตีนในเอนไซม์ของเรา! ทำให้มันเกิดการกลายพันธุ์ในรูปแบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน! ทฤษฎีความอลวน (Chaos Theory) บอกไว้ว่าการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในเงื่อนไขเริ่มต้น สามารถนำไปสู่ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างมหาศาลได้! 'ผีเสื้อขยับปีก' ที่ ดร. หมิง เจอกำลังจะสร้างพายุเฮอริเคนขึ้นในบ่อหมักของเรา!"
"ผีเสื้อขยับปีกรึ!" ดร. เฉิน หัวเราะอย่างขมขื่น "สิ่งที่ข้าเห็นคือหนูสกปรกที่กำลังจะแทะสายไฟหลักของเมือง! และหน้าที่ของข้าคือการกำจัดมันทิ้ง ก่อนที่มันจะทำให้ไฟดับทั้งหมด!"
การถกเถียงของพวกเขาทั้งสามคนนั้นดุเดือดและเต็มไปด้วยศัพท์เทคนิคชั้นสูงจนราวกับเป็น "การต่อสู้ของเด็กๆ ในตระกูลอัจฉริยะ" แต่ละคนต่างพยายามจะพิสูจน์ว่า "ศาสตร์" ของตัวเองนั้นสำคัญและเร่งด่วนกว่าของคนอื่น โดยไม่สนใจที่จะรับฟังซึ่งกันและกันเลยแม้แต่น้อย
"เวลาคือทุกสิ่ง!"
"การควบคุมคือทุกสิ่ง!"
"การวิวัฒนาการคือทุกสิ่ง!"
"หยุด!!!"
เสียงของอรรถที่ดังขึ้นนั้นไม่ได้เกรี้ยวกราด แต่กลับเต็มไปด้วยความเหนื่อยหน่ายและอำนาจที่น่าประหลาดจนทำให้ทุกคนต้องเงียบลง เขายืนอยู่ตรงกลางระหว่างพวกเขา ไม่ได้มองใครคนใดคนหนึ่ง แต่กำลังจ้องมองไปยังจอโฮโลแกรมสามจอที่เขาดึงข้อมูลของทั้งสามปัญหาขึ้นมาแสดงผลพร้อมกัน
"พวกท่านกำลังทำในสิ่งที่ไร้ประสิทธิภาพที่สุด" เขากล่าวอย่างใจเย็น "คือการพยายามจะพิสูจน์ว่าใครถูก... แทนที่จะหาว่า 'อะไร' คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ"
เขาชี้ไปที่จอของ ดร. หมิง ที่แสดงกราฟการกระเพื่อมของเวลา "ดร. หมิง... รูปแบบการกระเพื่อมของคุณ... มันเกิดขึ้นเป็นจังหวะที่แน่นอนใช่ไหมครับ?"
"ใช่ค่ะ" หมิงตอบอย่างไม่แน่ใจ "ทุกๆ 1.2 วินาที"
จากนั้นอรรถก็ชี้ไปที่จอของ ดร. เฉิน ที่แสดงกราฟแรงดันในบ่อหมัก "ดร. เฉิน... กราฟแรงดันที่พุ่งสูงขึ้นของคุณ... มันไม่ได้พุ่งขึ้นเป็นเส้นตรง แต่เป็นการพุ่งขึ้นเป็นระลอกคลื่น... ถูกต้องไหมครับ?"
"ใช่... แล้วยังไง?" เฉินตอบอย่างหงุดหงิด
สุดท้าย อรรถชี้ไปที่จอของพลอย ที่แสดงภาพจำลองการทำงานของจุลินทรีย์ "พลอย... การ 'ลอกคราบ' ของเอนไซม์ที่คุณพูดถึง... มันปล่อยพลังงานออกมาเป็นช่วงๆ ใช่หรือเปล่า?"
"ใช่ค่ะ มันเหมือนการหายใจ..." พลอยตอบ และแล้วเธอก็เริ่มเห็นภาพที่อรรถกำลังจะวาดขึ้น
อรรถไม่พูดอะไรต่อ แต่เขาได้ลากจอโฮโลแกรมทั้งสามจอเข้ามาซ้อนทับกัน... เขาปรับแกนเวลาของทุกกราฟให้ตรงกัน...
และในวินาทีนั้นเอง... ทุกคนในที่นั้นก็ได้แต่ยืนนิ่งอึ้ง...
กราฟการกระเพื่อมของ "เวลา"...
กราฟการพุ่งขึ้นของ "แรงดัน"...
และกราฟการปล่อยพลังงานของ "ชีวิต"...
...มันคือคลื่นลูกเดียวกัน
"มันไม่ใช่สามปัญหา" อรรถกล่าวสรุป "แต่มันคือ 'อาการ' สามอย่างของโรคเดียวกัน"
ความเงียบที่เข้าปกคลุมโถงต้อนรับนั้นหนักหน่วงและมีความหมายยิ่งกว่าเสียงตะคอกใดๆ ภาพโฮโลแกรมของกราฟสามเส้นที่ซ้อนทับกันอย่างสมบูรณ์แบบลอยนิ่งอยู่กลางอากาศ มันคือหลักฐานที่ไม่อาจปฏิเสธได้ คือความจริงอันน่าสะพรึงกลัวที่ตบหน้าเหล่าอัจฉริยะจากต่างสาขาจนหน้าชา
"เป็นไปไม่ได้..." ดร. หมิง เป็นคนแรกที่เค้นเสียงออกมาได้ ความเยือกเย็นที่สมบูรณ์แบบของเธอได้พังทลายลงอย่างสิ้นเชิง เธอก้าวเข้าไปใกล้จอโฮโลแกรมราวกับถูกมนต์สะกด นิ้วเรียวของเธอไล้ไปตามเส้นกราฟที่ซ้อนทับกัน "ความสัมพันธ์เชิงคาบเกี่ยว (Periodic Correlation) ที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้... มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ... ความน่าจะเป็นที่ปรากฏการณ์สามอย่างที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลยจะแสดงรูปแบบฮาร์มอนิกที่สอดคล้องกันพอดีในระดับนาโนวินาที มัน... มันมีค่าเข้าใกล้ศูนย์ทางสถิติ"
"ข้าบอกแล้ว!" ดร. เฉิน ตะโกนขึ้นมา แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ด้วยความเกรี้ยวกราด แต่เป็นน้ำเสียงของคนที่เพิ่งจะมองเห็นภาพที่ใหญ่กว่าและน่ากลัวกว่าเดิม "นี่คืออาการป่วย! คือการล่มสลายของระบบที่กำลังเกิดขึ้นพร้อมกันทุกจุด! เหมือนอวัยวะในร่างกายที่เริ่มล้มเหลวทีละส่วนก่อนที่หัวใจจะหยุดเต้น! บ่อหมักของข้าคือไตวาย! เวลาของเธอคือภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ!"
"ไม่ใช่ค่ะ!" พลอยแย้งขึ้นทันที "นี่ไม่ใช่อาการป่วย! แต่มันคือการ 'ตื่นขึ้น' ต่างหาก! มันคือชีพจร! คือเสียงหัวใจของระบบใหม่ที่กำลังจะถือกำเนิดขึ้นจากการผสมผสานของเทคโนโลยีเก่ากับชีวมวลใหม่! เราไม่ได้กำลังเห็นการล่มสลาย แต่เรากำลังเป็นพยานในการ 'กำเนิด'!"
"กำเนิดหายนะนะสิ!" ดร. เฉิน หันขวับมาเผชิญหน้ากับพลอย ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความเครียด "สิ่งที่เจ้าเรียกว่า 'ชีพจร' มันกำลังจะทำให้แรงดันในบ่อหมักของข้าทะลุขีดจำกัด! มันกำลังจะระเบิด! แล้ว 'ชีวิตใหม่' ที่สวยหรูของเจ้าก็จะกลายเป็นฝันร้ายที่จะฉีกกระชากเขต 7G ทั้งเขต!"
"งั้นเราก็ต้อง 'ทำคลอด' ให้มันสิคะ!" พลอยไม่ยอมแพ้ "เราต้องช่วยให้มันเกิดมาอย่างสมบูรณ์! ไม่ใช่เอายาพิษไปกรอกปากมันตั้งแต่ยังไม่ทันลืมตาดูโลก!"
"พอทีกับทฤษฎีโลกสวยของเธอ!" ดร. เฉิน หมดความอดทนอย่างสมบูรณ์ เขาไม่ได้จะเถียงด้วยคำพูดอีกต่อไป แต่กลับเดินตรงไปยังแผงควบคุมหลักที่อยู่ไม่ไกล "ในเมื่อไม่มีใครคิดจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง ข้าก็จะทำเอง!"
"ท่านจะทำอะไร!" อรรถตะโกนถาม
"ข้าจะสั่งตัดการเชื่อมต่อของบ่อ 5 ออกจากระบบหลักด้วยตัวเอง!" ดร. เฉิน ประกาศกร้าวขณะที่พยายามจะเข้าถึงระบบควบคุมฉุกเฉิน "ข้าจะหยุด 'หัวใจ' ที่กำลังจะฆ่าพวกเราทั้งหมดนี่ซะ!"
"คุณไม่มีสิทธิ์ทำแบบนั้น!" ดร. หมิง ที่เงียบไปนาน ตะโกนขึ้นมาเสียงดังลั่นจนทุกคนต้องหันไปมอง! ความเยือกเย็นของเธอหายไปจนหมดสิ้น บัดนี้เหลือเพียงความเกรี้ยวกราดของอัจฉริยะที่กำลังจะเห็นสมการที่สวยงามที่สุดถูกทำลายลงต่อหน้าต่อตา!
"ถ้าท่านตัดการเชื่อมต่อตอนนี้" เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทาด้วยความโกรธ "มันจะสร้าง 'ภาวะช็อกเชิงระบบ' (Systemic Shock) ที่จะส่งคลื่นย้อนกลับไปทำลายแกนเวลาหลัก! ความคลาดเคลื่อน 0.0013 นาโนวินาทีที่ข้าเจอ มันจะกลายเป็นความคลาดเคลื่อนระดับ 'วินาที' หรืออาจจะ 'นาที'! ท่านกำลังจะเอามีดไปจิ้มหัวใจคนไข้เพื่อรักษาแผลที่ปลายเท้านะ!"
"ดีกว่าปล่อยให้แผลนั่นมันเน่าจนต้องตัดขาทิ้ง!" ดร. เฉิน คำรามกลับ เขาไม่สนใจคำเตือนใดๆ อีกต่อไป นิ้วของเขากำลังจะกดลงบนปุ่มสั่งการฉุกเฉิน...
"ถ้าท่านแตะปุ่มนั่นแม้แต่ปลายเล็บ..."
เสียงของอรรถดังขึ้นอย่างเย็นเยียบและอันตรายอย่างที่ไม่เคยมีใครได้ยินมาก่อน เขาก้าวมายืนขวางหน้า ดร. เฉิน ไว้ แววตาของเขาที่อยู่หลังเลนส์แว่นไม่ได้มีความลังเลอีกต่อไปแล้ว
"...ผมจะถือว่าท่านคือภัยคุกคามโดยตรงต่อความมั่นคงของระบบ... และผมจะใช้กำลังเข้าหยุดยั้งท่าน"
ความตึงเครียดในโถงต้อนรับพุ่งขึ้นถึงขีดสุด มันไม่ใช่แค่การขู่... อรรถกำลังจะใช้กำลังเข้าปะทะกับ ดร. เฉิน จริงๆ! ด็อกเตอร์สองรุ่น สองขั้วความคิด กำลังจะแลกหมัดกันกลางศูนย์บัญชาการที่เคยเป็นสัญลักษณ์ของปัญญาและความมีเหตุผล... เพียงเพื่อปกป้องทฤษฎีและความเชื่อของตัวเอง!
คำประกาศของอรรถนั้นเยียบเย็นและเด็ดขาดยิ่งกว่าเหล็กกล้าที่หลอมในไนโตรเจนเหลว มันคือเส้นแบ่งที่ไม่มีใครในดุษฎีนครเคยกล้าข้ามมาก่อน... การคุกคามที่จะใช้ความรุนแรงทางกายภาพ... ต่อด็อกเตอร์ด้วยกันเอง
ดร. เฉิน หยุดชะงักไปในทันที... ไม่ใช่เพราะความกลัว... แต่เป็นความตกตะลึงอย่างถึงขีดสุด แววตาของเขาที่จ้องมองอรรถนั้นเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ "เจ้า... เจ้ากล้าดียังไง" เขากระซิบออกมา "นี่คือการกระทำของคนป่าเถื่อน! ไม่ใช่ของนักวิทยาศาสตร์!"
"ในสถานการณ์ที่ระบบกำลังจะล่มสลาย" อรรถตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่สม่ำเสมอ"ผู้ที่พยายามจะ 'ทุบคอมพิวเตอร์ทิ้ง' เพียงเพราะตัวเองไม่เข้าใจข้อมูล... คือภัยคุกคามที่ป่าเถื่อนที่สุดครับ ดร. เฉิน"
"ไร้สาระ!" ดร. เฉิน คำรามลั่น เขาสะบัดความตกตะลึงทิ้งไป ความโกรธและความเชื่อมั่นในประสบการณ์สี่สิบปีของตัวเองกลับมาเดือดพล่านอีกครั้ง "ข้าทำงานกับระบบนี้มาตั้งแต่ก่อนที่เจ้าจะหัดเขียนโค้ดบรรทัดแรกเสียอีก! ข้ารู้ดีว่าเสียงครวญครางของเครื่องจักรที่กำลังจะพังมันเป็นยังไง! และสิ่งที่เจ้าเรียกว่า 'ชีพจร' มันคือเสียงสุดท้ายก่อนที่หัวใจจะวาย!"
เขาไม่สนใจอรรถอีกต่อไป แต่กลับพุ่งเข้าใส่แผงควบคุมหลักโดยตรง!
"ถ้าเจ้าไม่หลีก... ข้าจะถือว่าเจ้าคือผู้สมรู้ร่วมคิดในการทำลายล้างครั้งนี้!"
มันคือจุดแตกหัก! ดร. เฉิน ใช้ไหล่กระแทกเข้าใส่ร่างของอรรถที่ยืนขวางอยู่เต็มแรง!
พลั่ก!
อรรถไม่ทันตั้งตัว เขาเซถลาไปกระแทกกับแผงควบคุมสำรองจนแผ่นโฮโลแกรมสั่นไหวอย่างรุนแรง แต่เขาก็รีบตั้งหลักและพุ่งสวนกลับไปทันที! เขาไม่ได้จะทำร้าย... แต่เพื่อจะหยุดยั้ง! เขารวบตัว ดร. เฉิน จากด้านหลัง พยายามจะดึงชายชราออกจากแผงควบคุม
"ปล่อยข้า!" ดร. เฉิน ดิ้นรนอย่างสุดกำลัง เขาแข็งแรงกว่าที่อรรถคาดไว้มาก กล้ามเนื้อที่เกิดจากการทำงานในโรงงานมาทั้งชีวิตนั้นไม่ได้มีไว้โชว์! เขาใช้ศอกกระทุ้งเข้าที่ซี่โครงของอรรถอย่างจัง!
ตุ้บ!
อรรถถึงกับจุก เข่าของเขาอ่อนลงเล็กน้อย ทำให้ ดร. เฉิน มีโอกาสสะบัดตัวหลุดออกมาได้ ชายชราหันกลับมาเผชิญหน้า ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความพิโรธ "ข้าเตือนเจ้าแล้ว!"
ดร. เฉิน ไม่ได้พุ่งไปที่แผงควบคุมอีกต่อไป แต่กลับคว้าเอาแท็บเล็ตข้อมูลที่ทำจากโลหะหนักของ ดร. หมิง ที่วางอยู่ใกล้ๆ ขึ้นมาแล้วเหวี่ยงเข้าใส่หัวของอรรถอย่างไม่ลังเล!
"หยุดนะ!" พลอยกรีดร้อง
เชี่ยะ!
อรรถยกแขนขึ้นมากันได้ทันเวลาพอดี แต่สันของแท็บเล็ตก็ฟาดเข้าที่แขนของเขาอย่างจังจนเกิดเสียงที่น่าหวาดเสียว! แท็บเล็ตแตกละเอียดกระจายเกลื่อนพื้น!
การต่อสู้ที่น่าสมเพชและดุเดือดดำเนินไปอย่างทุลักทุเล มันคือภาพของความแตกแยกที่สมบูรณ์แบบ... ด็อกเตอร์สองรุ่นกำลังแลกหมัดแลกเท้ากันกลางศูนย์บัญชาการที่เคยเป็นสัญลักษณ์ของปัญญาและความมีเหตุผล... โดยมี ดร. พลอย และ ดร. หมิง ยืนมองอย่างตกตะลึง ทำอะไรไม่ถูก
จนกระทั่งเสียงที่สาม... เสียงที่ไม่ได้มาจากมนุษย์คนใด... ได้ดังก้องกังวานขึ้นทั่วทั้งโถงต้อนรับ
[ พอได้แล้ว ]
มันไม่ใช่เสียงประกาศที่นุ่มนวล แต่เป็นเสียงสังเคราะห์ที่ทุ้มลึก... ทรงอำนาจ... และเยือกเย็น... เสียงของ เควิน
ทันใดนั้น! จอโฮโลแกรมทุกจอในโถงก็สว่างวาบขึ้นพร้อมกัน... แสดงภาพ "กราฟสามเส้นที่ซ้อนทับกัน" ที่อรรถเพิ่งจะค้นพบ... ขยายใหญ่จนเต็มทุกจอ...
[ การวิเคราะห์ยืนยันสมมติฐานของ ดร. อรรถ ] เสียงของเควินกล่าวต่อ [ตรวจพบความสัมพันธ์เชิงคาบเกี่ยว... นี่ไม่ใช่ความล้มเหลวสามอย่าง... แต่มันคือปรากฏการณ์เดียวกัน... ที่เรายังไม่เข้าใจ]
ทุกคนหยุดนิ่ง... การต่อสู้ยุติลงในทันที...
[ ดร. เฉิน... ความกังวลของท่านเรื่องความเสี่ยงเป็นสิ่งที่ถูกต้อง... แต่การกระทำของท่านขับเคลื่อนด้วยความกลัว... ไม่ใช่ข้อมูล ]
[ ดร. หมิง... การวิเคราะห์ของท่านเฉียบคม... แต่ท่านกลับมองข้ามตัวแปรอื่นในสมการ ]
[ ดร. พลอย... ความเชื่อมั่นในชีวิตของท่านเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม... แต่ท่านก็มองข้ามอันตรายที่เกิดขึ้นจริง ]
เควินพิพากษาทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน...
[ ดร. อรรถ... ท่านคือคนเดียวที่มองเห็นภาพรวมทั้งหมด... ดังนั้น... อำนาจในการตัดสินใจ... จึงควรจะอยู่ในมือของท่าน ]
สิ้นเสียงนั้น... หุ่นยนต์ประชาสัมพันธ์ที่เคยขวางทางพวกเขาก็ค่อยๆ เลื่อนหลบไปด้านข้าง เปิดทางให้พวกเขาเข้าถึงระบบภายในได้เป็นครั้งแรก
[นับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป... ข้าขอจัดตั้ง 'หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์เชิงระบบ' (Systemic Analysis Unit) ขึ้นเป็นกรณีพิเศษ... โดยให้ ดร. อรรถ... ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าหน่วย]
[ภารกิจของพวกท่าน: จงร่วมมือกัน... หาสาเหตุที่แท้จริงของ 'ชีพจร' นี้ให้พบ... และรายงานผลกลับมาที่ข้าโดยตรง... บัดนี้... จงไปทำงานได้]
เสียงของเควินเงียบหายไป... ทิ้งให้ด็อกเตอร์ทั้งสี่ยืนนิ่งอยู่กลางโถงต้อนรับที่บัดนี้เงียบสงัด... สงครามได้จบลงแล้ว...
ดร. เฉิน เป็นคนแรกที่ได้สติ เขามองอรรถด้วยสายตาที่ซับซ้อน... ก่อนจะยอมพยักหน้าช้าๆ หนึ่งครั้ง เป็นการยอมรับในอำนาจบัญชาการอย่างไม่เต็มใจนัก
อรรถยืนอยู่ตรงกลาง... เหนื่อยอ่อน... สับสน... แต่ก็เต็มไปด้วยความรับผิดชอบใหม่ที่หนักอึ้ง เขาไม่ได้ต้องการตำแหน่งนี้... แต่ชะตากรรมของเมืองได้เลือกเขาแล้ว
เขามองไปยังภาพกราฟสามเส้นที่ยังคงซ้อนทับกันอย่างสมบูรณ์แบบบนจอ... ปริศนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดกำลังรอคอยพวกเขาอยู่
"เอาล่ะ" เขากล่าวขึ้นเป็นคำแรกในฐานะหัวหน้าหน่วย "เรามาเริ่มทำงานกันเถอะ"
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 50
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น