บทที่ 136: ข้ายินดี
ดูเหมือนว่าสำหรับไททันเทพอาสัญตัวนี้ คำสาปหายนะถือว่าเป็นอาหารที่หากินได้ยากมาก
อีกทั้งพลังของมันก็เพิ่มขึ้นมหาศาลเมื่อเทียบกับที่ผ่านมา
ในขณะที่ไททันเทพอาสัญกำลังดูดซับหมอกต้องสาป หลินหยวนก็ไม่ได้อยู่เฉย เขาถามขึ้นมาทันทีว่า “ถ้าฉันยังสาปแกได้ แกจะออกไปจากที่นี่กับฉันหรือเปล่า?”
“ไปจาก… ที่นี่?” ไททันตัวสูงใหญ่ก้มหน้าลงเอียงคอมองหลินหยวนด้วยสายตาสับสน
ทันใดนั้นมันก็เหมือนกับว่าหวนรำลึกถึงอดีตอันเจ็บปวดได้ มันจึงสะบัดหัวแรง ๆ “ไม่ ข้าออกไปจากที่นี่ไม่ได้… พวกมันจะจับข้า!!”
“พวกมัน?” หลินหยวนทวนคำพูดของอีกฝ่ายพร้อมกับขมวดคิ้ว
‘พวกมัน’ ที่ไททันเทพอาสัญเอ่ยถึงคือไททันที่ผนึกมันเอาไว้ในสุสานแห่งนี้หรือเปล่า?
เขาสัมผัสได้ว่าไททันตัวนี้ดูเหมือนจะกลัวไททันพวกนั้นมาก นั่นจึงทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา
เพราะในสายตาของเขา ไททันเทพอาสัญตัวนี้ก็แข็งแกร่งมากพออยู่แล้ว
ถ้าอย่างนั้นไททันระดับไหนกันที่ทำให้มันหวาดกลัวได้ถึงขนาดนี้?
อาจจะเป็นไททันโลกาวินาศที่ทรงพลังยิ่งกว่ามัน?
ก่อนที่หลินหยวนจะทันได้พูดอะไร ไททันเทพอาสัญก็คำรามออกมา “เจ้า… ออกไปจากที่นี่ไม่ได้หรอก… เจ้าจะต้องอยู่… คอยสาปข้าต่อไป!”
“ไม่งั้น… ข้าจะกินเจ้า!” พอหลินหยวนได้ยินแบบนั้น สีหน้าของเขาก็หม่นลง
บัดซบ ไอ้นี่ไม่ได้โง่อย่างที่คิด!
นอกจากมันไม่คิดจะตามเขาออกไปแล้ว มันยังวางแผนเอาไว้ว่าจะบังคับให้เขาอยู่ที่นี่คอยสาปแช่งมันต่อไปด้วย!
ถึงแม้ว่าไททันเทพอาสัญที่อยู่ตรงหน้าจะมีมันสมองเท่ากับเด็ก แต่มันก็เป็นเด็กที่ฉลาดมาก นอกจากมันจะไม่หลงกลหลินหยวนแล้ว มันยังกล้าขู่เขาอีกด้วย
ใครบอกว่าเด็กใสซื่อบริสุทธิ์เพียงอย่างเดียว เด็กที่เจ้าเล่ห์แสนกลก็มีให้เห็นกันอยู่ถมเถ!
ในเมื่อมันเป็นแบบนี้ เด็กหนุ่มก็ต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่
เขารีบพูดว่า “แกถูกผนึกอยู่ที่นี่มาตั้งนาน ต้องทนหิวโหย แกไม่โกรธบ้างเลยหรือไง?”
คำพูดชี้นำของหลินหยวนทำให้บนใบหน้าของไททันเทพอาสัญปรากฏอารมณ์โกรธขึ้นมาเล็กน้อย “ใช่แล้ว… ข้าอยู่ที่นี่… ต้องทนหิวอยู่ตั้งนาน…”
เด็กหนุ่มที่เห็นดังนั้นก็กล่าวต่อไปว่า “ถ้างั้นแกไม่รู้สึกเกลียดไททันที่ผนึกแกไว้ที่นี่บ้างเลยเหรอ?”
ทว่าคราวนี้ไททันเทพอาสัญกลับส่ายหัวโดยไม่ลังเลก่อนจะพูดเสียงอ่อนลงว่า “ข้า… เอาชนะพวกมันไม่ได้…”
บ้าเอ๊ย ขี้ขลาดชะมัด!
หลินหยวนสบถในใจด้วยความหงุดหงิด แต่ก็พยายามใจเย็นเกลี้ยกล่อมอีกฝ่ายต่อไป “ถึงแกจะเอาชนะพวกมันไม่ได้ แต่ฉันช่วยแกได้นะ”
สิ่งที่เด็กหนุ่มคาดไม่ถึงก็คือ หลังจากที่เขาพูดจบ ไททันเทพอาสัญก็หันมาสบตาเขาแล้วส่ายหัวอีกครั้ง “เจ้าเองก็ชนะพวกมันไม่ได้เหมือนกัน…”
จากนั้นมันก็เอ่ยคำพูดทิ่มแทงใจคนฟัง “เจ้ายัง… เอาชนะข้าไม่ได้เลย”
“???” หลินหยวนได้แต่นิ่งอึ้งไป
นี่แกว่าไงนะ!!
ไททันเทพอาสัญมันหลอกยากยิ่งกว่าที่เขาคิดไว้อีก
ถึงกระนั้นก็ยังโชคดีที่เขายังพอมีหนทาง
หลินหยวนสูดหายใจเข้าลึก ๆ อยู่หลายครั้ง พอสงบสติอารมณ์ลงได้แล้วเขาก็พูดอีกครั้งว่า “ฉันมีหลายวิธีที่จะช่วยแก บางที… ฉันอาจไม่จำเป็นต้องลงมือเองก็ได้”
หลังจากไททันเทพอาสัญได้ยินคำพูดของหลินหยวน ดวงตาของมันก็ฉายแววสงสัย
มันเข้าใจสิ่งที่เขาพูดเป็นอย่างดี แต่มันไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายคิดจะช่วยมันอย่างไร
ขณะที่ไททันตัวยักษ์ใหญ่กำลังมึนงงอยู่ เด็กหนุ่มก็รีบฉวยโอกาสนี้ทันที “ในเมื่อแกเกลียดไททันที่ผนึกแกไว้ในสุสานนี้ แกก็ควรจะแก้แค้นสิ แกจะต้องฆ่ามัน กินมัน เพื่อเป็นการแก้แค้นที่พวกมันทำกับแกแบบนี้!”
ไททันเทพอาสัญส่ายหน้าอีกครั้งพลางพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความโกรธ “ข้าบอกเจ้าไปแล้ว… ข้าเอาชนะพวกมันไม่ได้!!”
แต่คราวนี้หลินหยวนกลับพูดเสียงหนักแน่นว่า “ฉันจะช่วยแกปราบพวกมันเอง!”
ไททันเทพอาสัญตกตกตะลึงไปเล็กน้อย ก่อนจะถามขึ้นมาด้วยท่าทางสับสน “เจ้าคิดจะช่วยข้ายังไง?”
“ก็สาปแกไง!” เด็กหนุ่มกล่าว “แกลืมไปแล้วเหรอ? ถ้าแกยอมทำตามที่ฉันพูด ฉันก็จะมอบคำสาปให้แกได้เรื่อย ๆ หลังจากที่แกดูดซับหมอกสีดำพวกนี้ไปแล้ว แกก็คงรู้สึกว่าพลังของตัวเองเพิ่มขึ้นใช่ไหม?”
ในตอนแรกฝ่ายที่ได้ยินก็พยักหน้ารับแบบเผลอ ๆ แต่พอรู้ตัวมันก็รีบส่ายหน้า “ช้าเกินไป…”
หลินหยวนรู้ว่าไททันเทพอาสัญหมายถึงอะไร
ถึงแม้ว่าพลังของมันจะแข็งแกร่งขึ้นด้วยการดูดซับหมอกต้องสาป แต่เรื่องนี้จะต้องใช้เวลายาวนานมากสำหรับมัน เรื่องนี้จึงทำให้มันยังรู้สึกมีความกังวลอยู่บ้าง
เขาต้องยอมรับว่าไททันเทพอาสัญตัวนี้ถึงจะมีสติปัญญาเทียบเท่ากับเด็ก แต่มันก็น่าเกรงขามกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้
แต่โชคดีที่หลินหยวนมีของเด็ด ๆ อยู่ในมือมากมาย
วินาทีต่อมา เขาก็ดึงแกนคริสตัลพิเศษออกมาจากช่องเก็บของ
[จิตอาฆาตของผู้ล่วงลับ (แกนคริสตัลพิเศษ)]
[คำอธิบาย: แกนคริสตัลพิเศษนี้ก่อตัวขึ้นจากความสิ้นหวังและจิตอาฆาตของคนที่ตายไปแล้ว ภายในมีพลังพิเศษที่ช่วยเพิ่มพลังให้กับสิ่งมีชีวิตอันเดด]
ในตอนที่หลินหยวนหยิบไอเทมจิตอาฆาตของผู้ล่วงลับออกมา ออร่าแห่งความตายที่หนาแน่นก็แผ่ออกมาจากคริสตัล
ไททันเทพอาสัญที่สัมผัสได้ถึงออร่านี้ก็เบิกตากว้างขึ้น ในขณะที่แววตาของมันเต็มไปด้วยความละโมบ
เด็กหนุ่มที่สังเกตเห็นปฏิกิริยาของอีกฝ่ายก็มีรอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปาก
สิ่งที่เขาคิดนั้นถูกต้อง
ถึงอย่างไรไททันเทพอาสัญที่ถูกเรียกขานกันนั้นเป็นเพียงศพที่มีสมอง
ในทางเทคนิคแล้ว มันก็ยังถือว่าเป็นศพ!
พอเป็นแบบนี้ คริสตัลจิตอาฆาตของผู้ล่วงลับที่เขาได้รับมาจากการลงชื่อเข้าใช้พิเศษในสุสานไททันก็คงมากเกินพอที่จะช่วยเสริมพลังให้กับไททันเทพอาสัญแล้ว
ไม่นานหลินหยวนก็พูดขึ้นมาว่า “ตอนนี้แกคิดว่าฉันจะช่วยเพิ่มพลังให้แกไม่ได้อีกหรือเปล่า? ฉันยังมีคริสตัลแบบนี้อยู่เป็นสิบ ๆ ชิ้น ถ้าฉันเอาทั้งหมดมาใช้กับแก แกคงรู้สินะว่าแกจะทรงพลังมากแค่ไหน แบบนี้แกก็จะฆ่าไททันที่ผนึกแกไว้ที่นี่ด้วยมือของตัวเอง แถมได้กินพวกมันด้วยนะ”
ที่จริงแล้วเด็กหนุ่มพูดโกหกทั้งสิ้น
มีเป็นสิบ ๆ ชิ้นอย่างนั้นเหรอ…
เขามีเจ้าสิ่งนี้แค่ชิ้นเดียวเท่านั้น
แต่จะบอกว่ามันเป็นความสามารถก็ได้ที่เขามีจิตใจแข็งแกร่งพอที่จะโกหกออกมาได้โดยที่ไม่แสดงท่าทีมีพิรุธอะไรออกมา
แน่นอนว่าตอนนี้หลินหยวนไร้หนทางไปต่อแล้วจริง ๆ
ถ้าเขาไม่แสดงให้อีกฝ่ายเห็นว่าตนมีผลประโยชน์ที่จับต้องได้ ไอ้บื้อที่หัวแข็งยิ่งกว่าหินนี้คงไม่ยอมออกจากสุสานนี้แน่
ดังนั้นเด็กหนุ่มจำเป็นจะต้องเล่นใหญ่!
สรุปก็คือ เขาจะต้องหลอกไททันเทพอาสัญให้มาเป็นพวกของตัวเองก่อน
ทันใดนั้นความสนใจของไททันตัวสูงใหญ่ก็จดจ่ออยู่กับคริสตัลในมือของมนุษย์ตัวจิ๋ว
ในเวลาเดียวกัน มันก็หอบหายใจถี่ขึ้น “เอามันมาให้ข้า… เอามันมา…”
ไททันเทพอาสัญที่ถูกล่อลวงก็พยายามเอื้อมมือออกไปคว้าคริสตัล
ทางด้านหลินหยวนมีหรือจะยอมปล่อยให้มันทำตามใจ?
เขาเพียงแค่เก็บคริสตัลเข้าไปในช่องเก็บของโดยไม่พูดอะไร
เวลาหลอกเด็ก สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการให้เด็กได้เห็นแต่ไม่ได้ไปครอบครอง!
ถ้าทำแบบนั้น เด็กจะหันหลังให้เขาทันที
หลังจากที่ออร่าแห่งความตายหายวับไปกับตา สีหน้าของไททันเทพอาสัญก็เปลี่ยนไปทันที
มันคำรามใส่หลินหยวนเสียงดัง “เอามันมาให้ข้า!... หรือ… จะให้ข้ากินเจ้าซะ!!”
“แกขู่ฉันงั้นเหรอ?” หลินหยวนเลิกคิ้วถามอีกฝ่าย “ต่อให้แกกินฉัน แกก็ไม่มีทางได้ครอบครองคริสตัลนี้หรอก ถ้าไม่เชื่อจะลองดูก็ได้”
สำหรับเขาแล้ว ไททันเทพอาสัญเป็นเพียงเด็กน้อยที่กำลังอาละวาดเพราะไม่ได้ดั่งใจเท่านั้น
วิธีการที่ดีที่สุดในการรับมือก็คือจะต้องใจแข็งเข้าไว้
พอเด็กหนุ่มพูดจบ ไททันขี้โวยวายก็ค่อย ๆ สงบลง
หลังจากที่มันเงียบไปนาน ในที่สุดมันก็พูดขึ้นเสียงแผ่วเบาว่า “เจ้าต้องการอะไร….”
“ง่าย ๆ เลย แกต้องแสดงความจริงใจออกมา” หลินหยวนกล่าว “ไปกับฉัน ออกไปจากที่นี่ แล้วอีก 1 เดือนฉันจะมอบมันให้แก!”
บัดนี้ไททันเทพอาสัญมีสีหน้าผสมปนเปกันไป เหมือนมันกำลังขัดแย้งกันระหว่างความต้องการกับความกลัว
ในที่สุดมันก็พูดเสียงอ่อนว่า “ข้ายินดีจะไปกับเจ้า… แต่เจ้า… มอบมันให้ข้าก่อนได้ไหม…”
“มัน… ดูน่าอร่อยจริง ๆ”
“ไม่ได้!” เด็กหนุ่มปฏิเสธเสียงหนักแน่น
นี่เป็นเพียงข้อต่อรองเดียวที่เขามี ถ้าเขายอมให้อีกฝ่ายง่าย ๆ เขาก็โง่เต็มทนแล้ว อีกอย่างเขาไม่เชื่อคำพูดของหมอนี่แม้แต่คำเดียว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับไอ้เด็กน้อยตัวแสบผู้เจ้าเล่ห์ตรงหน้า มันคงจะหันมาแว้งกัดเขาทันทีที่มันได้อิ่มหนำสำราญ
หลินหยวนรู้ดีว่ายิ่งอีกฝ่ายเริ่มแสดงอาการหวั่นไหวมากเท่าไหร่ เขายิ่งต้องใช้ทั้งไม้แข็งและไม้อ่อนเพื่อโน้มน้าวมันต่อไป
พอคิดได้แบบนี้ เขาจึงให้สัญญาทันทีว่า “ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ให้แกตอนนี้ แต่ขอเพียงแค่แกยอมตามฉันไป ฉันก็จะมอบคริสตัลนี้ให้แกเดือนละ 1 ชิ้นจนกว่าแกจะมีพลังมากพอที่จะแก้แค้น”
ถึงอย่างไรนี่เป็นเพียงเช็กเปล่าที่ถ้าเอาไปขึ้นเงินก็โดนเด้งกลับ
อีกทั้งมันเป็นสัญญาที่ไม่จำเป็นต้องรักษาด้วย
พอถึงเวลานั้น เขาก็จะหาข้ออ้างอื่นมาหลอกไททันเทพอาสัญต่อไป
แม้ว่าหลินหยวนจะพูดแถจนสีข้างถลอก แต่ไททันตรงหน้ากลับรู้สึกตื่นเต้น
อาจเป็นเพราะออร่าที่แผ่ออกมาจากคริสตัลซึ่งเปรียบเสมือนกลิ่นหอมหวานสำหรับไททันเทพอาสัญ
เพียงแค่มันคิดถึงอาหารอันโอชะ มันก็น้ำลายสอแล้ว!
คริสตัลชิ้นนั้นดูน่าอร่อยมาก ข้าอยากจะลิ้มลองดูสักครั้ง!
แล้วตอนนี้ถ้าข้าติดตามมนุษย์คนนี้ไป นั่นหมายความว่า… ข้าจะมีของอร่อย ๆ กินทุกเดือนงั้นเหรอ?
พอคิดได้ดังนี้ ไททันเทพอาสัญก็ตัดสินใจได้ในที่สุด
มันเงยหน้าขึ้นพร้อมกับตอบรับเสียงดังราวกับฟ้าผ่า “ข้ายินดี!... ข้าจะไปกับเจ้า”
*******************************************
SkySaffron: หลินหยวนต้องกลายเป็นพี่เลี้ยงเด็กยักษ์เหรอเนี่ย 55555
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 100
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น