บทที่ 108: ถ้าสวรรค์ไม่ลงโทษแก ฉันจะลงโทษแกเอง!
แต่สิ่งที่ผู้มีพลังน้ำแข็งคาดไม่ถึงก็คือ เพียงแค่เสี้ยววินาทีเฝิงเจิ้งกั๋วกลับตอบโต้ทันควัน!
เพราะจู่ ๆ เขาก็หันกลับมาใช้มือฟาดดาบน้ำแข็งที่คมกริบด้วยฝ่ามือเดียว ในขณะที่เขาหันมามองด้วยสายตาเย็นชาปนโกรธเกรี้ยว
“นี่แกคิดจะโจมตีฉันรึ?”
“อะไรกัน? แกก็เป็นคนทรยศที่แฝงตัวเข้ามาหรือไง?!”
ทว่าชายผู้มีพลังน้ำแข็งตอบกลับไปว่า “ท่านนายพล ผมให้ความเคารพท่านเสมอมา แต่ถ้าผมเดาไม่ผิด คนทรยศในทีมเราที่ท่านว่าคือท่านเองไม่ใช่เหรอครับ?”
จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่ศพบนพื้น “ถ้าท่านนายพลรู้ว่าเขาเป็นคนทรยศมาตั้งแต่แรก ทำไมท่านถึงรอให้เกือบถึงเมืองหย่งเย่แล้วค่อยลงมือล่ะครับ?”
“หรือว่าในฐานะผู้มีพลังพิเศษแรงก์ SSS ท่านนายพลกลัวกับอีแค่แรงก์ SS?”
“และอย่างที่ 2 ‘คนทรยศ’ ที่ท่านนายพลพูดถึงดูเหมือนจะไม่ได้แสดงท่าทีต่อต้านอะไรตอนที่ท่านฆ่าเขา แบบนี้ท่านยังกล้าตราหน้าว่าเขาเป็นคนทรยศอีกเหรอครับ?”
พอชายคนนั้นพูดจบ เฝิงเจิ้งกั๋วก็ทำสีหน้าเคร่งเครียด
เขายอมรับเลยว่าทักษะการสังเกตของผู้มีพลังน้ำแข็งคนนี้เฉียบคมมากจริง ๆ
ในตอนนี้ผู้มีพลังพิเศษแรงก์ SS อีก 3 คนไม่รู้เลยว่าควรเชื่อใจใครดี เพราะถึงแม้เหตุผลที่ผู้มีพลังน้ำแข็งพูดนั้นจะฟังดูมีน้ำหนักมากแค่ไหน แต่ภาพลักษณ์ที่เฝิงเจิ้งกั๋วสร้างเอาไว้มาอย่างยาวนานก็ยังคงตราตรึงในหัวใจของทุกคนอยู่ดี
พวกเขาไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้อาวุโสในกองทัพคนนี้ที่ทุกคนให้ความเคารพนับถือจะเป็นคนทรยศที่ไททันส่งเข้ามาแฝงตัวในกองทัพ
ทันใดนั้นเฝิงเจิ้งกั๋วก็หัวเราะออกมาเสียงดัง “ฮ่า ๆๆ! ดูเหมือนว่า… พวกแกก็ไม่ได้โง่ซะทีเดียว ฉันก็อุตส่าห์วางแผนไว้ว่าจะจัดการปัญหาพวกนี้แบบชิล ๆ แต่เอาเถอะ ยังไงพวกแกก็ต้องตายอยู่แล้ว อย่างน้อยก่อนตายก็ควรได้รู้เหตุผลแหละนะ”
วินาทีต่อมา สายตาของนายพลเฝิงเปลี่ยนเป็นเย็นชา จากนั้นเขาก็ชักดาบออกมาจากข้างหลัง “นับตั้งแต่วินาทีที่ฉันเลือกพวกแกมา ชะตากรรมของพวกแกก็ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว…”
“นั่นก็คือ… พวกแกจะต้องตายด้วยน้ำมือฉัน!”
10 นาทีต่อมา
เฝิงเจิ้งกั๋วเก็บดาบเข้าฝัก เสื้อผ้าของเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงฉาน แต่เลือดพวกนี้ไม่ใช่เลือดของเขาเลย สำหรับผู้มีพลังพิเศษแรงก์ SSS การที่จะฆ่าผู้มีพลังพิเศษแรงก์ SS 4 คนนั้นมันง่ายมาก
หากจะพูดให้ถูกก็คือ การต่อสู้ของเขาในครั้งนี้อาจจะไม่ค่อยสมศักดิ์ศรีสักเท่าไหร่
แต่ในตอนที่เขามองสีหน้าสิ้นหวังปนโกรธแค้นของทหารทั้ง 4 คนก่อนที่พวกมันจะตาย เขากลับรู้สึกมีความสุขมาก
เขาไม่ได้อดกลั้นมาตั้งนานเพื่อวันนี้หรอกเหรอ?
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ในที่สุดเขาก็จะได้เลิกเสแสร้งแล้วไปเข้าร่วมเผ่าไททันได้อย่างเต็มตัว
เขาเฝ้ารอวันนี้มานานหลายปี จากความดีความชอบที่สะสมมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาจะต้องได้รับรางวัลที่ตนคาดไม่ถึงอย่างแน่นอน!
ไม่ว่าจะเป็นพลังที่มากกว่า อายุขัยที่ยืนยาว อำนาจที่ยืนอยู่เหนือคนนับล้าน…
พอคิดถึงเรื่องนี้ อารมณ์ของเฝิงเจิ้งกั๋วก็พลุ่งพล่าน
“คนเดินขึ้นที่สูง น้ำไหลลงที่ต่ำ*”
*คนเดินขึ้นที่สูง น้ำไหลลงที่ต่ำ เป็นสำนวนที่สะท้อนถึงธรรมชาติของมนุษย์ที่ต้องการพัฒนาและแสวงหาความเจริญก้าวหน้า ในขณะที่ธรรมชาติของน้ำคือไหลลงสู่ที่ต่ำตามแรงโน้มถ่วง
เฝิงเจิ้งกั๋วเยาะเย้ยต่อหน้าศพของเหล่าผู้มีพลังพิเศษแรงก์ SS “น่าเสียดายที่บนโลกนี้คนอ่อนแอมักจะเป็นเหยื่อให้กับคนที่แข็งแกร่งกว่า พวกแกก็เป็นแค่บันไดให้ฉันเหยียบขึ้นไปเท่านั้นแหละ! ถ้าคิดอยากจะโทษใคร ก็โทษที่ตัวเองโชคร้ายเถอะ”
จากนั้นเขาก็เงยหน้ามองตรงไปยังเมืองหย่งเย่
เขาเสียเวลาอยู่ที่นี่มากเกินไปแล้ว ถ้าเขาไม่รีบไปที่เมืองหย่งเย่ มันก็จะสายเกินไป
แต่ถึงแม้เขาจะไปไม่ถึงที่นั่น มันก็ไม่ได้สำคัญอะไร
เพราะในเมืองหย่งเย่นอกจากไกอัส ไททันอนธการแล้ว ยังมีไททันมังกรเพลิงอยู่อีกด้วย
หลี่หวงเหยียนกับผู้สืบทอดคนนั้นคิดว่าตัวเองจะฆ่าไกอัสได้ก่อนไททันมังกรเพลิงอย่างนั้นเหรอ?
ฮ่า ๆๆ เลิกฝันซะเถอะ!
ขอเพียงผู้สืบทอดพลังไททันศักดิ์สิทธิ์ตาย อย่างน้อยความดีความชอบครึ่งหนึ่งก็จะเป็นของฉัน!
พอคิดถึงเรื่องนี้เฝิงเจิ้งกั๋วก็เก็บกักความสุขเอาไว้แทบไม่ไหว
ถ้าเขาไปถึงเร็วพอ บางทีเขาอาจจะได้บอกความจริงกับหลี่หวงเหยียนและผู้สืบทอดคนนั้นก่อนที่พวกมันจะตายก็ได้
เมื่อเขาคิดภาพที่อีกฝ่ายสาปแช่งตนด้วยความโกรธแค้นก่อนที่จะตายอนาถนั้น เขาก็รู้สึกว่ามันช่างน่าอภิรมย์เสียจริง!
“เฮ้อ ฉันคงจะเก็บกดมานาน ความคิดถึงได้บิดเบี้ยวไปหมดแบบนี้” เฝิงเจิ้งกั๋วที่เหมือนจะสังเกตเห็นความคิดของตัวเองก็อดหัวเราะไม่ได้
ทันใดนั้นร่างของเขาก็เปลี่ยนเป็นลำแสงพุ่งทะยานไปยังที่ตั้งของเมืองหย่งเย่
…
15 นาทีต่อมา หลินเทียนเชวี่ยลอยลงมาจากท้องฟ้า
เขามองไปรอบ ๆ ด้วยสายตาเย็นชาพลางสำรวจร่องรอยการต่อสู้ของเฝิงเจิ้งกั๋วกับผู้มีพลังพิเศษแรงก์ SS ทั้ง 4
หลังจากเห็นศพของทหาร 4 ศพ หลินเทียนเชวี่ยก็กำหมัดแน่นในขณะที่ดวงตาวาวโรจน์
สุดท้ายแล้ว… เขาก็ยังช้าไปก้าวหนึ่ง!!
ตามแผนเดิมเขาตั้งใจจะไปช่วยหลี่หวงเหยียนฆ่าไกอัสก่อน พอกลับมาเขาก็จะไปเผชิญหน้ากับเฝิงเจิ้งกั๋วเพื่อชำระแค้น
แต่สิ่งที่แม่ทัพมังกรไม่คาดคิดก็คือ ชายคนนั้นขันอาสาตั้งทีมเฉพาะกิจขึ้นมา โดยมีเขาเป็นหัวหน้าพาผู้มีพลังพิเศษแรงก์ SS อีก 5 คนเพื่อติดตามทั้ง 2 มายังเมืองหย่งเย่
แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาไม่ได้มาเพื่อปกป้องหลี่หวงเหยียนกับฉู่อวี้แต่อย่างใด เขามาที่นี่เพื่อให้เห็นกับตาตัวเองว่าทั้งคู่จะถูกไททันกำจัด
คนทรยศคนนี้ไม่มีทางหยุดถ้าหากยังไม่บรรลุเป้าหมายของตัวเอง !
หลินเทียนเชวี่ยกำหมัดแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ
ตัวเขาเองก็เพิ่งทราบข่าวเมื่อไม่นานมานี้ ทันทีที่ได้ข่าวเขาก็ตรงมายังเมืองหย่งเย่
แล้วตลอดเวลานั้นเขาก็ได้ค้นเบาะแสของเฝิงเจิ้งกั๋วอย่างต่อเนื่อง
แต่น่าเสียดายที่เขายังมาช้าไป 1 ก้าวอยู่ดี
ขณะที่พวกเขากำลังจะถึงเมืองหย่งเย่ เฝิงเจิ้งกั๋วก็ได้เผยเขี้ยวเล็บออกมา และสังหารผู้มีพลังแรงก์ SS ทั้ง 5 ที่ติดตามเขามาจนสิ้น!
หลินเทียนเชวี่ยได้แต่จินตนาการถึงความรู้สึกสิ้นหวังของคนพวกนั้นก่อนตาย
สุดท้ายแล้ว นายพลเฝิงที่ทุกคนให้การเคารพนับถือมาโดยตลอดกลับเป็นคนทรยศ แถมไม่พอยังมีความคิดที่จะฆ่าคนในทีมอีก!
ผู้มีพลังพิเศษแรงก์ SS เพียงไม่กี่คนจะไปรับมือกับเฝิงเจิ้งกั๋วผู้โหดเหี้ยมได้อย่างไรกัน
สิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้ก็คือ มองดูสหายร่วมรบของตัวเองถูกฆ่าตายไปทีละคน จนกระทั่งถึงคราวของพวกเขาที่ต้องตายด้วยน้ำมือของคนทรยศ
ผู้ชายที่ทุกคนไว้ใจที่สุดได้หยิบยื่นความตายมาให้พวกเขา
ความสิ้นหวังนี้มันเกินกว่าที่ใครจะจินตนาการได้
หลินเทียนเชวี่ยเคยรู้สึกถึงความสิ้นหวังที่ถูกทรยศแบบนี้มาก่อน แม้สุดท้ายแล้วเขาจะเอาชีวิตรอดมาได้
แต่สหายร่วมรบ พี่น้องทหารทั้งหมดของเขาต่างค่อย ๆ ล้มตายไปต่อหน้าต่อตาเขาทีละคน
นั่นคือความรู้สึกที่เขาสัมผัสด้วยตัวเองมาแล้วถึงได้เข้าใจทหารทั้ง 5 คนเป็นอย่างดี
ไม่มีความโศกเศร้าใดที่จะน่ากลัวไปกว่าหัวใจที่แตกสลาย
“เฝิงเจิ้งกั๋ว สำหรับสิ่งที่แกทำลงไป ถ้าสวรรค์ไม่ลงโทษแก ฉันจะลงโทษแกเอง!”
“ฉันจะแก้แค้นแทนพวกนายทุกคน!” ชายขาเดียวมองร่างไร้วิญญาณตรงหน้าพร้อมกับให้คำมั่น “ตอนนี้ฉันคงต้องปล่อยให้พวกนายพักอยู่ที่นี่ไปก่อน”
จากนั้นเขาก็เรียกพลังสายฟ้าออกมา
เปรี้ยง!!
สายฟ้าที่ผ่าลงมาอย่างรุนแรงได้ทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ 5 หลุม!
แล้วหลินเทียนเชวี่ยก็จัดการวางร่างทั้ง 5 ลงไปในหลุมลึกก่อนจะกลบด้วยดิน
“การสละชีวิตของพวกนายจะต้องไม่สูญเปล่า หากเราชนะการต่อสู้ในครั้งนี้ ฉันจะกลับมาพาพวกนายไปฝังไว้ในสุสานวีรชนผู้สละชีพ”
หลังจากพูดประโยคนี้หลินเทียนเชวี่ยก็หันกลับไปมองเมืองหย่งเย่ด้วยสายตาแน่วแน่
วินาทีถัดมา ร่างของเขาเปลี่ยนเป็นสายฟ้าพุ่งตรงไปยังเมืองหย่งเย่ทันที
ความแค้นทั้งหมดจะต้องยุติลง ณ ที่แห่งนั้น!!
..
ข้างเมืองหย่งเย่
ขณะนี้เงา 2 เงากำลังเดินเข้าไปใกล้กำแพงเมือง
ฉู่อวี้ที่เดินตามหลี่หวงเหยียนมากระซิบว่า “แบบนี้เราจะเข้าไปข้างในได้ยังไงคะ? ดูเหมือนว่าที่หน้าประตูจะมีไททันมหาวิบัติเฝ้าไว้อยู่ ถ้าเราบุกเข้าไปตรง ๆ ไททันที่อยู่ด้านในก็จะรู้ตัวกันหมด”
ชายผมแดงยิ้มพูดว่า “ยัยเด็กโง่ เรากำลังจะไปทำภารกิจลอบสังหารกัน เราจะไปทำให้ศัตรูรู้ตัวทำไมล่ะ”
จากนั้นเขาก็พาเด็กสาวลัดเลาะไปยังจุดที่ดูเงียบสงบ
“เมื่อวานตอนที่เธอนอนหลับอยู่ ฉันได้ออกมาสำรวจพื้นที่เอาไว้เรียบร้อยแล้ว” หลี่หวงเหยียนบอกเล่า “นี่คือจุดที่การป้องกันอ่อนแอที่สุด แค่เราแอบเข้าไปจากตรงนี้ ไททันที่ลาดตระเวนก็จะตรวจจับเราได้ยาก”
ฉู่อวี้พยักหน้ารับ “ว่าแต่… เราจะเข้าไปข้างในกันยังไงคะ?”
“คอยดูฉันเอาไว้” ถัดมา ชายผมแดงยื่นมือขวาออกไปวางบนกำแพงเมืองเบื้องหน้า วินาทีต่อมาก็มีแสงสว่างพุ่งออกมาจากฝ่ามือของเขา
ขณะเดียวกัน ไฟร้อนแรงที่แผ่ออกมาจากฝ่ามือก็เริ่มทำหน้าที่หลอมละลายกำแพงเบื้องหน้า
ต้องบอกเลยว่าการควบคุมพลังของหลี่หวงเหยียนนั้นแม่นยำอย่างน่าเหลือเชื่อ
เขาควบคุมพลังไฟได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยไม่ปล่อยความผันผวนของพลังส่วนเกินออกมาเลยแม้แต่น้อย!
ในสถานการณ์แบบนี้ ความแปรปรวนของพลังแม้จะเพียงเล็กน้อยก็อาจจะทำให้ศัตรูรู้ตัวเอาได้ง่าย ๆ และพลังในระดับต่ำนี้แทบจะตรวจจับไม่ได้เลย เว้นแต่ว่าจะมีไททันมหันตภัยอยู่ใกล้ ๆ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 99
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น