บทที่ 107: ไอ้คนทรยศคนนั้น… แน่นอนว่าเป็นฉันเอง!
ทันทีที่หลินหยวนอัปเกรดพลังรักษาไปจนถึงระดับ A เขาก็มีสกิลพิเศษ 2 อย่าง นั่นก็คือวิคหะเยียวยาและรักษาฉับพลัน แถมเขายังมีของขวัญจากเทพีแห่งชีวิตอีกด้วย!
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ศัตรูที่พยายามกำจัดเขาจะต้องทุ่มเทความพยายามมากกว่าเดิมหลายเท่าตัวถึงจะทำสำเร็จ
ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากอัปเกรดพลังรักษาเป็นระดับ A แล้ว หลินหยวนก็มีพลังพิเศษระดับ A ถึง 3 อย่าง!
นั่นก็คือ [สายฟ้า], [น้ำแข็ง] และ [รักษา]!
นอกจากนี้เขายังมีสกิลพิเศษติดตัวอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ในสายตาของเขานั้น แค่นี้มันยังไม่พอ
เพราะถึงอย่างไรศัตรูที่เขากำลังจะเผชิญหน้าอยู่ในระดับเดียวกับไททันมังกรเพลิง ไททันมหันตภัย!
เมื่อครู่เด็กหนุ่มได้สัมผัสถึงความน่ากลัวของไททันมังกรเพลิงด้วยตัวเอง เพียงแค่แรงกดดันจากอีกฝ่ายก็ทำให้เขาหายใจลำบากแล้ว
เขานึกภาพไม่ออกเลยว่าตนจะต่อกรกับไททันระดับ 8 ตัวนี้ได้อย่างไร ถึงเขาจะเคยฆ่าไททันมหันตภัยมาแล้ว แต่นั่นเป็นการอาศัยพลังจากภายนอกเข้ามาช่วยเหลือ
อีกทั้งเขาถึงขั้นต้องสังเวยศพของไททันระดับ 5 ขึ้นไปมากกว่า 1,000 ตัว หลังจากผ่านการสังเวยอันเดดเสร็จแล้วเขาจึงจะสามารถอัญเชิญเพชฌฆาตปีกดำที่บดขยี้ไททันจอมมารทมิฬออกมาได้
แต่ไททันจอมมารทมิฬเทียบกับไททันมังกรเพลิงที่เขากำลังเผชิญอยู่ไม่ติดฝุ่นเลยสักนิด
อย่างน้อยที่สุดเขาก็ไม่รู้สึกถึงรังสีกดดันและภัยคุกคามที่แผ่ออกมาจากตัวอีกฝ่าย
ทันใดนั้นหลินหยวนก็วางแผนการรบในหัวคร่าว ๆ ซึ่งเป็นแผนที่ทำให้พวกเขาหลบหนีออกไปได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บและยังสังหารไกอัส ไททันอนธการได้สำเร็จ
แผนการของเขาไม่ได้ซับซ้อนอะไร
เพราะยิ่งแผนเรียบง่ายมากเท่าไหร่ ยามที่เอาไปปฏิบัติจริงก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น
ก่อนที่เขาจะคิดแผนการนี้ เขาก็ได้พิจารณาถึงความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้
ซึ่งกำลังรบของฝ่ายไททันนั้นประกอบด้วยไททันมังกรเพลิงและไททันอนธการเป็นหลัก
ไททันมหันตภัยทั้ง 2 นี้ต่างก็มีพลังที่น่าเกรงขามและทรงพลังมากเหมือนกัน
แต่เมื่อเทียบกับไกอัส ไททันมังกรเพลิงเก่งกว่าเห็น ๆ แม้จะอยู่ในระดับเดียวกันก็ตาม
หลินหยวนไม่กล้าประมาทศัตรูในระดับนี้เลย
ส่วนฝ่ายพวกเขามีหลี่หวงเหยียน, ฉู่อวี้ แล้วก็ตัวเขา ในบรรดาพวกเขาทั้ง 3 ชายผมแดงเป็นเพียงคนเดียวที่มีพลังแรงก์ SSS
มันหมายความว่าฝ่ายพวกเขามีเพียงคนเดียวที่มีพลังเทียบเท่ากับไททันมหันตภัย ยิ่งไปกว่านั้น แม้ในสถานการณ์การสู้รบแบบตัวต่อตัว หลี่หวงเหยียนก็อาจจะเทียบไททันมังกรเพลิงไม่ติดฝุ่น
จะบอกว่าหลินหยวนอวยคู่ต่อสู้จนเกินงามก็ได้ แต่อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าไททันมังกรเพลิงเคยทำให้หลินเทียนเชวี่ยต้องกลายเป็นคนพิการไร้พลังอย่างเช่นทุกวันนี้
หากจะกล่าวว่ามันเป็นการต่อสู้แบบ 1 ต่อ 2 ที่อีกฝ่ายมีพลังเหนือกว่าก็ไม่ผิด
สิ่งนี้ชี้ชัดว่าชัยชนะเป็นของฝ่ายไททันแบบ 100%
แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไร้โอกาสเสียทีเดียว
หากพวกเขาปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมาในช่วงเวลาที่เหมาะเจาะ หลินหยวนก็จะมีพลังเทียบเท่ากับผู้มีพลังพิเศษแรงก์ SSS
เพียงเท่านี้ฝ่ายพวกเขาก็จะมีผู้มีพลังพิเศษแรงก์ SSS 2 คน
แต่นั่นก็ยังไม่พอ
บนถนนที่มุ่งเข้าสู่ซอยตัน พวกเขาจะต้องหาจุดพุ่งทะลุออกไป
กุญแจสำคัญในการฝ่าทางตันนี้อยู่ที่คนสุดท้าย
คนคนนั้นก็คือ… ฉู่อวี้!
แม้ว่าเด็กสาวจะมีพลังสูงสุดอยู่แค่แรงก์ S แต่ในฐานะผู้สืบทอดมรดกไททันศักดิ์สิทธิ์ เธอมีพรสวรรค์ที่สามารถต่อกรกับไททันอนธการได้
ถึงหลินหยวนจะไม่รู้ว่าพลังนี้คืออะไร แต่ในเมื่อกองทัพตัดสินใจส่งเธอออกมาปฏิบัติภารกิจแบบนี้ แสดงว่าเธอต้องเป็นกุญแจสำคัญในการต่อสู้
ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่ยอมส่งฉู่อวี้ที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่มาเสี่ยงอันตราย
และนี่คือแผนการของหลินหยวน
ทันทีที่ถึงเวลาปฏิบัติการกำจัดไกอัส จะเกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่ในเมืองหย่งเย่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เพราะมันเป็นการต่อสู้ระหว่างพวกเขากับไททันมหันตภัย 2 ตัว!
สิ่งที่พวกเขาต้องทำก็คือร่วมมือกันสังหารไกอัสให้ได้ก่อน!
ส่วนไททันมังกรเพลิงมันตึงมือเกินไป ถึงหลินหยวนจะปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมาและร่วมมือกับหลี่หวงเหยียนที่มีพลังแรงก์ SSS ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่าย
อย่างน้อยเขาก็ยังมีโชคอยู่บ้าง เพราะพวกเขาสามารถใช้ไททันอนธการที่อ่อนแอกว่าเป็นจุดเปลี่ยนในสนามรบ
ขอเพียงฉู่อวี้จัดการกับไกอัสได้จริง ๆ พวกเขาก็จะฆ่ามันได้ในเวลาที่รวดเร็ว
จากนั้นหลินหยวนก็จะใช้พลังอันเดดเปลี่ยนร่างไกอัสให้มาเป็นกำลังรบของเขา แค่นี้เขาก็จะใช้อันเดดไททันอนธการไปต่อสู้กับไททันมังกรเพลิงเพื่อยื้อเวลาให้พวกเขาหลบหนีออกจากเมืองหย่งเย่
หากแผนการนี้ลุล่วงไปด้วยดี อย่างน้อยพวกเขาก็ยังเหลือความหวังที่จะหลบหนีไปได้สำเร็จ
ต่อให้มันจะเป็นความหวังเพียงริบหรี่ก็ตาม
เพราะเด็กหนุ่มพิจารณาดูแล้วแผนการนี้พอจะมีความเป็นไปได้อยู่ ทว่าสถานการณ์ในสนามรบมันมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไม่มีใครรู้ว่าสุดท้ายแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น
“คงทำได้แค่ก้าวไปทีละก้าว” หลินหยวนกัดฟันกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว
…
วันต่อมา เมื่อถึงเวลากลางคืนมาเยือน
“เราไปกันเถอะ” หลี่หวงเหยียนลุกขึ้นแล้วยื่นมือออกไปเผาเต็นท์ทั้ง 2 หลังจนเป็นเถ้าถ่าน “เตรียมพร้อมปฏิบัติการ”
ฉู่อวี้พยักหน้าแล้วเดินตามเขาไปทันที
เมื่อออกมาจากถ้ำได้สักพัก เธอก็มองเห็นเมืองหย่งเย่ที่ตั้งตระหง่านคล้ายกับยักษ์กำลังหลับใหลทอดยาวสุดลูกหูลูกตา
สิ่งที่เธอต้องทำตอนนี้ก็คือเข้าไปในเมืองนั้นและสังหารไททันที่มีนามว่า ‘ไกอัส’!
…
อีกด้านหนึ่ง
“ท่านนายพลเฝิง ดูเหมือนว่านายพลหลี่กับผู้สืบทอดได้ออกไปจากที่นี่แล้วครับ” ชายร่างสูงผมสั้นประบ่าเดินเข้าไปรายงานสิ่งที่ตนพบแก่เฝิงเจิ้งกั๋ว
แล้วผู้ชายคนนั้นก็กระซิบว่า “ท่านนายพลเฝิง พวกเราควรลงมือเลยดีไหมครับ?”
พวกเขาเดินทางไกลมาถึงที่นี่เพื่อให้มั่นใจว่าภารกิจในครั้งนี้จะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
เนื่องจากศัตรูอาจจะล่วงรู้แผนการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นายพลเฝิงจึงเสนอตัวติดตามมาเป็นกองหนุนคอยดูแลความปลอดภัยให้กับทหารทั้ง 2 ที่กำลังปฏิบัติการ
นั่นทำให้พวกเขาต่างรู้สึกชื่นชมนายพลเฝิงคนนี้มาก
เพราะในฐานะผู้ที่นั่งในตำแหน่งสูงของกองทัพ เฝิงเจิ้งกั๋วซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในกองบัญชาการแค่คอยสั่งการมอบหมายภารกิจทั้งหมดก็ได้ เขาไม่จำเป็นต้องมาเสี่ยงชีวิตด้วยซ้ำ
ต้องยอมรับเลยว่าท่านนายพลเฝิงอุทิศตนเพื่อประเทศชาติอย่างแท้จริง!
หลังจากที่ชายผมสั้นประบ่าถาม เฝิงเจิ้งกั๋วก็ส่ายหน้าพูดเสียงอบอุ่นว่า “ไม่ต้องรีบร้อน ก่อนอื่นเราต้องทำบางอย่างกันก่อน”
ชายผมสั้นตกตะลึงไปเล็กน้อยแล้วถามออกไปอย่างไม่เข้าใจว่า “พวกเราต้องทำอะไรเหรอครับท่าน?”
เฝิงเจิ้งกั๋วกล่าวพร้อมทำหน้าจริงจังว่า “ก่อนเข้าเมืองหย่งเย่ เราจะต้องเคลียร์กำลังพลก่อน”
คนที่ได้ยินมีสีหน้าสับสน เขาไม่เข้าใจคำพูดของหัวหน้าตนเลย
จากนั้นเฝิงเจิ้งกั๋วจึงเริ่มขยับเข้าไปใกล้อีกฝ่ายแล้วพูดเสียงเบาลง “ในทีมของเรามีคนทรยศแฝงอยู่!”
“หา! ใครครับ?!” ชายผมประบ่าตกใจพร้อมกับกวาดตามองไปรอบ ๆ ด้วยท่าทางหวาดระแวง
เขาไม่คาดคิดเลยว่าจะมีคนทรยศแทรกซึมเข้ามาในกองหนุนเช่นนี้!
แต่วินาทีต่อมา ก่อนที่เขาจะทันได้ตั้งตัว มือขวาของเฝิงเจิ้งกั๋วก็แทงทะลุหน้าอกเขาเข้าไปในคราวเดียวพร้อมกับบีบหัวใจของเขาจนแหลกสลาย
“ก็ต้อง… เป็นฉันน่ะสิ!” นายพลเฝิงเงยหน้าเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา
“ท่านนายพลเฝิง…” ชายผมสั้นเบิกตามองภาพตรงหน้าด้วยความเหลือเชื่อ ในขณะที่มือของเขาห้อยลงข้างตัว ไม่นานแสงสว่างในดวงตาก็ค่อย ๆ หรี่ลง
แม้กระทั่งก่อนที่เขาจะตาย คำพูดที่เปล่งออกมาจากปากก็ยังคงเป็นชื่อของอีกฝ่าย
มันบ่งบอกว่าถึงเขาจะเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ แต่เขาก็ยังไม่เชื่อว่านายพลเฝิงนั้นเป็นกบฏที่แฝงตัวเข้ามา!
“หึ โง่ชะมัด” เฝิงเจิ้งกั๋วมองท่าทางน่าสมเพชของชายตรงหน้าแล้วอดเยาะเย้ยไม่ได้
“เกิดอะไรขึ้น?!” ทันใดนั้นผู้มีพลังพิเศษแรงก์ SS อีก 4 คนในทีมก็สังเกตเห็นความผิดปกติจึงหันมามอง
แต่เฝิงเจิ้งกั๋วกลับพูดเสียงขรึมว่า “เขาเป็นกบฏที่แฝงตัวเข้ามาในกองทัพ ผมก็เลยฆ่าเขา”
จากนั้นสายตาคมกริบดุจเหยี่ยวของเขาก็จับจ้องไปยังผู้มีพลังพิเศษแรงก์ SS ทั้ง 4 ก่อนจะกล่าวว่า “ผมคอยเตือนอยู่ตลอดว่าถึงแม้ว่าเพื่อนทหารของเราจะอยู่ด้วยกันทุกวัน แต่ก็อย่าได้เชื่อใจใครง่าย ๆ เพราะพวกไททันได้ส่งคนเข้ามาแฝงในกองทัพพวกเราตั้งนานแล้ว!”
สิ้นเสียงพูด สีหน้าของคนทั้ง 4 ก็แสดงออกถึงความตกใจ
พวกเขาไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าผู้ชายผมประบ่าที่เดินทางมาด้วยกันจะเป็นหนอนบ่อนไส้
“ขอบคุณท่านนายพลที่สั่งสอน พวกเราจะจดจำคำพูดของท่านเอาไว้ให้ขึ้นใจครับ”
ทันใดนั้นผู้มีพลังน้ำแข็งก็ก้าวออกมาเหลือบมองศพของชายผมสั้นแล้วพูดว่า “ถ้าท่านนายพลไม่พบเข้าซะก่อนแล้วปล่อยให้คนทรยศอยู่ในกลุ่มเราต่อไป ไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะเกิดเหตุการณ์เลวร้ายอะไรขึ้นบ้าง”
เฝิงเจิ้งกั๋วแสร้งถอนหายใจเสียงดัง “เฮ้อ! พวกเราต่างก็ทำดีกับเขาทุกอย่าง ทำไมเขาถึงได้แปรพักตร์ไปอยู่กับไททันกันนะ—”
ทว่าก่อนที่เขาจะทันได้พูดจบ ก็มีแสงเย็นวาบขึ้นจากด้านหลัง
ดาบน้ำแข็งอันคมกริบก่อตัวขึ้นก่อนจะฟันเข้าใส่เฝิงเจิ้งกั๋วเต็มแรง!
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 107
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น