บทที่ 80: แผนการขั้นสุดท้ายเริ่มต้น บุกคุกนักโทษฉกรรจ์
“นี่แก…” ดวงตาของฝ่ายที่ถูกทำร้ายเบิกกว้างในขณะที่เขาแสดงสีหน้าโกรธเคือง
“สิ่งที่โง่เขลาที่แกทำลงไปก็คือมาเรียกเงินจากคนของลัทธิไททันอย่างฉัน” ชายชุดดำกล่าวเยาะเย้ย “แต่ไม่ต้องห่วงนะ แกไม่ใช่คนเดียวหรอกที่จะตายในวันนี้ งานเลี้ยงสังหารกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว”
“สมองกลวง ๆ อย่างแกที่ถูกความโลภครอบงำจนไม่สนเรื่องอื่น แกคงไม่เคยคิดมาก่อนสินะว่ายาที่ผสมในโจ๊กของผู้ลี้ภัยพวกนั้นสามารถเปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นไททันได้”
“ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีสาวกลัทธิไททันอย่างฉันอีกนับพันอยู่ในป้อมปราการสงครามที่เตรียมตัวจะลงมือ!”
“อีกไม่นานป้อมปราการแห่งนี้ก็จะถูกทำลายล้าง และแกก็จะมีส่วนร่วมในเรื่องนี้ด้วย” หลังจากพูดจบชายสวมหน้ากากก็กดมีดในมือเข้าไปลึกมากขึ้น
ส่งผลให้ดวงตาของชายร่างใหญ่เบิกกว้าง หลังจากที่ส่งเสียงร้องในลำคอพร้อมกับเลือดที่ไหลทะลักออกมา เขาก็สิ้นลมหายใจทั้งที่ตายังไม่ปิด
สหายทั้ง 3 ของจอมมารทมิฬ มัจจุราชหน้าหยก, ภูตพยัคฆ์และปีศาจนรกล้วนตายด้วยน้ำมือของหลินหยวน
แต่เด็กหนุ่มกลับประเมินการแทรกซึมของสาวกลัทธิบูชาไททันในป้อมปราการแห่งนี้ต่ำไปมาก
ภายในป้อมปราการสงครามยังมีผู้ศรัทธาลัทธิบูชาไททันอย่างน้อย 1 คนกำลังดำเนินตามแผนขั้นสุดท้าย
ผู้ศรัทธาเหล่านี้เป็นเหมือนหน่วยสังหารที่คอยรับฟังคำสั่งของจอมมารทมิฬ ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาจะน้อยนิด ทว่าแต่ละคนก็มียาแปลงร่างเป็นไททันสำรองเอาไว้ในมือ และสิ่งที่พวกเขาจะต้องทำก็คือใช้ยาพวกนี้เพื่อเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นไททันให้ได้มากที่สุด!
เพียงเท่านี้ ในไม่ช้าป้อมปราการสงครามก็จะตกอยู่ในความโกลาหล
ดังที่สาวกลัทธิบูชาไททันได้กล่าวเอาไว้ งานเลี้ยงสังหารได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!
…
ณ คุกนักโทษฉกรรจ์ในป้อมปราการ
ภายในป้อมปราการสงครามนั้นมีคุกสำหรับคุมขังผู้มีพลังพิเศษเพียง 2 แห่ง
ซึ่งก็คือคุกใต้ดินกับคุกนักโทษฉกรรจ์
โดยที่คุกนักโทษฉกรรจ์จะคุมขังเฉพาะอาชญากรร้ายแรงและนักโทษที่เตรียมตัวจะถูกประหารชีวิต
ยิ่งไปกว่านั้น บุคคลพวกนี้ยังเป็นผู้มีพลังพิเศษแรงก์ B ขึ้นไป เพื่อกักขังผู้มีพลังที่เป็นอาชญากรเหล่านี้ คุกนักโทษฉกรรจ์จึงมีการคุ้มกันอย่างหนาแน่นและมีระบบการป้องกันหลายชั้น ทำให้นักโทษไม่มีทางหลบหนีออกไปจากที่นี่ได้เลย
ด้วยเหตุนี้เอง คุกดังกล่าวจึงมีชื่อว่า ‘คุกนักโทษฉกรรจ์’
มีเรื่องเล่าที่ถูกกล่าวขานกันในป้อมปราการว่า หากใครถูกขังอยู่ในคุกนักโทษฉกรรจ์ มันก็เหมือนเท้าข้างหนึ่งของพวกเขาได้ก้าวเข้าสู่ประตูนรกแล้ว สิ่งนี้บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าคุกนักโทษฉกรรจ์นั้นอันตรายมากแค่ไหน
และในขณะนี้เป้าหมายของจอมมารทมิฬก็คือ คุกนักโทษฉกรรจ์แห่งนี้นี่เอง!
เขาไม่ได้คิดที่จะปล้นคุก เขาแค่ตั้งใจจะปล่อยนักโทษทั้งหมดในคุกออกมาต่างหาก
นอกจากนี้เขายังอยากจะเปลี่ยนนักโทษที่โหดเหี้ยมพวกนั้นให้กลายเป็นไททัน!
ยามนี้เขาถอดเสื้อเปลือยท่อนบนโดยสวมเพียงกางเกงขายาวสีดำ เขาเดินมุ่งหน้าตรงไปยังประตูคุกนักโทษฉกรรจ์ด้วยสีหน้าเรียบเฉย พร้อมกับปลดปล่อยแรงกดดันออกมาอย่างไม่สะทกสะท้าน
ทหารยาม 2 คนที่เฝ้าประตูคุกสังเกตเห็นพฤติกรรมที่ผิดปกติของจอมมารทมิฬจึงเข้ามาขวางเขาไว้
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ แกเป็นใคร! ที่นี่เป็นเขตหวงห้าม ห้ามใครเข้าใกล้! รีบออกไปเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นเรามีสิทธิ์ที่จะยิงแกทันที!”
จอมมารทมิฬเงยหน้าขึ้นใช้สายตาเย็นชากวาดมองไปทั่วใบหน้าของทหารยามทั้ง 2
“น่ารำคาญชะมัด” ทันทีที่เขาพูดจบ ลำแสงปีศาจสีดำสนิท 2 เส้นก็พุ่งออกจากปลายนิ้วทะลุลำคอของอีกฝ่ายในทันที
ทุกคนอาจจะไม่รู้ว่าทหารที่เฝ้าคุกนักโทษฉกรรจ์นั้นล้วนเป็นผู้มีพลังพิเศษแรงก์ A!
แต่พออยู่ต่อหน้าจอมมารทมิฬ แม้แต่วินาทีเดียวทหารเหล่านี้ก็ไม่สามารถรับมือเขาได้
หลังจากสังหารทหารยามทั้ง 2 แล้ว ร่างสูงก็ก้าวขาข้ามศพของพวกเขาก่อนจะผลักประตูคุกให้เปิดออกแล้วเดินเข้าไป
ไม่นานเสียงสัญญาณเตือนภัยก็ดังขึ้น ทำให้ภายในคุกเกิดความวุ่นวายทันที
แล้วทหารติดอาวุธจำนวนหนึ่งก็วิ่งออกมาจากด้านในแล้วเปิดฉากยิงใส่ผู้บุกรุกโดยไม่สนใจที่จะพูดคุยเหมือนก่อนหน้านี้
ถึงกระนั้นสีหน้าของจอมมารทมิฬก็ยังเรียบเฉยราวกับว่าเขาไม่รู้สึกสะทกสะท้านอะไรเลยสักนิด
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
จังหวะนั้นลวดลายอักขระบนร่างของเขาจู่ ๆ ก็เปล่งแสงสีดำออกมา วินาทีต่อมาแสงเวทมนตร์ก็ปรากฏขึ้นรอบตัวขว้างกั้นกระสุนที่พุ่งเข้ามาทั้งหมด
“มนุษย์เอ๋ย ๆ ช่างโง่เขลายิ่งนัก” จอมมารทมิฬเหยียดยิ้มเยาะ “พวกแกคิดจริง ๆ เหรอว่า…. อาวุธปืนชั้นต่ำพวกนี้จะทำอะไรฉันได้?”
กระสุนที่ถูกกระหน่ำยิงอย่างบ้าคลั่งนั้นไม่อาจทำลายกำแพงเวทมนตร์ที่ล้อมรอบตัวเขาได้เลย แต่ทันใดนั้นเสียงคำรามก็ดังก้องเข้ามาในหูเขา
ซู่มมม!
พร้อมกับเสียงคำรามนั้น จรวดที่ทรงพลังก็พุ่งตรงเข้าใส่จอมมารทมิฬ
ตามปกติแล้วแม้แต่ผู้มีพลังพิเศษแรงก์ S ก็ไม่อาจรับมือกับจรวดที่ถูกยิงออกมาจากเครื่องยิงจรวดได้
แต่นอกจากสีหน้าของจอมมารทมิฬจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เขายังสลายกำแพงเวทมนตร์ที่อยู่รอบตัวเขาออกไปด้วย
จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นทำให้ลวดลายปีศาจบนตัวเปล่งแสงสีดำออกมาอีกครั้ง
แสงสีดำนี้ได้ปกคลุมแขนขวาของเขาก่อตัวเป็นมือปีศาจสีดำสนิทขนาดมหึมาขึ้น
วินาทีต่อมา จอมมารทมิฬก็เหวี่ยงแขนขวาออกไปคว้าจรวดที่พุ่งเข้ามา
ตูม!!
ชายร่างสูงบดขยี้จรวดด้วยสีหน้าว่างเปล่า
ในเวลาเดียวกัน ผลพวงจากแรงระเบิดก็ขยายออกไปทำให้หลายคนถูกกระแทกล้มลง
“อาวุธหนักก็ทำอะไรมันไม่ได้เลย ทุกคนรีบถอยไปเร็วเข้า! ตรงนี้ฉันจะจัดการเอง!” ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนดังขึ้น
ชายวัยกลางคนที่มีสีหน้าเคร่งขรึมและท่าทางองอาจได้ก้าวออกมาจากกลุ่มทหารในขณะที่ถือดาบคมกริบเอาไว้ในมือ
ทันทีที่เขาเดินออกมา ทหารทุกคนต่างก็หลีกทางให้เขาโดยอัตโนมัติ นั่นเป็นเพราะเขาคือหัวหน้าผู้คุมคุกนักโทษฉกรรจ์ ‘ถังหย่วนซาน’!
เขาเป็นผู้มีพลังพิเศษแรงก์ S ขั้นสูง คงจะไม่ใช่การพูดเกินจริงหากจะบอกว่า นอกจากผู้พิทักษ์ป้อมปราการทั้ง 4 คนของหน่วยลาดตระเวนแล้ว ไม่มีใครในหน่วยลาดตระเวนเหนือกว่าเขาอีก!
ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้คุมที่นี่!
จอมมารทมิฬมองไปยังชายวัยกลางคนตรงหน้าพร้อมกับเหยียดยิ้มร้ายกาจ “แกคิดว่าแกจะขวางฉันได้เหรอ?”
“ด้วยดาบในมือฉันนี่ไง!” ถังหย่วนซานตะโกนลั่นก่อนจะกระโดดเงื้อดาบขึ้นเหนือศีรษะฟันเข้าใส่ศัตรู
…
1 นาทีต่อมา
จอมมารทมิฬเหยียบย่ำศพที่ยับเยินของถังหย่วนซานเอาไว้ใต้ฝ่าเท้า
บาดแผลบนร่างกายนั้นเผยให้เห็นถึงความโหดร้ายของการต่อสู้ที่เขาต้องแบกรับก่อนหน้านี้
แล้วจู่ ๆ จอมมารทมิฬก็โน้มตัวลงไปควักหัวใจถังหย่วนซานออกมาด้วยมือเปล่า
“เป็นแค่ผู้มีพลังแรงก์ S ธรรมดายังคิดจะมาขวางฉันอีกงั้นเหรอ?” จอมมารทมิฬกินหัวใจของอีกฝ่ายเข้าไปในคำเดียวก่อนจะกล่าวเยาะเย้ยว่า “ชีวิตของแกมีค่ามากสุดก็แค่หัวใจที่แสนอร่อยให้ฉันกินอีกดวงหนึ่งเท่านั้น!”
ผู้คุมเรือนจำที่อยู่โดยรอบเห็นภาพที่ปรากฏต่างก็สั่นสะท้านไปทั้งตัวพร้อมกับมีสีหน้าสิ้นหวัง
ตอนนี้แม้แต่คนที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังล้มอยู่ต่อหน้าพวกเขา
ไม่มีใครรู้ว่าชายร่างสูงคนนี้ได้ครอบครองพลังที่น่าสะพรึงกลัวประเภทไหนกันแน่ แถมบนร่างของเขาก็ยังมีลวดลายอักขระแปลกประหลาดอยู่ด้วย
แต่จอมมารทมิฬกลับไม่สนใจมดปลวกพวกนั้นแล้วเดินมุ่งตรงไปยังห้องขังของนักโทษ
เขาจะปลดปล่อยนักโทษอุกฉกรรจ์ทั้งหมดที่นี่ ให้พวกมันกลายร่างเป็นไททัน
แบบนี้พลังของนักโทษพวกนี้ก็จะยิ่งสูงมากขึ้น เพื่อให้พวกมันได้ปลดปล่อยความเกลียดชัง ความโกรธแค้นที่ฝังอยู่ในใจลงบนป้อมปราการสงครามแห่งนี้ได้อย่างเต็มที่!
หลังจากที่ป้อมปราการถูกทำลายจนสิ้นซาก ผู้รอดชีวิตท่ามกลางนักโทษพวกนี้จะกลายเป็นผู้ศรัทธาลัทธิบูชาไททันที่ยิ่งใหญ่เช่นเดียวกับเขา!
…
ณ กองบัญชาการทหารลาดตระเวนภายในป้อมปราการสงคราม
ปัจจุบันบรรยากาศรอบตัวของโจวอวี้หลงเหมือนมีเมฆหมอกที่มืดครึ้มกำลังปกคลุม
เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “หัวหน้าลัทธิไททันที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดในที่สุดก็ลงมือสักที เมื่อ 5 นาทีก่อนฉันได้รับรายงานว่ามีคนบุกคุกนักโทษฉกรรจ์ ตอนนี้นักโทษที่อยู่ข้างในถูกปล่อยตัวออกมาหมดแล้ว ถ้ามันไม่ผิดไปจากที่ฉันคาด คนพวกนี้น่าจะดื่มยาแปลงร่างกันเรียบร้อยแล้ว อีกไม่นานพวกเขาก็จะกลายเป็นไททัน”
คำพูดของชายชุดเกราะทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องปิดปากเงียบ
พวกเขาทุกคนรู้ดีว่านักโทษอุกฉกรรจ์พวกนี้จะทำอะไรหลังจากที่เปลี่ยนร่างกลายเป็นไททัน
ทันใดนั้นหลี่ต้าหมานก็ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “คุกนักโทษฉกรรจ์ถูกทำลาย… แล้วถังหย่วนซานล่ะ?”
โจวอวี้หลงได้แต่เม้มปากเงียบหลังจากที่ได้ยินคำถามของอีกฝ่าย
เขารู้ว่าหลี่ต้าหมานกับถังหย่วนซานนอกจากจะเป็นคนที่มาจากบ้านเกิดเดียวกันแล้ว พวกเขายังเป็นเพื่อนสนิทที่เล่นมาด้วยกันตั้งแต่เด็กอีกด้วย
ทุกครั้งที่พวกเขาไปดื่มกัน ถังหย่วนซานจะชี้หน้าด่าเพื่อนตัวเองว่าโง่ บอกว่าเขาไม่มีสมอง แต่ถึงอย่างนั้นเพื่อนคนนี้กลับก้าวหน้ากว่าตนเองไป 1 ขั้น
ในตอนนั้นหลี่ต้าหมานไม่ได้รู้สึกโกรธเลย เขากลับอวดสถานะผู้พิทักษ์ของเขากับเพื่อนสนิทด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ ทำให้อีกฝ่ายได้แต่กัดฟันกรอด
ทุกคนในที่นี้นอกจากหลินหยวนรู้ดีว่าความสัมพันธ์ระหว่างชายทั้ง 2 นั้นสนิทชิดเชื้อกันมากแค่ไหน
หลี่ต้าหมานที่ได้รับความเงียบจากโจวอวี้หลง เขาก็สามารถเดาคำตอบได้แล้ว
ถึงกระนั้นเขาก็ไม่อยากจะยอมรับ เขาผลักไหล่อีกคนพร้อมกับตะโกนคาดคั้น “พูดมาสิ! เป็นใบ้ไปแล้วหรือไง! ฉันถามนายอยู่นะ ถังหย่วนซานอยู่ที่ไหน!”
*******************************************
SkySaffron: ตัวหัวหน้าเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว!
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 109
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น