บทที่ 8...1/3
ดอกมะลิสีขาวร่วงลงสู่พื้น แต่ยังส่งกลิ่นหอมแม้ว่าจะเหี่ยวเฉาและกลายเป็นปุ๋ยให้หญ้าและต้นไม้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ลัลนามองดอกมะลิ แต่ได้คำตอบที่หาความหมายของมีชีวิตและการจากไปของชีวิตหนึ่ง สุสานยังคงเป็นแบบนี้ มีการจากไปและการคิดถึงของผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่การมีแม่ในทุกช่วงของชีวิตมาตลอด 26 ปี ทำให้เธอไม่ชินได้ง่ายๆ กับการที่ไม่มีแม่อีกแล้ว พ่อจากเธอไปตั้งแต่ยังเด็กเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้เธอมีความทรงจำที่เกี่ยวกับพ่อไม่มากนัก แต่ความทรงจำที่มีกับแม่ทำให้เธอยังคงคิดถึงแม่ทุกวัน บางวันก็ร้องไห้ออกมาเงียบๆ
ยกเว้นวันนี้ที่เธอพยายามเข้มแข็งเพราะไม่ได้มาที่สุสานคนเดียวอย่างที่ตั้งใจ แต่รามินมาด้วย เธอหันไปมองเขาอยากรู้ว่าทำไมเขาถึงอยากมาสุสานกับเธอ ตอนที่พบกันครั้งแรก เขาแสดงออกว่าไม่ชอบแม่ของเธอนัก แม้จะไม่โจ่งแจ้ง แต่เธอก็ดูออกว่าเขารู้สึกแบบนั้น
“มองผมแบบนั้นเพราะอะไร” รามินถาม เขาดูออกว่าลัลนาประหลาดใจที่เขามาด้วย แต่สายตาของเธอที่มองเขาจะว่ายินดีก็ไม่เชิง อึดอัดก็ไม่น่าใช่
“ฉันแค่ไม่คิดว่าคุณจะมาด้วย แล้วก็ไม่คิดว่าคุณจะเหมือนฉัน เอ่อ ฉันหมายถึง คุณนับถือพระเจ้าเหมือนฉัน” ลัลนาถามแบบไม่อ้อมค้อม ในเมื่อชีวิตต่อไปจากนี้คงอยู่ในการดูแลของรามินอีกนาน จนกว่าเธอจะแต่งงาน ซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไหร่
“ที่ UAE มีความหลากหลายของศาสนา เพราะฉะนั้นคงไม่แปลกที่ผมก็มีที่ยึดเหนี่ยวทางใจเหมือนคุณหรือใครๆ ที่มายังโบสถ์แห่งนี้”
ลัลนาพยักหน้ารับฟังความเป็นไปในโลกที่เธอไม่รู้หรืออาจจะไม่ได้ใส่ใจรามินมาตั้งแต่แรก อาจเพราะอคติในใจที่มีต่อกัน พอมาถึงเวลานี้เขาน่าจะกลายเป็นที่พึ่งเดียวของเธอไปแล้ว
“คุณเคยร้องไห้ไหมคะ”
“ทำไมถึงถามแบบนั้น ไม่มีใครที่ไม่เคยร้องไห้ คุณคิดว่าผมเป็นก้อนหินไม่มีความรู้สึกหรือไง” รามินเลิกคิ้วมองลัลนาที่กลั้นร้องไห้จนตาแดง เธอพยายามเข้มแข็ง เขาดูออก แต่ยิ่งเธอเข้มแข็ง เขายิ่งสบายใจ การเป็นคนข้างกายเขาดูเหมือนอันตราย แต่การห่างไปจากเขาจะอันตรายยิ่งกว่า
“บางทีคุณก็เหมือนจะเป็นแบบนั้น” ลัลนาเน้นคำว่า ‘บางที’ รามินดูไม่เหมือนก้อนหินตลอดเวลา “ตอนนี้ฉันกลับไปใช้ชีวิตเหมือนที่เคยเป็นมาไม่ได้อีกแล้วใช่ไหมคะ”
“ในโลกนี้คุณต้องเลือกว่าจะอยู่กับใคร อยู่ตรงไหน เมื่อเลือกแล้วคุณจะพบคำตอบว่าคิดถูกหรือเปล่า แต่ถ้าคุณไม่เลือกที่จะอยู่ข้างหลังผมไว้ ความตายอาจเป็นคำตอบที่คุณจะได้พบ”
หากรามินพูดประโยคเหล่านี้ในวันแรกที่เราพบกัน เธอคงคิดว่าเขาบ้าไปแล้ว ตัวเองเป็นใครถึงคิดว่าปกป้องคนอื่นได้ แถมยังคิดว่าเธอต้องเลือกเขาเท่านั้น แต่มาถึงเวลานี้ไม่มีคำไหนในประโยคที่รามินพูดมาแล้วลัลนาปฏิเสธได้เลย การเลือกรามินคือคำตอบที่ถูกต้องที่สุดแล้ว บางทีลุงราเมสคงรู้ว่าน้องชายคนนี้จะปกป้องลูกสาวของเพื่อนได้ หากเขาให้สิ่งที่ล้ำค่า ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วเธอไม่อยากได้สิ่งเหล่านั้นเลย
หญิงสาวยกมือประสานกันเพื่ออธิษฐาน ในเมื่อถอยหลังไม่ได้ก็ต้องก้าวต่อไป เธอคิดแบบนี้มาตลอด เพียงแต่การก้าวต่อไปของเธอในคราวนี้ เธออยากให้แม่ช่วยเป็นกำลังใจให้และดลจิตใจในยามที่ต้องเลือกไม่ว่าเรื่องอะไร ขอให้เลือกได้ถูกต้อง และอีกอย่างที่เธอจะอธิษฐานนั่นคือ
“ฉันขอให้พระเจ้าปกป้องคุณ เพื่อที่คุณจะได้มีชีวิตยืนยาวมาปกป้องฉันได้”
รามินหัวเราะอยู่ในลำคอ ลัลนาขอเพื่อเขาหรือเพื่อตัวเองกันแน่ ลัลนายิ้มให้แม่เผื่อว่าโลกหลังความตายมีจริง แม่คงรับรู้ได้ว่าคราวนี้เธอเต็มใจเดินทางไปดูไบกับรามิน ไม่เหมือนคราวก่อนที่ถูกบังคับ
“ได้เวลาเดินทางแล้ว” รามินมองนาฬิกา ก่อนจะหันไปบอกลัลนาอย่างคนที่มั่นใจในตัวเอง แต่ไม่เคยประมาทว่า “ต่อให้ไม่มีพระเจ้า ผมก็ไม่ตายง่ายๆ หรอก คุณไม่ต้องกลัวว่าจะไปไวกว่าผม ข้อนี้ผมรับรองได้”
ลัลนาอยากจะไม่เชื่อคำพูดของรามิน แต่เหตุการณ์ต่างๆ ที่พบเจอมาด้วยตัวเองทำให้รู้ว่ารามินพูดจริงและทำได้จริง อะไรก็ตามที่เขารับปากย่อมไม่เปลี่ยนแปลง เขาจะทำให้จงได้ รวมทั้งเรื่องหาสามีให้เธอด้วย ลัลนาควรจะดีใจที่มีผู้ปกครองดีช่วยหาคู่ครองให้ แต่เธอกลับอยากอยู่เป็นโสดไปอีกสัก 5 ปี 10 ปี เมื่อถึงเวลานั้น เธออยากรู้ว่ารามินจะยังรักษาสัญญาเรื่องการคู่ครองที่เหมาะสมให้เธอไว้อีกหรือเปล่า
ลัลนากลับมาทำงานที่ตึกเอ็มวาย กรุ๊ปตามปกติ เธอบอกแค่ว่ากลับไปทำธุระบางอย่างที่ประเทศไทย แต่สายตาของเพื่อนร่วมงานที่มองมาทำให้เธอรู้ว่ามีอะไรมากกว่านั้น จนกระทั่งเธอไปได้ยินคนแอบเมาท์เรื่องของเธอซึ่งอยู่ในห้องน้ำพอดี ตอนนี้เธอกลายเป็นแฟนลับๆ ของรามินไปแล้ว บางคนอินถึงขนาดว่าสงสารไอรดาที่กำลังถูกนอกใจอะไรประมาณนั้น แถมยังลามไปถึงผู้หญิงที่ชื่อ ‘นีนา’ ซึ่งรามินชอบ แต่ไม่อยากเกี่ยวดองกับไนลาเลยต้องตัดใจ ช่างจินตนาการกันเหลือเกิน หญิงสาวได้แต่ทำหูทวนลมไปเพราะในเวลางาน รามินไม่เคยลงมาที่ชั้น 14 เพื่อมาหาเธอแม้แต่ครั้งเดียว อีกสักพักข่าวลือคงหายไปเอง
แต่สิ่งที่ไม่หายไป แต่ลัลนาไม่เคยเล่าให้ใครฟัง ทำได้เพียงระตัวเองตลอดนั่นคือการเข้าหาของนาวิน เขาจะใช้เรื่องงานเป็นข้ออ้าง ทำให้เธอต้องคุยกับเขาเพื่อให้ได้รายละเอียดของงานที่ครบถ้วน เธอรู้ว่าเขามีแฟนแล้ว แฟนของเขาก็เป็นเพื่อนกับไซรัส เธอไม่อยากมีปัญหากับใคร รวมทั้งไซรัสที่คงรู้แล้วว่าเธอเดินทางกลับมาจากประเทศไทยพร้อมกับรามินด้วย เขาคงรู้ตัวว่าเสียเหลี่ยมให้อาของตัวเองตั้งแต่วันที่เครื่องบินส่วนตัวทะยานออกจากดูไบแล้ว แต่คนที่ถูกโกรธกลับเป็นเธอเสียนี่ ช่างไม่ยุติธรรมเสียเลย
ลัลนาไม่อยากให้เรื่องที่เธอถูกนาวินลวนลามด้วยคำพูดเงียบหายไปและถูกกระทำอยู่แบบนั้นจึงนำเรื่องนี้ไปแจ้งผู้จัดการฝ่ายอัญมณี หลังจากนั้นจะเป็นอย่างไรก็ตามแต่ เธออาจจะไม่ผ่านงานหรือนาวินมาต่อว่าเธอเพราะถูกเรียกไปตักเตือนก็ได้
ทว่าทุกอย่างกลับไม่ใช่อย่างที่คิดเพราะวันจันทร์ในสัปดาห์ที่ 9 สำหรับการทำงานของลัลนา นาวินก็ไม่ได้นั่งอยู่ที่โต๊ะของหัวหน้าแผนกออกแบบเสียแล้ว
“พี่วินหายไปไหนหรือคะ” ลัลนาถามจากเพื่อนร่วมงานซึ่งทำงานที่นี่มาหลายปี
“ไม่รู้เหรอว่าวินถูกย้ายไปอัจมาน มีคำสั่งมาถึงเมื่อวันศุกร์ ลัลไม่รู้ก็ไม่แปลกหรอก ตอนนี้เจ้าตัวคงแฮปปี้ดี” คนที่รู้จักนาวินมานานยิ้มอย่างมีเลศนัย
แต่ลัลนาไม่เข้าใจว่านาวินจะมีความสุขเพราะอะไร
“ทำไมหรือคะ”
“ได้ย้ายไปออฟฟิศใกล้บ้าน แถมได้แยกกับแฟนที่ตามแจแบบนั้น ต้องมีความสุขอยู่แล้ว”
ลัลนาฟังแล้วโล่งอกอยู่ในใจเพราะไม่มีใครระเคาะระคายว่าการย้ายงานของนาวินอาจเกี่ยวข้องกับเธอ เรื่องดีๆ อีกอย่างคือหัวหน้าแผนกคนใหม่ที่มาแทนนาวินเป็นผู้หญิงที่ทำงานเก่งคนหนึ่ง แม้จะมีอายุมากกว่าเธอเป็นสิบปี แต่ไม่มีช่องว่างของวัยในเรื่องของงานเลย ทุกอย่างเหมือนจะผ่านไปด้วยดีจนกระทั่งการมาถึงของมีเรียมในบ่ายวันศุกร์ของการทำงานที่แสนสบายใจของลัลนา
“คุณลัลนาคะมีแขกมาขอพบค่ะชื่อว่ามีเรียม รออยู่ที่ห้องรับรอง”
ลัลนารู้ได้ทันทีว่าความสุขในบ่ายวันศุกร์ได้จบลงแล้ว มีเรียมคงรู้สาเหตุที่นาวินถูกย้าย ซึ่งคงไม่พ้นนาวินเป็นคนบอกนั่นเอง แต่สาเหตุที่นาวินถูกย้ายนั้น เจ้าตัวได้บอกแฟนทั้งหมดหรือเปล่า ลัลนาพอจะเดาได้ว่าไม่มีทางมีเรื่องแบบนั้น นาวินจะยอมรับหรือว่าเจ้าชู้ไปเรื่อย ไม่ใช่แค่เธอหรอกที่เขาลวนลามทางวาจาและสายตา พนักงานหญิงคนอื่นๆ ก็โดน แต่ว่าไม่มีใครนำเรื่องนี้ไปรายงานผู้จัดการอย่างที่เธอทำเท่านั้นเอง
ลัลนาเข้าไปในห้องรับรองที่แอร์กำลังทำงานจนอากาศเย็นฉ่ำ แต่มีเรียมดูร้อนใจจนความเย็นของแอร์คงช่วยให้ใจเย็นลงไม่ได้ หญิงสาวกำลังจะนั่งลง แต่มีเรียมก็พรวดเข้ามาหาทำเหมือนจะตบ ลัลนาระวังตัวเองเอาไว้ตั้งแต่แรกจึงหลบทัน ทำให้อีกฝ่ายเสียหลักเซไปชนกับพนักเก้าอี้แทน พอรู้ว่าลัลนาไม่ยอมให้เล่นงานง่ายๆ มีเรียมจึงนั่งลงอีกฝั่งแล้วแอบกดบันทึกเสียงที่โทรศัพท์ของตัวเอง
“สาแก่ใจเธอแล้วใช่ไหม ตอนนี้วินถูกย้ายงานไปอยู่ต่างเมือง เธออยากให้ฉันกับวินแยกกันเพราะหมายตาเขาไว้แล้วใช่ไหม” มีเรียมใช้น้ำเสียงอ่อนลงดูน่าสงสาร หวังใจว่าอีกฝ่ายจะหลงกล
ลัลนารู้สึกได้ว่าท่าทีของมีเรียมอ่อนลงแปลกๆ ทำให้ยิ่งระวังตัวและเรียบเรียงคำพูดให้ดีก่อนตอบ
“การย้ายงานของพี่...คุณนาวินไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของฉันเลย คุณควรไปถามคนที่ย้ายเขามากกว่ามาหาฉันนะคะ”
มีเรียมเม้มริมฝีปากพยายามข่มอารมณ์ นาวินบอกเธอเองก่อนที่เขาจะถูกย้าย ลัลนาได้เข้าไปคุยบางอย่างกับผู้จัดการ แล้วเขาก็ถูกย้ายด้วยเหตุผลว่ามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม นาวินยืนยันกับเธอเองว่าไม่เคยจีบลัลนา เขาให้ดูโทรศัพท์ของเขาด้วยซ้ำว่ามีแต่เรื่องงานที่คุยกัน แม้เธอจะระแวงอยู่บ้างว่าเขาอาจลบข้อความที่ไม่อยากให้เธอเห็นออกไปก็ได้ แต่สุดท้ายเธอเลือกจะเชื่อแฟนมากกว่า
“วินทำงานที่นี่มา 3 ปี แต่พอเธอเข้ามา วินกลับถูกย้าย ไม่ให้ฉันคิดว่าเป็นเพราะเธอได้ยังไง”
ลัลนาพยายามใจเย็นไม่โมโหต่อคำพูดยั่วยุของมีเรียม “ถ้าฉันอยากได้เขา ฉันคงย้ายตามไปแล้ว แต่ฉันยังอยู่ที่นี่ ช่วยมีสติแล้วเลิกโทษคนอื่น ทางที่ดีคุณควรไปถามผู้จัดการซึ่งน่าจะได้คำตอบมากกว่ามาถามจากฉันค่ะ”
มีเรียมหมดความอดทนเพราะแทนที่ลัลนาจะหลุดธาตุแท้ออกมาบ้าง กลับเป็นเธอที่เหมือนมาหาเรื่องผิดคนเสียอย่างนั้น
“ตัวซวยจริงๆ ฉันกับวินไม่เคยแยกกัน จนเธอโผล่มา”
“ฉันไม่เคยคิดอะไรกับคุณนาวินนอกจากเพื่อนร่วมงาน ส่วนคุณจะคิดอย่างไร ฉันคงห้ามไม่ได้ ขอตัวก่อนนะคะ”
ลัลนาไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด มีเรียมไม่รู้จักแฟนตัวเองดีพอก็ถือว่าเป็นความซวยแบบหนึ่งเหมือนกัน ซึ่งเธอคงช่วยอะไรไม่ได้หากเจ้าตัวพร้อมจะโทษทุกคน ยกเว้นแฟนตัวเอง
มีเรียมเงื้อมือจะตบลัลนาเป็นครั้งที่สอง แต่ครั้งนี้ลัลนาจับข้อมือของอีกฝ่ายแน่น ก่อนจะสะบัดออกอย่างแรง สีหน้าของลัลนาพร้อมหากจะต้องมีเรื่อง แต่มีเรียมกลับชะงักเสียเองเพราะตอนนี้ยังไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าระหว่างลัลนากับรามินมีความสัมพันธ์กันอย่างไร ไซรัสเองก็ยังตอบไม่ได้
“รอบนี้ฉันจะไม่บอกใคร ถ้ามีครั้งต่อไป ฉันจะไม่ปล่อยผ่านให้ใครมาทำร้ายได้ เชิญค่ะ หรือจะให้ฉันเรียก รปภ.”
มีเรียมทำได้แค่จ้องหน้าลัลนาอย่างหมายหัวไว้ก่อน หากลัลนาไม่ใช่คนของรามิน ตอนนี้มีเรียมคงส่งคนมาจัดการไปแล้ว การมีเรื่องกับรามินไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมล้วนแล้วไม่เกิดผลดีทั้งนั้น อีกทั้งธุรกิจทางบ้านของเธอยังต้องพึ่งพาเอ็มวาย กรุ๊ป ซึ่งตอนนี้รามินคือผู้นำของตระกูลไอมาลและกุมบังเหียนของเอ็มวาย กรุ๊ป ฉะนั้นเธอจะเก็บความแค้นใจไว้รอเอาคืน
ลัลนารอจนมีเรียมออกไปจากห้องรับรองแล้วจึงเดินไปที่ห้องควบคุมเพื่อขอคลิปจากกล้องวงปิดในห้องรับรองตอนที่เธอกับมีเรียมพบกัน เธอไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหนอีก แต่อย่างน้อยเธอควรมีหลักฐานเอาไว้ปกป้องตัวเองว่าไม่ได้ทำอะไรมากกว่าป้องกันตัว
ยัยลัลสู้คนนะคะ สมเป็นนางเอกของโบว์
มี E-BOOK แล้ว โบว์ก็ยัง up นิยายต่อนะคะ คิดว่าโบว์จะลงให้อ่านถึงบทที่ 14 นะคะ อย่าว่ากันนะคะที่ลงจนจบไม่ได้
E-BOOK บ่วงรักรามินมาแล้วนะคะใน MEB
E-BOOK บ่วงรักรามินมาแล้วนะคะใน DEK-D
https://dekd.co/w/e/32551 บ่วงรักรามิน
E-BOOK บ่วงรักรามินมาแล้วนะคะในปิ่นโต
บ่วงรักรามิน | ปิ่นโต อีบุ๊ก อ่านสนุก ทุกหมวดทุกแนว
ตอนนี้มีใน meb ในประเภทนิยายรักค่ะ โบว์ทำโปรโมชั่น ลดแหลกมากจาก 259 เหลือ 149 เป็นเวลา 22 วัน ตามภาวะเศรษฐกิจเลย ไม่เคยลดตอนทำโปรโมชั่นหนังสือใหม่ขนาดนี้เลย เร่เข้ามาค่า ซื้อแล้วรบกวนจิ้มดาวให้หน่อยนะคะ วิจารณ์ได้ ถ้าชอบก็ดีใจ ถ้าไม่ชอบอย่าว่าแรงนะคะ คนเขียนหัวใจไม่แข็งแรงค่า
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ
บรรพตี (อัมราน)


แสดงความคิดเห็น