บทที่ 3...1/3

-A A +A

บทที่ 3...1/3

          ลัลนาได้ยินเสียงตูมเหมือนอะไรหล่นลงน้ำ แต่เธอไม่สนใจเท่าทำยังไงไม่ให้ตัวเองจมน้ำตาย จู่ๆ ร่างที่เหมือนหนักอย่างกับหินของเธอเองกลับลอยขึ้นเมื่อมือหนาของรามินจับเอวทั้งสองข้างของเธอไว้ แล้วยกร่างของเธอขึ้น หญิงสาวชะงักมองเขาที่กำลังเหมือนกอดเอวเธอไว้ ความที่เธอนิ่งอึ้งไปทำให้รามินมองอย่างไม่แน่ใจ ก่อนจะบอกเสียงไม่เบานักราวกับกำลังเรียกสติที่แสนกะพร่องกะแพร่งของลัลนากลับมา

          “หายใจช้าๆ ตกใจทำไม ผมแค่เดินตามไปถามเพราะเห็นว่าคุณมาหา ทำไมคุณต้องถอยหลังหนีเหมือนกลัวผมด้วย” รามินถามพลางเดินช้าๆ เพื่อพาลัลนากลับเข้าฝั่งของขอบสระ

          ลัลนารู้สึกได้ว่ากำลังถูกจับให้นั่งลงที่ขอบสระ เธอหอยใจช้าๆ อย่างที่รามินแนะนำ แต่การที่เห็นรามินระยะใกล้กว่าคืบจากใบหน้าตัวเองทำให้เธอเอนหลังไปอย่างไม่รู้ตัวพร้อมกับตอบเขาเสียงหอบๆ ว่า

          “ฉันไม่ได้กลัว ฉันแค่ไม่ชิน ทำไมคุณไม่ใส่เสื้อ”

          รามินขมวดคิ้วที่ถูกลัลนาถามแบบนั้น “ผมต้องใส่เสื้อเชิ้ตเวลาว่ายน้ำเผื่อว่าคุณจะมาหางั้นหรือ”

          “ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น” ลัลนาอยากเขกหัวตัวเอง “ฉันนั่งเองได้แล้วค่ะ คุณไม่ต้องช่วยประคองฉันแล้วก็ได้”

          รามินปล่อยมือจากเอวบางเพราะไม่ได้มีเจตนาล่วงเกิน เพียงแค่ต้องการช่วยเธอขึ้นจากน้ำแล้วนั่งให้ดี ไม่ใช่ฟุบไปเท่านั้น ชายหนุ่มไม่นึกว่าผู้หญิงที่ดูไม่น่าจะกลัวอะไร เวลานี้กลับแก้มแดงจางๆ ซ้ำยังไม่สบตาเขา เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนของเธอลู่กับเรือนรางที่สมส่วน ผมยาวเปียกแนบแก้ม เธอดูเหมือนเด็กน้อยๆ สักคน

          “คุณมาหาผมทำไม” รามินถามซ้ำ

          ลัลนาฟังแล้วคิดตามจึงได้คำตอบ แต่ว่าเธอจะคุยกับเขาในสภาพแบบนี้งั้นหรือ เขาคงไม่เป็นอะไร แต่เธออาจหัวใจเต้นแรงจนเป็นลมก็ได้ การนั่งอยู่กับผู้ชายที่ใส่แค่กางเกงว่ายน้ำตัวเดียว ท่อนบนเปลือยเปล่าเป็นสิ่งที่เธอเพิ่งได้พบเจอเป็นครั้งแรก มันบอกไม่ถูก จะเขินก็ไม่เชิง จะกลัวก็อาจใช่กระมัง เธอเพิ่งรู้จักเขาได้กี่วันเองกัน

          “ฉันมีเรื่องสงสัย แต่ว่าเอาไว้ฉันค่อยถามคุณแล้วกัน สภาพของเราสองคนนี้ในตอนนี้น่าจะแยกย้ายกันไปเปลี่ยนเสื้อผ้ามากกว่า”

          รามินกดยิ้มที่มุมปาก เมื่อพอจะเข้าใจเหตุผลบางอย่างที่ลัลนาไม่พูดออกมาตรงๆ

          “ตามใจคุณ แต่ผมคงว่ายน้ำต่อ”

          ลัลนาพยักหน้าทั้งที่ไม่เข้าใจว่าพยักหน้าให้รามินเรื่องอะไร สิ่งเดียวที่เธอเข้าใจตัวเองที่สุดคือลุกขึ้นให้ได้และห้ามล้ม ก่อนจะเดินเรื่อยๆ ทั้งที่ในใจอยากวิ่งเสียเต็มประดา แต่เธอเสียหน้าให้รามินไปมากพอแล้ว เพราะฉะนั้นห้ามวิ่งเด็ดขาด แต่การเดินไปที่บ้านซึ่งห่างไปพอสมควรทำให้ขาของเธอแทบหมดแรง เมดาเข้ามาถามอย่างเป็นห่วงว่าทำไมเธอเปียกปอนแบบนี้ ลัลนาทำได้เพียงบอกเหมือนเรื่องตลกว่าลื่นตกสระน้ำ ป่านนี้รามินอาจจะหัวเราะขำที่เธอช่างอ่อนหัดและขี้กลัวแบบนั้น อย่างกับเขาดูเป็นมิตรนักแหละ น่าเสียดายชะมัด ถ้าเธอไม่ตกน้ำไปเสียก่อนคงได้ถามเรื่องที่สงสัยไปแล้ว

         

แม้สัมภาษณ์ไปเมื่อวันจันทร์ แต่การเริ่มงานจริงๆ ของเธอคือวันจันทร์ต่อมา นับว่าดีไม่น้อยเพราะลัลนาอยากศึกษางานคร่าวๆ ของเอ็มวาย กรุ๊ปในส่วนของเครื่องประดับไปก่อน แม้ใจจริงอยากเริ่มงานพรุ่งนี้เลยก็ตาม แต่ยังไม่ได้เพราะมีเงื่อนไขของการตรวจร่างกายเพื่อจะได้มีใบรับรองแพทย์ ทำให้เธอต้องไปทำธุระนั้นก่อน แต่ก็เหมือนเดิม รามินรู้และส่งรถมารับเธอไปโรงพยาบาล โดยมีคนของเขาเป็นธุระจัดการให้ เธอมีหน้าที่เอาร่างกายให้หมอตรวจกับรอเซ็นเอกสารต่างๆ เท่านั้น ส่วนค่าตรวจเธอขอออกเงินเอง บางครั้งการเป็นหนี้น้ำใจใครสักคนมากเกินไปก็ทำให้ลำบากใจได้

หลังจากวันนั้นลัลนาค้นข้อมูลที่หาอ่านได้จากอินเตอร์เน็ต ทำให้รู้ว่าเครื่องประดับในเครือเอ็มวาย กรุ๊ป มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมในหมู่ไฮโซไม่น้อย แล้วยิ่งได้พรีเซนเตอร์เป็นนางแบบสาวที่กำลังมาแรงอย่างไอรดาก็ยิ่งทำให้เป็นที่นิยมมากขึ้น

ทำไมนางแบบคนนี้ชื่อคุ้นๆ...

ลัลนาคิดอยู่ชั่ววินาทีแล้วก็เลิกสนใจไป แล้วอ่านข้อมูลอื่นๆ ต่อเพื่อจะได้รู้แนวทางของเครื่องประดับที่ทางแบนรด์กำลังวางจำหน่ายในปีนี้และปีก่อนๆ ใช้เป็นข้อมูลตั้งต้น ในวงการออกแบบหากย่ำอยู่กับที่เท่ากันถูกแซงไปแล้ว ฉะนั้นการออกแบบของเธอต้องไม่ซ้ำกับของเดิมที่เคยมีมาและดูเข้ากับแบรนด์เดิมด้วย เพราะในทุกแบนรด์เครื่องประดับมักมีจุดเด่นของตัวเองที่ลูกค้าเห็นก็รู้ทันทีว่ามาจากแบนรด์อะไร

เมื่อได้ข้อมูลมากพอแล้ว สิ่งต่อไปที่ลัลนาต้องทำนั่นคือศึกษาเส้นทางในการเดินทางไปกลางเมืองดูไบซึ่งมีทั้งรถประจำทางและรถไฟใต้ดิน ลัลนาไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าหรือใส่อะไรเพิ่มเมื่อเดินออกไปนอกรั้วของคฤหาสน์ ที่ดูไบผู้หญิงมีอิสระในการใช้ชีวิตมากขึ้นแล้ว เพียงแต่งกายปกปิดไหล่และเข่า ไม่ใส่เสื้อผ้ารัดรูปหรือเปิดเผยส่วนต่างๆ จนเกินไป สามารถใส่กางเกงขาสั้นหรือกระโปรงได้ ตราบใดที่มันยาวพอจะปกปิดเข่า และไม่จำเป็นต้องสวมผ้าคลุมศีรษะ ยกเว้นเวลาไปเยี่ยมชมมัสยิดหรือสถานที่ทางศาสนาอื่นๆ จะต้องคลุมศีรษะด้วย อาจเป็นความคิดที่ดีที่จะพกผ้าคลุมศีรษะติดตัวไปด้วยในกรณีที่จำเป็นต้องใช้

หญิงสาวเปิดโทรศัพท์เพื่อให้แอปพลิเคชัน (Application) นำทางว่าการเดินทางแบบไหนเร็ว สะดวกและประหยัดที่สุด และแล้วเธอก็ได้คำตอบว่าการนั่งรถประจำทางแล้วไปต่อรถไฟใต้ดินเป็นทางเลือกที่ดีและประหยัดเงินที่สุด หญิงสาวไม่รอช้าจะเดินไปรอรถประจำทางตรงบริเวณที่รถประจำทางจอดเมื่อเห็นว่าบอดี้การ์ดไม่สนใจเธอแล้ว แต่ยังเดินไปได้ไม่ถึงครึ่งประมาณ 200 เมตรเท่านั้น เสียงแตรจากรถของใครสักคนก็ดังขึ้น หญิงสาวหันไปมองแล้วแทบจะถอนใจออกมา รามินเป็นพวกหูผีจมูกมดหรือไง   

“ขึ้นรถสิ คุณไม่ควรออกมาเดินแบบนี้ ไม่รู้หรือถ้ามีคนรู้ว่าคุณเป็นใคร อาจถูกลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่ได้” รามินเปิดกระจกจากเบาะหลังเพื่อบอกกับลัลนาเสียงเรียบๆ เขารู้ว่าลัลนาจะทำอะไรจากกล้องวงจรปิดที่เขาดูมาพักหนึ่งแล้ว ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนไม่อยากพึ่งพาเขาเลยจริงๆ

“ฉันเพิ่งมาไม่น่ามีใครรู้จักและที่สำคัญฉันไม่ใช่คนที่น่าลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่หรอกค่ะเพราะฉันจน” ลัลนาตอบแล้วก็ยิ้มเพราะไม่ได้โกหกแม้แต่นิดเดียว ไม่อย่างนั้นเธอจะมาหาเส้นทางที่ประหยัดเงินที่สุดไปทำไม

รามินสั่งด้วยสายตาให้ลัลนาเข้ามานั่งในรถ หญิงสาวมองป้ายรถประจำทางอย่างเสียดาย แต่จำต้องตัดใจเข้ามานั่งในรถที่บอดี้การ์ดเปิดประตูรอ เอาไว้วันหลังเธอจะมาลองเดินทางด้วยตัวเองก่อนวันต้องไปทำงานจริงให้ได้

“คุณไม่ได้จน ไม่รู้ตัวเลยหรือว่าตัวเองมีทรัพย์สินอยู่ราวๆ 100 ล้านยูเอส จากหุ้น 5 เปอร์เซนต์ที่คุณได้รับ”

ฟังแล้วลัลนาควรจะตื่นเต้น แต่ว่าเงินจำนวนนั้นที่รามินพูดถึงนั้นไม่ใช่ของเธอ แม้ว่าลุงราเมสจะยกให้เธอก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ลัลนารู้ดีที่สุดนั่นคือการมีชีวิตเป็นของตัวเองและเกี่ยวข้องกับตระกูลไอมาลให้น้อยที่สุด จะทำให้เธอเป็นอิสระ รวมทั้งหุ้นพวกนั้นด้วย เธอจะหาทางคืนให้รามินให้ได้

“มันไม่ใช่ของฉันค่ะ”

“ใช่สิ มันเป็นชื่อของคุณ พินัยกรรมระบุชื่อของคุณ คุณไม่มีสิทธิ์ขาย หากผมไม่อนุญาต ยกเว้นแต่ว่าคุณแต่งงานไปแล้ว หุ้น 5 เปอร์เซ็นต์จะเป็นสิทธิ์ของคุณที่จะขายให้ใครก็ได้ แต่ผู้ที่ซื้อหุ้นไปต้องไม่ใช่คู่แข่งของผมก็เท่านั้น”

ลัลนาหันไปมองชายหนุ่มที่เธอคงไม่ได้เห็นตามเดินถนนฟุตบาทในเมืองไทย หรือต่อให้เธอมาเที่ยวดูไบสักวันหนึ่ง การได้พบรามินคงไม่ใช่เรื่องง่ายอยู่ดี แต่ตอนนี้เขาอยู่ตรงนี้ ชายหนุ่มที่จัดว่าหล่อเหลา ร่ำรวย ลึกลับ แต่ไม่มีอะไรการันตีได้เลยว่าหากวันหนึ่งเธอทำให้เขาไม่พอใจในเรื่องที่ร้ายแรง ซึ่งเธอไม่รู้ว่ามันคือเรื่องอะไร แต่มันอาจเกิดขึ้นได้ ในตอนนั้นเขาจะสั่งฆ่าเธอได้เหมือนเราไม่เคยรู้จักกันหรือเปล่า

“คุณเป็นคนที่เหมือนจะใจดี แต่ก็ใจร้ายนะคะ” ลัลนารู้ตัวดีว่าพูดอะไรออกไป รู้ด้วยตัวเองว่าเพียงคำพูดเท่านี้ไม่ทำให้เธอถึงตายหรอก

รามินเลิกคิ้วมองใบหน้าเล็กๆ  ริมฝีปากน้อยๆ ที่ชอบเม้มเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา ช่างเป็นผู้หญิงที่บางครั้งคาดเดาได้ แต่บางครั้งเขาก็คาดเดาความคิดเธอไม่ได้เลย

“ผมเป็นผู้ปกครองของคุณ จนกว่าคุณจะแต่งงาน เพราะฉะนั้นผมทำสิ่งที่สมควรทำ ถ้าคุณจะคิดว่าผมใจร้าย ผมก็ช่วยให้คุณคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้”

ลัลนาพยายามกลั้นยิ้มแล้ว แต่ก็ยิ้มออกมาอยู่ดี คำตอบของรามินช่างไม่ต่างจากที่เธอคาดไว้ ผู้ชายอย่างนี้จะโอ๋ใครเป็นงั้นหรือ แค่นึกภาพก็น่าสยองมากกว่าน่าสนใจแล้ว

“ทำไมเมื่อคืนไม่มาทานอาหารด้วยกัน” รามินถาม

ลัลนาไม่คิดว่ารามินจะถามเพราะตั้งแต่มาอยู่ที่อาณาบริเวณคฤหาสน์ของเขา เธอเคยไปทานอาหารในตึกใหญ่เพียงครั้งเดียวเพราะถูกเชิญแกมบังคับ ความรู้สึกเหมือนทานทรายเพราะฝืดคอทุกคำ แม้ว่าอาหารจะเลอเลิศจากพ่อครัวชั้นดี แต่ความไม่คุ้นชินกับรามิน อาหารมื้อนั้นเลยทำให้เธอไม่สบายท้อง แต่เธอคงตอบไปอย่างที่คิดทุกอย่างไม่ได้ใช่ไหมนะ

“ฉันชินกับการอยู่คนเดียว ไม่เหงาหรอกค่ะ ถ้าคุณจะกังวลในเรื่องนั้น”

“เปล่า มันเป็นแค่ความสงสารเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น คุณอยู่ด้วยตัวเองได้ ผมก็สบายใจ” รามินตอบกลับมาเสียงเรียบ ก่อนก้าวลงจากรถที่จอดหน้าคฤหาสน์ของเขาพอดี

ลัลนาลงจากรถแล้วมองแผ่นหลังกว้างที่หยัดตรง ไหล่ที่ผึ่งผาย คอที่ตั้งตรงของรามิน แม้น้ำเสียงของเขาจะเรียบๆ แต่มันคือการแสดงออกถึงความไม่ชอบใจหรือเปล่านะ เธอพูดอะไรผิดไปงั้นหรือ คนแบบนั้นน่าจะชอบความเป็นส่วนตัว ไม่ชอบให้ใครรบกวนไม่ใช่หรือ แล้วยิ่งเหงาเพราะทานอาหารคนเดียวนั้นไม่น่าเป็นไปได้ คนแบบเขารู้จักคำว่าเหงาด้วยหรือ ไม่น่าหรอก เขาดูเหมือนต้นไม้ใหญ่ที่ยืนหยัดและไม่สนใจแมลงตัวเล็กตัวน้อยอย่างเธอด้วยซ้ำ แต่ทำไมเธอรู้สึกมองข้ามคำพูดเรียบๆ จากสีหน้าที่เรียบเฉยของรามินไม่ได้นะ ลัลนาตบแก้มตัวเองเบาๆ เพราะตอนนี้เธอต่างหากที่ควรเอาตัวเองให้รอดก่อน

 

          ลัลนาเอ้ย รามินอาจจะเหงาก็ได้ คนปากแข็งอ่ะเธอ

          มาอัพต่อแล้วนะคะ ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านค่ะ

          บรรพตี(อัมราน)

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.