บทที่ 2...1/3
ลัลนามองกระเป๋าเดินทางของเธอที่คนของรามินกำลังลำเลียงไปที่รถเมื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เรียบร้อยแล้ว เธอเป็นคนแบบนี้ หากหนีไม่ได้ก็เผชิญหน้าจนได้คำตอบ การย้ายประเทศ แต่ได้ทำงานตำแหน่งเดิมก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกกลัวอะไร เธอโทรหาแอนนาเพื่อบอกทุกอย่างที่เกิดขึ้น เพื่อนเป็นห่วงเธอ แต่รู้ดีว่าการหนียิ่งทำให้ทุกอย่างแย่ลง แอนนาพอจะรู้อยู่บ้างว่าตระกูลไอมาลมีอิทธิพลมากขนาดไหนจึงได้แต่บอกให้เพื่อนระวังตัว
ในเมื่อตัดสินใจแล้ว ลัลนาจึงเดินเข้าไปนั่งในรถอย่างไม่ลังเล คงเป็นครั้งแรกที่เธอแทบไม่ต้องจัดการเรื่องเอกสารในการเดินทางเลย เธอมีหน้าที่แค่เซ็นเอกสารเพื่อให้เกิดการเดินทางในครั้งนี้เท่านั้น ราวกับรามินรู้อยู่แล้วว่าเธอต้องยอมทำตามที่เขาต้องการ เอกสารต่างๆ จึงมีพร้อมเพื่อให้เธอเซ็นสำหรับการเดินทาง
หญิงสาวมองรถคันที่ขับนำหน้าไปก่อน รามินนั่งอยู่ในรถคันนั้น เขาคงพอใจแล้วที่ทำให้เธอยอมทำตามความต้องการของตนเองและพี่ชายได้ การที่ลุงราเมสยกมรดกให้เธอเป็นเรื่องที่ไม่คาดฝัน แต่การที่ลุงราเมสฝากให้รามินหาคู่ครองให้เธอดูเป็นเรื่องที่ปรารถนาดีเกินไปและเธอไม่ได้ต้องการ เรื่องนี้เธอจะหาทางออกให้ตัวเอง หากอยากเป็นอิสระจากรามินและตระกูลไอมาล เธอต้องแต่งงานกับใครสักคน ชีวิตมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นสักหน่อย เธอจะแต่งงานเพราะความเหมาะสม แต่ไม่ได้รักได้อย่างไรกัน แต่รามินหรือคนในตระกูลไอมาลคงทำได้เพราะผลประโยชน์ย่อมมาก่อนความรู้สึกกระมัง
ลัลนาหยุดคิดเรื่องราวต่างๆ เพื่อมองเส้นทางที่รถคันหรูกำลังมุ่งหน้าไปยังไปบ้าน ไม่สิ คฤหาสน์กลางเนื้อที่สองไร่ อิซาบอกเธอว่าเป็นบ้านสไตล์คลาสสิกที่แม่ของรามินเป็นคนออกแบบด้วยตัวเอง โดยลูกชายทั้งสองคนจะมีบ้านคนละหลัง แต่ต่างสถานที่ บ้านหลังนี้เน้นการตกแต่งที่หรูหรา อลังการ เน้นความประณีต มีประติมากรรมแบบกรีกโรมันสไตล์ยุโรปตะวันตก คล้ายปราสาทราชวัง กว้างขวาง ดูมีฐานะ จุดเด่นคือการตกแต่งด้วยเสากลมแบบโรมัน รวมถึงรูปปูนปั้น โคมไฟระย้า และเครื่องทองเหลือง วัสดุที่ใช้ก่อโครงสร้างมักเป็นคอนกรีต เสาปูน และอิฐแดง สง่างาม ซึ่งลัลนาคิดว่าดูเย็นชาเหมือนรามินนั่นเอง
จากรั้วบานใหญ่มาถึงบ้านคฤหาสน์หลังนั้นใช้เวลาในการขับรถเกือบนาที ระบบรักษาความปลอดภัยมีทั้งกล้องวงจรปิดและบอดี้การ์ดที่ประจำตามจุดต่างๆ สิ่งที่ลัลนาสงสัยนั่นคือทุกคนในครอบครัวไอมาลอยู่ที่นี่หรือเปล่า ถ้าใช่ การมาถึงของเธอคงไม่ใช่เรื่องน่ายินดีสำหรับใครเลย ทว่าเมื่อหญิงสาวลงจากรถ ผู้ชายที่เธอเหมือนจะจำได้ว่าเคยเห็นก่อนจะสลบไปในคืนนั้นก็ปรากฏตรงหน้า
เขาคือคนที่จะลักพาตัวเธอหรือต้องการฆ่าใช่ไหม!?
“ฉันเคยเห็นคุณ คืนนั้น...”
“คืนไหนงั้นหรือ” ไซรัสเลิกคิ้วไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะจำได้
“ไม่มีอะไร” รามินเอ่ยแทรกขึ้นพลางหันไปมองลัลนา สายตาของเขาคล้ายกำลังกำราบเตือน “บางเรื่องถึงรู้คำตอบก็ไม่ควรพูดออกมา”
ลัลนาได้เรียนรู้ด้วยตัวเองว่าลำพังตัวเธอจะไปทำอะไรได้ การโวยวายหรือแม้กระทั่งไปแจ้งความก็คงไม่มีประโยชน์ หากว่ารามินต้องการที่จะปกป้องหลานชายของเขา ลูกชายเพียงคนเดียวของลุงราเมส เธอเคยเห็นรูปของเขามาก่อน นานแล้วที่ลุงราเมสนำรูปลูกชายมาให้เธอดู หญิงสาวสงบใจลง เรื่องที่เก็บไว้ในใจ สักวันต้องสะสาง ตอนนี้เธอต้องก้าวต่อไปอย่างมั่นคงให้ได้ โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาใครก็ตามจากตระกูลไอมาลและไม่ต้องแต่งงานกับคนที่รามินเห็นว่าเหมาะควร ชีวิตของเธอหากจะแต่งงานก็เพราะเลือกด้วยตัวเอง ไม่ใช่ให้ใครหน้าไหนมาจัดการให้ รามินไม่มีสิทธิ์
ตอนนี้เธอกำลังทำอะไรอยู่ การเดินทางมาที่นี่เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้วใช่ไหม ลัลนาถามตัวเองซ้ำๆ แม้จะคิดว่าตัวเองไม่ลังเลในการตัดสินใจแล้ว ในขณะที่แยกออกมาแล้วเดินมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมามาหยุดยืนตรงสระว่ายน้ำ แดดไม่ได้แรงและละอองของน้ำที่กระเซ็นเบาๆ จากขอบสระทำให้เธอใจเย็นลงและได้คำตอบ เธอไม่ได้ตัดสินใจมาที่นี่ แต่ถูกบังคับให้มาเพราะรู้ดีว่าหนีรามินไม่พ้นอยู่แล้ว แต่การที่รามินปกป้องลูกชายของลุงเราเมสทำให้เธอรู้ว่าเหลือแค่ตัวคนเดียวแล้วจริงๆ
เสียงเดินของใครบางคนใกล้เข้ามา ทำให้ลัลนาหันไปพร้อมกับกำมือแน่นอย่างระวังตัว เธอไม่รู้แล้วว่าใครที่หวังดีและใครที่อยากจะทำร้าย ทว่าการเห็นรามินเดินมาไม่ทำให้เธอรู้สึกได้ถึงความอุ่นใจได้เลย
“ที่แท้คนที่คุณปกป้องคือผู้ชายคนนั้น ”
รามินเลิกคิ้ว เพิ่งรู้ว่าลัลนาคิดแบบนี้ “ผมไม่ได้ปกป้องไซรัส แต่ปกป้องชื่อเสียงของตระกูล มันคงไม่ดีนักถ้าลูกชายคนเดียวของพี่ราเมสไปลักพาตัวลูกสาวของผู้หญิงที่สนิทกับพี่ราเมสมาก”
ลัลนาฟังแล้วอยากถอนใจออกมาดังๆ นี่เองใช่ไหมเหตุผลที่รามินกับไซรัสมองเธอเอย่างเย้ยหยัน ทำไมเขาไม่พูดออกมาตรงๆ ตั้งแต่แรก
“นี่คุณคิดว่าแม่ของฉันกับพี่ชายของคุณ...”
ทำไมลัลนาถึงทำเหมือนโกรธ รามินสงสัย เธอโกรธเพราะถูกรู้ทันหรือว่าที่เขาและใครๆ คิดแบบนี้ไม่ใช่เรื่องจริง ป่วยการจะถามออกไป เขาพบเจอคนโกหกมากมาย การหาคำตอบที่แท้จริงน่าจะง่ายกว่า เพียงแต่ว่าเขายังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนในตอนนี้
“มันไม่สำคัญหรอกว่าผมคิดอย่างไร ทุกอย่างอยู่ที่การกระทำของคุณต่างหาก”
ลัลนาเม้มปากป่วยการจะอธิบาย หากรามินหรือใครๆ เข้าใจแบบนั้นจะมีใครยอมฟังเธอกัน หญิงสาวเมินมองไปทางอื่น รอให้รามินเดินไปเสียที แต่เขากลับยืนอยู่ที่เดิมทำให้เกิดความอึดอัด เธออยากจะเดินไปเสียเอง แต่ทำไมเธอต้องไป ในเมื่อเขามาทำให้ความสงบเล็กๆ น้อยๆ ของเธอวุ่นวายอีกครั้ง ผ่านไปอีกนาที จนกระทั่งอิซาเดินแกมวิ่งมาหารามินพร้อมกับโทรศัพท์ที่ใครบางคนกำลังรอให้กดรับสาย
“คุณไอรดาโทรมาจะรับสายไหมครับ” อิซารายงาน
รามินมองไปที่ลัลนา ตอนนี้แม่บ้านเดินมาหาเธอแล้วเพื่อนำทางไปยังห้องอาหารที่เขาสั่งให้เตรียมอาหารไว้รอ ก่อนจะตอบอิซาไปว่า
“ไม่ บอกไปว่าฉันมีเรื่องต้องจัดการ”
“ครับ คุณรามิน”
รามินเดินกลับไปทางเดิมเพราะคนที่สร้างปัญหาคงไม่รามือไปง่ายๆ แน่ ไซรัสเติบโตมาโดยที่ใครๆ ต่างตามใจเพราะเป็นลูกชายคนเดียวของพี่ราเมส แม้พี่ราเมสจะปรามลูกชายได้ แต่คนคอยให้ท้ายและตามใจลูกชายมาตลอดคือไนลา ตอนนี้พี่ราเมสไม่อยู่แล้ว รามินจึงต้องดูแลหลานชายคนนี้ให้อยู่ในร่องในรอยให้ได้เหมือนที่พี่ชายทำได้มาตลอด
ไซรัสนอนสบายใจอยู่ที่ห้องรับแขกเพราะรู้ดีว่าไม่มีใครเอาผิดเรื่องที่เขาไปหาลัลนาแล้วแกล้งให้เธอกลัวได้ เขาไม่ได้ฆ่าใครตายสักหน่อย เขาแค่ไปทำความรู้จักลูกสาวของผู้หญิงที่ทำให้แม่ของเขาตรอมใจเนื่องจากสามีจงใจตีตัวออกห่าง เธอคงเป็นน้องสาวต่างแม่ที่เขาไม่มีวันยอมรับ การที่พ่อเขียนพินัยกรรมยกหุ้นเอ็มวาย กรุ๊ปให้ลัลนาถึง 5 เปอร์เซ็นต์ เมื่อคิดเป็นมูลค่าแล้วนับว่าไม่น้อย ลัลนาจะได้ใช้ชีวิตบนกองเงินกองทองที่ตัวเองไม่เคยหามาเอง ช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลยหากว่าเธอคือพยานของความไม่ซื่อสัตย์ที่ทำให้แม่ของเขาต้องอยู่ในเรือนหอที่ไร้สามีมาหลายปี แม้ไม่ได้เลิกกันตามกฎหมาย แต่การกระทำของพ่อก็เหมือนเลิกรากับแม่ของเขาแล้ว ช่างน่าแค้นใจแทนเพราะแม่ของเขากลับนิ่งเฉยไม่ทำอะไรสักอย่างและยอมให้พ่อทำแบบนั้น
“ถึงแม้ตอนนี้อารามินจะเป็นผู้จัดการมรดก เป็นผู้นำตระกูลไอมาล แต่ผมก็อยากจะขัดอารามินสักเรื่องเพราะคิดว่ามันเป็นสิทธิ์ที่ผมทำได้ในฐานะลูกชายคนเดียวของพ่อ”
ไซรัสขยับลุกขึ้นมานั่งเมื่อเห็นว่าอาของเขาเข้ามาในห้องรับแขก แม้จะมั่นใจว่าตัวเองไม่ต้องเกรงใจใคร แต่กับรามิน เขากลับทำตามใจตัวเองอย่างเคยไม่ได้ นอกจากความเป็นอาแล้ว เขายังมีความเกรงใจรามินอยู่ไม่น้อยรองจากพ่อกับแม่
“ว่ามาสิ ถ้าไม่ไปก่อเรื่องลักพาตัวลัลนา อาก็คงจะพิจารณาให้ได้”
“ผมไม่อยู่ร่วมบ้านกับผู้หญิงคนนั้น” ไซรัสรู้ดีว่าทำแบบนี้เหมือนกับทำให้รามินต้องเลือกระหว่างเขากับลัลนา
“แกก็มีบ้าน ถ้าไม่อยากอยู่ร่วมบ้านกับลัลนาก็กลับไปบ้านของแกเสียก็สิ้นเรื่อง”
แม้รามินจะอายุมากกว่าไซรัส 5 ปี แต่มีศักดิ์เป็นอาเพราะเป็นน้องชายของราเมส การที่เป็นน้องซึ่งอายุน้อยกว่าพี่ชายถึง 10 ปี ทำให้เขาเหมือนเป็นพี่น้องกับลูกชายของพี่ชายเสียมากกว่า
แล้วจะมาอัพต่อค่ะ
ลัลนาจะเจออะไรอีกเยอะค่ะ ตามแบบฉบับนางเอกนิยายของโบว์ต้อง อึด ถึก ทน 555
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ
บรรพตี(อัมราน)


แสดงความคิดเห็น