บทที่ 343 เงื่อนไขการยอมจำนน

-A A +A

บทที่ 343 เงื่อนไขการยอมจำนน

บทที่ 343 เงื่อนไขการยอมจำนน

สวิฟเดธพยักหน้ารับเมื่อเขาได้รับคำยืนยันว่าฮั่นอิ่งได้รับการมอบหมายจากลู่หยางให้สามารถตัดสินใจได้อย่างเต็มที่

“คราวนี้เดธโซลคงจะต้องแตกสลายแล้วจริง ๆ แต่ฉันก็หวังว่าหลังจากกิลด์ของพวกเราทั้ง 9 ได้แตกแยกกันออกมา บลัดบราเธอร์จะยอมปล่อยพวกเราไป”

ก่อนหน้านี้เขาได้กลับมาที่เมืองหลังจากมีปากเสียงกับแบล็คบลัดไปครั้งใหญ่ และในขณะที่เขากำลังจะไปหาอีกฝ่ายเขาก็ได้พบกับปัญหาอย่างหนึ่ง

กองกำลังพันธมิตรของเดธโซลและบลัดเติสตี้ได้ถูกขังอยู่ในหุบเขาสนเงินกว่า 100,000 คน ยิ่งไปกว่านั้นกองกำลังที่ถูกยกออกไปในครั้งนี้ยังเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดของเดธโซลและบลัดเติสตี้แล้ว หากพวกเขายังคงถูกสกัดกั้นเอาไว้ในหุบเขาสนเงิน มันก็แสดงว่ากองกำลังที่ลู่หยางดักซุ่มโจมตีเอาไว้จะต้องมีจำนวนไม่น้อยกว่า 70,000 คน และความแข็งแกร่งเฉลี่ยโดยรวมของกองกำลังนี้จะต้องสูงกว่ากองกำลังพันธมิตรมาก

หากเขาได้รวมกองกำลัง 70,000 คนในหุบเขาสนเงินประกอบกับกองกำลัง 80,000 คนที่บุกโจมตีแบล็คบลัดในหุบเขาฟีนิกซ์และกองกำลัง 20,000 คนที่บุกโจมตีป้อมปราการ มันก็หมายความว่าในครั้งนี้บลัดบราเธอร์ได้ส่งกองกำลังผู้เล่นมาเข้าร่วมสงครามเป็นจำนวนถึง 170,000 คน

ยิ่งไปกว่านั้นเขายังได้เห็นกับตาของตัวเองว่าสามพี่น้องตระกูลไป๋ได้นำกองกำลังผู้เล่นชุดทอง 5,000 คนและกองกำลังผู้เล่นชุดเงิน 15,000 คนบุกยึดป้อมปราการมาได้ยังไง ซึ่งมันก็ทำให้เขาได้เข้าใจถึงความแข็งแกร่งที่บลัดบราเธอร์ได้ครอบครอง

นอกจากนี้ในเดธโซลยังมีความขัดแย้งภายในกันมาโดยตลอด เพียงแต่หัวหน้ากิลด์ทั้ง 9 พยายามอดกลั้นอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ แต่ในคราวนี้แบล็คบลัดได้ด่าทอทุกคนอย่างไม่ไว้หน้า สวิฟเดธจึงคิดว่าหลังพ่ายแพ้สงครามเดธโซลจะต้องแตกย่อยออกไปเป็นกิลด์เล็ก ๆ เหมือนเดิมอย่างแน่นอน เขาจึงตัดสินใจหาทางออกให้ตัวเองก่อนโดยการเข้ามาเจรจากับบลัดบราเธอร์แบบนี้

“ประธานสวิฟเดธคงจะรู้อยู่แล้วว่าคนที่มีปัญหากับพวกเรามีเพียงแค่แบล็คบลัด ส่วนพวกคุณไม่ได้มีความขัดแย้งกับพวกเรามาก่อนเลย แต่เนื่องจากสงครามในครั้งนี้ถึงแม้พวกเราจะสั่งไม่ให้ลูกน้องไปยุ่งกับพวกคุณ แต่สุดท้ายพวกเราก็คงจะห้ามพวกเขาไม่ได้” ฮั่นอิ่งกล่าวด้วยรอยยิ้ม

กว่าจะเอาชนะเดธโซลในสงครามครั้งนี้ได้สมาชิกของบลัดบราเธอร์ต้องอดทนต้องพยายามกันเป็นอย่างมาก และเมื่อมันได้รวมกับความแค้นในอดีตแม้ว่าเดธโซลจะยุบกิลด์ลงไป แต่สมาชิกของบลัดบราเธอร์ก็คงจะไม่ปล่อยอดีตสมาชิกของเดธโซลไปง่าย ๆ ด้วยเหมือนกัน

สวิฟเดธรู้ถึงความอันตรายในเรื่องนี้เป็นอย่างดี เขาจึงกัดฟันพูดขึ้นมาว่า

“ถ้าพวกคุณยอมปล่อยผมไป ผมจะยอมส่งมอบวัตถุดิบสำหรับอุปกรณ์ระดับทอง 3,000 ชิ้นให้กับพวกคุณ”

“แค่นั้นมันยังไม่พอ” ฮั่นอิ่งกล่าวพร้อมกับส่ายศีรษะ

“ถ้ายังไม่พอแล้วคุณจะให้ผมทำยังไง?!” สวิฟเดธถาม

“นั่นมันก็ขึ้นอยู่กับคุณ” ฮั่นอิ่งกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ความได้เปรียบทางสถานการณ์อยู่กับฝั่งบลัดบราเธอร์ทั้งหมด ฮั่นอิ่งจึงมีเวลามากพอจะต่อรองกับสวิฟเดธได้จนกว่าเธอจะพอใจ แล้วเธอก็เชื่อว่าข้อเสนอที่อีกฝ่ายได้ให้มามันยังไม่ถึงขีดจำกัดที่สวิฟเดธจะสามารถให้กับเธอได้

สวิฟเดธก้มหน้าคิดอยู่นาน ก่อนที่ในที่สุดเขาจะพูดขึ้นมาว่า

“ถ้าผมยอมมอบวัตถุดิบทั้งหมดของเดธโซลให้กับพวกคุณแลกกับการปล่อยกิลด์ของเราไปจะได้ไหม?”

“มันสามารถเอามาสร้างอุปกรณ์ระดับทองได้กี่ชุด?” ฮั่นอิ่งถามด้วยแววตาอันเป็นประกาย

“น่าจะประมาณ 23,000 ชุด” สวิฟเดธตอบกลับอย่างแผ่วเบา เพราะท้ายที่สุดวัตถุดิบเหล่านี้มันก็มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านเครดิตเลยทีเดียว

“ตกลง” ฮั่นอิ่งตอบ

“คุณอย่าเพิ่งรีบตกลงเลย วัตถุดิบพวกนี้ไม่ได้อยู่ในมือของผม ความจริงแล้วการจะเบิกวัตถุดิบพวกนี้มามันก็จำเป็นจะต้องใช้คำอนุมัติของหัวหน้ากิลด์ทั้ง 9 คน” สวิฟเดธกล่าว

“คุณหมายความว่ายังไง?” ฮั่นอิ่งถาม

“หลังจากสงครามจบ ผมจะเสนอให้ยุบกิลด์ ในเวลานั้นพวกเราทั้ง 9 กิลด์จะต้องมีการจัดสรรไอเท็มภายในคลังและจุดที่เก็บวัตถุดิบก็ไม่ได้อยู่ในสำนักงานใหญ่ของเดธโซล แต่อยู่ในบ้านหลังหนึ่งบริเวณทางเหนือของเมือง”

“สำนักงานใหญ่ของเดธโซลในตอนนี้เป็นสินทรัพย์ส่วนตัวที่แบล็คบลัดได้ซื้อเอาไว้ ตอนเลือกเก็บวัตถุดิบพวกเราทั้ง 8 คนจึงไม่ไว้วางใจ แบล็คบลัดเลยพาทุกคนไปร่วมลงทุนซื้ออาคารหลังหนึ่งเพื่อใช้เป็นคลังของกิลด์”

“พวกคุณก็น่าจะรู้ว่าไอเท็มที่เก็บภายในคลังมันมีมากเกินกว่าที่คนคนเดียวจะขนย้ายได้ ซึ่งมันก็จำเป็นจะต้องใช้ถุงเก็บไอเท็มในกระบวนการขนย้ายและถุงแบบนี้จะดรอปลงมาในทันทีที่ผู้ถือครองได้เสียชีวิตลง”

“ทันทีที่มีการขนย้ายเกิดขึ้น ผมจะรีบติดต่อพวกคุณไปในทันทีและในตอนนั้นมันก็เป็นโอกาสที่พวกคุณจะลงมือปล้นชิงวัตถุดิบทั้งหมดไป” สวิฟเดธกล่าว

“เรื่องนี้มันเป็นเรื่องใหญ่เกินไป ฉันขอถามหัวหน้ากิลด์ก่อน” ฮั่นอิ่งกล่าวก่อนจะหลบมุมไปปรึกษากับลู่หยาง

ในสนามรบ

ปัจจุบันลู่หยางนำทีมกวาดล้างศัตรูจนอยู่ห่างจากแบล็คบลัดเพียงแค่ 60 เมตร

“บอกสวิฟเดธไปว่าถ้าหากเราจัดการเรื่องนี้สำเร็จ ไม่เพียงแต่เราจะไม่ไล่ล่าพวกเขาแต่ฉันจะให้แผนที่เก็บเลเวลกับเขาด้วยเพื่อที่กิลด์ของเขาจะได้พัฒนาต่อไปอย่างราบรื่น”

หลังจากให้คำปรึกษาจนเสร็จ ลู่หยางก็มองไปยังแบล็คบลัดในระยะไกลก่อนจะตะโกนขึ้นมาว่า

“แบล็คบลัด ถ้าตอนนี้แกยอมยุบกิลด์ซะฉันก็จะให้โอกาสแกออกจากเกมอย่างมีเกียรติ ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่แตะต้องร้านค้าของแกภายในเมืองเลยแม้แต่นิดเดียว”

“ไม่ต้องมาเวทนาฉัน จำเอาไว้เลยว่าฉันจะไม่มีวันยอมแพ้” แบล็คบลัดตะโกนตอบกลับอย่างโกรธแค้น

ลู่หยางทำการเรียกอุกกาบาตลงมาสังหารศัตรูตรงหน้าอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่เขาจะพูดเสียงดังออกไปว่า

“ยอมรับความพ่ายแพ้ของแกได้แล้ว กิลด์ที่แกสร้างมันขึ้นมามันเต็มไปด้วยความปวดร้าวของผู้คน แม้ตอนนี้แกจะพัฒนาไปได้เป็นอย่างดีแต่แกก็อย่าลืมว่าความโกรธแค้นมันสามารถฝังอยู่ในจิตใจของคนได้ตลอดชีวิต เมื่อไหร่ก็ตามที่คนที่แกเคยรังแกเติบโตขึ้น วันหนึ่งพวกเขาก็จะหันกลับมาจัดการกับแกอยู่ดี”

“วันนี้ที่แกพ่ายแพ้ให้กับฉันก็ถือว่าแกโชคดีมากแล้ว เพราะในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเมื่อเลเวลของผู้เล่นสูงขึ้น ในตอนนั้นถ้าพวกเขารวมตัวกันมาแก้แค้นแกต่อให้เดธโซลมีกองกำลัง 300,000 คน แต่แกลองคิดดูว่าตั้งแต่เกมเปิดให้บริการแกสร้างศัตรูเอาไว้แค่ไหน ในเวลานั้นป้อมปราการของแกจะถูกทำลายอย่างย่อยยับ และฉันก็เชื่อว่าความสูญเสียของแกในวันนั้นมันจะมากกว่าความสูญเสียที่แกต้องเจอในวันนี้”

เสียงของลู่หยางดังก้องไปทั่วทั้งสนามรบ ซึ่งนอกเหนือจากแบล็คบลัดแล้วหัวหน้ากิลด์คนอื่น ๆ ภายในเดธโซลต่างก็ได้ยินคำพูดนี้ด้วยเช่นกัน ยิ่งพวกเขาได้ยินคำอธิบายของลู่หยาง มันก็เริ่มทำให้หัวหน้ากิลด์คนอื่น ๆ เริ่มเกิดความลังเลขึ้นมาภายในใจ

ในช่วงแรกของเกมถึงแม้พวกเขาจะเคยใช้อำนาจของกิลด์ในการจับจองพื้นที่เก็บเลเวล แต่พวกเขาก็ไม่เคยอาศัยกำลังที่เหนือกว่าในการปล้นชิงไอเท็มของผู้เล่นคนอื่นเหมือนกับกิลด์ของแบล็คบลัด ในเวลาอีกไม่กี่ปีผู้เล่นที่เคยถูกรังแกจะต้องเติบโตขึ้นจากเดิมมากอย่างแน่นอน และถ้าหากในวันนั้นมันมีคนกลายเป็นแกนนำรวบรวมคนมาได้เหมือนอย่างลู่หยาง เดธโซลก็คงจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสิ่งที่แบล็คบลัดเคยทำไว้ในอดีต

นี่คือนิสัยปกติของมนุษย์ เพราะในตอนมีความสุขพวกเขาก็มักจะเสวยสุขไปด้วยกัน แต่เมื่อพวกเขามีความทุกข์ ทุกคนจะเริ่มโยนความผิดให้กับคนอื่น คำพูดของลู่หยางจึงเริ่มกระตุ้นทำให้หัวหน้ากิลด์ต่าง ๆ อยากจะแยกตัวออกจากเดธโซลมากยิ่งขึ้น

แบล็คบลัดไม่ได้สังเกตสีหน้าของหัวหน้ากิลด์คนอื่น ๆ เลย แต่เขายังคงหัวเราะอย่างเย็นชาพร้อมกับตอบโต้ลู่หยางกลับไปว่า

“แกอยากจะให้ฉันขอบคุณแกมากสินะ”

“ใช่ แกควรจะขอบคุณฉัน ฉันขอแนะนำให้แกไปใช้ชีวิตมาเฟียเป็นโลกแห่งความเป็นจริงอย่างเงียบ ๆ เถอะ ในโลกแห่งความเป็นจริงแกอยากจะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบแล้วแกจะเอาตัวเองมาทรมานอยู่ในโลกของเกมไปทำไม หรือว่าในชีวิตจริงแกก็ทำชั่วเอาไว้เยอะเลยต้องหนีตำรวจเข้ามาทำตัวเป็นมาเฟียในโลกของเกมแบบนี้” ลู่หยางกล่าว

เรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นความลับที่แบล็คบลัดได้ซุกซ่อนเอาไว้ในชาติก่อน เพราะสาเหตุที่เขาต้องมาสร้างอำนาจภายในเกม เพราะว่าในชีวิตจริงเขาได้สร้างเรื่องชั่วช้าเอาไว้อย่างมากมายจนเกินไป หลังจากที่ในชีวิตก่อนเขาถูกลู่หยางขับไล่ออกจากเกมไปได้ เขาก็เริ่มกลับไปทำเรื่องเดิม ๆ ในโลกแห่งความเป็นจริงจนสุดท้ายเขาก็ถูกตำรวจจับจนต้องเข้าไปใช้ชีวิตภายในคุก

 

 


 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.