ตอนที่ 998 สังหารอสูรกาย

-A A +A

ตอนที่ 998 สังหารอสูรกาย

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 998 สังหารอสูรกาย

คำพูดเพียงประโยคเดียวของเซี่ยกู่เฉิงสามารถหยุดสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์ได้ในทันที เพราะคำพูดที่เขาพูดออกมานี้มันเกี่ยวกับความลับของการพัฒนาเป็นพระเจ้า

ทุกคนเข้าใจกันไปเองมาโดยตลอดว่าพลังในระดับจอมกฎขั้นสูงสุดคือจุดสิ้นสุดของการพัฒนาแล้ว แต่เซี่ยกู่เฉิงสามารถทะลวงผ่านขีดจำกัดกลายเป็นพระเจ้าได้จริง ๆ และพวกเขาก็ได้เห็นพลังอันน่าตื่นตาตื่นใจนั้นด้วยตาของตัวเอง

ด้วยเหตุนี้เองเมื่อชายชราโยนสิ่งล่อต่อล่อใจออกไป มันก็ไม่มีใครสามารถปฏิเสธเงื่อนไขของเขาได้และทำให้สงครามหยุดชะงักไปชั่วคราว

“ทำไมเราต้องเชื่อคุณด้วย? มันมีอะไรรับประกันว่าถ้าหากพวกเราหยุดยั้งสงครามแล้วคุณจะบอกความลับให้เรารู้”

“ใช่ เราจะรู้ได้ยังไงว่าสิ่งที่คุณพูดมาคือความจริง?”

ฝูงชนเริ่มส่งเสียงตะโกนอย่างไม่มั่นใจ

“ชื่อเสียงของสกายวิงยังไม่เพียงพอที่จะรับประกันคำพูดของฉันอีกงั้นเหรอ? ถ้าหากว่าพวกแกไม่เชื่อใจสกายวิงมันก็เรื่องของพวกแก พวกแกคิดว่าฉันอยากจะบอกความลับเรื่องการพัฒนากลายเป็นพระเจ้าขนาดนั้นเลยหรือยังไง ถ้าไม่ใช่เพราะแผนการร้ายของพวกผู้สร้าง ฉันก็ไม่อยากจะเข้ามายุ่งกับความเป็นความตายของพวกแกหรอก” เซี่ยกู่เฉิงตะคอกอย่างเย็นชาเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความสงสัยของฝูงชน

การเคลื่อนไหวของเซี่ยกู่เฉิงในครั้งนี้เป็นการเคลื่อนไหวที่เจ้าเล่ห์มาก เพราะมันสามารถระงับความสงสัยได้อย่างฉับพลัน ท้ายที่สุดทุกคนก็กลัวว่าชายชราจะไม่บอกความลับเนื่องจากความโกรธ อีกอย่างนักรบหลาย ๆ คนก็ไม่เต็มใจเข้าร่วมสงครามครั้งนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว การระงับสงครามเอาไว้สักพักก็จะช่วยลดความสูญเสียภายในตระกูลของพวกเขาได้

“แผนการร้ายอะไรที่ถึงขั้นทำให้คุณยอมบอกความลับและยังต้องการจะหยุดยั้งสงครามในครั้งนี้ด้วย?” ชายคนหนึ่งตะโกน

“ฉันยังไม่มีหลักฐานเป็นรูปธรรม แต่ภายใน 7 วันฉันจะทำให้ทุกคนตาสว่างเอง ในช่วง 7 วันนี้ห้ามทั้งสองเผ่าทำสงครามกันอย่างเด็ดขาด ถ้าหากว่ามีใครฝ่าฝืนข้อตกลงขึ้นมาก็ลืมเรื่องการพัฒนาไปเป็นพระเจ้าได้เลย ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อมันก็ขึ้นอยู่กับตัวของพวกคุณ”

หลังจากกล่าวจบเซี่ยกู่เฉิงก็จากไปทิ้งเอาไว้เพียงแค่ทหารนับล้านที่กำลังสับสนท่ามกลางสนามรบ โดยไม่รู้ว่าพวกเขาควรจะต้องทำยังไงต่อไปกันแน่

เมื่อเซี่ยกู่เฉิงจากไปนักรบบางคนก็เริ่มส่งเสียงตะโกนบอกว่าชายชราพูดเรื่องโกหก แน่นอนว่าคนพวกนี้ก็คือคนของผู้สร้างที่แฝงตัวเข้ามาอยู่ในทั้งสองเผ่าพันธุ์นั่นเอง

อย่างไรก็ตามคำประกาศของเซี่ยกู่เฉิงก็น่าดึงดูดใจมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ตระกูลส่วนใหญ่จึงตัดสินใจยุติการต่อสู้อย่างน้อยเป็นเวลา 7 วัน แล้วถึงแม้ว่าลูกน้องของผู้สร้างจะพยายามเรียกร้องให้เกิดสงครามแต่มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร

“เห็นไหม? ฉันบอกแล้วไม่ว่าจะเป็นสกายวิงหรือเซี่ยกู่เฉิงต่างก็เป็นตัวตนอันแปลกประหลาดที่หยิ่งผยองที่สุดในดินแดนกฎ เพียงแค่เขาปรากฏตัวขึ้นมามันก็ทำให้สงครามหยุดชะงักไปสักพักหนึ่งแล้ว การเคลื่อนไหวของเขาคงจะทำให้คอนสแตนปวดหัวมากแน่ ๆ” เครนกล่าวจากในระยะไกลหลังจากที่เขาได้เห็นเซี่ยกู่เฉิงจากไปแล้ว

เครน, โอเชี่ยนและซีน ผู้ซึ่งเป็น 3 ผู้สร้างแอบดูสถานการณ์บริเวณสนามรบอย่างเงียบ ๆ มาโดยตลอด พวกเขาจึงเห็นตั้งแต่ช่วงเวลาที่นักรบหน้ากากเงินถือฮอร์ครักซ์ไล่เก็บดวงวิญญาณไปจนถึงช่วงที่เซี่ยกู่เฉิงได้ปรากฏตัวและจากไป

โอเชี่ยนพยักหน้ารับอย่างเงียบ ๆ แล้วยังคงกินอาหารของตัวเองต่อไปโดยไม่พูดแสดงความคิดเห็นใด ๆ ออกมาแม้แต่คำเดียว

“ฉันยอมรับว่าเซี่ยกู่เฉิงทรงพลังมากและตระกูลสกายวิงของเขาก็เป็นตระกูลที่ไว้ใจได้ แต่พวกนายก็น่าจะรู้ว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงของคอนสแตนน่ากลัวแค่ไหน แม้แต่พวกเราทั้งสามคนก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา”

“ในบรรดาพวกเรามีแค่บลันท์ที่ยืนเผชิญหน้ากับคอนสแตนได้สัก 3 นาที แต่พวกเราคงจะยืนต่อหน้าคอนสแตนได้ไม่ถึง 3 วินาทีด้วยซ้ำ”

“กรณีของเซี่ยกู่เฉิง ถึงแม้เขาจะได้รับการป้องกันจากความเร็ว แต่เขาก็วิ่งไปรอบ ๆ คอนสแตนได้เท่านั้น ไม่มีทางที่เขาจะเอาชนะคอนสแตนได้” ซีนกล่าวขณะเงยหน้ามองท้องฟ้า

“ตลอดหลายปีที่ผ่านมาฉันก็ได้ตระหนักแล้วว่าพวกเรากลัวคอนสแตนมากเกินไป นั่นคือความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดภายในอดีตของเรา ตอนนี้ดินแดนกฎใกล้ที่จะพังทลายแล้ว ถ้าหากว่าเราไม่ลุกยืนขึ้นมาปกป้องดินแดนกฎเอาไว้ แล้วใครจะมาปกป้องดินแดนที่พวกเราร่วมมือสร้างมันขึ้นมา”

“ลองดูไปที่เซี่ยกู่เฉิงสิ ถึงแม้เขาจะพึ่งเลื่อนระดับกลายเป็นพระเจ้าได้เพียงแค่ไม่นาน แต่เขาก็กล้าที่จะยืนหยัดต่อสู้กับผู้สร้างทั้ง 13 ด้วยตัวเอง แล้วพวกเราล่ะ? ความกล้าหาญของพวกเรามันหายไปไหนหมด?”

คำพูดของเครนในครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อจิตใจผู้ฟังมาก มันจึงทำให้แม้แต่โอเชี่ยนที่เอาแต่กินมาโดยไม่พูดอะไรก็ยังหยุดชะงักขึ้นมาอย่างกะทันหัน

“แม้แต่พระเจ้ารุ่นน้องอย่างเซี่ยกู่เฉิงก็ยังกล้ายืนหยัดเผชิญหน้า…”

หลังจากเปรียบเทียบเซี่ยกู่เฉิงกับตัวเองแล้ว ในที่สุดทั้งคู่ก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด

“คำพูดของเครนถูกต้องแล้ว มันถึงเวลาที่พวกเราจะต้องแก้ไขข้อผิดพลาดในอดีต บางทีการเติบโตของสกายวิงอาจจะเป็นโอกาสอันดีที่พวกเราจะเอาคอนสแตนลงมาจากอำนาจ” ซีนกล่าว

“ใช่ ทุกอย่างมีเวลาของมันเอง การก่อกบฏของสกายวิงคือสัญญาณของการเปลี่ยนแปลง เดี๋ยวฉันจะไปพูดคุยกับพวกเขาเอง” 

“โอเชี่ยน ซีน พวกนายช่วยไปตามลีงโกกับโอลเดนมา พยายามเกลี้ยกล่อมให้พวกเขามารวมกับเราให้ได้” เครนเริ่มสั่งการหลังจากที่พวกเขาทั้งสามมองเห็นชัยชนะอย่างริบหรี่

“น่าเสียดายจริง ๆ ที่บลันท์จากพวกเราไปแล้ว” โอเชี่ยนผู้ซึ่งไม่ค่อยชอบพูดออกมาเท่าไหร่เริ่มเปิดปากขึ้นมาเป็นครั้งแรก

ในบรรดาผู้สร้างทั้ง 13 คนมีบลันท์เพียงคนเดียวที่สามารถยืนหยัดเผชิญหน้ากับคอนสแตนได้ แต่ชายผู้มีนิสัยแปลกประหลาดคนนี้ได้หายตัวไปเป็นเวลาเนิ่นนานแล้ว จนทำให้พวกเขาทั้งสามแสดงความเศร้าขึ้นมาเล็กน้อย

เมื่อรีเวิร์สค้นพบเซี่ยเฟยมันก็เตรียมพร้อมจะทำการสังหารชายหนุ่มคนนี้ในทันที

ท่าทางของอีกฝ่ายบ้าคลั่งมากจนทำให้เซี่ยเฟยแอบคิดว่าพวกเขามีความคับแค้นใจกับเขามาก่อน ทำให้อีกฝ่ายเริ่มแสดงอารมณ์ออกมาอย่างรุนแรงเมื่อได้เห็นเขาปรากฏตัว

“อย่ามองตามัน! ไม่อย่างนั้นวิญญาณของนายจะได้รับความเสียหาย” ลินนิจตะโกนแนะนำขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

เซี่ยเฟยสะดุ้งขึ้นมาเล็กน้อย ความจริงแล้วดวงตาของรีเวิร์สก็ไม่ใช่ดวงตาจริง ๆ แต่เป็นประกายแสงสีเขียวเหมือนกับแสงในระหว่างที่เขาใช้วิชามนตราอสูร

การพยายามอธิบายรูปร่างของรีเวิร์สเป็นคำพูดคือสิ่งที่ทำได้ยากมาก เพราะทั่วทั้งร่างของมันมีเพียงกล้ามเนื้อสีดำแข็ง ๆ ปราศจากชุดเกราะที่ปกคลุม ฝ่ามือที่มันยื่นออกไปคว้าร่างของชายหนุ่มเอาไว้ก็มีกรงเล็บอันแหลมคมคล้ายกับกรงของนกอินทรี

นี่มันปีศาจชัด ๆ!

เซี่ยเฟยไม่สามารถหาคำจำกัดความใด ๆ ได้ดีกว่าคำว่าปีศาจอีกแล้ว เพราะรีเวิร์สทำให้เขารู้สึกราวกับว่าอีกฝ่ายได้หลุดออกมาจากขุมนรก

คำเตือนของลินนิจมาช้าเกินไป ทันทีที่ดวงตาของทั้งคู่สบกันมันก็มีประกายไฟระเบิดออกมาอย่างดุเดือด

ทันใดนั้นกระแสจิตอันรุนแรงก็เริ่มบุกรุกเข้ามาในสมองของเซี่ยเฟย และการปะทะกันในครั้งนี้มันก็ไม่ใช่การปะทะกันระหว่างวิชาเนตร แต่เป็นการปะทะกันระหว่างดวงวิญญาณ

เซี่ยเฟยรู้สึกเหมือนกับว่าดวงวิญญาณอันน่ากลัวกำลังพยายามแทรกซึมเข้ามาภายในตัวเขา และพลังของวิญญาณนี้ยังมีมากกว่าวิญญาณอมตะอย่างลินนิจซะอีก โดยวิญญาณของอีกฝ่ายพยายามจู่โจมอย่างบ้าคลั่งเพื่อฉีกกระชากวิญญาณของเซี่ยเฟยให้ขาดออกจากกันเป็นชิ้น ๆ

เซี่ยเฟยรู้มานานแล้วว่าภายในร่างของทุกคนมีดวงวิญญาณสิงสถิตอยู่ แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาจะต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีมาที่ดวงวิญญาณโดยตรง

อย่างไรก็ตามชายหนุ่มก็สามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าการโจมตีในครั้งนี้มันไม่ใช่การโจมตีจริง ๆ แต่มันเป็นเหมือนกับการพยายามหลอกให้เขารู้สึกหวาดกลัวจนยอมแพ้และถอยกลับไป

คิดจะทำให้เขายอมแพ้งั้นเหรอ?

ฝันไปเถอะ!

เซี่ยเฟยคือคนที่มีนิสัยดื้อรั้นอยู่เสมอ และยิ่งอีกฝ่ายกดดันให้เขายอมแพ้มากเท่าไหร่ เขาก็จะยิ่งต่อต้านพลังของอีกฝ่ายกลับไปอย่างรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น

ตูม!

แรงกดดันวิญญาณที่ถูกปล่อยออกมาจากรีเวิร์สปลุกพลังวิญญาณของเซี่ยเฟยขึ้นมาโดยสมบูรณ์ ชายหนุ่มจึงเริ่มส่งแรงกดดันวิญญาณอันบ้าคลั่งกลับไป แล้วมันก็เป็นแรงกดดันวิญญาณที่มีความดุร้ายมากยิ่งกว่าแรงกดดันวิญญาณของรีเวิร์สเสียอีก

ในที่สุดแรงกดดันวิญญาณของรีเวิร์สก็ถูกผลักดันถอยกลับมาไม่สามารถแทรกแซงเข้าไปภายในร่างของเซี่ยเฟยได้อีกต่อไป อสูรกายจากนอกประตูจักรวาลจึงเริ่มตะเกียกตะกายจู่โจมอย่างบ้าคลั่งมากขึ้นกว่าเดิม คล้ายกับว่ามันพยายามจะทำยังไงก็ได้เพื่อสังหารศัตรูตรงหน้าของมันลง

เซี่ยเฟยสัมผัสได้ถึงความเกลียดชังที่อีกฝ่ายส่งตรงมาให้กับเขาอย่างชัดเจน ซึ่งความเกลียดชังในลักษณะนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในระหว่างการเผชิญหน้าของผู้พิทักษ์และรีเวิร์สมาก่อน แต่มันเป็นความเกลียดชังที่รีเวิร์สแสดงออกมาในตอนที่เผชิญหน้ากับเขาเท่านั้น

“มันกำลังจะกลายร่าง” ลินนิจตะโกนเตือนอีกครั้ง

ทันใดนั่นเองแขนของรีเวิร์สที่ยื่นออกไปก็หดกลับมา กล้ามเนื้อทั่วทั้งร่างของมันขยายออกอย่างรวดเร็ว วินาทีถัดมารีเวิร์สก็กลายเป็นอสูรกายที่มีความสูงหลายสิบเมตร สิ่งที่น่าสยดสยองมากกว่านั้นคือแขนของมันงอกออกมาเป็นจำนวนหลายสิบคู่

นี่คือร่างขั้นสมบูรณ์ที่รีเวิร์สเอาไว้ใช้ในการปลิดชีวิตของศัตรูโดยเฉพาะ แล้วมันก็กำลังพยายามอย่างเต็มที่ที่จะปลิดชีวิตของเซี่ยเฟยให้ได้

“ปกป้องสกายวิงเร็ว ๆ เข้า! ถ้าหากเขาเป็นอะไรไปพวกเราจะต้องซวยไปด้วยแน่ ๆ” แพนเดียนีตะโกนด้วยสีหน้าอันซีดเผือด

ปกป้อง!?

เห็นได้ชัดเลยว่าแม้แต่แพนเดียนีก็ประเมินเซี่ยเฟยต่ำเกินไป เพราะทันทีที่เขาพูดจบเขาก็สังเกตเห็นดาบกากบาทเล่มใหญ่ล่องลอยออกไปจากหลังของเซี่ยเฟย

เนอร์วาน่าเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วพุ่งเข้าปะทะกับอสูรกายนอกประตูจักรวาลอย่างรุนแรง ก่อนที่ใครจะทันได้ตั้งตัวร่างของรีเวิร์สที่ผู้พิทักษ์นับร้อยไม่สามารถทำอะไรได้ก็เริ่มแหลกสลายกลายเป็นผุยผงไม่หลงเหลือเศษซากใด ๆ เอาไว้ในบริเวณนั้นอีกเลย

***************

ใครปกป้องใครกันแน่ 5555

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.