ตอนที่ 997 แกล้งไม่รู้จัก

-A A +A

ตอนที่ 997 แกล้งไม่รู้จัก

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 997 แกล้งไม่รู้จัก

เซี่ยเฟยกับกลุ่มผู้พิทักษ์มีโอกาสได้พบกันในระหว่างสงครามที่ไนท์ปาร์ตี้ ซึ่งในสงครามนั้นพวกเขาก็ได้ร่วมมือกันในการต่อต้านศัตรู กลุ่มผู้พิทักษ์จึงได้เห็นพลังความบ้าของเซี่ยเฟย ขณะที่เซี่ยเฟยก็ได้สัมผัสถึงความเพียรพยายามของเหล่าบรรดาผู้พิทักษ์

แต่เดิมค่ายของผู้พิทักษ์เป็นพื้นที่ต้องห้ามที่ไม่ให้ผู้คนภายนอกเข้าออกอย่างเด็ดขาด แต่เซี่ยเฟยเป็นกรณีที่แตกต่างออกไป เพราะเขาเคยได้ร่วมมือกับกลุ่มผู้พิทักษ์ไปครั้งหนึ่งแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเดินทางมาในฐานะของตัวแทนสกายวิง มันจึงทำให้เขาได้รับการต้อนรับเป็นกรณีพิเศษ

หลังจากโอโร่ได้กลับมาเกิดใหม่เขาก็ใช้ประสบการณ์ในอดีตในการพัฒนาพลังของตัวเองอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ความเร็วในการฟื้นตัวของเขายังถูกส่งเสริมโดยกฎแห่งความโกลาหล หลังจากชายคนนี้ได้เข้าสู่กลุ่มผู้พิทักษ์เพียงแค่ไม่นาน เขาก็พัฒนาพลังจากราชาจนกลายเป็นตัวตนในระดับราชันย์แล้ว

การพัฒนาของโอโร่ทำให้ผู้พิทักษ์ทุกคนรู้สึกตกตะลึง ทุกคนจึงยกย่องว่าชายคนนี้คืออัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ จนทำให้เขาถูกแต่งตั้งกลายเป็นผู้พิทักษ์ระดับสูงสุด และมีโอกาสที่จะขึ้นไปเป็นหัวหน้าของกลุ่มผู้พิทักษ์ในอนาคตอันห่างไกล

“ฉันขอแนะนำให้รู้จักเขาชื่อลีโอเป็นอัจฉริยะอันดับ 1 ของพวกเรา วันนั้นที่เราต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันภายในไนท์ปาร์ตี้ น้องชายคนนี้ก็อยู่ในหมู่ของพวกเราด้วย คุณทันได้สังเกตเห็นเขาไหม?” จอมกฎแพนเดียนีแนะนำโอโร่ให้เซี่ยเฟยรู้จักอย่างกระตือรือร้น เพราะเขาคิดว่าทั้งคู่ยังไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

เหตุการณ์นี้ทำให้ทั้งเซี่ยเฟยและโอโร่ต่างก็รู้สึกตกตะลึง เพราะท้ายที่สุดโอโร่ก็คือราชันย์แห่งเหล่าบรรดาไลอ้อนฮาร์ท แต่วันนี้เขากลับกลายเป็นอัจฉริยะของกลุ่มผู้พิทักษ์ไปซะอย่างนั้น

อย่างไรก็ตามเนื่องมาจากว่าชายหนุ่มต้องการจะให้โอโร่ทำหน้าที่เป็นสายลับภายในกลุ่มผู้พิทักษ์ต่อไป เขาจึงเริ่มเอ่ยทักทายโดยแกล้งทำเป็นไม่รู้จักกัน

“ช่วยหาโอกาสออกมาคุยกันหน่อย” เซี่ยเฟยกล่าวกระซิบระหว่างที่คนอื่น ๆ ไม่ทันได้สังเกต

“อือ ฉันก็มีเรื่องจะเล่าให้ฟังด้วยเหมือนกัน” โอโร่กล่าว

หลังจากกล่าวทักทายกันเสร็จสิ้นทั้งสองฝ่ายก็นั่งลงบนโต๊ะ โดยโอโร่ที่กลายเป็นผู้พิทักษ์นั่งฝั่งตรงข้ามกับเซี่ยเฟยและมีนักรบที่ร่วมต่อสู้กันในวันนั้นนั่งอยู่ล้อมรอบ

ย้อนกลับไปในวันนั้นทุกคนยังคงจำเหตุการณ์ที่พวกเขาเผชิญหน้ากับพวกดาร์คไนท์ได้เป็นอย่างดี ความเร็วของสกายวิงช่วยทำให้พวกเขาพลิกสถานการณ์กลับกลายมาเป็นฝ่ายชนะ ทุกคนจึงรู้สึกชื่นชมสกายวิงจากก้นบึ้งของหัวใจ

ยิ่งไปกว่านั้นข่าวที่สกายวิงบดขยี้บริษัทฟิกส์และถอนตัวออกจากดินแดนกฎยังโด่งดังไปทั่วทั้งจักรวาล ทุกคนจึงออกมาต้อนรับเซี่ยเฟยเป็นอย่างดี โดยหวังว่าสกายวิงจะเลือกมายืนเคียงข้างฝ่ายเดียวกับพวกเขา

ระหว่างการสนทนาแพนเดียนีก็ยังคงกล่าวยืนยอโอโร่อย่างซ้ำ ๆ ถึงขั้นใช้คำว่า ‘มนุษย์อัจฉริยะ’ ในรอบหลายหมื่นปี จนทำให้เซี่ยเฟยอยากที่จะหัวเราะและทำให้โอโร่รู้สึกหดหู่ใจมาก

ท้ายที่สุดในตอนที่เขากลายเป็นจอมเทพครั้งแรก แพนเดียนียังไม่ถือกำเนิดขึ้นมาในจักรวาลแห่งนี้ด้วยซ้ำ แต่ในตอนนี้เขากลับถูกรุ่นน้องยกยอซ้ำ ๆ มันจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกหดหู่ใจ

เมื่อพิจารณาจากท่าทางของโอโร่แล้วมันก็ดูเหมือนกับว่าชายคนนี้มีเรื่องสำคัญที่ต้องการจะบอกเซี่ยเฟยโดยเร็วที่สุด แต่เนื่องมาจากว่าในตอนนี้มีคนอยู่มากเกินไป เซี่ยเฟยจึงจำเป็นจะต้องอดทนพูดคุยกับคนอื่นตามมารยาทไปก่อน

ทันใดนั้นมันก็มีเสียงแจ้งเตือนดังไปทั่วทั้งท้องฟ้า จนทำให้ค่ายผู้พิทักษ์ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย

แพนเดียนีลุกขึ้นอย่างกะทันหันและกำลังจะวิ่งออกจากห้อง แต่ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงเซี่ยเฟยขึ้นมาได้ซะก่อน เขาจึงหยุดหันไปพูดกับโอโร่ว่า

“นายอยู่คุยกับน้องชายเซี่ยเฟยไปก่อนนะ ฉันมีเรื่องจะต้องทำแล้วเดี๋ยวฉันจะรีบกลับมา” หลังจากพูดจบแพนเดียนีก็รีบออกไปพร้อมกับนักรบอีกหลายคน เหลือเพียงแค่โอโร่กับเซี่ยเฟยที่อยู่ในห้องเพียงสองคนเท่านั้น

“เกิดอะไรขึ้น? เมื่อกี้มันเหมือนเสียงสัญญาณเตือนเลย” เซี่ยเฟยถามอย่างสงสัย

“นายอยากเห็นพวกรีเวิร์สมาโดยตลอดใช่ไหม? นั่นแหละสัญญาณเตือนว่าพวกมันปรากฏตัวขึ้นมาแล้ว” โอโร่กล่าวกระซิบ

เซี่ยเฟยสะดุ้งขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อได้รู้ว่าพวกรีเวิร์สเริ่มบุกทะลุผ่านประตูจักรวาลมาแล้วจริง ๆ

“ตามมาสิ เดี๋ยวฉันจะพาไปดูว่าพวกมันหน้าตาเป็นยังไง” โอโร่กล่าว

อดีตจอมมารใช้ประโยชน์จากความวุ่นวายภายในค่ายแอบนำเซี่ยเฟยออกมาจากค่ายอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็หยิบเครื่องสื่อสารของผู้พิทักษ์ออกมาเพื่อดูว่าพวกรีเวิร์สบุกรุกมาทางจุดไหน

“อยากเข้าไปใกล้กว่านี้ล่ะ นายน่าจะเห็นอยู่แล้วว่ามีผู้พิทักษ์ล้อมรอบพื้นที่บริเวณนี้เอาไว้เป็นจำนวนนับไม่ถ้วน เราทำได้แค่แอบดูอยู่แถว ๆ นี้ ไม่อย่างนั้นพวกเราก็จะถูกพวกเขาค้นพบได้” โอโร่กล่าวหลังจากพาเซี่ยเฟยไปยังจุดเป้าหมาย

เซี่ยเฟยพยักหน้าขณะสังเกตไปยังผู้พิทักษ์เป็นจำนวนนับไม่ถ้วนที่กำลังเฝ้าระวังและพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อค้นหาร่องรอยของรีเวิร์ส

“สถานการณ์ตอนนี้ร้ายแรงหรือเปล่า? พวกมันจะบุกข้ามประตูจักรวาลมาสร้างปัญหาให้กับพวกเราไหม?” เซี่ยเฟยถาม

“เหตุการณ์ยังไม่ร้ายแรงถึงขั้นนั้น แต่มันก็กำลังแย่ลงเรื่อย ๆ ปกติรีเวิร์สจะหลุดออกมาจากประตูจักรวาลทุก ๆ 10 ปีเท่านั้น แต่ตอนนี้…”

“ตอนนี้เป็นยังไง?” เซี่ยเฟยถามอย่างกังวล

“พวกมันหลุดออกมาจากประตูจักรวาลทุก ๆ สัปดาห์” โอโร่กล่าวตอบเบา ๆ

“จาก 10 ปีครั้งเป็นอาทิตย์ละครั้งเนี่ยนะ?! คุณต้องรอให้ประตูจักรวาลถูกเปิดออกก่อนหรือยังไงถึงจะเรียกว่าสถานการณ์เข้าขั้นร้ายแรง” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างจริงจัง

“ฉันยังไม่เคยเข้าใกล้ประตูจักรวาลจริง ๆ มาก่อน ฉันแค่ได้ยินเรื่องทุกอย่างมาจากคนอื่นเท่านั้น พวกเขาบอกว่าผนึกบนประตูจักรวาลยังคงอยู่ แม้ว่าพวกรีเวิร์สจะต้องการแต่พวกมันก็บุกทะลุผ่านประตูจักรวาลมาไม่ได้ง่าย ๆ”

“ค่ายที่เราอยู่ตอนนี้ค่อนข้างห่างไกลจากประตูจักรวาลมาก แต่ตอนที่ฉันอยู่ในค่ายฝึกพิเศษฉันมักจะได้ยินเสียงดังลั่นจากบนฟากฟ้าอยู่เป็นประจำ ว่ากันว่าเสียง ๆ นั้นเกิดจากการบุกโจมตีประตูจักรวาลของพวกรีเวิร์ส ตอนนี้ถึงแม้ว่าฉันจะกังวลกับสถานการณ์มาก แต่ฉันก็ไม่มีทางรับรู้ถึงสถานการณ์ของประตูจักรวาลได้จริง ๆ” โอโร่กล่าว

“แล้วทำไมคุณไม่เข้าไปตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยตัวเองล่ะ? ก่อนหน้านี้คุณมัวทำอะไรอยู่” เซี่ยเฟยถามอย่างกังวล

“นายคิดว่าฉันไม่อยากไปเหรอ?! แต่พวกเขาคิดว่าฉันคืออัจฉริยะในรอบหลายหมื่นปี เลยเอาแต่ฝึกพิเศษให้กับฉันและไม่อยากให้ฉันเข้าไปเสี่ยงอันตราย ไม่อย่างนั้นฉันก็คงได้เข้าใกล้ประตูจักรวาลไปตั้งนานแล้ว” โอโร่กล่าวอย่างหงุดหงิด

เซี่ยเฟยถึงกับพูดไม่ออกไปอยู่พักหนึ่ง เพราะใครจะไปรู้ว่าการเกิดใหม่กลายเป็นมนุษย์ของโอโร่จะทำให้เขาได้รับสถานะที่สำคัญกับกลุ่มผู้พิทักษ์ถึงขนาดนี้

กลุ่มผู้พิทักษ์กำลังช่วยกันฝึกฝนราชันย์แห่งเผ่าไลอ้อนฮาร์ทเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งหากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปมันก็คงจะเรียกเสียงหัวเราะได้ทั่วทั้งจักรวาล

“ฉันว่าเราควรหาโอกาสเข้าไปตรวจสอบประตูจักรวาลด้วยตัวเองจะดีกว่า การทำลายผนึกของริเวอร์ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ฉันคิดว่าตอนนี้พวกมันกำลังสอดแนมสถานการณ์ในจักรวาลนี้อยู่และเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีครั้งใหญ่” ลินนิจกล่าว

“อือ ถ้ามีโอกาสผมจะเข้าไปตรวจสอบประตูจักรวาลให้” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

แต่ในทันใดนั่นเองพวกผู้พิทักษ์ก็เริ่มตะโกนขึ้นมาเสียงดัง

“มันอยู่นี่!”

“ฆ่าอสูรกายพวกนั้นซะ! อย่าปล่อยให้พวกมันหนีไปได้!!”

กลุ่มผู้พิทักษ์เกราะทองปิดล้อมศัตรูเอาไว้อย่างรวดเร็ว แต่เนื่องจากระยะทางอันห่างไกล มันจึงทำให้เซี่ยเฟยมองไม่เห็นว่าพวกเขากำลังปิดล้อมตัวอะไรอยู่กันแน่

เนตรมนตรา!

เซี่ยเฟยส่งพลังเข้าสู่ดวงตาอย่างเต็มที่ โดยอยากรู้ว่าสิ่งมีชีวิตนอกประตูจักรวาลมันมีหน้าตาเป็นยังไงกันแน่

“มองเห็นไหม?” โอโร่ถาม

“ไม่! ระยะทางไกลเกินไป ผมเห็นเพียงแค่เงาลาง ๆ เท่านั้น” เซี่ยเฟยกล่าว

ทันทีที่เขาพูดจบเขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องอันรุนแรงดังทะลุเข้ามาภายในหู พร้อมกันนั้นนักรบเกราะทองจำนวนหลายสิบคนก็กระเด็นออกไปในทิศทางที่แตกต่างกันโดยมีเลือดอาบไปทั่วทั้งร่างกาย

“ทรงพลังมาก! ไม่น่าเชื่อว่ามันจะอาละวาดท่ามกลางกลุ่มผู้พิทักษ์ได้แบบนี้” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยความประหลาดใจ

“เท่าที่ฉันรู้ ตอนนี้มันมีรีเวิร์สที่กำลังอาละวาดอยู่เพียงตัวเดียวเท่านั้น” โอโร่กล่าว

“ตัวเดียว?!” เซี่ยเฟยอุทานอย่างตกใจ

รีเวิร์สเพียงตัวเดียวกลับทำให้กลุ่มผู้พิทักษ์หลายพันคนปั่นป่วนกันไปหมด และบางคนก็ถึงกับได้รับบาดเจ็บสาหัส มันจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะจินตนาการว่าสิ่งมีชีวิตนอกประตูจักรวาลเหล่านี้มีความน่ากลัวมากแค่ไหน

หากมีรีเวิร์สจำนวนนับหมื่นตัวบุกโจมตีดินแดนกฎขึ้นมา ในเวลานั้นพวกเขาจะสามารถปกป้องชีวิตของตัวเองเอาไว้ได้จริง ๆ เหรอ ยิ่งไปกว่านั้นจำนวนของศัตรูยังไม่เป็นที่แน่ชัด บางทีมันอาจจะมีจำนวนของรีเวิร์สบุกเข้ามาเป็นจำนวนนับร้อยล้านตัวเลยก็ได้

การค้นพบในครั้งนี้ทำให้เซี่ยเฟยเข้าใจในที่สุดว่าทำไมกลุ่ม 13 ผู้สร้างถึงพยายามประนีประนอมกับรีเวิร์สมาโดยตลอด

ทันใดนั้นมันก็มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เพราะรีเวิร์สสามารถหนีออกมาจากการปิดล้อมของกลุ่มผู้พิทักษ์ได้สำเร็จ ยิ่งไปกว่านั้นทิศทางการหลบหนียังเป็นตำแหน่งที่เซี่ยเฟยกับโอโร่กำลังยืนแอบดูสถานการณ์ในสนามรบอยู่

เพื่อให้เซี่ยเฟยมองเห็นรีเวิร์สได้อย่างชัดเจน โอโร่จึงเลือกตำแหน่งที่มีผู้พิทักษ์ยืนเฝ้าอยู่เป็นจำนวนน้อยที่สุด และเนื่องมาจากการป้องกันในบริเวณนี้อ่อนแอมากที่สุด มันจึงเป็นจุดที่รีเวิร์สบุกฝ่าออกมาด้วยเช่นกัน

เมื่อเงาดำพุ่งมาหาเซี่ยเฟยอย่างรวดเร็ว ขนอุยก็รีบปรากฏตัวขึ้นมาในทันที ซึ่งในเวลานั้นทั้งกลุ่มผู้พิทักษ์และรีเวิร์สก็เริ่มสังเกตเห็นชายหนุ่มในเวลาเดียวกัน

บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าเซี่ยเฟยไม่ได้ปล่อยความผันผวนของพลังงานออกมาจากร่างกาย รีเวิร์สจึงคิดว่าชายหนุ่มคนนี้คือเป้าสังหารที่สามารถจัดการได้ง่าย ๆ เงาดำจึงเริ่มเผยเขี้ยวเล็บและกระโจนเข้าใส่เซี่ยเฟยราวกับว่าพวกเขามีความแค้นกันมาอย่างยาวนาน

“ไม่! ปกป้องสกายวิงเอาไว้เดี๋ยวนี้!!” แพนเดียนีร้องคำรามออกมาสุดเสียง

***************

ได้เวลาสูบรีเวิร์สแล้วใช่ไหม? ลุ้น ๆ 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.