ตอนที่ 931 เสี้ยววิญญาณ

-A A +A

ตอนที่ 931 เสี้ยววิญญาณ

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 931 เสี้ยววิญญาณ

“รีบรวมกองกำลังหลักของเราเดี๋ยวนี้ ฉันอยากจะเห็นด้วยตาของตัวเองจริง ๆ ว่าราชันย์หนอนด้วงมิติมันมีหน้าตาเป็นยังไงกันแน่” ไมล่ากล่าวพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง

“เราควรแจ้งผู้นำก่อนหรือเปล่า? การเรียกรวมกองกำลังหลักโดยฉับพลันแบบนี้มันเป็นสิ่งที่ผิดต่อกฎของตระกูลนะครับ” โยฟาถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

“อะไรก็ผู้นำ ๆ ๆ คำพูดของฉันมันไม่มีความหมายเลยหรือไง!” ไมล่าตะโกนขึ้นมาอย่างน่ากลัว

“เอ่อ…” โยฟารีบส่ายหัวปฏิเสธอย่างรวดเร็ว เพราะทุกคนภายในเผ่าต่างก็รู้ดีว่าชายชราคนนี้มีพลังอยู่ในระดับจอมมาร ดังนั้นถึงแม้อีกฝ่ายจะไม่ใช่ผู้นำตระกูล แต่มันก็ไม่มีใครกล้าเพิกเฉยต่อคำพูดชายคนนี้ได้ง่าย ๆ

“แกเป็นใคร? กล้าดียังไงมาขัดคำสั่งของฉัน! ถ้าผู้นำตระกูลไม่อยู่ฉันคนนี้เนี่ยแหละก็คือผู้นำ รีบกระจายคำสั่งของฉันออกไปเดี๋ยวนี้ ฉันต้องการหนอนสีทองตัวนั้นมาเป็นของฉัน!!” ไมล่าตะโกนพร้อมกับชี้นิ้วไปที่โยฟาด้วยความโกรธ

โยฟาไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากจะต้องรีบลุกขึ้นไปทำตามคำสั่งของอีกฝ่ายอย่างไม่เต็มใจ ซึ่งในระหว่างนั้นเขาก็แอบต่อว่าไมล่าภายในใจอย่างเงียบ ๆ

ภายในเผ่าอิโดซามีจอมมารอยู่เพียงแค่ 2 คน โดยคนแรกคือผู้นำตระกูลคนปัจจุบันและอีกคนนั่นก็คือไมล่าชายชราผู้เอาแต่ใจคนนี้

ย้อนกลับไปเมื่อไม่นานไมล่าคือหนึ่งในราชันย์ขั้นสูงสุดที่ไม่สามารถก้าวข้ามมาเป็นจอมมารได้ แต่ในที่สุดเขาก็สามารถทะลวงผ่านอุปสรรคกลายเป็นจอมมารของตระกูลได้ในรอบหลายพันปี แสดงให้เห็นว่าอุปสรรคนี้เป็นอุปสรรคที่ผ่านพ้นได้อย่างยากลำบากมากแค่ไหน

อย่างไรก็ตามการบรรลุเป็นจอมมารก็ทำให้สถานะของไมล่าแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง จากคนที่เคยโดนดูถูกกลับกลายเป็นผู้ที่มีความแข็งแกร่งอันดับ 2 ของตระกูล คล้ายกับนกกระจอกที่ทะยานกลายมาเป็นนกฟินิกซ์ และเมื่อไหร่ก็ตามที่ผู้นำตระกูลไม่อยู่คำสั่งของเขาก็ได้กลายเป็นคำพูดที่เด็ดขาด

ในความคิดของไมล่าตราบใดก็ตามที่เขาสามารถจับแท่งทองได้สำเร็จ เมื่อนั้นสถานะของเขาก็จะมีความสำคัญมากขึ้นกว่าเดิม และมันก็จะไม่มีใครกล้ามาพูดจาดูถูกเขาอีกต่อไป

ณ ถ้ำลึกลับบริเวณใกล้ ๆ กับดวงตาแห่งจักรวาล

เมื่อเซี่ยเฟยเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ ลินนิจก็แสดงความเจ็บปวดออกมาอย่างเห็นได้ชัด คล้ายกับว่าเขากำลังพยายามฟื้นฟูความทรงจำภายในอดีต

ขณะเดียวกันชายหนุ่มก็ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมมันถึงต้องใช้วิญญาณอมตะกับยานรบ หรือว่าด้านหลังประตูจักรวาลการใช้วิญญาณอมตะจะถือว่าเป็นเรื่องปกติ?

ยิ่งไปกว่านั้นจุดแสงสีขาวที่เขาพยายามตามมายังหายไปอย่างไร้ร่องรอย และไม่ว่าเซี่ยเฟยจะพยายามตามหามันมากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่ได้พบเบาะแสใด ๆ เลยแม้แต่น้อย

“ฉันรู้แล้วว่าทำไมถ้ำนี้ถึงขยายตัวออกไป มันจะต้องเป็นฝีมือของริเวอร์แน่ ๆ ไม่น่าเชื่อว่าเขายังอยู่” ลินนิจกล่าวขึ้นมาอย่างกะทันหัน เมื่อความทรงจำบางส่วนฟื้นฟูกลับมา

“ริเวอร์คือใคร?” เซี่ยเฟยถามอย่างสับสน

“ริเวอร์คือผู้โดยสารคนเดียวของอาร์ค เขาคือคนที่ปิดผนึกประตูจักรวาลเอาไว้” ลินนิจกล่าวอย่างตื่นเต้น

เหตุการณ์นี้ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกประหลาดใจมาก และมันก็ดูเหมือนกับว่าการที่ลินนิจเดินทางมากับเขา มันจะช่วยให้วิญญาณตนนี้ฟื้นฟูความทรงจำกลับมาได้จริง ๆ เพราะลินนิจไม่เพียงแต่จะจำจุดที่อาร์คเกิดการระเบิดได้เท่านั้น แต่อีกฝ่ายยังจดจำผู้โดยสารบนยานเพียงคนเดียวได้อีกด้วย

“ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมฉันถึงรู้สึกคุ้นเคยกับที่นี่ ที่แท้มันก็เป็นสถานที่ที่ริเวอร์เคยอาศัยอยู่”

“ถ้าฉันเดาไม่ผิดหลังจากปิดผนึกประตูจักรวาล ร่างของเขาก็ควรจะสูญสลายหายไปแล้ว วิญญาณของเขาจึงล่องลอยมาจนถึงที่นี่และได้พบว่าอาร์คถูกทำลายจนย่อยยับ เขาจึงใช้ถ้ำนี้เป็นที่พักอาศัยชั่วคราวเพื่อสร้างร่างกายของตัวเองขึ้นมาใหม่” ลินนิจพยายามคาดเดา

“คนที่ชื่อว่าริเวอร์มีเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตด้วย? แต่เขามาจากอีกฟากของประตูจักรวาล หลังจากที่เขาตายเขาก็ควรกลับไปเกิดใหม่อีกฟากของประตูจักรวาลไม่ใช่เหรอ?” เซี่ยเฟยถามอย่างสับสน

“ความทรงจำของฉันยังฟื้นฟูกลับมาไม่สมบูรณ์ ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงมาเกิดใหม่ที่นี่ได้ แต่ฉันแน่ใจว่าถ้ำนี้จะต้องเสียหายจากการเกิดใหม่ของเขาแน่ ๆ”

“นายลองดูกำแพงหินพวกนี้สิ แม้แต่แสงเลเซอร์ก็ไม่สามารถตัดมันให้เรียบแบนได้ขนาดนี้ พวกมันจึงเป็นร่องรอยที่เกิดจากความผันผวนของพลังงานแน่ ๆ และคนเดียวที่สามารถสร้างความผันผวนของพลังงานอันรุนแรงแบบนี้ได้นั่นก็คือริเวอร์” ลินนิจกล่าวพร้อมกับชี้นิ้วไปยังกำแพงหินที่ราบเรียบ

เซี่ยเฟยนั่งลงหลับตาเพื่อประมวลผลข้อมูลปริมาณมหาศาล ท้ายที่สุดข้อมูลใหม่ ๆ ที่ลินนิจให้มามันก็เป็นเรื่องที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน เขาจึงจำเป็นจะต้องเรียบเรียงข้อมูลทั้งหมดใหม่อีกครั้ง

“เขาคือคนที่สามารถเกิดใหม่ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต ถ้าเขายังไม่ตายแล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน?” เซี่ยเฟยถาม

ลินนิจส่ายหัวเป็นคำตอบและพยายามฟื้นฟูความทรงจำของตัวเองต่อไป

ทันใดนั้นเข็มทิศมิติของเซี่ยเฟยก็ดังขึ้น เมื่อชายหนุ่มก้มศีรษะลงเขาก็ได้พบว่ามันเป็นสัญญาณที่ส่งมาจากเข็มทิศมิติของสกายวิง

“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ตอนนี้นายยังสบายดีอยู่ไหม?” เซี่ยเค่อถาม

“ผมสบายดีครับ แล้วที่ตระกูลเป็นยังไงบ้าง?”

“ที่ตระกูลมีฉันกับเซี่ยเหลียนหนิงคอยดูแลอยู่ มันไม่มีอะไรที่นายจำเป็นจะต้องกังวล ตอนนี้บริษัทฟิกส์กำลังพยายามอย่างหนักเพื่อค้นหาว่าใครขโมยศูนย์วิจัยลับของพวกเขาไป เท่าที่ฉันรู้เป้าหมายหลักของการสืบสวนคือคนที่มีปัญหากับพวกเขา มันยังไม่มีเบาะแสว่าบริษัทฟิกส์จะตั้งเป้ามาที่นาย”

“ตอนนี้นายควรทำงานที่ได้รับมอบหมายจากบรรพบุรุษให้เสร็จก่อนเป็นอันดับแรก ไม่จำเป็นจะต้องรีบกลับมาที่ตระกูล มีอะไรเดี๋ยวฉันจะคอยส่งข่าวให้เป็นระยะ ๆ” เซี่ยเค่อกล่าว

“ได้ครับ” เซี่ยเฟยตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

“ว่าแต่ตอนนี้การฝึกฝนของนายไปถึงไหนแล้ว?” เซี่ยเค่อถาม

“ผมมาถึงจุดสูงสุดของจักรพรรดิแล้วครับ แต่มันยังจำเป็นจะต้องใช้เวลาอีกนานมากพอสมควรก่อนที่ผมจะทะลวงผ่านจนกลายเป็นราชันย์ได้” เซี่ยเฟยตอบกลับ

“เร็วขนาดนั้นเลยเหรอ!?” ตอนแรกเซี่ยเค่อถามออกไปอย่างสบาย ๆ แต่คำตอบที่ได้รับกลับมากลับทำให้เขาตื่นตกใจ ท้ายที่สุดเซี่ยเฟยก็เป็นสมาชิกคนล่าสุดที่เพิ่งขึ้นมาสู่แดนเทพ แต่ตอนนี้เขามีคุณสมบัติที่จะท้าทายพลังระดับราชันย์แล้ว

“ผู้อาวุโส ถ้าคุณมีอะไรจะพูดคุณก็พูดออกมาตรง ๆ เลยดีกว่า อย่ามัวแต่พูดจาอ้อมค้อมไปมาแบบนี้เลย” เซี่ยเฟยถาม

“สายตาของนายยังคงเฉียบคมอยู่เหมือนเดิมจริง ๆ ใช่แล้วฉันมีเรื่องต้องการจะร้องขอความช่วยเหลือจากนาย พอดีว่าเซี่ยเกิงกับเซี่ยเตียนจะต้องเข้าไปทำภารกิจภายในช่องว่างมิติ แล้วนายก็น่าจะรู้ว่าเส้นทางภายในช่องว่างมิติมันซับซ้อนมากและพวกเขาก็อาจจะหลงทางง่าย ๆ ถ้าหากว่าไม่ได้มีหนอนด้วงมิติของนาย” เซี่ยเค่อพูดเข้าประเด็นหลังจากพูดจาอ้อมค้อมอยู่นาน

“เรื่องขอยืมแท่งทองผมไม่ได้มีปัญหา แต่ตอนนี้บรรพบุรุษให้ผมมาทำภารกิจอยู่ค่อนข้างไกล แล้วผมก็ไม่รู้ด้วยว่าบรรพบุรุษจะให้ผมเปิดเผยพื้นที่ที่ผมอยู่ในตอนนี้ด้วยหรือเปล่า” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างตรงไปตรงมา

“ฉันคุยเรื่องนี้กับบรรพบุรุษแล้ว ตราบใดก็ตามที่นายไม่มีปัญหาบรรพบุรุษก็ไม่ได้ว่าอะไร” เซี่ยเค่อกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ในเวลาเพียงแค่ไม่นานเซี่ยเกิงและเซี่ยเตียนก็เดินทางเข้ามาเพื่อขอยืมตัวแท่งทอง ซึ่งหนอนด้วงมิติสีทองตัวนี้ก็ลังเลเล็กน้อยที่จะต้องแยกจากจากเซี่ยเฟย แต่เมื่อคำสั่งนี้เป็นคำสั่งของผู้มีพระคุณ มันจึงยอมจากไปอย่างไม่เต็มใจ

เซี่ยเกิงและเซี่ยเตียนอยากรู้มากว่าเซี่ยเฟยมาทำอะไรที่นี่ แต่พวกเขาก็รู้ดีว่าภารกิจนี้คือภารกิจที่เซี่ยเฟยได้รับมอบหมายจากบรรพบุรุษ พวกเขาจึงขอตัวจากไปโดยไม่ถามอะไรให้มากความ

ระหว่างนั้นลินนิจยังคงพยายามระลึกถึงความทรงจำหลังจากได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่คุ้นเคย

“พวกเราไปกันเถอะ จุดหมายต่อไปของผมมันค่อนข้างไกล” เซี่ยเฟยกล่าว

ลินนิจแสดงความผิดหวังออกมาเล็กน้อย เพราะถ้าเขาได้อยู่ที่นี่ต่ออีกสักพัก มันก็อาจจะช่วยให้เขาฟื้นฟูความทรงจำกลับมาได้มากกว่าเดิม

“ฉันจำได้แล้ว! ฉันนึกออกแล้ว!!” ในระหว่างที่เซี่ยเฟยกำลังจะเปิดใช้งานเข็มทิศมิติอยู่นั่นเอง จู่ ๆ ลินนิจก็ตะโกนขึ้นมาอย่างกะทันหัน

“คุณจำอะไรได้?”

“นายจำจุดแสงเล็ก ๆ ที่พวกเราพยายามตามมาได้ไหม? ตอนนี้ฉันจำได้แล้วว่ามันคือเสี้ยววิญญาณ” ลินนิจกล่าวอย่างตื่นเต้น

“เสี้ยววิญญาณ!?” เซี่ยเฟยอุทานอย่างสับสน เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินชื่ออะไรแบบนี้

“ตอนที่ริเวอร์มาจนถึงจุดที่อาร์คระเบิดเขาต้องรู้ว่าฉันยังมีชีวิตอยู่ เขาจึงทิ้งเสี้ยววิญญาณเอาไว้หวังว่าสักวันหนึ่งฉันจะกลับมาพบเสี้ยววิญญาณของเขา จุดแสงเล็ก ๆ ที่ดูเหมือนจะวิ่งหนีเราแต่จริง ๆ แล้วคือมันต้องการจะพาฉันมาที่นี่!” ลินนิจกล่าว

“ถ้ามันเป็นอย่างที่คุณพูดจริง ๆ มันก็แสดงว่าภายในถ้ำนี้มีอะไรบางอย่างที่ริเวอร์ทิ้งเอาไว้ให้กับคุณใช่ไหม?” เซี่ยเฟยถาม

“ไม่ผิดแน่ ริเวอร์จะต้องทิ้งอะไรบางอย่างเอาไว้ให้ฉัน ถึงแม้ว่าเราจะระเบิดภูเขาแต่เราต้องหามันให้เจอ” ลินนิจกล่าวอย่างตื่นเต้น

***************

เข้าใกล้ความหมายของจุดระเบิดอาร์คขึ้นทุกทีแล้วใช่ไหม?

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.